ที่มา
TV24 NEWSROOM
"ศิษย์วัดพระธรรมกาย" แถลงการณ์ ชี้ DSI ตั้งข้อกล่าวหาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
****************************************************************
#NEWSROOM #TV24 นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย แถลงข่าวกรณีความไม่ชอบธรรมผิดหลักกฎหมายในการตั้งข้อกล่าวหาพระเทพญาณมหามุนี การดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาแก่พระเทพญาณมหามุนี ว่าสมคบกันฟอกเงินและรับของโจร ในคดีพิเศษที่ 27/2559 เป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ด้วยเหตุผลดังนี้
.
1. กรณีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ทางดีเอสไอดำเนินการสอบสวนในคดีพิเศษที่ 146/2556 และได้ส่งสำนวนสอบสวนไปยังอัยการแล้ว โดยไม่มีพระเทพญาณมหามุนีอยู่ในฐานะผู้ต้องหา ซึ่งหลักกฎหมายมีอยู่ว่า มูลคดีใดที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนไปยังอัยการแล้ว อำนาจในการพิจารณาสั่งคดีจะอยู่ที่อัยการ พนักงานสอบสวนจะไปสอบสวนและตั้งข้อหาบุคคลอื่นอีกในมูลคดีเดิมนั้นเพิ่มโดยพลการไม่ได้
.
2. ต่อมาทางอัยการได้สั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษไปสอบสวนเพิ่มเติม ในมูลคดีเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของเช็คจำนวน 878 ฉบับ ซึ่งในจำนวนนี้พนักงานสอบสวนได้มาสอบปากคำพระเทพญาณมหามุนีกรณีรับเช็คสหกรณ์คลองจั่น จากนายศุภชัย จำนวน 10 ฉบับ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รวบรวมสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมทั้งหมดในคดี 146/2556 นี้ ส่งไปให้อัยการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2558 และเสนอให้ทางอัยการสั่งตั้งข้อหาสมคบกันฟอกเงินและรับของโจรแก่พระเทพญาณมหามุนี
.
3. ทางอัยการได้พิจารณาสั่งคดีที่ 146/2556 เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2559 โดยไม่สั่งฟ้องพระเทพญาณมหามุนี มีคำสั่งเพียงว่า หากปรากฏพยานหลักฐานว่ามีบุคคลอื่นร่วมสมคบหรือสนับสนุนการกระทำผิด ก็ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายต่อไป
.
4. ทางพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นัดหมายแถลงข่าวว่าจะตั้งข้อหารับของโจรกับพระเทพญาณมหามุนีในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ทางทนายความผู้รับมอบอำนาจของพระเทพญาณมหามุนี จึงได้ทำหนังสือสอบถามทางอัยการว่า ทางพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจแยกคดีตั้งข้อหาเองในกรณีนี้หรือไม่ ได้รับคาตอบจากอัยการว่า ในกรณีนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะต้องทาการสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วส่งมาให้ทางอัยการพิจารณาสั่ง จะไปแยกคดีตั้งข้อหาเองไม่ได้
.
5. ทางทนายความผู้รับมอบอำนาจได้ทำหนังสือแจ้งคำตอบของทางอัยการ ให้กับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษทราบเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2559
.
6. การที่นายธรรมนูญ อัตโชติ ได้มาแจ้งความกล่าวโทษพระเทพญาณมหามุนีในข้อหาสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจร เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2559 และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตั้งเป็นคดีที่ 27/2559 ขึ้น แล้ว ออกหมายเรียกเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ให้พระเทพญาณมหามุนีไปพบในฐานะผู้ต้องหาสมคบกันฟอกเงินและรับของโจร จึงอาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ( ตามนัยคำ พิพากษาฎีกา ที่ 9/2481 )
.
7. นายพัฐจักร เทพษร ศิษยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกาย ได้ไป
กล่าวโทษต่อ ป.ป.ช.ว่าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในคดีที่ 27/2559 นี้เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, มาตรา 200, มาตรา 83 และมาตรา 86 แล้วเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 และกล่าวโทษนายธรรมนูญ อัตโชติ ในฐานะเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิด
.
8. กระบวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีที่
27/2559 นี้ มีความไม่ชอบธรรมหลายประการ อาทิ มีการตั้งข้อหาคดีพิเศษ และออกหมายเรียกเป็นผู้ต้องหาอย่างรวดเร็ว เมื่อพระเทพญาณมหามุนีขอเลื่อนการพบพนักงานสอบสวนด้วยเหตอาพาธ โดยมีใบรับรองแพทย์จากทั้งคลินิก และโรงพยาบาลของรัฐไปแสดง แต่พนักงานสอบสวนกลับไม่อนุญาต โดยไม่มีการให้แพทย์จากหน่วยงานกลางมาตรวจอาการว่าท่านป่วยจริงหรือไม่ แต่ไปขอศาลออกหมายจับเลย
9. คณะศิษยานุศิษย์มีข้อสงสัยว่า การตั้งคดีที่ 27/2559 ของทางดีเอสไอน่าจะไม่ถูกต้อง ผิดหลักกฎหมายมาตั้งแต่ต้น จึงไม่มีความชอบธรรมในการดำเนินคดี เหมือนกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อๆ มาก็ผิดไปหมด คณะศิษยานุศิษย์จึงจะแจ้งความดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อมิให้เจ้าพนักงานลุแก่อำนาจ ปฏิบัติหน้าที่ตามอำเภอใจ เป็นการสร้างมาตรฐานความถูกต้องชอบธรรม ทางกฎหมายให้เกิดขึ้นแก่สังคมต่อไป
ooo
https://www.youtube.com/watch?v=30gACPjCPd4
DMC_USA
Published on May 18, 2016
.....
https://www.youtube.com/watch?v=PHeCRMPU67I&feature=share
DMC_USA
Published on May 18, 2016
Cr: DMC Channel