‘ลับที่สุด’ ทัพภาคใช้ 'ไอโอ' "สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ”"

เอ้า ‘บุรินทร์’ อยู่ไหน เอานี่ไปแจ้งความอีกหน่อยเป็นไร เอกสารลับกองทัพภาคหลุดทำให้เสียชื่อเสียง ว่าทหารโกงเลือกตั้งช่วยพลังประชารัฐ มีทั้งลงนามผู้ทำหนังสือและผู้เซ็นรับทราบ-อนุมัติ ชัดกว่านี้ไม่มีแล้ว

พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ มีหน้าที่ฟ้องเอาผิด ‘เว็บนอกประเทศ’ คนเปิดโปงไว้ก่อน ส่วนการกระทำความชั่วตามที่เอกสารระบุช่างปะไร ประเทศอยู่ภายใต้อำนาจ คสช.เสียอย่าง ส่วน กกต.นอกจากไม่กล้าหือแล้วยังต้องทำตามที่ คสช.สั่งเสมอไปอยู่แล้ว

เพจ ‘ซีเอสไอ แอลเอ’ ที่เพิ่งโดน คสช.ฟ้องข้อหาลงรูปทหารเข้าแถวรอหย่อนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าให้เบอร์ ๕ ไม่ยอมหงอ โพสต์อีก “มีคนวงในส่งมา ว่ามีเอกสารลับขออนุมัติแม่ทัพภาค ๑ ให้หน่วยขึ้นตรงทั้งหมดทำ ‘IO’ สนับสนุนพรรค พปชร.”

ไหนว่าทหารเป็นกลางไง ไฉนเอกสาร ‘ลับที่สุด’ ลงนาม พ.อ.อรรถกร ทิพยมนตรี บอกให้ “สนับสนุนการปฏิบัติการข่าวสาร (IO)...ของ ชป.กร. ในการรับรู้ของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ช่วงชิง เพื่อสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ”

(https://www.facebook.com/CSILA90210/posts/2149105558500491__tn__=-R)

ทางด้าน พปชร.ครั้นถูกประณามมากเข้าก็เอาเหมือนกัน ฟ้องมั่ง ทีมกฎหมายประกาศว่ากำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อฟ้องร้องพรรคการเมืองอื่น ที่ “ใส่ร้ายว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่สืบทอดเผด็จการ”

อ้างว่าพูดอย่างนั้นเสียหาย “เป็นผลกระทบต่อพรรคพลังประชารัฐ แกนนำพรรค รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช....ถือเป็นการใช้วาทกรรมเพื่อใส่ร้ายและโจมตีให้เสียคะแนนนิยม”

ร.ต.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรค เจาะจง “บุคคลที่ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคไปแล้ว” เสียด้วย โดยเผยว่าจะยื่นฟ้องตอนหลังจากเสร็จเลือกตั้งแล้ว ซึ่งจะทำให้เข้าข่ายยุบพรรคในตอนนั้นได้

(https://www.matichon.co.th/politics/news_1413845)

พอมาถึง กกต.เองบ้าง ก็อ้าว บักโกรกเพราะโดนชาวบ้านด่าขรมอยู่เหมือนกัน ดังที่กล่าวแล้วว่าเอาแต่ทำตาม คสช.สั่งเสียจนเละตุ้มเป๊ะ อะไรที่เป็นความผิดของพลังประชารัฐ ‘ไม่ชัด’ ทั้งนั้น เรื่องแจกเงินให้คนไปนั่งฟังผู้สมัครปราศรัยหาเสียงนั่นอย่างหนึ่งละ

กรณีเลี้ยงโต๊ะจีนระดมทุน โดนเขาฟ้องประเด็นข้าราชการและคนในรัฐบาลมีส่วน กกต.ดันไปตรวจสอบเรื่องมีต่างชาติบริจาคหรือเปล่า แล้วบอกว่าไม่มี ไม่เจอ ยุติการสอบสวนเสียงั้น ที่ไหนได้ สำนักข่าวอิศราตรวจเจอโต้งๆ บริษัทต่างชาติมีเอี่ยว

นอกจากพบว่าหลายบริษัทที่บริจาคค่าโต๊ะจีนรายละเกินล้านถึง ๓ ล้าน “มีรายได้น้อย บางแห่งไม่มีรายได้ หรือบางแห่งแห่งขาดทุนโดยตลอด แต่กลับมีเงินสนับสนุนระดมทุนโต๊ะจีน พปชร. แล้วยังเจอบริษัทสกายไฮมีเบื้องหลังไม่ปกติ

โดยช่วงปี ๒๕๕๕ ถึงปลายปี ๒๕๕๖ ปรากฏชื่อของนาย สกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ถือหุ้นอยู่ อีกคนชื่อ เสมอกัน เที่ยงธรรม เป็นนักการเมืองผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา แต่ประเด็นฉาวอยู่ที่

 

“บริษัท สกายไฮ จำกัด ปรากฏชื่อของ Velocity Wealth INC เป็นผู้ถือหุ้นด้วย จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ หุ้น หรือ ๑๐% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด” อิศราถามเอง “เป็นใคร มาจากไหน” แล้วก็ตอบเองว่า “ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า Velocity Wealth INC ตั้งอยู่ที่เกาะบริติชเวอร์จิ้นส์”

เข้าลักษณะบริษัทออฟชอว์ Offshore ที่ไปเปิดกิจการไว้ในเขตปลอดภาษีเพื่อเลี่ยงกฎหมายของประเทศถิ่นเกิด ส่วนมากเอาแต่ชื่อไปตั้งไว้โอนเงินผ่านเข้าไปฟอก ดังที่บริษัทเวโลซิตี้มีที่อยู่ทับซ้อนกับอีกสองบริษัทที่นั่น

(https://www.isranews.org/isranews/74708-isranews1dd23-74708.html)

ข้อเท็จจริงโทนโท่อย่างนี้ควรที่ กกต. จะหน้าแตกเย็บไม่ติดไปแล้ว หามิได้ กกต.ลูก คสช. เสียอย่าง ด้านพอ (ประยุทธ์อ้างเป็น ‘ผู้ปกครอง’ ประชาชนทั้งประเทศ ๖๘ ล้าน มีแต่คนร้องไม่ใช่ คงยกเว้น กกต.กับลิ่วล้ออื่นๆ) วานนี้ทั่นเลขาฯ สั่งการ

“สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบโซเชี่ยลมีเดีย เพื่อดำเนินคดีอาญากับกลุ่มโจมตี กกต. ที่กล่าวหาใส่ร้าย” อ้างข้อหา “บิดเบือนข้อมูลโหมกระแสให้คนเข้าใจผิดในการเลือกตั้ง รวมทั้งกรณีร้องเรียนหรือสร้างสถานการณ์อันเป็นเท็จ”

ขอบคุณข้อมูลจาก Dhiravath Suantan‏ @ARMdhiravath ที่แจ้งว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา พูดถึงโทษทัณฑ์ความผิดจากข้อหาดังกล่าว ว่าจะทำให้ถูกจำคุกได้ถึง ๑๐ ปี

นี่ละการเลือกตั้งของไทยภายใต้อำนาจ คสช. ปี ๒๕๖๒ เปิดโปงกลโกง คสช. และพรรคลิ่วล้อ วิจารณ์ความชุ่ยในการปฏิบัติงานของกรรมการเลือกตั้ง กลายเป็นข้อหาจะเอาโทษคุกที่ทำให้เห็นความชั่วและเสียหน้า ไปเสียฉิบ