วันเสาร์, มีนาคม 23, 2562

พ้นโค้งสุดท้ายเข้าทางตรงเลือกตั้ง "สายพันธุ์เผด็จการ จะพยายามชุบตัวอย่างไร เนื้อในก็ยังจรกาอยู่นั่น"


ถึงวันนี้ก็พ้นโค้งสุดท้ายเข้าทางตรงเร่งสปีดเข้าสู่เส้นชัยกันแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้ารัฐประหารที่ยึดอำนาจการเมืองเข้าไปครองเสียเองเป็นเวลา ๕ ปี และกำลังพยายามฟอกขาวด้วยการเลือกตั้ง ที่มีทั้งตัวบทกฎหมายและอำนาจรัฐต่างๆ เอาเปรียบให้แก่พวกตน

เปิดหน้าไพ่ใบสุดท้ายออกมาชัด “เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่” ที่ ยิ่งชีพ (เป๋า) @yingcheep’ คอมเม้นต์ได้ตรงกับความจริงที่สุดว่า “ไม่เรียกสงบครับ เขาเรียกกดขี่ กดทับปัญหาไว้ ไม่รับรู้รับฟัง ข่มขู่ประชาชน ทุกคนรอพูดตอนเลือกตั้ง เนี่ยใกล้เลือกตั้งแล้วสงบไหมล่ะ”

พร้อมๆ ไปกับพรรคลิ่วล้อของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศว่าถ้าพวกตระกูลเพื่อมาจริงเจอเป่านกหวัดปิดกรุงเทพฯ อีกแน่ ท่ามกลางกระแสคนรุ่นใหม่ไม่เอาอีกแล้วกับการสืบทอดอำนาจโดย คสช.ภายใต้ระบบเลือกตั้งแบบแบ่งสรรปันส่วนที่นักกฎหมายในอาณัติของ คสช.วางไว้

ไม่ให้มีพรรคการเมืองใดสามารถชนะท่วมท้นจนถูกโจมตีว่าเป็น เผด็จการรัฐสภา ได้อีก เปิดช่องให้สภาที่สอง ตั้งเองโดย คสช. ๒๕๐ คน ครึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ จากการเลือกตั้ง และเป็น ๑ ใน ๓ ของรัฐสภา ซึ่งจะตัดสินว่าใครได้เป็นนายกรัฐมนตรี

ทำให้เป็นที่กล่าวขานกันยิ่งว่าสภาพการเมืองหลังเลือกตั้งจะไปในทิศทางใดได้ พรรคพลังประชารัฐที่เสนอให้ประยุทธ์เป็นนายกฯ จะสามารถรวบที่นั่ง ส.ส. ทั้งจากพรรคลิ่วล้ออย่างพรรคของสุเทพ เทือกสุบรรณ และของไพบูลย์ นิติตะวัน ได้พอ ๑๒๖ เสียงไหม

หรือได้แรงหนุนจากพรรครอเสียบอย่างชาติไทยพัฒนา หรือพรรคของสุวัจน์ ลิปติพัลลภ และภูมิใจไทยของ อนุทิน ชาญวีรกูล แม้กระทั่งประชาธิปัตย์ (หากกลายเป็นพรรคต่ำร้อยดั่งที่ถูกวิจารณ์) เข้าร่วมรัฐบาลเพื่อเติมคะแนนเสียงให้ “สามารถปกครองได้”

ทางด้านพรรคที่ไม่เอาเผด็จการรัฐประหาร หรือที่เรียกกันติดปากแล้วว่า ฝ่ายประชาธิปไตย(อาจรวม ปชป. ตามข้ออ้างพวกเขาไว้ด้วย) นอกจากตระกูลเพื่อ ที่เชื่อว่าคราวนี้น่าจะอยู่ที่ ๑๘๐ ที่นั่ง ถึง ๒๐๐ จะดึงเสรีนำไทย ประชาชาติ และอนาคตใหม่ มารวมกันให้ได้ที่นั่งมากพอเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลละหรือ

ในภาวะอย่างดีที่สุดด้วยกระแสโด่งของอนาคตใหม่อย่างนี้ จะได้ที่นั่งถึง ๘๐ ดังที่คาดฝันให้เป็น คิงเม้คเกอร์ ผู้ชี้ตัวผู้นำหรือไม่ ถ้า อนค.ไม่กลับใจไปร่วมกับประชาธิปัตย์และพรรครอเสียบอื่นๆ เสียก่อน เช่นนี้ทำให้ที่นั่ง บุษบาเสี่ยงเทียน ไปตกอยู่กับ ปชป.

จึงไม่แปลกที่ ชัยเกษม นิติสิริ ผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกฯ ในอันดับสามของพรรคเพื่อไทย ให้ความเห็นต่อ นสพ.ไทยรัฐ ว่าเป็นไปได้ที่พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อตั้งรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตย “อย่างน้อยๆ ก็เฉพาะกิจไปก่อน”


มิใยอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ออกไปพูดในวันงานแต่งลูกสาวคนเล็กที่ฮ่องกงว่า เดิมเตรียมการจะจัดงานนี้ในวันที่ ๒๓ มีนา แต่ห้องโรงแรมไม่ว่าง จึงเลื่อนขึ้นไปเป็นวันที่ ๒๒ ไม่เช่นนั้นถ้าจัดหลังเลือกตั้ง ห้องจะมีที่ไม่พอเสียอีก “เพราะเราชนะแน่นอน”
 
เป็นการพูดถึงการเมืองของเขาหลังจากกรณีพรรคไทยรัษาชาติ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการ แตกแบ๊งค์พันสู้กับกลไกเอาเปรียบของกฎหมาย คสช. แต่ถูกตีตก ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคจากการที่เสนอชื่อ พระพี่นางทางปฏิบัติในรัชกาลที่ ๑๐ เป็นแคนดิเดท

ทักษิณพูดเช่นนั้นในโอกาสพิเศษของครอบครัว ที่มี “ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปในพิธีฉลองวิวาห์ ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” ครั้งนี้ แล้วยังมีการปฏิสันฐานกับคณะกรรมการบริหารพรรค ทษช. ที่ไปนั่งล้อมเข้าเฝ้าด้วย


ความมั่นใจในชัยชนะของทักษิณจะสะท้อนความจริงที่ตามมาได้เพียงใด เป็นเรื่องที่ฝ่ายประชาธิปไตยรอดูผลกันอย่างระทึก ในขณะที่สองสามวันก่อนเลือกตั้งนี่ ลักษณะเชื้อไม่ทิ้งแถว สายพันธุ์เผด็จการ จะพยายามชุบตัวอย่างไร เนื้อในก็ยังจรกาอยู่นั่น

ทหารยังคงจับกุมตัวบุคคลที่เห็นว่าทำให้เสียหายกับฝ่ายทหารไปควบคุมตัวไว้ในค่ายอยู่ต่อไป ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเผยว่าเมื่อวันที่ ๒๒ มีนานี่เอง มีชายสองคนถูกควบคุมตัวไปกักไว้ในค่ายทหาร จากสองเหตุการณ์
 
รายหนึ่งในข้อหาแชร์ภาพเอกสารลับของกองทัพภาค ที่สั่งให้กำลังพลปฏิบัติการณ์ไอโอช่วยพรรคพลังประชารัฐ เขาถูกจับตัวจากคอนโดที่พักไปไว้ที่ สน.คันนายาวก่อน แล้วจึงต่อไปยัง ราบ ๑๑ ทหารได้ทำการสอบปากคำเมื่อเวลาบ่ายสอง จากนั้นยังไม่มีการติดต่อ

อีกรายถูกทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบนับสิบ บุกเข้าจับกุมที่บ้านพักในอำเภอศรีราชาตั้งแต่สี่ทุ่มคืนวันที่ ๒๐ มีนา นำไปยัง สภ.ศรีราชาก่อน แล้วต่อไปยัง มทบ.๑๔ ข้อหาสำหรับรายนี้เป็นการโพสต์ภาพรถทหารที่ติดป้ายว่า “พาคนไปเลือกตั้ง”

อย่างไรก็ดีรายหลังนี่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อเวลาหนึ่งทุ่ม วันที่ ๒๒ มีนา แต่กระนั้นก็ยังเป็นการใช้อำนาจทำให้ประชาชนสูญเสียอิสรภาพ ด้วยอำนาจพลการของทหาร อย่างน้อยๆ สองวันสองคืน ในข้อหาที่ควรจะเป็นสิทธิและเสรีภาพของการแสดงออกในสังคมเสรีประชาธิปไตย
 
ไม่เท่านั้น ช่วงเลือกตั้งนี่เลย ระหว่างวันที่ ๒๑ ถึง ๒๔ มีนาคม มีการเคลื่อนกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ของกองทหาร พล. ร.๙ จะอ้างว่าเป็นการเคลื่อนย้ายปกติ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างเลือกตั้งก็ตามที “ทำไมต้องเป็นวันนี้...ช่วงนี้ด้วย แปลกใจ” เป็นปรารภจากนักทวิตเตอร์รายหนึ่ง

“ปกติเดือนนี้เค้าจะไม่มีฝึกหรอก” ผู้ใช้บัญชี @unclewooddy เสริม “เพราะสิ้นเดือนนี้ทหารเกณฑ์เก่าผลัด ๑ จะปลด ต้นเดือนเมษาทหารใหม่ผลัด ๑ จะเข้า ฝึกภาคพัน ร.ส่วนมากจะ ก.ย.-ต.ค. โน่น รอทหารใหม่ขึ้นกองร้อยก่อน”

จะว่ามารอไว้เผื่อเลือกตั้งไม่เรียบร้อยดั่งใจ อาจสงบ แต่ไม่ จบที่ลุงตู่นั่นก็ว่าได้