วันจันทร์, กันยายน 15, 2568

กระบวนการยุติธรรมในบ้านเมืองเรา ตกต่ำไปทุกวัน


Sumontha Maikeedfai
September 10
·
คดีหนึ่ง ประมาท เห็นแก่ประโยชน์ตัวเอง จนทำให้เด็กๆและครู เสียชีวิต 23 คน ตัดสิน 8 ปี และให้รอลงอาญา (หมายความว่าไม่ต้องติด ถ้าไม่ทำอะไรผิดซ้ำในช่วงนี้) ทำเอาหัวใจของพ่อแม่เด็กๆแหลกสลายเมื่อได้ยินคำตัดสิน
คดีหนึ่ง ไปรอขบวนผู้ชุมนุมที่กำลังเดินมา เพื่อแสดงออกถึงการไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลตอนนั้น จับพลัดจับผลู ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่มีขบวนเสด็จผ่านมาพอดี เกิดการยื้อดันกันระหว่างมวลชนที่รอกับเจ้าหน้าที่ ตร เพราะคิดว่า จนท มาสลายการชุมนุม (เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะมีขบวน) และแล้วขบวนก็ผ่านไปได้ภายใน 4-5 นาที ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีใครเจ็บ ไม่มีใครตาย ไม่ได้ให้ร้ายใคร ไม่มีใครเสียหาย หลักฐานทั้งหมดชัดเจนว่า จับพลัดจับผลู จนศาลชั้นต้นยกฟ้องทั้งหมด
5 ปีผ่านไปศาลอุธรณ์กลับคำตัดสิน สั่งจำคุก 16 ปี อย่าว่าแต่รอลงอาญาเลย แค่สิทธิ์ขั้นพื้นฐานในการประกันตัว ยังไม่ได้เลย หัวใจของครอบครัวและเพื่อนพ้องที่ทำงานด้วยแหลกสลายไม่แพ้กัน
นี่หนักยิ่งกว่าฆาตรกร หนักยิ่งกว่าฆ่าคน โหดยิ่งกว่าพวกคอรัปชั่นสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติอีกนะนี่ #saveตันสุรนาถ #ปล่อยเพื่อนเรา
...
Sumontha Maikeedfai
อ่านบทสัมภาษณ์ตันช่วงเหตุการณ์วันนั้น
https://waymagazine.org/tun-suranat/


Sumontha Maikeedfai
บทสัมภาษณ์ฟรานซิส น้องอีกคนที่โดนข้อหาเดียวกัน
https://waymagazine.org/francis-bunkueanun/


https://www.facebook.com/sumontha.maikeedfai/posts/24794205786869716













“จากคลิปเหตุการณ์ชุมนุม 14 ต.ค. 63 แทบทุกคน คฝ. ตำรวจ ไม่มีการประกาศเลยว่ากำลังจะมี #ขบวนเสด็จ จากการสืบพยาน แม้แต่คฝ.ก็บอกว่าไม่รู้ว่าจะมี #ขบวนเสด็จ มา แม้แต่ผู้ชุมนุมเสื้อเหลือง ก็บอกว่าไม่รู้ว่าจะมี #ขบวนเสด็จ มา

https://www.facebook.com/watch/?v=773159185322753

แหวน - ณัฎฐธิดา มีวังปลา 
14 hours ago
·
เขาคือ นักกิจกรรมคนที่ถูกทำร้ายมากที่สุด

เอกชัย พยายามเดินออกจากกลุ่มกิจกรรมที่กำลังวุ่นวายซึ่งเขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุเหมือนที่ถูกกล่าวหา
ดังนั้นศาลควรมีความตรงไปตรงมา เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงความเป็นธรรมอย่างแท้จริงค่ะ เอกชัยคือผู้ที่ถูกทำร้ายทั้งทางร่างกาย ทรัพย์สินและจิตใจบอบช้ำมากที่สุด อีกทั้งสุขภาพก็ยังต้องรักษา จากเดิมที่เคยรักษาในเรือนจำครั้งก่อน..
ไม่ว่าคุณจะมีความคิดต่างเช่นไร แต่สิ่งที่เรามี คือความเป็นคน
ในวันเกิดเหตุ เอกชัย พยายามเดินเลี่ยง เหตุการณ์ ที่คิดว่าน่าจะมีความวุ่นวาย เพื่อพาตัวเองออกจากจุดนั้น ไม่มีหลักฐานใดๆ ว่าเขากระทำความผิด ตามเหตุที่ลงทัณฑ์
https://share.google/images/S6UH22Rj95hVzQNDn

Pipob Udomittipong 
10 hours ago
·
“จากคลิปเหตุการณ์ชุมนุม 14 ต.ค. 63 แทบทุกคน คฝ. ตำรวจ ไม่มีการประกาศเลยว่ากำลังจะมี #ขบวนเสด็จ จากการสืบพยาน แม้แต่คฝ.ก็บอกว่าไม่รู้ว่าจะมี #ขบวนเสด็จ มา แม้แต่ผู้ชุมนุมเสื้อเหลือง ก็บอกว่าไม่รู้ว่าจะมี #ขบวนเสด็จ มา มีเพียงคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ และอยู่ในที่สูงและห่างออกไปพอสมควรที่บอกว่าเห็น #ขบวนเสด็จ กำลังมา
“แล้วอัยการอุทธรณ์อีกประเด็นหนึ่งเรื่องความสูงของผม เขาบอกว่า ผมสูง 180+ ซม. ผมน่าจะมองเห็น #ขบวนเสด็จ แต่ไกล แล้วคฝ.แต่ละคนสูง 170+ นะ แถมยังสวมรองเท้าบูทอีก ใส่หมวกด้วย รวมความสูงทั้งหมดน่าจะเกิน 180 ซม. ไม่มีทางที่ผมจะมองเห็นได้เลย”
ศาลอุทธรณ์เชื่อเรื่อง “ความสูง” ของเอกชัย เป็นส่วนหนึ่งให้กลับคำตัดสินเพื่อลงโทษเขา คุณเชื่ออัยการมั้ย?


เกิดเป็นประชาชนประเทศนี้ มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นมากมาย

.....

Mickey Yutthana Srisavat 
Yesterday
·
ในช่วง 20 ปีล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญมีผลงานปกป้องประชาธิปไตยระดับ masterpiece ที่พาสังคมไทยออกจากความขัดแย้งได้เสมอมา
- 2549 สั่งให้การเลือกตั้ง 2 เมษายน 2549 เป็นโมฆะ เพราะ กกต. จัดคูหาไม่เหมาะสม
- 2550 ยุบพรรคไทยรักไทย จากกรณีจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง
- 2551 สอย สมัคร สุนทรเวช พ้นจากนายกฯ เพราะเป็นลูกจ้างจากการเป็นพิธีกรรับเชิญในรายการชิมไปบ่นไปและยกโขยงหกโมงเช้า ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯ เพราะไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
- 2551 ยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย จากกรณีทุจริตการเลือกตั้ง
- 2557 สั่งให้การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะ เพราะไม่ได้จัดเลือกตั้งพร้อมกันทั่วราชอาณาจักร กรณีม็อบ กปปส. ขวางหน่วยเลือกตั้ง
- 2557 สอย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นจากนายกฯ เพราะใช้อำนาจแทรกแทรงการแต่งตั้งโยกย้ายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เครือญาติ
- 2562 ยุบพรรคไทยรักษาชาติ จากกรณีเสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ เป็น candidate นายก
- 2562 ไม่รับคำร้องกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ถวายสัตย์ปฏิญาณเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ไม่ครบ เพราะไม่อยู่ในอำนาจการตรวจสอบของศาลรัฐธรรมนูญ
- 2562 ยกฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ กรณีเป็นหัวหน้า คสช. ไม่ขาดคุณสมบัตินายกฯ เพราะตำแหน่งหัวหน้า คสช. ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ
- 2563 ยุบพรรคอนาคตใหม่ จากกรณีธนาธรให้พรรคกู้ยืมเงิน 191.2 ล้านบาท เพราะเงินกู้แม้ไม่เป็นรายได้ แต่เป็นรายรับของพรรค
- 2563 ยกฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ คดีบ้านพักหลวงทั้งที่พ้นจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.แล้ว เพราะเป็นไปตามระเบียบภายในของกองทัพบก ปี 2548 และยังชี้ว่ารัฐพึงจัดสรรที่พำนักให้ผู้นำประเทศเพื่อสร้างความพร้อมทั้งสุขภาพกายและจิตใจในการปฏิบัติภารกิจในการบริหารประเทศล้วนเป็นประโยชน์ส่วนรวม
- 2564 ชี้ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี เพราะไม่เคยโดนคำพิพากษาถึงที่สุดในจำคุกตามคำพิพากษาของศาลไทย ส่วนที่เคยโดนจำคุกคดียาเสพติดอันนั้นเป็นคำพิพากษาของศาลต่างประเทศเลยไม่นับ
- 2564 ชี้คำปราศรัยของ ทนายอานนท์ นำภา, ไมค์ ภาณุพงศ์ และ รุ้ง ปนัสยา เรื่อง 10 ข้อเสนอปฏิรูปสถาบันฯ เป็นการล้มล้างการปกครองฯ
- 2565 ยกฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ ยังไม่เกิน 8 ปี เพราะต้องนับเวลาดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญปี 2560 ใช้บังคับ ไม่ได้นับจากปี 2557 ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติลงมติให้เป็นนายกฯ
- 2567 สอย เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากนายกฯ เพราะเสนอพิชิต ชื่นบาน ที่เคยมีประวัติจำคุกมาเป็น รมว.สำนักนายกฯ
- 2567 ยุบพรรคก้าวไกล จากกรณีล้มล้างการปกครองฯ เพราะเสนอแก้ไข ม.112
- 2568 สอย แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากนายกฯ จากกรณีคลิปอังเคิล
- 2568 ชี้แก้รัฐธรรมนูญต้องทำประชามติ 3 ครั้ง และห้ามประชาชนเลือก สสร.โดยตรงทั้งที่ไม่ได้ถาม
ด้วยบารมีของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นองค์กรอิสระอันประกอบด้วยคนดีที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยโดยปราศจากอคติและการครอบงำของชนชั้นนำ สังคมไทยจึงก้าวข้ามความขัดแย้ง คนไทยรู้รักสามัคคี การเมืองมีเสถียรภาพ กลายเป็นประเทศมหาอำนาจทัดเทียมประเทศโลกที่หนึ่งอย่างที่เห็นทุกวันนี้
#อาจารย์มิกเป็นคนซีเรียส

https://www.facebook.com/yutthana.srisavat/posts/10238925149090237
.....






ชวนฟังกันชัดๆ..!! 🧐🧐 ปลัด ก.ดีอี ปมร้อน #อายัดบัญชี และการแก้ปัญหา #บัญชีม้า #บัญชีประชาชน

https://www.facebook.com/watch/?v=1675100063123139

ภัทราพร ตั๊นงาม
feeling wonderful feeling wonderful in Bangkok, Thailand.
12 hours ago
·
ชวนฟังกันชัดๆ..!! ปลัด ก.ดีอี ปมร้อน #อายัดบัญชี และการแก้ปัญหา #บัญชีม้า #บัญชีประชาชน
คิดเห็นอย่างไร.. ชวนขบคิด ชวนแชร์กันนะคะ
.....


ภัทราพร ตั๊นงาม
is feeling wonderful in Bangkok, Thailand.
·
สรุป..!! อายัด-ปลดล็อคบัญชีแบบใหม่..ให้มีผลทันที..!!
- จากนี้ จะระงับจำนวนเงิน ที่โอนออก จากเฉพาะ.บัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ใช่ ระงับทั้งบัญชี โดยธนาคาร มีสิทธิ์ระงับ แต่ ตร.ต้องออก"หมายอายัด" / ส่วนปลดล็อค ให้เป็นหน้าที่ ศปอท.
.........
- ผลถกร่วมวันนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , ตร.ไซเบอร์., ธปท., ปปง. และฝ่ายเกี่ยวข้อง ชี้แจง แก้ปัญหา ปชช. โดนบล็อกบัญชี จากการตรวจสอบ บัญชี ที่พัวพัน #บัญชีม้า
- จากนี้ การ "ระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว" ทางธนาคารมีหน้าที่ จะระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด
- บัญชีธนาคารนั้นๆ ของ ปชช. ยังทำธุรกรรมได้ตามปกติ
.........
- ส่วนการ 'อายัดบัญชี" ทางตำรวจเป็นผู้สั่งอายัดตาม กม.อาญา และต้องมี "หมายอายัด" เท่านั้น
- ส่วนการ ปลดล็อคบัญชี ให้มีผลทันที ทาง ก.ดีอี แจ้งว่า จนท.ได้เริ่มทะยอยปลดล็อคให้ตั้งแต่เช้าวันนี้แล้ว ตามมาตรการ "เพิกถอนการระงับธุรกรรมชั่วคราว" ให้อำนาจ ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) เป็นผู้ปลดล็อก จากบัญชีธนาคารของประชาชนผู้สุจริตผ่านตามที่ร้องเรียนไปที่ศูนย์สายด่วน AOC 1441
- การตรวจสอบบัญชีของประชาชน และบัญชีต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า จะทำผ่าน "ศูนย์ประสานงานทำงานร่วม" ระหว่าง ศปอท. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบบัญชีดังนี้
1.เส้นทางการเงิน รูปแบบทางการเงินของบัญชีว่ามีลักษณะเป็นการทำธุรกรรมปกติหรือไม่
2.เจ้าของบัญชีมีรายชื่อเกี่ยวข้องกับการอายัดบัญชีของ ปปง. และตำรวจหรือไม่
- ปชช.ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ให้ใช้กลไก สายด่วน ศูนย์ AOC โทร. 1441 กด 2 เพื่อเพิกถอนการระงับและคืนสิทธิ์ตามขั้นตอน
- ใครถูกระงับ และได้ปลดล็อก ทางธนาคารจะเป็นผู้แจ้งให้เจ้าของบัญชีได้รับทราบ
ณ ตอนนี้ ทางการสรุปแบบนี้นะคะ.. ส่วนหน้างาน ทางปฎิบัติ จะเป็นอย่างไร..ติดตามกันต่อไป..
..
#อายัดบัญชี #ปลดล็อคบัญชี

https://www.facebook.com/watch/?v=1675100063123139
https://www.facebook.com/phattraporn.tpbs/posts/24816822854578841



สังคมไทยนิยมยาแรง ข้อหาบัญชีม้า, 112 ทางการเงิน


Paul Adithep
17 hours ago
·
ข้อหาบัญชีม้า, 112 ทางการเงิน

ตื่นเช้ามาครับ เห็นข่าวคนเดือดร้อนจากการถูกอายัดบัญชีหรืออายัดวงเงินจากข้อหาบัญชีม้าหรือรับช่วงจากบัญชีม้าเต็มฟีดเลยครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ารายงานทั้งหลายจะจริงเท็จประการใด (เพราะเดี๋ยวนี้สื่อเห็นชาวเน็ตโพสต์อะไรก็เอารายงานทันทีโดยไม่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง)

แต่ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรครับ ตัวกฎหมายที่ให้อำนาจในการอายัดเงินหรือบัญชีชาวบ้านฉบับนี้ก็มีปัญหาในตัวมันอยู่ดี และทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็เป็นฝ่ายยืนยันเองแล้วว่ามีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้จริงๆ

กฎหมายฉบับนี้คือ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 ซึ่งเป็น พรก.ที่เสนอโดย ครม.ประยุทธ์ และรัฐสภาให้การรับรองด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 444 ต่อ 7 ไม่มีผู้งดออกเสียง เรียกว่าผู้แทนของปวงชนชาวไทยส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ปัญหาการฉ้อโกง ต้มตุ๋นออนไลน์ ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน แม้มาตรการที่บังคับใช้อาจกระทบสิทธิของประชาชนอย่างรุนแรงก็ตาม

พอไปดูข้อกฎหมายที่ให้อำนาจธนาคารในการสั่งอายัดบัญชีตาม มาตรา 6 วรรคแรก จะเห็นว่า กฎหมายให้อำนาจสถาบันการเงินไม่ต่างกับการเป็นทั้งพนักงานสอบสวน อัยการ และศาลในคราวเดียวกัน กล่าวคือ ธนาคารมีอำนาจสอบสวนเองและสั่งอายัดบัญชีหรือจำกัดการทำธุรกรรมใดๆ ในบัญชีต้องสงสัยได้ แม้จะมีระยะเวลาจำกัดที่ 7 วัน

ส่วน มาตรา 7 เป็นกรณีที่ธนาคารรับแจ้งจากผู้เสียหาย ธนาคารมีหน้าที่ระงับการทำธุรกรรมชั่วคราว ผู้เสียหายต้องไปแจ้งความภายใน 72 ชั่วโมง และพนักงานสอบสวนมีหน้าที่ในการพิจารณาว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ภายใน 7 วัน (รวมระยะเวลาสูงสุด 10 วัน ถ้าพนักงานสอบสวนไม่สั่งให้ระงับการทำธุรกรรมในบัญชีต้องสงสัยต่อไป)

หากพิจารณาข้อกฎหมายตามตัวอักษร เราพอจะเห็นได้ว่า ผู้ร่างกฎหมายมีเจตนาดีที่ต้องการยับยั้งการโยกย้ายเงินที่ได้มาด้วยการกระทำความผิดอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็มีข้อป้องกันไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบเกินส่วน (กรอบที่กำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องพิจารณาว่าจะดำเนินคดีต่อหรือไม่ภายใน 7 วัน) แต่เมื่อพิจารณาในข้อเท็จจริงแล้ว มาตรการคุ้มครองผู้บริสุทธิ์แทบจะเป็นหมันโดยกำเนิด

ตัวเลข 7 วัน สำหรับคนทั่วไปดูเหมือนไม่นาน แต่สำหรับคนที่ได้รับผลกระทบย่อมรู้สึกว่ามันนานมาก ในขณะที่คนมีหน้าที่ต้องทำคดีอาจรู้สึกว่ามันกระชั้นชิดเกินไปจนไม่อาจทำหน้าที่ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

มันจึงมีแนวโน้มที่พนักงานสอบสวนจะยื่นเรื่องให้สถาบันการเงินระงับการทำธุรกรรมในบัญชีต้องสงสัยไว้ก่อน มีเวลาเมื่อไหร่ค่อยกลับมาดู เพราะกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาครับว่า พนักงานสอบสวนจะต้องสอบสวนให้เสร็จภายในกี่วันก่อนจะยื่นฟ้องคดีต่อศาล กลายเป็นว่า ก่อนที่จะครบกำหนด 7 วัน ถ้าพนักงานสอบสวนบอกให้สถาบันการเงินระงับการทำธุรกรรมต่อไป มันก็อาจเป็นการอายัดเงินชาวบ้านไปจนกว่าคดีจะสิ้นสุดซึ่งอาจกินระยะเวลาหลายปีก็ได้

ผลของการปรับใช้กฎหมายฉบับนี้จึงกลายเป็นว่า ใครที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นบัญชีม้า หรือรับเงินจากบัญชีม้ามา ก็อาจสิ้นอิสรภาพทางการเงินทันที ผลกระทบของผู้ถูกกล่าวหาจึงไม่ต่างจากการถูกตั้งข้อหา 112 ที่มักจะถูกมองว่าผิดไว้ก่อน

แต่อย่างน้อยผู้ต้องหาคดี 112 ยังต้องผ่านกระบวนการสอบสวนของเจ้าพนักงาน และยังมีโอกาสที่จะได้รับการประกันตัวอยู่บ้างขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล แต่ในกรณีตกเป็นผู้ต้องสงสัยตาม พรก.อาชญากรรมทางเทคโนฯ คุณจะถูกจำกัดอิสรภาพทางการเงินทันที และถ้าพ้นกรอบเวลา 7 วันไปแล้ว (แปลว่าพนักงานสอบสวนสั่งให้ระงับบัญชีต่อไป โดยที่ดุลพินิจของเจ้าพนักงานสอบสวนมิได้ถูกตรวจสอบจากองค์กรกลางอย่างศาล) คุณอาจต้องรอจนกระทั่งคดีสิ้นสุดถึงจะรู้ว่า คุณจะมีโอกาสได้ใช้เงินจำนวนนั้นอีกหรือไม่ ซึ่งอาจกินระยะเวลาเป็นปีๆ ได้

แม้กฎหมายฉบับนี้มีเจตนาที่จะจัดการกับปัญหาการฉ้อโกงออนไลน์ให้ทันท่วงที แต่การปล่อยให้พนักงานสอบสวนสามารถสั่งอายัดบัญชีใดๆ ก็ได้โดยไม่มีกำหนดระยะเวลา จึงเป็นช่องโหว่สำคัญในตัวกฎหมายเอง และส่งผลต่อเนื่องไปถึงการบังคับใช้ ทันทีที่บัญชีหนึ่งๆ ถูกอายัด เจ้าของบัญชีย่อมสิ้นอิสรภาพทางการเงินโดยไม่รู้ว่าตัวเองจะได้รับอิสรภาพคืนมาเมื่อไหร่ มันจึงไม่ต่างกับการลงโทษประชาชนที่ถูกกล่าวหาโดยที่ยังไม่มีการพิสูจน์ความผิด

https://www.facebook.com/photo/?fbid=31923149113935519&set=a.106211759389335
...
13 hours ago
·
สังคมไทยนิยมยาแรง ให้อำนาจเฉียบขาดกับเจ้าหน้าที่ แล้วก็เจอผลสะท้อนด้านกลับ
อำนาจที่ขยายไปกว้างมากอีกเรื่องคือความผิดฐานฟอกเงิน อะไรๆก็ฟอกเงิน เป็นข้อหาร้ายแรงพ่วงทุกเรื่อง เพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ให้ยึดอายัดทรัพย์ได้เพียงแค่โดนยัดข้อหา


1 เดือนหลังปะทะ ‘ไทย-กัมพูชา’ 7 จังหวัด ยังตึงเครียด-กำลังซื้อหด-ลงทุนชะงัก



1 เดือนหลังปะทะ ‘ไทย-กัมพูชา’ 7 จังหวัด ยังตึงเครียด-กำลังซื้อหด-ลงทุนชะงัก

10 กันยายน 2568
ประชาชาติธุรกิจ

สถานการณ์ 1 เดือนหลังเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัดอีสานใต้-ภาคตะวันออกยังตึงเครียด หลังภาคธุรกิจ-ประชาชนกังวลหวั่นเกิดการปะทะอีกครั้ง ส่งผลกำลังซื้อหดตัวขนาดหนัก การลงทุนชะงัก ผู้ประกอบการค้าขาย ส่งออก ท่องเที่ยว รายได้ลดฮวบ ภาคธุรกิจต่างประคองตัว ลดต้นทุน เริ่มปลดพนักงาน ขณะที่ตลาดโรงเกลือแทบร้าง หลังชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ พร้อมรอความหวังมาตรการเยียวยาจากรัฐบาลชุดใหม่

เศรษฐกิจอีสานซบถึงปลายปี

นายสมชาติ พงคพนาไกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานหอการค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือกล่าวว่า เศรษฐกิจการค้าภาคอีสานในพื้นที่ชายแดน 4 จังหวัด “ยังชะลอตัวต่อเนื่อง กำลังซื้อของประชาชนยังหดตัว” ด้านการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว กลุ่มธุรกิจโรงแรมก็ยังเงียบ กลุ่มลูกค้าเดิมที่เคยยกเลิกการจองห้องพักไปช่วงเกิดเหตุปะทะก็ยังไม่มีการติดต่อกลับมาอีก

ดังนั้น คาดว่าเศรษฐกิจอีสานจะยังคงซบเซาไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2568 ผู้ประกอบการช่วงนี้ก็ต้องประคองธุรกิจกันไป โดยการลดต้นทุน งดการขยายกิจการ งดการลงทุนใหม่ ๆ และการควบคุมจำนวนแรงงาน ไม่จ้างงานเพิ่ม

“ส่วนข้อเสนอมาตรการเยียวยาที่เสนอไปยังรัฐบาล 4 ข้อ (ภาษี/ค่าธรรมเนียม-เงินกู้เสริมสภาพคล่อง-กระตุ้นเศรษฐกิจ/ท่องเที่ยว-แรงงาน/การจ้างงาน) ขณะนี้ยังไม่มีการตอบรับใด ๆ ส่งผลให้ภาคเอกชนต้อง “ช่วยเหลือกันเอง” โดยหอการค้าแต่ละภาคจะใช้เครือข่ายของผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP)-บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ลักษณะให้เอกชนต่อเอกชนช่วยเหลือกันเอง ด้วยการให้มาจัดกิจกรรม สัมมนา และศึกษาดูงานในพื้นที่ 7 จังหวัด เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว “จริง ๆ เราขอให้ภาครัฐลดหย่อนภาษี 2 เท่า สำหรับผู้ที่เดินทางมาในพื้นที่ 7 จังหวัด ตอนนี้คงไม่สามารถหวังพึ่งรัฐบาลได้แล้ว”

นางสาวพูลทรัพย์ เทพนคร ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์กล่าวว่า สถานการณ์ภายในจังหวัดยังคงตึงเครียด ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ เพราะยังไม่มีสัญญาณการลงทุนใหม่ ขณะที่กำลังซื้อคนในจังหวัดยังทรงตัว

โดยเฉพาะ 3 อำเภอชายแดนยังซบเซากว่า 50% “เราคงรอดูสถานการณ์ต่อไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน และขอให้เยียวยาในเรื่องของการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ อย่างกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่ตอนนี้หันมาลดอัตราการจ้างงานลง นอกจากนี้ ยังมีปัญหาทางการเมืองเข้ามาซ้ำเติม ถือว่าเป็นโชคร้ายหลายชั้น

ด้าน นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษกล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวยังหดตัวลงกว่า 30% ผู้ประกอบการต่างพยายามลดต้นทุน ไม่มีการลงทุนเพิ่ม ส่วนมาตรการเยียวยาที่เคยเสนอภาครัฐไปยัง “ไร้การตอบรับ”

ส่วนผู้ประกอบการโรงแรมจะร่วมกันยื่นข้อเรียกร้องขอให้รัฐบาล “ยกเลิก” คำสั่งการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท ส่วนการที่จังหวัดตั้งเป้าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดศรีสะเกษ (GPP) ในปี 2568 ไว้ประมาณ 80,000 ล้านบาทนั้น “คงจะไม่ได้ตามเป้าที่กำหนดไว้”

นายวิรัตน์ เศรษฐวิพัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนยังไม่มีความแน่นอน และเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลให้ประชาชนในจังหวัด แม้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยสำหรับชีวิตประจำวันเป็นปกติ แต่ใช้สอยในส่วนฟุ่มเฟือยลดลงกว่า 30% โดยกำลังซื้อที่ลดลงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการลงทุนในจังหวัดชะลอตัว นักธุรกิจไม่กล้าลงทุน ทำให้ภาคธุรกิจต่างอยู่ในภาวะการประคองตัวให้รอดกันไป ไม่จ้างงานเพิ่ม มาตรการช่วยเหลือที่ยื่นไปยังรัฐบาลก็ยังไม่มีความชัดเจนออกมา



จันทบุรีขอเยียวยาใหม่ 6 ข้อ

นายสุทธิลักษณ์ คุ้มครองรักษ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดตราดกล่าวว่า การปิดชายแดน ด่านจุดผ่านแดนถาวร บ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด มีผลกระทบทั้งผู้ประกอบการธุรกิจส่งออก ธุรกิจการท่องเที่ยว และธุรกิจเกี่ยวเนื่องต่างรายได้หดหายไป บางธุรกิจที่ค้าขายเฉพาะกับกัมพูชามีรายได้เป็นศูนย์ จนต้องทยอยปลดคนงานออก

“ยกตัวอย่างผู้ประกอบการรายหนึ่งที่นำเข้าสินค้าจำพวกอาหารทะเลประมาณ 10 ล้านบาท ตอนนี้รายได้เป็นศูนย์ รายได้มีเฉพาะช่วงครึ่งปี 2568 (ม.ค.-มิ.ย.) เท่านั้น จะหายไปกว่า 50% และทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมด เช่น ห้องเย็น คนผลิตน้ำแข็ง ต้องทยอยปลดคนงานออก คาดว่าหากสถานการณ์อีก 3-6 เดือนไม่ดีขึ้น ธุรกิจนี้ต้องถูกฟรีซ ประชาชนในเขตพื้นที่ อ.คลองใหญ่ รายได้ลดลงมากกว่า 80% และถ้าเกี่ยวกับการค้าชายแดนปัจจุบันแทบไม่มีรายได้เลย” นายสุทธิลักษณ์กล่าว

ด้านการท่องเที่ยวจังหวัดตราด ตั้งแต่มีการประกาศกฎอัยการศึก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ขอเลื่อน ยกเลิกการจอง และขอขยายเวลา จากที่จองไว้เดือน พ.ย.-ธ.ค. ปกติเดือนกันยายนนักท่องเที่ยวปกติจะเริ่มจองมา แต่ตอนนี้บุ๊กกิ้งหายไปหมด ประกอบกับระบบการประกันจากต่างประเทศไม่คุ้มครองในเขตพื้นที่อัยการศึก การส่งออก ก็เพราะด่านปิด มีรายงานข่าวจากผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราดเข้ามาว่า ปกติเดือน ก.ค.-ก.ย. จะมีลูกค้ากรุ๊ปสัมมนา

แต่ปีนี้หลังมีปัญหาชายแดนลูกค้าลดลงไปประมาณ 60% และคาดว่าสถานการณ์ใน 7 จังหวัดชายแดนจะเป็นลักษณะเดียวกัน จึงขอเสนอให้รัฐบาลช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว มีวงเงินงบประมาณลงมาช่วยสนับสนุนคล้าย ๆ โครงการคนละครึ่ง ภาครัฐสนับสนุนจ่าย 60% นักท่องเที่ยวจ่ายเอง 40% เพื่อการช่วยเหลือระยะสั้น

ขณะที่ นายอภิศร ถาวรวิริยะนันท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี และนายภูมิพัฒน์ ตั้งเจริญศิริ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจันทบุรี ร่วมกันกล่าวว่า นับตั้งแต่รัฐบาลออกกฎอัยการศึกในพื้นที่ 7 จังหวัด นักท่องเที่ยวเกิดความกังวลและไม่มั่นใจในความปลอดภัยต่อการเดินทางมาท่องเที่ยว จ.จันทบุรี มีการยกเลิกการจองที่พัก การจัดกิจกรรม งานประชุม

เกิดความเสียหายต่อห้องพักอย่างน้อย 80,000-125,000 ห้อง สูญเสียนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาอย่างน้อย 165,000-250,000 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 700-1,600 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรี-สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจันทบุรี ได้ยื่นเสนอมาตรการช่วยเหลือและเยียวยา 7 จังหวัดชายแดน กรณีผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี



ดังนี้ 1) ต้องการให้ออกนโยบายช่วยลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวและใช้จ่ายในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน 2) ต้องการให้ออกนโยบายด้านการเงิน เช่น การพักชำระหนี้ หรือลดดอกเบี้ยธนาคาร ทั้งในช่วงที่ยังมีความขัดแย้งกันและช่วยฟื้นฟูหลังเหตุการณ์ปะทะ 3) ต้องการงบประมาณจัดงาน Big Event ในจังหวัดจันทบุรี เพื่อช่วยกระตุ้นให้มีการเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัด

4) ต้องการงบประมาณจ้าง Influencer 2-3 ราย ที่มีผู้ติดตามไม่น้อยกว่า 1 ล้านคนมาประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวตามมาเที่ยวในจังหวัดเพิ่มขึ้น 5) ต้องการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีการปรับโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เฉพาะ 7 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ โดยให้รัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่ายจาก 70% และนักท่องเที่ยวจ่ายเพียง 30% โดยให้มีระยะเวลาใช้สิทธิถึงปลายปี 2568

และ 6) ต้องการให้นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั้ง 7 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจัดงาน Road Show ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย การประชาสัมพันธ์โรงแรม ร้านค้า และสินค้าในจังหวัด
ตลาดโรงเกลือเหลือผู้ค้า 30% ดิ้นหันทำตลาดออนไลน์

นายเทอดศักดิ์ วงษ์โพธิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงปัญหาคนกัมพูชารุกล้ำอาณาเขตประเทศไทยบริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยไม่ยอมย้ายออก และมีท่าทีบานปลายและไม่จบลงง่าย ๆ ว่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในจังหวัด

โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจค้าขายบริเวณชายแดนตลอดแนว เพราะตั้งแต่ปิดด่านมาประมาณเกือบ 3 เดือน “ไม่มีรายได้เลย” แต่ต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดินของกรมธนารักษ์และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)

“ที่ชายแดนอรัญประเทศปกติมีตัวเลขนำเข้า-ส่งออกสินค้าเฉลี่ยประมาณ 100,000 ล้านบาท อย่างตรงตลาดโรงเกลือปกติจะมีชาวกัมพูชามาเช่าห้องเพื่อการค้าขายถึง 5,000 ห้อง ตอนนี้กลับประเทศกัมพูชาไปเป็นจำนวนมาก ที่เหลือเช่าอยู่ประมาณ 30% ก็ค้าขายทางออนไลน์ ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างอึมครึม ชาวบ้านก็อึดอัด ตอนนี้รอดูรัฐบาลชุดใหม่ในการไปเจรจากับฝ่ายกัมพูชา ผลกระทบเกิดขึ้นตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาทุกจังหวัด และกระทบทั้งคนไทยและคนกัมพูชาที่ไม่สามารถทำมาค้าขายกันได้ พืชผลทางการเกษตร ทั้งข้าวโพด มันสำปะหลังไม่สามารถขนส่งข้ามมาได้ก็บาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย” นายเทอดศักดิ์กล่าว

ขณะที่ นายบดี เทียนทอง ผู้บริหาร บริษัท โกลเด้น เกท จำกัด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และอดีตประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสระแก้วกล่าวว่า สถานการณ์กำลังซื้อใน อ.อรัญประเทศ ตอนนี้ “เงียบมาก” และกำลังดิ่งลงเรื่อย ๆ ผู้ประกอบการธุรกิจได้รับผลกระทบหนักจนต้องดิ้นรนไปหารายได้จากทางอื่น

สำหรับทางบริษัททำธุรกิจให้เช่าอาคารค้าขายบริเวณตลาดโรงเกลือประมาณ 1,000 ยูนิต ผู้เช่าส่วนใหญ่เป็นคนกัมพูชาได้เดินทางกลับประเทศไปแล้ว อาคารถูกปิด ทำให้สูญเสียรายได้ไปพอสมควร สถานการณ์ตลาดโรงเกลือเงียบสนิท แต่ยังดีว่าบริษัทมีรายได้จากธุรกิจอื่น ๆ มาทดแทน โดยเฉพาะธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

https://www.prachachat.net/local-economy/news-1880926


เมื่อวานใน #อังกฤษ มีการเดินขบวนของกลุ่มขวาจัด ในลอนดอน น่าจะเป็นการเดินขบวนครั้งใหญ่สุดในปวศ.ของฝ่ายขวา อ้างว่าเป็นการใช้ #เสรีภาพด้านความเห็น เพื่อต่อต้านทุกอย่าง ตั้งแต่ต่อต้านอิสลาม ต่อต้านปาเลสไตน์ และแน่นอน ต่อต้านคนเข้าเมือง


Over 100,000 anti-immigration protesters march through London | ABC NEWS

ABC News (Australia)

Sep 13, 2025 

A massive anti-immigration march through central London has drawn more than 100,000 protesters following a call of anti-Islam, nationalist activist Tommy Robinson. The ‘Unite the Kingdom’ protests kicked off in the streets south of the River Thames before heading towards Westminster. Counter-protesters also took to the streets to voice opposition and racism concerns, with clashes reported throughout the city.

https://www.youtube.com/watch?v=SFQ5DMBKjgo
.....


Pipob Udomittipong
10 hours ago
·
เมื่อวานใน #อังกฤษ มีการเดินขบวนของกลุ่มขวาจัด "Unite the Kingdom" นำโดย Tommy Robinson ในลอนดอน น่าจะเป็นการเดินขบวนครั้งใหญ่สุดในปวศ.ของฝ่ายขวา พวกเขาอ้างว่าเป็นการใช้ #เสรีภาพด้านความเห็น เพื่อต่อต้านทุกอย่าง ตั้งแต่ต่อต้านอิสลาม ต่อต้านปาเลสไตน์ เอาธงชาติมาฉีกระหว่างเดิน และแน่นอน ต่อต้านคนเข้าเมือง

ตร.คาดว่ามีผู้เข้าร่วมเดินเพื่อต่อต้านคนเข้าเมืองมากถึงกว่า 100,000 คน ดูจากภาพถ่ายมุมสูง น่าจะไม่เกินจริง แสดงให้เห็นว่ากระแสขวาที่กำลังเบ่งบานในอังกฤษ พร้อม ๆ กับแรงสนับสนุนพรรคการเมืองขวาจัดอย่าง Reform UK ของนักการเมืองขวา ๆ อย่าง Nigel Farage ที่ครั้งหนึ่งแทบไม่มีคนรู้จัก

Reform UK จากพรรคที่เพิ่งมีสส. 4 คน รวมทั้งไนเจล ฟาราจ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคและนักการเมืองแนวทรัมเปียน ซึ่งคนอังกฤษเริ่มรู้จักจากการแคมเปญ Brexit (ตอนนั้นพรรคนี้ยังมีชื่อว่า “Brexit Party”) ปัจจุบันเป็นพรรคการเมืองที่คนอังกฤษมากถึง 34% ประกาศว่าจะเลือก มากกว่าพรรคเลเบอร์ที่มาเป็นอันดับสอง

แต่น่าสนใจตรงที่ แท้ขวาตกชอบของฟาราจ ก็ปฏิเสธไม่ยอมให้ทอมมี่เข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองขวาจัดของเขา อาจเป็นเพราะประวัติของทอมมี่ที่น่าจะเหมาะสมกับการเป็นอันธพาลหรืออาชญากรมากกว่านักการเมือง

“Tommy Robinson” 42 ปี แกนนำจัดการเดินขบวนครั้งนี้ มีหลายชื่อแบบอาชญากรทั่วไป และแน่นอนว่าชื่อ “Tommy Robinson” ไม่ใช่ชื่อจริงของชายชาวอังกฤษที่โหนกระแสต่อต้านอิสลาม และคนเข้าเมืองมาเป็นสิบ ๆ ปี เขาเลือกใช้ชื่อนี้ เพราะเป็นชื่อสามัญของกรรมาชีพในอังกฤษ และยังเป็นชื่อชองฮูลิแกน แฟนบอลอันธพาลที่ก่อความรุนแรงไปทั่ว

และที่เขามีหลายชื่อ อาจเป็นเพราะมีประวัติอาชญากรรมยาวเหยียด เคยติดคุกหลายครั้งทั้งความผิดส่วนตัวเรื่องฉ้อโกง ครอบครองยาเสพติด และก่อความวุ่นวายต่อสาธารณะ ทอมมีเคยใช้เอกสารการเดินทางปลอมเพื่อเดินทางเข้าสหรัฐ ฯ ถูกจับคิดคุก

ทอมมี่ ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่าหนึ่งล้านคนใน X เคยถูกแบนจาก X หรือ Twitter ในปี 2018 แต่เขาได้รับอนุญาตให้มาสิงสู่ในแพลตฟอร์มนี้อีกในปีเดียวกัน หลัง Elon Musk ซื้อกิจการ และเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนทอมมี่เต็มตัว

ทอมมี่เคยถูกศาลสั่งจำคุกในข้อหาทำร้ายร่างกาย (2005), การฉ้อโกงจากการกู้ยืม (2014) และละเมิดอำนาจศาล (2024) เพราะก่อนหน้านั้นเขาแพ้คดีหมิ่นประมาทวัยรุ่นลูกผู้ลี้ภัยชาวซีเรียในอังกฤษ ซึ่งทอมมี่กล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานว่าวัยรุ่นคนดังกล่าวละเมิดทางเพศต่อผู้หญิงชาวอังกฤษ

ทอมมี่สร้างชื่อเสียงของเขาขึ้นมาจากการโจมตีใส่ร้ายทั้งคนมุสลิมและผู้ลี้ภัยอย่างไม่มีหลักฐาน แม้หลังเขาแพ้คดีหมิ่นประมาทต่อวัยรุ่นลูกผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย เขายังเอาข้อมูลผิด ๆ เหล่านี้ไปทำเป็นสารคดี เพื่อเผยแพร่ข่าวเท็จเหล่านี้ต่อไป ทำให้ต่อมาศาลสั่งจำคุกเขาอีก 18 เดือนในข้อหาละเมิดอำนาจศาล

แม้ฟาราจมองว่าทอมมี่ขวาจนตกขอบ ไม่ยอมให้เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการของพรรค แต่ก็น่าสนใจว่า ถ้าทอมมี่สามารถดึงคนเป็นแสนให้มาเดินขบวนกับเขา เพื่อเชิดชูคุณค่าของฝ่ายขวาจัดได้ พรรคการเมืองที่กำลังรุ่งของฟาราจ จะปฏิเสธการมีส่วนร่วมของเขาได้หรือไม่

ไม่ต้องพูดว่า Elon Musk ให้ความสนับสนุนกับทอมมี่ และขบวนการขวาจัดของเขาเป็นอย่างดี เมื่อวานระหว่างการชุมนุมMusk เจ้าของ X ที่วิดีโอคอลล์เข้ามาพูดคุยกับทอมมี่ ท่ามกลางผู้ชุมนุมจำนวนมาก พร้อมกับประกาศว่าจะกำจัด พวก "Woke Mind Virus" พวกโวกที่ทำตัวเหมือนไวรัส และยังบอกกับผู้ชุมนุม ซึ่งได้ใช้ความรุนแรงเป็นเหตุให้จนท.ได้รับบาดเจ็บหลายนายว่า "ความรุนแรงกำลังจะมาถึง (พวกคุณ)" และ "คุณต้องเลือกว่าจะสู้กลับหรือตาย"

ต้องยอมรับว่าเป็นกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกแนวสนับสนุนความรุนแรง แต่ในสังคมประชาธิปไตย จนท.มีหน้าที่ “อำนวยความสะดวก” ให้การใช้สิทธิในการชุมนุมเกิดขึ้นได้ บุคคลหรือกลุ่มใดที่มีแนวโน้มจะใช้ความรุนแรง ก็จัดการเป็นรายบุคคลไปครับ และเป็นที่น่ากังวลกับการหันขวาของชาวอังกฤษมากครับ

https://www.facebook.com/photo/?fbid=10163058965816649&set=a.10150096728651649
https://www.youtube.com/watch?v=SFQ5DMBKjgo



เรารู้อะไรแล้วบ้าง ปมอายัดบัญชีป่วน ?



"เราระงับตามจำนวนเงินที่โอนเข้าไป ไม่ใช่อายัดทั้งบัญชี" เรารู้อะไรแล้วบ้าง ปมอายัดบัญชีป่วน ?

14 กันยายน 2025
บีบีซีไทย

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายรายเปิดเผยข้อมูลว่าถูกอายัดบัญชีธนาคารเนื่องจากต้องสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า โดยมีทั้งผู้ที่ระบุตัวเองว่าเป็นแม่ค้าออนไลน์ หรือรับเงินโอนที่ลูกหนี้ไปโกงคนอื่นมาคืนให้ และถูกอายัดบัญชีทั้งที่ไม่ได้รู้เห็นในการกระทำความผิด

เพจเฟซบุ๊ก "หมอแล็บแพนด้า" ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 3.5 ล้านคน โพสต์เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) อ้างว่ามี "หลายคนเริ่มทยอยไปถอนเงินสดจากธนาคาร" เนื่องจากกลัวถูกอายัดบัญชี ขณะเพจร้านอาหารบางร้านประกาศรับเฉพาะเงินสดชั่วคราวเพราะกังวลว่าจะถูกอายัดบัญชีจากเงินโอนที่ลูกค้าสแกนจ่ายเข้ามา

ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ในวันนี้ (14 ก.ย.) เพื่อปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้บริสุทธิ์

เรารู้อะไรแล้วบ้างเกี่ยวกับปรากฏการณ์ความวิตกกังวลที่เกิดขึ้น ?

บัญชีธนาคารลักษณะใดบ้างที่ถูกอายัด ?

บีบีซีไทยพบข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านทางโซเชียลมีเดียของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกอายัดบัญชีบอกว่า มีทั้งพ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการ หรือกรณีที่คนรู้จักให้ช่วยโอนเงิน-รับเงินโอนให้แล้วไปเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารของมิจฉาชีพหรือเว็บพนัน

ซึ่งหลายรายระบุว่าบัญชีธนาคารที่ถูกอายัดไม่ใช่เพียงบัญชีเดียวที่มีรายการธุรกรรมเชื่อมโยงกับมิจฉาชีพเท่านั้น แต่ลามไปถึงทุกบัญชีธนาคาร ทำให้กระทบกับการใช้จ่ายในชีวิต เพราะไม่สามารถนำเงินที่อยู่ในบัญชีออกมาใช้ได้จนกว่าจะสามารถยืนยันความบริสุทธิ์และปลดอายัดบัญชีสำเร็จ

นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงเมื่อ 13 ก.ย. ว่า บัญชีที่ได้รับผลกระทบจะเป็นบัญชีที่อยู่ใน "เส้นทางเงินที่รับโอนจากบัญชีม้า" เท่านั้น

คำชี้แจงดังกล่าวยังอธิบายต่อไปว่า ที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้า โดย "ขยายขอบเขตการติดตามเส้นทางเงินให้กว้างขึ้น" เพื่อ "กักเงินที่โยงกับบัญชีม้ามาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด" จึงทำให้การระงับบัญชีที่เกี่ยวข้องอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมากขึ้น

เสียงสะท้อนถึงความยุ่งยากในการขอปลดอายัดบัญชี

ผู้ใช้โซเชียลมีเดียบางรายสะท้อนถึงขั้นตอนนี้ว่าเป็นกระบวนการที่เสียทั้งเงินและเวลา

"ตอนแรกเกือบจะต้องขับรถจากนครศรีฯ ไปถึงกาญจนบุรี เพราะเงิน 100 บาทแท้ ๆ เพื่อไปให้การ" หนึ่งในผู้ที่ถูกอายัดบัญชีโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "ล่าสุดค่าถ่ายเอกสารเป็น 1,000 แล้ว ยังไม่ผ่าน" ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวตั้งค่าข้อความเป็นสาธารณะ มีผู้แชร์ข้อความมากกว่า 7,500 ครั้ง

ขณะที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียอีกราย โพสต์ภาพเอกสารกองใหญ่หลายกองที่เธอบอกว่าใช้สำหรับการยื่นเรื่องปลดอายัดบัญชี เธอบอกว่าเธอยื่นเรื่องไปสองรอบ โดยรอบแรกไม่ผ่านเพราะ "เอกสารไม่พอ" รอบสองเธอจึงเตรียมไปเต็มกระเป๋าลากใบใหญ่ หมดค่าพิมพ์เอกสารไปไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น จนกระทั่งได้รับการปลดอายัดบัญชี โพสต์สาธารณะดังกล่าวของเธอมีคนเข้ามาแชร์ข้อความมากกว่า 10,000 ครั้ง

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เน้นย้ำในคำชี้แจงเมื่อ 13 ก.ย. ว่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อยกเลิกการระงับบัญชีได้ โดยติดต่อไปยังศูนย์ AOC 1441 ต่อ 2

เพจเฟซบุ๊ก "สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว" โพสต์คลิปวิดีโอทดลองติดต่อสายด่วนดังกล่าวเมื่อเวลา 9.00 น. ของวันนี้ (14 ก.ย.) ระบุว่าใช้เวลารอ 10 นาทีไม่มีเจ้าหน้าที่รับเรื่อง มีเพียงระบบอัตโนมัติแจ้งกลับมาว่า "ขณะนี้พนักงานให้บริการเต็มทุกคู่สาย กรุณาถือสายรอสักครู่"


ในช่วงระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 - 1 ส.ค. 2568 ศูนย์ AOC 1441 ได้ระงับบัญชีธนาคารไปแล้ว 821,090 บัญชี หรือเทียบเท่าวันละ 1,269 บัญชี จากการเปิดเผยของโฆษกกระทรวงดีอี

บีบีซีไทยพบว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC ) หรือ AOC 1441 ได้รับการประชาสัมพันธ์ผ่านหลายช่องทางของหน่วยงานภาครัฐว่าเป็น one stop service แก่ประชาชน ช่วยดำเนินการ ระงับ/อายัดบัญชี ได้ทันที สำหรับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงผ่านช่องทางออนไลน์

โดยในขณะนั้น "ตำรวจสอบสวนกลาง" ยังประชาสัมพันธ์ด้วยว่า สายด่วนดังกล่าวที่รองรับกว่า 100 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมงนั้น สามารถ "อายัดบัญชีของคนร้ายให้แก่ผู้เสียหายที่ถูกหลอกได้ทันทีใน 1 ชั่วโมง" จากการรายงานของสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

ก่อนหน้านี้เคยมีการเปิดเผยจาก น.ส.วงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง ถึงผลการดำเนินงานของ ศูนย์ AOC 1441 ในช่วงระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 - 1 ส.ค. 2568 ได้ระงับบัญชีธนาคารไปแล้ว 821,090 บัญชี คิดเป็นค่าเฉลี่ยได้วันละ 1,269 บัญชี

โดยบัญชีธนาคารที่ถูกระงับส่วนใหญ่เข้าข่ายประเภทคดี "หลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ" คิดเป็น 31.82% รองลงมาคือคดีหลอกลวงหารายได้พิเศษ, หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล, หลอกลวงลงทุน, หลอกลวงให้กู้เงิน และคดีอื่น ๆ

ช่วงไม่ถึง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กบางรายที่ระบุว่าตนเองเป็นตำรวจสอบสวน อาทิ เพจ "พนักงานสอบสวนหญิง" หรือผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "Ton Thanapon" ระบุถึงปัญหาในการปฏิบัติงานตามมาตรการและระเบียบที่มีอยู่ โดยสะท้อนว่ากระบวนการแจ้งอายัดบัญชีผ่านสายด่วน 1441 ทำได้ง่ายดาย เพียงแค่ผู้เสียหายแจ้งว่าถูกโกงและตรวจสอบพบว่ามียอดโอนไปยังบัญชีปลายทางจริง แต่กระบวนการปลดอายัดกลับยุ่งยากและต้องผ่านตำรวจสอบสวนซึ่งรับผิดชอบหลายคดีในมืออยู่แล้ว

ที่มาของมาตรการ

"ตำรวจไซเบอร์" หรือกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) โพสต์เมื่อ 14 ก.ย. ชี้แจงที่มาของมาตรการระงับบัญชีต้องสงสัยว่า มาจากการที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์อาศัย "บัญชีม้า" ในการกระจายเงิน แทนการโอนตรงเข้าสู่บัญชีหลักของขบวนการ ซึ่งมีทั้งการจ่ายค่าตอบแทนให้เจ้าของบัญชีม้า หรือโอนเงินเข้าร้านค้าเพื่อแลกเปลี่ยนออกมาเป็นเงินสดหรือสินค้า ไม่ว่าผู้ประกอบการจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน

คำชี้แจงดังกล่าวระบุต่อไปว่า วิธีการนี้ส่งผลให้การติดตามเงินคืนแก่ผู้เสียหายทำได้ยากขึ้น และมีความเสี่ยงที่ประชาชนทั่วไปหรือผู้ประกอบการบางรายจะถูกหลอกให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับวงจรฟอกเงินโดยไม่รู้ตัว ซึ่งท้ายที่สุดอาจส่งผลกระทบต่อการถูก "อายัดบัญชี" จนไม่สามารถใช้เงินได้ แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการอาชญากรรมโดยตรงก็ตาม

โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เน้นย้ำว่า มาตรการนี้สามารถหยุดเส้นทางการเงินของคนร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยอมรับว่าเมื่อระบบติดตามเส้นทางการเงินมีความเข้มข้นขึ้น ก็ทำให้บัญชีของ "ประชาชนสุจริต" บางรายถูกระงับไปด้วย โดยเฉพาะกรณีที่ผู้เสียหายเพิ่งมาแจ้งความย้อนหลัง ซึ่ง บช.สอท. ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งปรับมาตรการดังกล่าวแล้ว

นอกจากนี้ ตำรวจไซเบอร์ยังเปิดเผยว่าได้ยกระดับศูนย์รับเรื่องร้องเรียนอายัดบัญชี โดยเปิดช่องทางเพิ่มเติมเบื้องต้น คือสายด่วน 1441 สำหรับแจ้งเหตุร้องเรียนทั่วไป หรือทางเบอร์โทรศัพท์ 095-425-7478 และ 061-032-2914 สำหรับตรวจสอบและปลดอายัดบัญชีโดยเฉพาะ

ภาครัฐจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ?

ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ในช่วงบ่ายวันที่ 14 ก.ย. โดยยืนยันว่าในกรณีที่ผู้เสียหายได้รับโอนเงินมาจากบัญชีม้าโดยที่อาจไม่ได้รู้เห็นด้วยนั้น ตามมาตรการที่ดำเนินการมาก่อนหน้านี้เป็นเพียงการ "ระงับจำนวนเงินดังกล่าวชั่วคราว" ไม่ใช่การอายัดบัญชีธนาคารทั้งบัญชี

นั่นหมายความว่าผู้ที่ถูก "ระงับการทำธุรกรรม" จะไม่สามารถดำเนินการใด ๆ กับ "วงเงิน" ที่ถูกระงับเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้บัญชีของตนเองในการทำธุรกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากวงเงินนั้นได้ตามปกติ

"โดยหลักการเราก็กำลังตรวจสอบอยู่ แต่ว่าที่เราดำเนินการ เวลาเราระงับการทำธุรกรรม เราระงับตามจำนวนเงินที่โอนเข้าไป ไม่ใช่อายัดทั้งบัญชีหรือระงับการทำ [ธุรกรรม] ทั้งบัญชี" ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ อธิบาย "ถ้าเขาระงับธุรกรรม 100 บาท แต่เงินของท่านมันออกไปแล้วมันเหลือไม่ถึง 100 บาท เขาก็จะล็อกวงเงินนั้นไว้ จนกว่าท่านจะมีวงเงินมากกว่า 100 [บาท] ท่านถึงจะใช้ได้"

ปลัดกระทรวงดีอีเน้นย้ำว่า กรณีนี้เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัย ซึ่งจะแตกต่างจากการ "อายัดบัญชี" ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น

"ถ้าเราตรวจสอบได้ว่าได้รับเงินมาแล้วสุจริต อันนี้เป็นบัญชีนั้นบัญชีเดียว แล้วก็เป็นวงเงินนั้นเท่านั้น แต่ว่าในหลาย ๆ เคส เรามีคนที่เป็นลักษณะที่ว่าขายบัญชี แล้วก็ไปเปิดบัญชีจำนวนมาก... ถ้าเรามีบัญชีที่เราตรวจสอบได้ว่าเป็นบัญชีม้าจริง ๆ... อันนี้เราเรียกว่า 'ม้าสีดำ' จะมีกลไกของทาง ปปง. ไปทำให้การมีบัญชีของเขามันอาจจะต้องทำได้ยากขึ้น เพราะฉะนั้นอันนี้ทำให้เป็นการปิดทุกบัญชี ซึ่งอันนี้ไม่ใช่เรื่องการระงับที่เราคุยกันในวันนี้" ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ ระบุ

ที่ประชุมในวันนี้มีการพิจารณากลไกการเพิกถอนการระงับธุรกรรมชั่วคราว ซึ่ง ตาม พ.ร.ก.ฯ ให้อำนาจ ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ในการปลดล็อกการระงับวงเงินผ่านการดำเนินการของศูนย์ AOC 1441 ได้ โดยจะเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบบัญชีผ่านการจัดตั้งศูนย์ประสานงานทำงานร่วมกัน ระหว่าง ศปอท., ธปท. ธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการตรวจสอบจะประกอบด้วย
  • เส้นทางการเงิน รูปแบบทางการเงินของบัญชีว่ามีลักษณะเป็นการทำธุรกรรมปกติหรือไม่
  • เจ้าของบัญชีมีรายชื่อเกี่ยวข้องกับการอายัดบัญชีของ ปปง. และตำรวจหรือไม่
"เราจะพยายามเคลียร์ปัญหาว่า ถ้าท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ในกรอบจริง ๆ เราจะมีกลไกในการดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วขึ้น และในขณะเดียวกันจะมีการพูดคุยกันในอนาคตว่า เราจะกำหนดกรอบอะไรที่ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการดูแลผู้บริสุทธิ์ที่ถูกหลอก กับผู้บริสุทธิ์ที่มีเงินวิ่งเข้ามาในบัญชีเพิ่มเติม" ปลัดกระทรวงดีอีระบุในการให้สัมภาษณ์

https://www.bbc.com/thai/articles/cwyln7x2yw8o


เสียงสะท้อน ตร. งานหนักระบบตรวจบัญชีม้าล้มเหลว

https://www.facebook.com/watch/?v=1337806047837678








https://www.facebook.com/watch/?v=1337806047837678
https://x.com/onenews31/status/1967145209256702458



13 กันยายน 2568 #ยืนหยุดทรราชxนิรโทษกรรมประชาชนw140 จะเปลี่ยนกี่รัฐบาล นักโทษการเมืองก็ยังไม่ได้รับความยุติธรรม



https://www.facebook.com/watch/?v=1521900032144579
https://www.facebook.com/wetheequalcitizen/posts/806626025052733



ผลสำรวจ Gen Z ส่วนใหญ่เห็นควรยกเลิกการเข้าแถวหน้าเสาธงชาติตอนเช้า : ‘อาจารย์ธำรงศักดิ์โพล’ ประเทศไทย นับเป็นประเทศเดียวในโลก ที่โรงเรียนระดับประถมและมัธยม มีการเข้าแถวหน้าเสาธงชาติตอนเช้าทุกวัน 90 ปีแล้ว


Thamrongsak Petchlertanan
11 hours ago
·
ผลสำรวจ Gen Z ส่วนใหญ่เห็นควรยกเลิกการเข้าแถวหน้าเสาธงชาติตอนเช้า
: ‘อาจารย์ธำรงศักดิ์โพล’

โรงเรียนให้นักเรียนเข้าแถวหน้าเสาธงชาติเพื่อเคารพธงชาติและเพลงชาติ “สยาม” เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2478 สมัยรัฐบาลนายพันเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา ในบริบทก่อนเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อปลุกใจประชาชนให้รักชาติ โดยคณะราษฎรเริ่มสร้างลัทธิชาตินิยมและลัทธิทหาร รวมทั้งการออกระเบียบชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาเวลา 8.00 น. และชักธงลงจากยอดเสาเวลา 18.00 น.

เมื่อถึงปี 2482 ได้เปลี่ยนชื่อประเทศ “สยาม” เป็น “ไทย” และได้มีการประกาศเนื้อร้องทำนองเพลงชาติไทยฉบับใหม่ นายพลตรี หลวงพิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีจึงได้ประกาศรัฐนิยมว่าด้วยการเคารพธงชาติ เพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี เมื่อเข้าสู่สมัยสงคราม วันที่ 14 กันยายน 2485 จอมพล ป. พิบูลสงคราม จึงรณรงค์ ให้คนทั้งประเทศเคารพเพลงชาติเวลา 8.00 น. เป็นครั้งแรก โดยให้บ้านที่มีวิทยุนั้นเปิดวิทยุให้ดังๆ เพื่อให้เพื่อนบ้านและคนที่เดินผ่านไปมาได้ยินด้วย

ประเทศไทยนับเป็นประเทศเดียวในโลกที่โรงเรียนระดับประถมและมัธยมมีการเข้าแถวหน้าเสาธงชาติตอนเช้าทุกวันมาอย่างยาวนานถึง 90 ปีแล้ว โรงเรียนต่างๆ มีการใช้เวลาเข้าแถวหน้าเสาธงชาติตั้งแต่เวลา 30 นาที จนถึง 1 ชั่วโมงเต็ม แต่โรงเรียนนานาชาติในไทยไม่มีการเข้าแถวหน้าเสาธงชาติ

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาก็รณรงค์ให้นักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติตอนเช้าทุกวัน เพื่อปลุกใจชาตินิยมกัมพูชา

งานวิจัยส่วนบุคคลของ รองศาสตราจารย์ ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต เก็บข้อมูลแบบสอบถามจากคน Gen Z ทั้งประเทศ จำนวน 1,135 คน เก็บแบบสอบถามระหว่าง 25-30 สิงหาคม 2568

ข้อ 1. คำถามว่า
“ท่านคิดว่าควรยกเลิกการเข้าแถวหน้าเสาธงชาติตอนเช้าหรือไม่”

ผลการวิจัยพบว่า (มี 1,135 คนตอบคำถามข้อนี้)
ควรยกเลิก ร้อยละ 57.4 (652 คน)
ยังไม่ควรยกเลิก ร้อยละ 25.9 (294 คน)
ไม่แสดงความเห็น ร้อยละ 16.7 (189 คน)

ข้อมูลสัมภาษณ์เชิงลึก
คำอธิบายของผู้เห็นว่าควรยกเลิกการเข้าแถวหน้าเสาธงชาติตอนเช้า ที่สำคัญได้แก่ เข้าแถวหน้าเสาธงชาติตอนเช้าเป็นการเสียเวลาเปล่า, เอาเวลานี้ไปทำกิจกรรมโฮมรูมดีกว่า, เอาเวลานี้ไปทำกิจกรรมที่ชื่นชอบของแต่ละคนดีกว่า, เอาเวลานี้ไปทำกิจกรรมในหมู่เพื่อนนักเรียนด้วยกันดีกว่า, ไม่ช่วยทำให้รักชาติมากขึ้น, จะให้นั่งอดทนไปเพื่ออะไร, นักเรียนต้องยืนตากแดดตากฝน ส่วนครูไปหลบใต้ต้นไม้ในอาคาร เหลื่อมล้ำ, เคยนั่งขัดสมาธิบนพื้นปูนนานครึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงมั้ย ว่ามันทรมานชีวิตขนาดไหน, เป็นลัทธิทหารโบราณ, ไม่คำนึงถึงสิทธิมนุษยชน, ชอบใช้เวลาหน้าเสาธงตำหนิด่าว่านักเรียนแบบเหมารวม, พูดอะไรมากมายหน้าเสาธง, สวดมนต์แล้วทำให้เป็นคนดีจริงหรือ, ผู้อำนวยการพูดอบรมให้เป็นคนดีจริงหรือ ผู้บริหารโรงเรียนคอร์รัปชันกันหรือเปล่า, อยากให้ข่าวสารก็ให้ในห้องโฮมรูมได้ หรือในไลน์กลุ่มได้

คำอธิบายของผู้ที่เห็นว่ายังไม่ควรยกเลิกการเข้าแถวหน้าเสาธงชาติตอนเช้า ที่สำคัญได้แก่ สร้างวินัยให้นักเรียน, ทำให้นักเรียนมีระเบียบ, ทำให้นักเรียนมีความอดทน, ทำให้นักเรียนมีจิตใจสงบก่อนศึกษาเล่าเรียน, นักเรียนได้แสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์, สร้างความรักชาติ, นักเรียนได้สวดมนต์, ทำให้นักเรียนมีศาสนาอยู่ในจิตใจ, ทำให้โรงเรียนมีเวลาให้ข่าวสารแก่นักเรียน, ทำให้ผู้บริหารโรงเรียนได้กล่าวอบรมบ่มเพาะการเป็นคนดี, ทำให้โรงเรียนได้ประกาศชื่นชมนักเรียนที่ทำชื่อเสียงให้โรงเรียนให้นักเรียนคนอื่นๆ ได้รับทราบ, ทำให้เช็คชื่อนักเรียนก่อนเข้าชั้นเรียน

#รักชาติ #ธงชาติไทย #เพลงชาติไทย #เข้าแถวหน้าเสาธง

ข้อมูลพื้นฐานของผู้ตอบแบบสอบถาม
เพศ : หญิง 683 คน (60.2%) ชาย 359 คน (31.6%) เพศหลากหลาย 72 คน (6.3%) ไม่ต้องการระบุ 21 คน (1.9%)

อายุ : Gen Z (15-18 ปี) 396 คน (34.9%) Gen Z (19-22 ปี) 671 คน (59.1%) Gen Z (23-28 ปี) 68 คน (6.0%)

หมายเหตุ :
1. งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยส่วนบุคคล ทัศนะจากงานวิจัยไม่เกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษาใดๆ ทั้งสิ้น และขอบคุณเพื่อนครูอาจารย์และนักเรียนนักศึกษาทุกคนเป็นอย่างสูงที่ช่วยเหลือในการวิจัยครั้งนี้

2. สื่อสามารถนำทั้งหมดหรือบางส่วนไปเผยแพร่ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ทั้งนี้ขอระบุที่มาว่า "อาจารย์ธำรงศักดิ์โพล"
https://www.facebook.com/photo/?fbid=24990395410566592&set=a.226886647344145

#MatiTalk ขบวนการยึดประเทศ เกิดขึ้นแล้ว... ? สนทนา สว.นันทนา นันทวโรภาส


MatiTalk ขบวนการยึดประเทศ เกิดขึ้นแล้ว... ? สนทนา สว.นันทนา นันทวโรภาส

มติชนสุดสัปดาห์ - MatichonWeekly

Premiered 4 hours ago 

ขบวนการยึดประเทศ เกิดขึ้นแล้ว... ? สนทนา สว.นันทนา นันทวโรภาส

https://www.youtube.com/watch?v=qmq_QqZWT6s



วันอาทิตย์, กันยายน 14, 2568

โพลล่าสุดของสำนัก ‘นิด้า’ ไม่ตรง ‘เทร็นด์’ เท่าไรนัก หลังจาก ‘อนุทิน’ เป็นปลื้ม อบจ.สงขลา และ ๖ จังหวัดอันดามัน ไปภูมิใจไทยหมดแล้ว

ปกติ ผลโพล ไม่ว่าจากสำนักใด ที่สำรวจโดยถูกต้องตามหลักวิธีการ ย่อมถือได้ว่าเป็น เทร็นด์ ปัจจุบันของเรื่องนั้นๆ แต่เทร็นด์การเมืองของพรรคภูมิใจไทย ดูจะไม่ตรงกับโพลล่าสุดของสำนัก นิด้า เท่าไรนัก ในหลายกรณี

เมื่อวานนี้ (๑๓ กันยา) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ คนใหม่ฉลองวันเกิดอายุครบ ๕๙ ปี มีนักการเมืองระดับท้องถิ่นไปร่วมอวยพรกันจำนวนมาก และที่โดดเด่นเป็นข่าวเป็นกลุ่ม อบจ.สงขลาประมาณ ๒๐ คน ถือโอกาสปาวารณาตัวเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย

การนี้ทำให้ สฤษฎ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ดี๊ด๊าว่า “ยกทีมสงขลา” “กระบี่ยกแล้วครับ” เสริมด้วย ทวี สุระบาล สส.ตรัง พรรคพลังประชารัฐ บอกว่า ตรังด้วย...ตรังยกไปก่อนแล้ว สฤษฏ์พงษ์กลับมาปิดท้ายว่า “อันดามัน ๖ จังหวัดไปหมด”

ดูดีๆ จะเป็นเทร็นด์ที่ย้อนแย้งกับบันทึกข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย ๑ ใน ๔ ข้อ ที่ว่าการโหวตสนับสนุนให้อนุทินเป็นนายกฯ ๔ เดือนแล้วยุบสภาจัดเลือกตั้งใหม่ ต้องไม่กระทำการให้มีเสียงข้างมากเพื่อเป็นรัฐบาลด้วยตนเอง

นอกจากนี้มีคนสำคัญระดับองคมนตรีและอดีตนายก ไปร่วมอวยพร แถมด้วย นิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต รมช.มหาดไทย นำดอกไม้ไปอวยพรแล้วกระซิบข้างหูอนุทินว่า “สี่บวกสี่นะครับ” ซึ่งหมายถึงอยู่ครบสี่เดือนแล้วต่ออีกสี่ปี

คราวนี้มาดูผลสำรวจนิด้าโพลระหว่างวันที่ ๘-๙ กันยา พบว่าหัวข้อ “การตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เป็นทางเลือกดีที่สุดขณะนี้” มาเป็นอันดับสองรองจาก “รัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพ ทำงานยากเพราะต้องคอยเจรจากับพรรคประชาชน” (คะแนน ๓๐% กับ ๓๖%)

เช่นกันกับที่ว่า “รัฐบาล (อนุทิน) จะอยู่ได้นานกว่าสี่เดือน” ได้รับความเห็นชอบเป็นอันดับสองรองจาก “จะอยู่ครบสี่เดือนตามข้อตกลง” (๕๖.๒๖%) นอกนั้นก็เป็นความเห็นด้วยที่พรรคประชาชนสนับสนุนอนุทินเป็นนายก และไม่เข้าร่วมรัฐบาล (๓๓% และ ๔๑%)

ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะขณะทำการสำรวจยังไม่ปรากฏข่าว อบจ.สงขลายกขบวนเข้าพรรคภูมิใจไทย หรือคำพูดเชิงล้อเล่นที่ว่า “๔ เดือนบวก ๔ ปี” การสำรวจครั้งต่อไปถ้ามีเทร็นด์เป็นข่าวแบบที่เกิดขึ้นวานนี้ ผลสำรวจความพอใจต่อพรรคประชาชนอาจเปลี่ยนไป

(https://nidapoll.nida.ac.th/data/survey/uploads/FILE-1757661981346.pdf และ https://www.facebook.com/thestandardth/posts/2YYnnLRFK)