วันพุธ, มกราคม 08, 2568

ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา พื้นที่ปลูกอ้อย (และเผา) เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่งมาลดลงในปีการปลูก 66/67 นิดเดียว นี่คือสาเหตุชัดๆ ว่าทำไมสภาพฝุ่นควันเพิ่มขึ้นทุกปีในช่วงเปิดหีบอ้อย

ภาพจากไทยรัฐ
.....
Theerapat Charoensuk
12 hours ago
·
จากข้อมูล คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล
ปี 47 พื้นที่ปลูกอ้อย 6.34 ล้านไร่
ปี 51 6.83 ล้านไร่
ปี 55 9.48 ล้านไร่
ปี 59 10.98 ล้านไร่
ปี 62 11.95 ล้านไร่
ปี 67 11.12 ล้านไร่
ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา พื้นที่ปลูกอ้อย (และเผา) เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่งมาลดลงในปีการปลูก 66/67 นิดเดียว
นี่คือสาเหตุชัดๆ ว่าทำไมสภาพฝุ่นควันเพิ่มขึ้นทุกปีในช่วงเปิดหีบอ้อย
คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล ที่ใช้เงินอุดหนุนจากภาษีไปอุ้มธุรกิจผลิตอ้อย น้ำตาล น้ำเชื่อม ทุกปี ควรคิดดีๆ ว่าจะเอาเงินประชาชนไปส่งเสริมการเผาให้เกิดมลพิษ และสุดท้ายก็ต้องใช้เงินภาษีมารักษาประชาชนระยะยาวอีกจนถึงเมื่อไร

https://www.facebook.com/terasphere/posts/10160496998661809


ภาพเก๋ไก๋นายกของไทยถ่ายคู่กับสามีในสื่อเยอรมัน


ณัฐนันท์ วัง
19 hours ago
·


สื่อเมืองไทย ไม่ลงข่าว?

สื่อเยอรมันตีพิมพ์ภาพนายกของไทยถ่ายคู่กับสามี พร้อมคำบรรยายใต้ภาพ สองบรรทัดแรกว่า

So präsentiert sich die neue thailändische Regierungschefin Paetongtarn Shinawatra mit ihrem Ehemann Pitaka Suksawat auf Instagram. Die Miliardarstochter besitzt allein 200 Designer-Handtaschen.

แปลว่า:
This is how the new Thai Prime Minister Paetongtarn Shinawatra presents herself with her
husband Pitaka Suksawat on Instagram. The billionaire's daughter owns 200 designer handbags alone.

พาดหัวตัวใหญ่ในบรรทัดถัดลงมาเขียนว่า:

Premier mit Schwache für Luxus

แปลว่า:
Prime Minister with weakness for luxury

https://www.facebook.com/photo/?fbid=10227766565820882&set=a.2767191630224





 

หลังจากพี่น้อง วิวัชรวงศ์ กลับมาเป็นข่าว ก็มีคนหยิบเรื่องเก่ามาพูดอีก เป็นเรื่องที่ พูดกันไป-พูดกันมา เมื่อ 30กว่าปีที่แล้ว จนถึงวันนี้!


ภาพจาก The Momentum
(https://www.facebook.com/photo.php?fbid=3128398014118548&id=1551751431783222&set=a.1636533129971718)
.....
Suvipan Pornawalai
19 hours ago
·
หลังจากพี่น้อง วิวัชรวงศ์ กลับมาเป็นข่าว ก็มีคนหยิบเรื่องเก่ามาพูดอีก เป็นเรื่องที่ พูดกันไป-พูดกันมา เมื่อ 30กว่าปีที่แล้ว จนถึงวันนี้!
มาฟังในมุมพี่ต้อย ร้อยเรียง กัน
คุณแม่ศิรินทิพย์ เป็นลูกครึ่งไทย-ฮอลแลนด์ เกิดในไทย ปีเกิดคุณแม่อยู่ในยุคต้นรัชกาลที่ 7
ชีวิตตอนเด็กจนเป็นสาว ของคุณแม่ ค่อนข้างโลดโผน และทำหลายอาชีพ และเคยขายล็อตเตอรี่ด้วย
คุณแม่เป็นคนสวย หน่วยก้านดี และมีพื้นฐานทางศิลปินจากสายเลือด จึงได้มีโอกาสถูกฝึกให้เป็นนักร้อง และได้มาเป็นนักร้องสาว ประจำวงสรรพสามิต ในยุค 2490
ชีวิตสมรสครั้งแรก ของคุณแม่ ไปได้ไม่ดีนัก!
แต่ในทางอาชีพบันเทิง คุณแม่ไปได้อย่างสวยงาม
จนคุณแม่มาพบรักอีกครั้งในวัย 25 และสมรสอีกครั้ง กับ อาจารย์ชาลี อินทรวิจิตร ที่ต่อมาทั้งสอง ครองรักกัน นานถึง 40 ปี
อาจารย์ชาลี นี่เกิดสมัย ร.6 ก็มีชีวิตที่โลดโผน! มาจากครอบครัวธรรมดาที่ ท่าฉลอม และเข้ามาเรียนหนังสือในกรุงเทพ รร.อำนวยศิลป์ จนมีโอกาสได้เรียนต่อ ที่โรงเรียนวิศวกรรมรถไฟรุ่น1
คือถ้าจะเอาดีทางการรถไฟ ปลายทางของคนรุ่น1 นี่น่าไปจบที่ตำแหน่งสูงสุดของ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้สบาย แต่ก็ต้องสร้างคอนเน็คชั่นส์ด้วยตนเอง ตามระบบราชการไทย
แต่จะยังไงไม่รู้? ความสุขอีกด้านของแก คือการร้องเพลง จนช่วงนั้นชีวิตแกหักเห! ได้มีโอกาสมาเจอกับครูล้วน ควันธรรม สุดยอดปรมาจารย์ครูในวงการเพลงตลอดกาล!
อาจารย์ชาลี เลยมีโอกาสต่อยอด และปล่อยแสงออกมาช่วงนั้น!
ช่วงชีวิตวัยหนุ่มของอาจารย์ชาลี ตอนแรก ได้เป็นนักร้องหน้าม่าน!
นักร้องหน้าม่าน ความหมายคือ เป็นนักร้องสำรอง ที่คอย ร้องคั่นเวลาให้คนดูไม่เบื่อ สลับระหว่างหลังม่านแดงที่หุบอยู่ เพื่อทำการเซ็ตเครื่องดนตรีให้มีความพร้อม
ก่อนจะเปิดม่าน และมีนักร้องหลักตัวจริงออกมา!
อาจารย์แกก็ฝัน ที่จะเป็นนักร้องหลัก และไต่เต้าตามลำดับ!
แต่พอได้ใกล้ชิดครูล้วน และได้รับการถ่ายทอดที่ดี
ครูล้วนเอง ก็เห็นความอัจฉริยะของลูกศิษย์คนนี้
นักร้องชาลี จึงพลิกโอกาส ใช้ความสามารถพิเศษของตนเอง มาเป็นนักแต่งเพลง อยู่เบื้องหลังในเวลาต่อมา
พอคลุกคลีในวงการบันเทิงมากๆ ในการอยู่เบื้องหลังของศิลปินต่างๆ ทั้งนักร้องและนักแสดง แกก็เห็นกระบวนการทำงานโดยรวม
ไม่นานจากนั้น แกก็พัฒนาตัวเองไปเป็นผู้กำกับการแสดงภาพยนตร์ หลายเรี่อง
อาจารย์ชาลี อายุมากกว่าคุณแม่ 4 ปี และทั้งสองคนก็ใช้ชีวิตในวงการบันเทิง ตั้งแต่หลังแต่งงาน จึงทำให้คุณแม่มีผลงานการแสดงออกมา โด่งดัง เป็นจำนวนมาก
ฝั่งอาจารย์ชาลีสามี ก็มีผลงานแต่งเพลงอยู่ในระดับชั้นนำของวงการ
ช่วง 2คน แต่งงานกันใหม่ๆ มีดราม่าในวงการบันเทิง โดยคุณแม่หยิบเอาชีวิตที่โลดโผนของตนเอง ทั้งงานและความรักที่ล้มเหลว มาเล่าหลายที่
จนมีคนขอเอามาทำเป็นบทละครวิทยุ เรื่อง “ม่านน้ำตา”
ตอนนั้นคุณแม่เริ่มโด่งดังแล้ว พอเป็นละครวิทยุที่เล่ามาจากชีวิตจริง
ผู้คนก็ติดตามฟังกันจำนวนมาก! แบบฮอทมากๆ
ฮอทขนาดว่า ทำเป็นละครวิทยุ อย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องเอามาทำเป็นภาพยนตร์ด้วย
สมัยนั้น ภาพยนตร์เรื่องม่านน้ำตา ผู้รับบทเป็นคุณแม่ศิรินทิพย์ คือ คุณเพชรา เชาวราษฎร์
และเอาออกมาฉาย ที่โรงหนังคาเธ่ย์ โรงแทบแตก!
พอหนังฉาย เกิดดราม่าหนักกว่าเดิม!
เพราะบทในหนังไป แซะ! สามีคนแรกของคุณแม่
จนต่อมามีการฟ้องร้องหมิ่นประมาทกัน
จบตรงที่ศาลฯไกล่เกลี่ย ให้ผู้กำกับเรื่องนี้ มาขอขมาฯ และประกาศลงหนังสือพิมพ์ในคำขอโทษ
ทุกอย่างจึงจบ!
สามีคนที่สองคืออาจารย์ชาลี แกก็ยืนข้างคุณแม่ตลอดชีวิต อาจารย์ จึงแต่งเพลงออกมา หลังดราม่าในศาลฯ ชื่อ
“ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก” และให้คุณ สวลี ผกาพันธุ์ เป็นผู้ขับร้อง!
เพลงนี้เราร้องได้ด้วย!555 เพราะชอบมาก
และคนที่ร้องไพเราะที่สุดก็คือคุณสวลี นี่แหละ
ลองไปหาฟังใน YouTube กันนะครับ!
ชีวิตรักของทั้งสองคน ก็ราบรื่นมาโดยตลอดหลายปี
โดยเฉพาะอาจารย์ชาลี อินทรวิจิตร แกก็ปล่อยของออกมาในวงการ นับพันเพลง
หลายเพลงของแก คือเพลงไทยที่คลาสสิกตลอดกาล จนถึงวันนี้ เช่น
แสนแสบ , ท่าฉลอม , เรือนแพ , มนต์รักดอกคำใต้ , ทุ่งรวงทอง , จำเลยรัก , รักเธอเสมอ และ บ้านเรา
และเพลงที่คนในชาติ ร้องได้ทุกคน อีกเพลงของแก คือ
#เพลงสดุดีมหาราชา
แกเป็นคนท่าฉลอม พอแกแต่งเพลง ท่าฉลอม ออกมา จึงอินมาก ด้วยการไขว้ สาวมหาชัย แผ่นดินฝั่งตรงข้ามบ้านแก ที่มองข้ามแม่น้ำก็เห็นกัน ที่แกเคย PuppyLove
เอาง่ายๆ ในยุคนั้นนักร้องใครที่เป็นท็อปไฟว์ในประเทศ ทุกคนจะเดินเข้ามาหาแก ขอร้อง ให้แกแต่งเนื้อเพลงให้
มีอยู่เพลงนึง ที่ไม่มีใครขอร้องให้แกแต่ง
แต่แกแต่งเอง ให้ฟรีๆ เพื่อเอาเพลงนี้ไปต้อนรับแขกวีไอพีของแก ชื่อเพลงว่า “บ้านเรา” หลายคนคงร้องเพลงนี้กันได้!
แกแต่งเพลงนี้ให้ คุณสุเทพ วงศ์กำแหง ขับร้อง!
เพราะมีช่วงนึง! คุณสุเทพ โดนมรสุมทางการเมือง โถมใส่! จนเหมือนถูกเนรเทศ ให้อยู่ต่างประเทศ และกลับประเทศไทยไม่ได้!
ตอนปีพศ.2500 จอมพล ป. ส่งกลุ่มศิลปินนักร้องชื่อดังของไทย ไปแลกเปลี่ยนศิลปะวัฒนธรรม กับประเทศจีน และระหว่างที่คณะนักร้องชื่อดังของไทย แสดงอยู่ในจีน!
จอมพลสฤษดิ์ ยึดอำนาจ! จอมพล ป. ในปีนั้น!
จนจอมพล ป. ต้องหนีออกไปนอกประเทศไปอยู่ที่ญี่ปุ่น
จอมพลผ้าขาวม้าแดง ภรรยาเยอะ! โฉนดกองสูงเท่าเพดานบ้าน
ประกาศว่า คณะนักร้องพวกนี้ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์! และตั้งข้อหาอย่างรุนแรง ว่า เป็นภัยต่อชาติ!
อาจารย์สุเทพ วงศ์กำแหง จึงกลับไทยไม่ได้ 3 ปีแล้วก็หอบผ้าผ่อน จากจีน ไปอยู่ที่ญี่ปุ่น
โดยได้รับความช่วยเหลือจากจอมพล ป. ที่ญี่ปุ่นให้การช่วยเหลือแกอยู่ จึงให้มาอยู่ด้วยกัน
จนทุกอย่างเริ่มผ่อนคลายลง คุณสุเทพจึงได้กลับมาไทย!
อาจารย์ชาลี จึงแต่งเพลง “บ้านเรา”
แสนสุขใจแม้จะอยู่ที่ไหน ไม่สุขใจเหมือนบ้านเรา
ให้คุณสุเทพร้อง เป็นการต้อนรับ!
จนกลายเป็นเพลงอมตะ!
มีท่อนหนึ่ง ในเพลงนี้ ที่แต่งเนื้อในปี พศ.2503
เหมือนอาจารย์ชาลี จะเกิดก่อนกาล
และแต่งเนื้อให้คุณทักษิณ ที่แกไปประชุมที่สหรัฐ และโดนทหารยึดอำนาจแก
และ 2ปีถัดมาแกกลับมา ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ และก้มกราบพื้น จูบพื้น
ก่อนไม่นานแกจะขอไปดูโอลิมปิคแล้วไม่ได้กลับมาเลยเป็น 10 ปี
บุญนำพา กลับมาถึงถิ่น
ทรุดกายลงจูบดิน ไม่ถวิลอายใคร
ในวงการนักแต่งเพลง และนักร้องในยุคนั้น ไม่ได้กว้างมากนัก เดินสวนกัน ในงานใหญ่ๆ เห็นหน้ากัน รู้จักกันหมด
ก็มีครูเพลงอีกท่านนึง คืออาจารย์ธนิต ผลประเสริฐ นักแต่งเพลง และภรรยา คุณเยาวลักษณ์ โกมารกุล ณ นคร ที่เป็นนักร้องสาว ของวงสุนทราภรณ์
ก็กลายเป็น 2บ้านนี้ รู้จักกันดี!
อาจารย์ธนิต และภรรยา มีลูกสาวหน้าตาดี 1 คน ก็คือ คุณยุวธิดา ผลประเสริฐ ที่ต่อมาถูกชักชวน เข้าวงการแสดง และ เป็นนางเอก ที่โด่งดังเลย เมื่อเข้าวงการหลายเรื่อง
เรื่องที่โด่งดังคือเรื่อง “แสนแสบ”
และเพลงแสนแสบ ที่ติดหูจากภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจารย์ชาลี ก็เป็นคนประพันธ์ให้ใหม่!
ก็เอาเป็นว่าผู้คนในยุคนั้น! ก็สามารถเชื่อมโยงได้เองว่า สองบ้านนี้มีความสนิทสนมกัน
ผลักดันกัน จนลูกสาวอีกบ้านนึงโด่งดัง! เพราะมันก็ค่อนข้างมีเหตุผลที่ยืนยันกันได้จาก footprint! ข้างต้น!
เรื่องนี้จะไม่ได้เป็นเหตุใหญ่โตเลย และถือเป็นเรื่องปกติ
ถ้าในปี 2530 คุณแม่ ไม่หายตัวไป #โดยการถูกลักพาตัว
ซึ่งคุณแม่ก็เป็นคนดังในวงการ จึงยิ่งเป็นข่าวใหญ่โต พาดหัวหนังสือพิมพ์ในยุคนั้น ทุกฉบับ และพูดกันในที่ลับหลายเดือน จนแหวกเหตุนี้ ไปหลายประเด็น แต่ข่าวเขียนไม่ได้!
คนในยุคนั้น จะจำบทบาทการแสดงของคุณแม่ได้ ที่เป็น มีม! ติดตา ติดใจ ประชาชน ตลอดกาล
คือบทบาทที่ประชาชนเกลียดที่สุด! ในการรับบทแม่ ของท่านชายกลาง ในภาพยนตร์เรื่อง “บ้านทรายทอง”
ที่คุณจารุณี สุขสวัสดิ์ รับบทเป็นเด็กสาวบ้านนอก ที่ถือตัวยืนหยัดในสายเลือดสว่างวงศ์ ที่ไม่ก้มหัวให้ใครที่มาเหยียดนาง
ถือชะลอมสานไม้ไผ่ ถักหางเปีย เป็น “พจมาน สว่างวงศ์”
ไปเป็นสมาชิกบ้านคฤหาสน์ทรงยุโรป คุณแม่ศิรินทิพย์ บอสส์ตัวจริงบ้านทรายทอง มีลูก3 เป็นหญิงใหญ่พร้อมตบ! ชายกลางพร้อมสูบไปป์ ไม่ทำการทำงาน และชายน้อยผู้พิการน่าสงสาร
เวลาค่ำ ก่อนวันที่คุณแม่หายตัวไปตลอดกาล
มีโทรศัพท์สายนึง โทรมาที่บ้านคุณแม่บอกคุณแม่ว่า
อยากจะจ้างคุณแม่ไปถ่ายแบบปฏิทินประจำปี มีคนดังหลายคน มาร่วมถ่ายด้วย และมีค่าตัวให้คุณแม่ 10,000 บาท
บริษัทที่ติดต่อมาเป็นบริษัททำสื่อเจ้านึง ชื่อไม่เคยได้ยิน
และบอกให้คุณแม่ มาเจอที่ฟู๊ดคอร์ด เดอะมอลล์รามคำแหง และไห้คุณแม่ เตรียมชุดเสื้อผ้า เป็นชุดไทยมาด้วย!
ในบ้านก็อยู่กันสองคน!
คุณแม่ก็บอกอาจารย์ชาลี ตามรายละเอียดนี้ทั้งหมดแล้ว คุณแม่ก็ออกจากบ้านไป และไม่กลับมาอีกเลย
ช่วงหลายเดือนที่อาจารย์ชาลีเข้าติดตามค้นหาภรรยาแก
แกก็แต่งเนื้อเพลงออกมาเพลงนึง แต่ใช้ทำนองสากลจากวง Bread และใส่เนื้อเพลงพร่ำพรรณนาถึงภรรยาแก ชื่อเพลงว่า “เมื่อเธอจากฉันไป” และให้คุณก้อยพรพิมล ธรรมสาร ร้อง
ชื่อเรื่องที่เราเขียนนี้!
#คุณแม่ศิรินทิพย์ปริศนาข้ามกาลเวลา
<< #จบตอนที่หนึ่ง
ต่อเลยนะ! อย่าพัก ในเรื่องแบบนี้!555
คดีนี้ถือว่าใหญ่มาก เพราะประชาชนให้ความสนใจ!
ตำรวจ ก็ทำงานอย่างหนัก! และสื่อฯ ก็เกาะไม่ปล่อย!
ตำรวจลงพื้นที่ ฟู๊ดคอร์ทเดอะมอลล์ รามฯ จุดสุดท้ายที่ทราบว่าคุณแม่ไป! พยานแวดล้อมตรงนั้น ให้ข้อมูลว่า เห็นคุณแม่ ขึ้นรถโตโยต้า โคโรลล่า DX ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ไปพร้อมกับผู้ชายสวมเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาว มีผ้าพันคอสีเหลืองอ่อน ขึ้นรถไปพร้อมกันสองคน ไม่ทราบว่าไปไหน?
ต่อมา อาจารย์ชาลี ก็ไปแจ้งความฯ ตำรวจก็ซักแกอยู่นาน เพราะเป็นบุคคลใกล้ชิดที่สุด และเป็นคนสุดท้ายที่แยกกับคุณแม่
ตำรวจตั้งประเด็นไว้เยอะ
ทั้งเรื่องการลักพาตัว
ทั้งอาจจะปัญหาในครอบครัว
ทั้งอาจจะเรื่องซู้สาว
และ ทั้งเรื่องหนี้สิน จากการพนัน
๏เรื่องลักพาตัว ตำรวจรอการติดต่อกลับมาจากคนร้ายว่า มีจุดประสงค์เรียกค่าไถ่ หรือไม่?
๏เรื่องปัญหาครอบครัว เพราะหลังจากตำรวจซักอาจารย์เพิ่มแล้ว อาจารย์ยอมให้ข้อมูลว่า ตนเองก็เล่นการพนันบ้าง และภรรยาไม่ชอบ! จนมีปากเสียงกันบางครั้ง และรับปากภรรยาว่าจะเลิกในเรื่องนี้ จนมีการงอนกันบ้าง ในเรื่องนี้
๏เรื่องหนี้สิน ให้ข้อมูลว่ามีบ้างเล็กน้อย
ตำรวจเสาะหาข้อมูลว่า อาจารย์แกสนิทกับใครอีก ที่จะนำพามาเชื่อมโยงในเรื่องหนี้สินและการพนัน
พบว่ามีชายสองคน ที่เข้ามาเกี่ยวโยง ในเรื่องนี้ด้วย
ตำรวจ ก็ไปพาตัว2คน มาซักอย่างละเอียด! จากนั้นก็ปล่อยตัวไป
แต่ก็ยังเฝ้าติดตามอยู่ห่างๆ
ไม่กี่วันหลังจากนั้น อาจารย์มาให้ข้อมูลว่า
มีสายโทรศัพท์เข้ามาที่บ้าน เรียกค่าไถ่จำนวนหนึ่งล้านบาท แกจึงไปแจ้งความตำรวจอีกครั้ง
เพราะแกจำเสียงได้ว่า เป็นชายหนึ่งในสองคนที่เคยเป็นบริวารของแก
และเป็นกลุ่มสองคนนั้น ที่ตำรวจ เคยเรียกมาซักและปล่อยตัวไป
ผู้ต้องสงสัยรายนั้น หนีคดีนี้อยู่นาน 4-5 ปี
จนตำรวจได้เบาะแสว่าหลบหนีไปอยู่ที่หัวหิน
และวันที่ตำรวจบุกเข้าจับตัว
ผู้ต้องสงสัย ก็พกอาวุธปืน และยิงต่อสู้กับตำรวจ!
จนสุดท้าย ผู้ต้องสงสัย ถูกวิสามัญฆาตกรรม!
ยิงเข้าที่อกซ้าย 1 นัด ตัดทะลุขั้วหัวใจ
อีกนัดหนึ่ง ยิงเข้าที่ปาก!
นับจากวันที่คุณแม่หายตัวไป
จนถึงวันที่ผู้ต้องสงสัยถูกวิสามัญฆาตกรรม
คือ ระยะเวลาเกือบห้าปี!
ข่าวบอกว่า ตอนนั้นตำรวจยิ่งถึงทางตัน! เพราะผู้ต้องสงสัยสิ้นลม! ยิ่งยากที่จะไขปริศนา ทั้งหมด ว่า คุณแม่อยู่ที่ไหน? และถ้าถูกฆาตกรรม ร่างไปถูกเก็บไว้ที่ไหน?
ถึงขั้นที่ตำรวจทำพิธีมูเตลู! พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ชี้ทาง
เหลือผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งคน คือลูกชายผู้ตาย! ตำรวจก็พากลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และตั้งข้อหาล่อลวงไปฆาตกรรม
แต่ศาลยกฟ้อง! และปล่อยตัวออกมา!
เพราะศาลบอก มีพยานปากเดียวไม่ชี้ชัด
และไม่มีใครเจอร่างของคุณแม่

จนระยะเวลาล่วงเลยกฎหมาย ที่ให้ตีตก! ว่า
คุณแม่เป็นผู้สาบสูญ!
<< #จบตอนที่สอง ยังมีเรื่องราวอีก! ที่เป็นปริศนาที่อาจารย์ชาลี ทิ้งเอาไว้! ในตอนช่วงที่คุณแม่ หายไปในช่วงแรก!
ต่อเลยนะ! ขอจงอย่าพักในเรื่องนี้!555
คุณแม่ หายตัวไปด้วยการถูกลักพาตัว อย่างแน่นอนในเดือนธันวาคม 2530
นอกจากอาจารย์ชาลี จะสร้างสรรค์เพลงในทุกจังหวะชีวิตของแก ทั้งที่สะดวก และสะดุด
๏จังหวะชีวิตที่สะดวก สบายใจ แกก็จะสร้างสรรค์เพลงได้อย่าง เพลง “บ้านเรา” ที่แต่งให้นักร้องที่แกชื่นชอบ อย่างคุณสุเทพ วงศ์กำแหง
๏จังหวะชีวิตที่ภรรยาแกโดนสามีคนแรก กลับมาร้าวราน แกก็แต่งเพลง “ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก”
๏จังหวะที่สะดุดในชีวิตช่วงแรกที่ภรรยาหายตัวไป ก็แต่งเพลง “เมื่อเธอจากฉันไป”
ในปี 2531 ถัดมาแค่ไม่ถึงปี! แกแต่งเพลงนึง ที่โด่งดังมาก! ในปีนั้น! ผู้คนร้องเพลงนี้กันได้ทั้งเมือง!
#และเป็นเพลงที่จังหวะสนุกมาก และมียอดขายเทปคาสเสทส์ ถล่มทลาย!
อาจารย์แกแต่งเนื้อเพลงให้อย่างเดียว
เพราะทำนองเพลงนี้
นักร้อง ผู้ร้องเพลงนี้จนโด่งดัง เป็นผู้แต่งทำนอง!
ล้อมวงกันเข้ามา ค่อยๆ ถอดแต่ละคำในเนื้อเพลงนะครับ
#เพลงเทวดาเดินดิน
เนื้อเพลงโดย ชาลี อินทรวิจิตร พ.ศ. 2531
ใช่อยากเด่น อยากเป็นเทวดา
เสื้อและผ้า เราก็แต่ง เหมือนใครๆ
เราซื้อใน ตลาดนัด ของเก่าๆ
ไอ้ตัวเรา ก็เท่านี้
ใช่อยากเด่น เป็นผู้นำ หรือตาม
ยอมรับใน ความเท่ากัน บรรดามี
คนทุกคน มีค่างาม ในความดี
โลกจึงมี วันนี้ให้ฉัน
ฉันเคย ล้มลุก คลุกคลาน
ผ่านชีวิต ทุกอย่าง
ตั้งหลายครา ฉันเคยหลงทาง
ห่างบ้าน ห่างคนเห็นใจ
#เป็นเทวดา_แล้วใยต้องมา_เดินดิน
#ลืมเพดานบิน_ถึงกินข้าวแกงทุกมื้อ
เจียมตัวตน เพราะเราเป็น คนซื่อๆ
สองมือ นี่สร้างตัวเอง
เป็นเทวดา ฉันยังต้องมา ครวญเพลง
ตัวเองพอใจ เพราะเพลง ไม่เคยคิดร้าย
เป็นตัวตน เพราะเราเป็นคนง่ายๆ
ฉันเองใช่เทวดา สักหน่อย
~จบเพลง~
ซึ่งมีปริศนาอยู่กลางเพลง
ยุคนั้น คนฟังเพลงที่ร้องตาม ขยับเท้าตาม
ไม่ได้คิดอะไรหรอก!
พี่แจ้ คนที่ร้องเพลงนี้ และเอาทำนองที่ตนเองแต่ง มาให้อาจารย์ใส่เนื้อร้อง! ไม่รู้พี่แจ้ได้คิดอะไรตามหรือเปล่า? หลังจากร้อง!
น่าไปถามแกนะ! ร้านแกขายเหล้าอยู่เลียบด่วนฯ ใครจะไป ก็นัดกัน เลี้ยงพี่ด้วย พี่จะเป็นคนถามเอง!555
แต่ถ้าใครเปิด YouTube ดู MV ต้นฉบับเพลงนี้จากค่ายพี่แจ้ ก็จะไม่คิดอะไร เพราะเพลงมันสนุก และMV ก็ฝังความตลกฝืดๆ ในการใช้ชีวิตของคนชั้นกลางในเมือง ในช่วงยุคพ.ศ.2531 นั้น
หลังจากยุบวงแกรนด์เอ็กซ์ และพี่แจ้นักร้องนำ มาออกผลงานเดี่ยวในค่ายของตัวเอง
ก็จัดว่า พี่แจ้โด่งดังที่สุดมากกว่าใครในวง! ที่แยกกันออกมา
เพลงเทวดาเดินดิน โดดเด่นมาก!
จนพี่แจ้ หยิบเอามาไว้ในเพลงที่1 หน้าA 
จนตั้งชื่ออัลบั้มว่า “เทวดาเดินดิน” ด้วย
<<< #จบตอนที่3
ถ้าคนแวะมาอ่าน คิดว่าพี่ต้อยมโน มาฟังตอนสุดท้ายกัน พี่จะได้ปิดจบเรื่องนี้
ในปีเดียวกัน 2531
นักแต่งเพลงชื่อดัง และเป็นนักร้องชื่อดัง ระดับเดียวกับพี่แจ้ในยุคนั้น
เหมือนพี่เค้าก็ได้ยินเพลงนี้ของพี่แจ้ และเชื่อเถอะ
แกก็คงสืบหาได้ว่าใครแต่งเนื้อเพลง เทวดาเดินดิน
แล้วก็คงทราบว่าคืออาจารย์ชาลี
แกจึงแต่งเพลงนี้ออกมา ซ่อนปริศนาอันที่สอง และเหมือนตั้งใจ เลือกใช้คำ ที่เชื่อมโยงกันคือ “เทวดา”
ล้อมวงกันเข้ามา ค่อยๆ ถอดแต่ละคำในเนื้อเพลงนะครับ
#เพลงเทวดาถ้าจะแย่
เนื้อเพลงโดย ยืนยง โอภากุล พ.ศ. 2531
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง ไม่ใช่รถราง รถเมล์ รถไฟ
ล็อตเตอรี่ มันขี่ไม่ได้
ชาวบ้านหวังรวย เล่นหวยกันใหญ่
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง
ชาวนา หน้าแดง หน้าดำ
มือที่กำ เคียวเกี่ยว รวงข้าว
ทุกข์อก ทุกข์ใจ ปวดร้าว
ราคาข้าว มันไม่ค่อยดี
จะให้มี ความหวัง ทางใด
ดูสดใส เท่าล็อตเตอรี่
เงินทอง แม้ไม่ค่อย จะมี
กระเบียด กระเสียน กระเสือก กระสน
ขวนขวาย เลขหมาย เด็ดๆ
ตามโพย ตามเคล็ด ตามวัด ตามวา
เทวดา ขอให้ช่วย ลูกด้วย
ถ้าลูก ถูกหวย จะเลี้ยงเทวดา
จะเชิญมา ตั้งก๊ง วงเหล้า
ปาร์ตี้ขี้เมา สรวลเส เฮฮา
ข้าวปลา หมูเห็ด เป็ดไก่
ผลหมาก รากไม้ ทั้งกัญชง กัญชา…เพียบ
เทวดา ผ่านมา พบเห็น
มนุษย์ อุจจาระเหม็น ร้องหาเทวดา
ปัญหา มันอยู่ตรงไหน
คับอก คับใจ ชาวไร่ ชาวนา
ปัญหา มันอยู่ตรงหวย
วอนให้ เราช่วย ถูกหวย สักครา
เทวดา หยุดคิด นิดหนึ่ง
ก็บ่นรำพึง รำพัน ออกมา เฮ้ออออ
เทวดา ยุคนี้ ก็ลำบาก
อดๆ อยากๆ จนด้อยปัญญา
วิชา อาคม ก็ถดถอย
เพราะมี #เมียน้อย เลยไม่มีเวลา
สังคม เทวดา ยังยุ่ง
#มัวแต่จะมุ่ง #แย่งกัน #เป็นใหญ่
เทวดา #เล่นด้วย #ได้ไหม
เล่นหวย กันยังไง ช่วยสอนเทวดา
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง
ไม่ใช่ รถราง รถเมล์ รถไฟ
ล็อตเตอรี่ มันขี่ไม่ได้
เทวดา หวังรวย เล่นหวยกันใหญ่
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง
เทวดา หน้าแดง หน้าดำ
เพราะใจถลำ ติดล็อตเตอรี่
ชาวนา เขาก็ ไปดี
ไปมีงานทำ ตะวันออกกลาง
จนใจ และจน ปัญญา
เป็นเทวดา ให้ทำ ไงได้
อยู่บนฟ้า ไม่มีนา มีไร่
มีแต่ก้อนเมฆ ก็เช่า เขาอยู่
ค่าไฟ ยังไม่จ่าย ดวงอาทิตย์
ค่าน้ำ ยังติดหนี้ ดวงจันทรา
โชคชะตา พาชิวิต ลำบาก
ถึงกับ #ถอดหน้ากาก #จำนำชฎา
ปัญหา มันอยู่ตรงหวย
ก็หวังจะรวย เป็นเศรษฐี เทวดา
แต่ผ่านมา ไม่เคยแทงถูก
จนเข้ากระดูก #กระเป๋าเทวดา
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง
ไม่ใช่ รถราง รถเมล์ รถไฟ
ล็อตเตอรี่ มันขี่ ไม่ได้
ชาวบ้าน หวังรวย ถูกหวย กินหมด
ถูกก็ช่าง ไม่ถูกก็ช่าง
~~ จบเพลง ~~
และมีปริศนาอยู่กลางเพลง และท้ายเพลง
ฟีลลิ่ง อารมณ์ของเพลง คือสนุกสนาน แนวเดียวกับเพลงเทวดาเดินดิน
จึงทำให้ผู้คนที่ร้องตาม ไม่ได้คิดอะไร
และยังขำบางช่วงของเนื้อเพลง!
เหตุผลที่พี่แอ๊ดแต่งเพลงนี้ออกมา จะจับจุดได้ง่าย ถ้าใครเกิดทันในปีก่อนนั้น!
ที่เป็นความอัปยศ อดสู! ของสำนักงานกองสลากฯ
ในช่วงที่กำลังออกรางวัลที่ 1 ด้วยการหมุนวงล้อ
ในยุคนั้นยังไม่มีการถ่ายทอดสด
และการหมุนวงล้อ ก็ใช้เป็นการหมุนวงล้อด้วยไฟฟ้า!
ไม่ได้ใช้คนสวยขึ้นไปยืนยิ้ม หมุนวงล้อบนเวที และถ่ายทอดสดๆ
การหมุนวงล้อออก #รางวัลที่1 ที่น่าอัปยศครั้งนั้น!
แรงหนืด! ของวงล้อที่ควรจะค่อยๆ อ่อนแรงลง ตามธรรมชาติ และหมายเลขไปหยุดที่ช่องเบอร์อะไร
#ก็ขานเลขเป็นเบอร์นั้น
ความพินาศ! บังเกิด เพราะว่า
สายตากรรมการทุกท่าน ที่นั่งอยู่ด้านล่าง มองบนเวที คือ ส่องเลขท้ายหลักสิบ และ หลักหน่วย
กลไกวงล้อ มันไม่เป็นไปตามธรรมชาติ
ขณะช่วงวงล้ออ่อนแรง เหมือนมีอะไรไปสะดุดกลไก
ตั้งใจให้มันหยุดในเลขที่ กลุ่มคอลเซนเตอร์ลับ ตั้งใจ!
กรรมการหลายคนด้านล่าง จึงปีนขึ้นเวที เพื่อไปดูใกล้ๆ และพบว่า
มีกลไกขนาดจิ๋วเป็นแท่งเหล็กเล็กซ่อนอยู่ และทาสีดำให้กลมกลืนกับเฟืองวงล้อ เพื่อปิดบัง
และขาตั้งวงล้อ ก็ซ่อนสายไฟเพื่อส่งต่อพลังงานแบตเตอรี่ให้ครบวงจร สั่งการความอัปยศ ด้วยรีโมตคอนโทรล!
จนกองสลากฯ ได้ทำการยกเลิกการออกสลากในครั้งนั้น
ซึ่งโคตรทำร้ายจิตใจชาวบ้านทั้งประเทศ! เหมือนตัดเส้นทางทำมาหากินหลักของชาวบ้าน!555
ตั้งแต่นั้นมา จึงเปลี่ยนการออกรางวัล โดยมอบหมายให้สจล. สถาบันเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นผู้ออกแบบอุปกรณ์การออกรางวัล ใหม่ทั้งหมด!
พี่แอ๊ด อาจจะคะเนผิดที่ซ่อนปริศนาในเพลงก็ได้ เพราะไม่มีหลักฐานใด โยงถึงปริศนาที่ซ่อน
มีแต่คำที่พูดกันไปสิบทิศ สิบทาง
เหมือนการที่ไม่เจอร่างคุณแม่! ที่เป็นปริศนาจนทุกวันนี้
และอาจารย์ชาลี ก็สิ้นบุญ หมดเวร หมดกรรม ไปหลายปีแล้ว
จู่ๆ เรื่องนี้ก็ถูกนำ กลับมาพูดกันอีก!
และแน่นอน กลุ่มคนที่เป็นเจนZ เจนอัลฟ่าเติบโตไม่ทัน ที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดนี้
พอเวลาสนทนากัน บนทวิต มันก็เลยอ่อนปวกเปียก
แล้วก็เชื่อเถอะ มีเจนบูมเมอร์ เจนเอ็กซ์ จำนวนมาก
ที่เข้ามาอ่าน แล้วก็เพิ่งทราบข้อมูลนี้
และทุกวันนี้ปริศนาก็ยังอยู่ เพราะถึงแม้เราจะรวบรวมมาเล่าอย่างละเอียด แต่ก็อาจมีบางมุมที่
ไม่ปรากฏออกมาจากสื่อ ไม่ออกมาจากข้อมูลตำรวจ ให้เราคัดเอามาลงเพิ่มในการประมวลได้
ด้วยเหตุผลที่ยังเป็นปริศนา
สารวัตรที่ทำคดีนี้ในช่วงแรก คือ พันตำรวจโท ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา แกก็มุ่งมั่นคดีนี้มาก ตอนเป็นตำรวจเล็กๆ จนปลายเส้นทางอาชีพ คือแกเป็น รอง ผบ.ตร.
แล้วก็ไปมีตำแหน่งทางการเมือง ในพรรคของคุณทักษิณ
คสช. ตอนยึดอำนาจ ยังเรียกแกไปปรับทัศนคติ
เราก็พยายาม รวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง หลายมุม มาเพื่อให้ผู้อ่าน มีข้อมูลพอที่จะใช้สติ พิจารณากันเองแบบผู้มีปัญญา และจะได้ไม่เป็นอัลไซเมอร์
ส่วนพวกที่ชอบซุบซิบว่าคุณยุวธิดามีเส้นทางเหมือน รมว.คนดัง
ไหน? ขอดูข้อมูลประกอบการเชื่อมโยงหน่อยครับ
ควรเลิกใช้วิธีการแบบโบราณ คือ ฟังมาแล้วปุ๊บ! และเอาไปพูดต่อเลย โดยไม่ได้กลั่นกรอง ข้อมูลรอบด้าน
วันนี้ แวะมาเติมข้อมูลให้แล้ว อยากได้อะไรเพิ่ม!
หรือใครมีข้อมูลอะไร มาเพิ่มก็ไปเจอกันที่ร้านพี่แจ้ เลียบด่วน! พี่เลี้ยงยำวุ้นเส้นเอง!555
~ จบบริบูรณ์ ~
โพสต์นี้เป็นโพสต์ที่ยาวที่สุดตั้งแต่เล่น fb มาสิบกว่าปี
และตั้งใจด้วย คือ สกัดคนที่ขี้เกียจอ่านอะไรยาวๆ
เพราะพอไม่อ่าน จะได้ไม่ต้องแชร์กัน
#ดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจกันด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/suvipan.pornawalai/posts/10161314903088985
.....

Thanapol Eawsakul
15 hours ago
·
อ่านเคสคุณศิรินทิพย์ ถูกอุ้มหาย
และ ความพยายามของคุณชาลี อินทรวิจิตร และการสื่อสารออกมาผ่านบทเพลงต่างๆ
จากการที่ผมตามคดีฆาตกรรมต่างๆในประเทศไทย ผมเชื่อในความสามารถของตำรวจ ว่าสามารถ ปิดคดีได้ทุกคดี แต่ที่ทำไม่ได้เพราะเจอ "ตอ" ในความหมายว่าผู้ที่ใหญ่กว่ากระบวนการยุติธรรม
เพราะเรามีกรณีคุณศิรินทิพย์ในปี 2530
เราจึงมีคดีคุณสมชาย นีละไพจิตร ในปี 2547 และยังมีคดีอุ้มหาย และฆาตกรรมอื่นๆอีกตามมา
รวมทั้งการตามหา พิศาล วัฒนวงศ์คีรี อดีตแม่ทัพภาค 4 ในกรณีตากใบก็เช่นกัน
ที่ปิดคดีไม่ได้ ไม่ใช่ความสามารถอันน้อยนิดของตำรวจอย่างแน่นอน


เปิดชื่อ 6 โรงงานน้ำตาล เมินร่วมมืองดซื้ออ้อยเผาไฟลด PM2.5



เปิดชื่อ 6 โรงงานน้ำตาล เมินร่วมมืองดซื้ออ้อยเผาไฟลด PM2.5

5 ม.ค. 2025
กรุงเทพธุรกิจ

เปิดชื่อ 6 โรงงานน้ำตาล เมินให้ความร่วมมือในการงดซื้ออ้อยเผาไฟในการช่วยประเทศลดปัญหาฝุ่น PM2.5 กระทรวงอุตสาหกรรม วอนเจ้าของ “มิตรผล-ไทยรุ่งเรือง” งดรับอ้อยถูกเผา อึ้ง!! อ้อยถูกเผาเข้าหีบแล้วกว่า 4 ล้านตัน เทียบเท่าเผาป่า 4 แสนไร่ ปล่อย PM 2.5 แล้วกว่า 1,000 ตัน

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังโรงงานน้ำตาลทั้ง 58 แห่ง ให้รับเฉพาะอ้อยสดเข้าหีบ โดยชะลอ ระงับ ยับยั้ง และยุติการเผาไร่อ้อย พร้อมทั้งยุติการรับอ้อยเผาไฟเข้าหีบ ระหว่างวันที่ 3 มกราคม 2568 เวลา 00.01 น. จนถึงวันที่ 12 มกราคม 2568 เวลา 23.59 น.

เพื่อเป็นของขวัญวันเด็กสำหรับเยาวชนไทยทั้งประเทศ โดยการคืนอากาศบริสุทธิ์ให้แก่เยาวชนซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ตามนโยบายของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากโรงงานน้ำตาลเกือบทุกแห่ง แต่จากรายงานล่าสุด พบว่า ยังไม่ได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากโรงงานน้ำตาล 6 ราย ซึ่งเป็นเครือบริษัทน้ำตาลทรายรายใหญ่ เนื่องจากมีตัวเลขการรับซื้ออ้อยถูกเผาสูง ได้แก่

1.โรงงานอุตสาหกรรมน้ำตาลสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี รับซื้ออ้อยถูกเผา 58.8%

2.โรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี จ.อุดรธานี
รับซื้ออ้อยถูกเผา 41.68%

3.โรงงานมิตรกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ รับซื้ออ้อยถูกเผา 35.66%

4.โรงงานน้ำตาลเอราวัณ จ.หนองบัวลำภู รับซื้ออ้อยถูกเผา 27.05%

5.โรงงานไทยรุ่งเรืองอุตสาหกรรม จ.สกลนคร รับซื้ออ้อยถูกเผา 26.99%

6.โรงงานรวมเกษตรกรอุตสาหกรรม จ.ขอนแก่น รับซื้ออ้อยถูกเผา 20.06%

ทั้งนี้ โดยภาพรวมเฉลี่ยโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศรับซื้ออ้อยถูกเผากว่า 4 ล้านตัน คิดเป็น 21.80% ของปริมาณอ้อยที่รับเข้าหีบทั้งหมดกว่า 18 ล้านตัน เทียบเท่าเผาป่ากว่า 4 แสนไร่ และสร้างมลพิษปล่อย PM 2.5 จากการเผาไร่อ้อยสูงถึง 1,000 ตัน

“ทาง สอน. ขอความร่วมมือมายังเจ้าของและผู้บริหารบริษัทน้ำตาลทรายรายใหญ่ ช่วยกำชับโรงงานน้ำตาลในเครือทั้ง 6 แห่ง ในการให้ความร่วมมือกับภาครัฐหยุดรับซื้ออ้อยถูกเผา เพื่อร่วมแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่น PM 2.5 อย่างจริงจัง รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์และสร้างการจดจำที่ดีของแบรนด์ให้กับประชาชนในการเลือกซื้อบริโภคยี่ห้อน้ำตาลทรายที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นต้นเหตุของการก่อให้เกิดมลพิษฝุ่น PM 2.5"

ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ โดยช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยในการลดฝุ่นพิษ PM 2.5 ให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี คืนอากาศบริสุทธิ์ และคืนฟ้าใส ไร้ฝุ่น และโดยเฉพาะวันเด็กที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ เพื่อเป็นของขวัญให้กับเด็ก ๆ อีกด้วย”

https://www.bangkokbiznews.com/environment/1160675
.....


กทม. ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 70 พื้นที่ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้านผ่านทาง Application: AirBKK Website: www.airbkk.com


https://www.facebook.com/thestandardth/posts/943702837889060

xxxxx
THE STANDARD
13 hours ago
·
กทม. ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 70 พื้นที่ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
.
วันนี้ (7 มกราคม) ช่างภาพข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าท้องฟ้าไม่แจ่มใส ทัศนียภาพการมองเห็นอาคารสูงเป็นไปได้ยาก
.
โดยศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครรายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 40.7-65.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)
.
พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 70 พื้นที่ คือ
.
1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 มีค่าเท่ากับ 65.4 มคก./ลบ.ม.
2. เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก มีค่าเท่ากับ 60.0 มคก./ลบ.ม.
3. เขตคลองสามวา ภายในสำนักงานเขตคลองสามวา มีค่าเท่ากับ 59.5 มคก./ลบ.ม.
4. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย มีค่าเท่ากับ 59.1 มคก./ลบ.ม.
5. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ มีค่าเท่ากับ 58.7 มคก./ลบ.ม.
6. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี มีค่าเท่ากับ 58.0 มคก./ลบ.ม.
7. เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหสวรรย์ มีค่าเท่ากับ 57.8 มคก./ลบ.ม.
8. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 มีค่าเท่ากับ 57.2 มคก./ลบ.ม.
9. เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน มีค่าเท่ากับ 57.2 มคก./ลบ.ม.
10. สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง มีค่าเท่ากับ 57.0 มคก./ลบ.ม.
11. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ มีค่าเท่ากับ 56.6 มคก./ลบ.ม.
12. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย มีค่าเท่ากับ 56.0 มคก./ลบ.ม.
13. เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตรงข้ามสำนักงานเขตมีนบุรี มีค่าเท่ากับ 55.4 มคก./ลบ.ม.
14. เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา มีค่าเท่ากับ 54.3 มคก./ลบ.ม.
15. เขตพระโขนง ภายในสำนักงานเขตพระโขนง มีค่าเท่ากับ 54.1 มคก./ลบ.ม.
16. สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ มีค่าเท่ากับ 53.7 มคก./ลบ.ม.
17. เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบก ใกล้โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ตรงข้ามกระทรวงการคลัง มีค่าเท่ากับ 53.7 มคก./ลบ.ม.
18. เขตบางรัก ข้างป้อมตำรวจ หน้าลานบางรักเลิฟลี่ พลาซ่า มีค่าเท่ากับ 53.6 มคก./ลบ.ม.
19. เขตลาดพร้าว ภายในสำนักงานเขตลาดพร้าว มีค่าเท่ากับ 53.4 มคก./ลบ.ม.
20. เขตสายไหม ป้ายรถเมล์ด้านหน้าสำนักงานเขตสายไหม มีค่าเท่ากับ 53.3 มคก./ลบ.ม.
21. สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม มีค่าเท่ากับ 53.2 มคก./ลบ.ม.
22. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีค่าเท่ากับ 53.1 มคก./ลบ.ม.
23. สวนหนองจอก เขตหนองจอก มีค่าเท่ากับ 53.1 มคก./ลบ.ม.
24. เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ มีค่าเท่ากับ 52.9 มคก./ลบ.ม.
25. เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค มีค่าเท่ากับ 52.5 มคก./ลบ.ม.
26. เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ มีค่าเท่ากับ 52.2 มคก./ลบ.ม.
27. สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย มีค่าเท่ากับ 52.1 มคก./ลบ.ม.
28. เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง มีค่าเท่ากับ 52.1 มคก./ลบ.ม.
29. เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง มีค่าเท่ากับ 51.7 มคก./ลบ.ม.
30. เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน มีค่าเท่ากับ 51.3 มคก./ลบ.ม.
31. เขตดุสิต ริมสวนหย่อมตรงข้ามสำนักงานเขตดุสิต มีค่าเท่ากับ 51.1 มคก./ลบ.ม.
32. เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน มีค่าเท่ากับ 50.9 มคก./ลบ.ม.
33. เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมันเอสโซ่ ซอยลาดพร้าว 95 มีค่าเท่ากับ 50.7 มคก./ลบ.ม.
34. เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน มีค่าเท่ากับ 50.1 มคก./ลบ.ม.
35. เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม มีค่าเท่ากับ 49.7 มคก./ลบ.ม.
36. เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ มีค่าเท่ากับ 49.5 มคก./ลบ.ม.
37. เขตสวนหลวง ด้านหน้าสำนักงานเขตสวนหลวง มีค่าเท่ากับ 49.1 มคก./ลบ.ม.
38. เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอยเซนต์หลุยส์ มีค่าเท่ากับ 49.1 มคก./ลบ.ม.
39. เขตคลองเตย ภายในสำนักงานเขตคลองเตย มีค่าเท่ากับ 49.0 มคก./ลบ.ม.
40. สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง มีค่าเท่ากับ 49.0 มคก./ลบ.ม.
41. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบัง ข้างป้อมตำรวจ มีค่าเท่ากับ 48.6 มคก./ลบ.ม.
42. เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก มีค่าเท่ากับ 48.6 มคก./ลบ.ม.
43. เขตทุ่งครุ หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มีค่าเท่ากับ 48.6 มคก./ลบ.ม.
44. สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด มีค่าเท่ากับ 48.4 มคก./ลบ.ม.
45. เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ มีค่าเท่ากับ 48.4 มคก./ลบ.ม.
46. เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ มีค่าเท่ากับ 48.3 มคก./ลบ.ม.
47. เขตสะพานสูง ภายในสำนักงานเขตสะพานสูง มีค่าเท่ากับ 47.9 มคก./ลบ.ม.
48. สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน มีค่าเท่ากับ 47.4 มคก./ลบ.ม.
49. สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค มีค่าเท่ากับ 47.2 มคก./ลบ.ม.
50. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา มีค่าเท่ากับ 47.1 มคก./ลบ.ม.
51. เขตบางกะปิ ข้างป้อมตำรวจ ตรงข้ามสำนักงานเขตบางกะปิ มีค่าเท่ากับ 46.5 มคก./ลบ.ม.
52. เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด มีค่าเท่ากับ 46.4 มคก./ลบ.ม.
53. เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต มีค่าเท่ากับ 46.4 มคก./ลบ.ม.
54. เขตจตุจักร บริเวณด้านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีค่าเท่ากับ 46.3 มคก./ลบ.ม.
55. เขตห้วยขวาง ภายในสำนักงานเขตห้วยขวาง (ด้านข้างโรงเพาะชำ) ถนนประชาอุทิศ มีค่าเท่ากับ 45.9 มคก./ลบ.ม.
56. เขตราชเทวี ภายในสำนักงานเขตราชเทวี มีค่าเท่ากับ 45.8 มคก./ลบ.ม.
57. เขตพระนคร ภายในสำนักงานเขตพระนคร มีค่าเท่ากับ 45.6 มคก./ลบ.ม.
58. สวนจตุจักร เขตจตุจักร มีค่าเท่ากับ 44.2 มคก./ลบ.ม.
59. สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร มีค่าเท่ากับ 43.9 มคก./ลบ.ม.
60. สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม มีค่าเท่ากับ 43.9 มคก./ลบ.ม.
61. สวนพระนคร เขตลาดกระบัง มีค่าเท่ากับ 43.5 มคก./ลบ.ม.
62. อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย มีค่าเท่ากับ 43.4 มคก./ลบ.ม.
63. เขตวัฒนา ตรงข้าม Noble Reveal (ข้าง MK Gold Restaurants) มีค่าเท่ากับ 43.3 มคก./ลบ.ม.
64. สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย มีค่าเท่ากับ 43.1 มคก./ลบ.ม.
65. เขตสัมพันธวงศ์ บริเวณหน้าหัวมุม ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ (วงเวียนโอเดียน) มีค่าเท่ากับ 43.0 มคก./ลบ.ม.
66. สวนสันติภาพ เขตราชเทวี มีค่าเท่ากับ 42.9 มคก./ลบ.ม.
67. เขตบางนา บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา มีค่าเท่ากับ 42.0 มคก./ลบ.ม.
68. สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร มีค่าเท่ากับ 41.8 มคก./ลบ.ม.
69. สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ มีค่าเท่ากับ 40.7 มคก./ลบ.ม.
70. สวนลุมพินี เขตปทุมวัน มีค่าเท่ากับ 40.7 มคก./ลบ.ม.
.
ประชาชนทั่วไป: ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก หรือระคายเคืองตา
.
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง: ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที
.
ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้านผ่านทาง
Application: AirBKK
Website: www.airbkk.com
Facebook: สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
Facebook: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม
Facebook: กรุงเทพมหานคร
LINE ALERT
.
กรณีพบเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษ สามารถแจ้งเบาะแสผ่านทาง Traffy Fondue
.
อ้างอิง:
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร

กรมอุตุนิยมวิทยา
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)
.
ภาพ: ฐานิส สุดโต
.
#TheStandardPhoto #TheStandardNews #ฐานิสสุดโต


สำรวจ "ปลาหมอคางดำ" หลังเกิดน้ำหลากในลุ่มน้ำปากพนังช่วงปลายปี 2567 ระบาดเกินควบคุมแล้ว กระทบต่อความหลากหลายพันธุ์ปลาพื้นถิ่นสูญหายไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์


สำรวจ "ปลาหมอคางดำ" ระบาดเกินควบคุมแล้ว หลังน้ำหลากในลุ่มน้ำปากพนัง

7 ม.ค. 2568
ไทยรัฐออนไลน์

สำรวจ "ปลาหมอคางดำ" หลังเกิดน้ำหลากในลุ่มน้ำปากพนังช่วงปลายปี 2567 ระบาดเกินควบคุมแล้ว กระทบต่อความหลากหลายพันธุ์ปลาพื้นถิ่นสูญหายไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

วันที่ 7 ม.ค. 68 มีรายงานว่า สถานการณ์การระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง โดยเฉพาะชายฝั่งทะเล อ.ปากพนัง อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ยาวไปจนถึง อ.ระโนด อ.สทิงพระ จ.สงขลา อาณาเขตหลายร้อยตารางกิโลเมตร ดูเหมือนจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว สืบเนื่องจากน้ำหลากเมื่อช่วงปลายปี 2567 มีน้ำท่วมสูงในพื้นที่ หลายจุดมีระดับข้ามคันบ่อหรือคันคลองต่างๆ ทำให้การกระจายตัวของปลาหมอคางดำไปยังทุกแหล่งน้ำ โดยเฉพาะบ่อกุ้งร้างที่มีนับพันบ่อ บ่อพักน้ำ ลำบาง คลองไส้ไก่เชื่อมต่อทุกแหล่งน้ำธรรมชาติพื้นที่ตำบลท่าพญา อ.ปากพนัง เป็นหนึ่งในจุดระบาดหนัก



เมื่อเข้าตรวจสอบตามแหล่งน้ำ ทุกจุดที่มีการทอดแหเต็มไปด้วยปลาหมอคางดำ ทุกขนาดการทอดแหแต่ละครั้งกว่าร้อยละ 90 เป็นปลาหมอคางดำทั้งหมด และเป็นที่น่าสังเกตว่าการแพร่ระบาดนั้นมีปริมาณเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากกลุ่มลูกปลาวัยก่อนกระจายอยู่เต็มลำน้ำ

นายสมศักดิ์ หมกทอง ชาวบ้านริมประตูน้ำท่าพญา ระบุว่านอกจากน้ำท่วมสูงข้ามคันบ่อกุ้งสร้างความเสียหายให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลากะพง แต่สิ่งที่มากับน้ำคือปลาหมอคางดำที่เชื่อมไปยังทุกแหล่งน้ำ โดยเฉพาะบ่อปิดที่ไม่เคยมีปลาหมอคางดำวันนี้มีทุกบ่อแล้ว



อีกปัจจัยสำคัญคือการเปิดประตูกั้นน้ำเค็มและน้ำจืด จากเดิมปลาหมอคางดำชุกชุมอยู่ในพื้นที่น้ำเค็ม เมื่อเปิดประตูระบายน้ำท่วมจากชั้นในออกสู่ทะเล ปลาว่ายทวนน้ำขึ้นไปอาศัยอยู่ในเขตน้ำจืดแล้ว เฉพาะหน้าประตูประเมินด้วยสายตามากกว่า 5 แสนตัว ดังนั้นสถานการณ์ของความหลากหลายพันธุ์ปลาพื้นถิ่นจึงสูญหายไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์.

https://www.thairath.co.th/news/local/2834878
.....



กรณีคุณอ้น ขณะนี้ บรรดา "ผู้รักเจ้า" กำลังแบ่งเป็นสองฝ่าย อ.สมศักดิ์ เจียมฯว่าไว้ ส่วน เทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก "การโจมตีลูกเจ้าทำให้ในหลวงทรงเสื่อมเสียไปด้วย"


Somsak Jeamteerasakul
Yesterday
·
ขณะนี้ บรรดา "ผู้รักเจ้า" กำลังแบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่ง ออกมาโจมตี"คุณอ้น"ว่ากำลังโหนเจ้า ทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้เป็น "เจ้าฟ้า" แต่มักใหญ่ใฝ่สูง พระองค์ทีก็มีอยู่แล้ว (คนเด่นๆมีคุณ เอ็ดดี้ อัษฎางค์ และคุณ "ดร.นิว" Suphanat Aphinyan) อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าไม่ควรออกมาโจมตี ปล่อยให้เป็นเรื่องของวังเอง ถึงเวลาเขาจะตั้งเป็น"เจ้าฟ้า"เมื่อไรก็ได้ (ฝ่ายนี้มีคุณ เตชะ ทับทอง และคุณ Thepmontri Limpaphayorm) นอกจากคนเด่นๆแล้วก็มี"กองเชียร์"ของทั้งสองฝ่ายออกมาด่ากันไปด่ากันมา
ผมรายงานให้ฟังเฉยๆ ผมไม่มีความเห็นอะไร สนุกดี
สำหรับผู้ต้องการติดตาม ลองเข้าไปดูที่หน้า facebook ตามที่ผมให้ลิงค์ไว้ หรือเข้าไปฟัง "สถานี มี่อัพ" YouTube https://www.youtube.com/@Mii-up777/videos เขารายงานความเคลื่อนไหวทั้งสองฝ่าย

https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/8851385818247952
.....


The Structure
Yesterday
·
เทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวถึงการสถาปนาและเฉลิมพระนามสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร นั้น
ถือได้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระรัชทายาทโดยสันนิษฐานลำดับแรกของราชวงศ์จักรี ในราชสกุล ”มหิดล“ ตามลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ไทยในกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ ปีพระพุทธศักราช 2467 แล้ว ด้วยเหตุนี้ในเหล่าบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายฝ่ายในหรือขัตติยะราชนารีก็มิได้มีพระอิสริยยศสูงกว่าหรือเสมอได้
ดังนั้นการที่มีการวิจารณ์ “ลูกเจ้า” พระองค์อื่นๆ จนเกินงามนั้นจึงถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง เนื่องจากราชสกุลมหิดลนั้นถือเป็นแบบอย่างของความรักสามัคคีมาอย่างยาวนาน การบั่นทอนพระเกียรติยศหรือด้อยค่า หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ด้วยวิธีการสร้างผลกระทบไม่ทางตรงหรือโดยทางอ้อมถือเป็นการกระทำที่มิบังควรเลย
และการโจมตี “ลูกท่าน” ด้วยการอ้างว่า “เตือนภัย” นั้นจะทำให้สถาบันได้รับความเสื่อมเสีย สร้างผลกระทบต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
“เลือดขัตติยะ พระโอรสทั้ง 4 คน ที่แม้มิได้ทรงพระยศ ”หม่อมเจ้า“ แล้วก็ตาม แต่สายพระโลหิตอันเข้มยังคงหล่อเลี้ยงในกายอันเป็นความจริงเพียงหนึ่งเดียว” เทพมนตรีระบุ และโพสต์เพิ่มเติมกล่าวถึงกลุ่มบุคคลที่พยายามโจมตีพระโอรสทั้ง 4 ว่า
“ลูกท่านหลานเธอ
ลูกท่านหลานเธอทั้ง 5 ท่าน เป็นหม่อมเจ้าโดยกำเนิด หนึ่งในนั้นสถาปนาเป็นเจ้าฟ้าหญิง อีก 4 ท่าน สั่งห้ามใช้หม่อมเจ้า จะว่าไปแล้ว การวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องใดๆก็สามารถกระทำได้ แต่ต้องไม่ใช่ความสันนิษฐานหรือเกิดขึ้นจากขบวนการตั้งข้อสังเกต
การผลิตซ้ำด้วยการด่าทอ ตำหนิ โดยอ้างความจงรักภักดี ต้องถามจริงๆนะครับว่า ที่ทำกันอยู่ทุกวันเพื่ออะไร ดำรงความยุติธรรมกัน หรือทำกันเป็นขบวนการ ผมไม่เคยเห็นเหตุผลที่แท้จริง
ถ้าอ้างว่าจงรักภักดีกับพระเจ้าอยู่หัว ถ้ารักสถาบันจริงก็สมควรทำเรื่องราวเป็นทางการถวายฎีกาขึ้นไปตามขั้นตอน
การกระทำที่ด่าทอ ตำหนิ และเอาแต่คิดไปเอง ให้ลูกคู่ลูกชัก สนุกปากสนุกมือ มิใช่คนที่คอยเฝ้าถวายความจงรักภักดี เพราะอย่าลืมว่า ท่านทั้ง 4 ก็เป็นลูกท่านหลานเธอ มีเลือดขัตติยะบรมราชจักรีวงศ์หมุนเวียนในราชสกุล มหิดล
ผมจึงไม่เชื่อว่าด้วยวิธีการที่กระทำอยู่นี้จะมีผลดี อย่างที่ผมเคยนำเรียนให้ทราบว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงพระปรีชาสามารถ ทรงล่วงรู้ในสายพระเนตรพระกรรณอยู่แล้ว
ถามจริงๆเถอะ หรือพวกท่านทั้งหลายไม่เชื่อว่า พระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงทราบว่าพระโอรสทรงทำสิ่งใดกันมาบ้าง เลยต้องปล่อยให้พวกท่านต้องมาบอกต้องมาตำหนิ หรือบางคนออกมาสกัดกั้น
ถ้าไม่มีเหตุผลสำคัญก็แสดงว่าพวกท่านกำลังมีแผนการร้าย”
#TheStructure
#TheStructureNews
#เทพมนตรี #ราชวงศ์จักรี
#สถาบันพระมหากษัตริย์

https://www.facebook.com/photo/?fbid=607038701873924&set=a.170997628811369


ดาราจีนถูกหลอกไปเป็นสแกมเมอร์ ตำรวจตีปี๊บประสานกองกำลังชาติพันธ์ุจนช่วยกลับมาสำเร็จ เครือข่ายภาคประชาชนฯวอนช่วยที่เหลืออีก 6 พันคนอยู่ในฝั่งเมียวดี เผยเส้นทางขบวนการค้ามนุษย์ นักวิชาการแนะรัฐบาลนายกฯแพทองธารเร่งวางแผนปฎิบัติการ


สำนักข่าวชายขอบ
5 hours ago
·
เผยดาราจีนถูกหลอกไปเป็นสแกมเมอร์ ตำรวจตีปี๊บประสานกองกำลังชาติพันธ์ุจนช่วยกลับมาสำเร็จ เครือข่ายภาคประชาชนฯวอนช่วยที่เหลืออีก 6 พันคนอยู่ในฝั่งเมียวดี เผยเส้นทางขบวนการค้ามนุษย์ นักวิชาการแนะรัฐบาลนายกฯแพทองธารเร่งวางแผนปฎิบัติการ
------------
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ที่อำเภอแม่สอด จ.ตาก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์กรณีที่นักแสดงชายที่ใช้ชื่อว่าซิงซิง (Xing Xing) หรือชื่อจริง นายหวังซิง (Wang Xing) ถูกแก๊งจีนเทาหลอกลวงมาประเทศไทยและถูกนำตัวข้ามไปยังแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมย ฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศพม่า ตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า ได้พูดคุยกับซิงซิงแล้วซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดกรองคัดแยกเหยื่อ จากการสอบถามเบื้องต้นน่าจะเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไทยได้รับการประสานจากสถานเอกอัครราชทูตจีน และมีการแจ้งความกับตำรวจเซียงไฮ้ ประเทศจีนว่าถูกหลอกมาทำงานในประเทศไทย โดยซิงซิงใช้ระบบ We Chat โดยคนจีนอ้างพามาแคสติ้งในเมืองไทยและเชื่อว่าเป็นกลุ่มคนจีนในประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นชนกลุ่มน้อย การเดินทางเข้าประเทศไทยโดยพบว่าซิงซิงไม่มีการถูกบังคับ และผ่านด่านความมั่นคง 1 ด่านและจุดตรวจตำรวจ 2 ด่าน ที่ อ.แม่สอด โดยเขาได้แสดงหนังสือเดินทางและแสดงความสมัครใจ ซึ่งเรามีพยานหลักฐาน
“หลังจากข้ามไปแล้วเขาถูกให้ไปฝึกพิมพ์ดีดให้ชำนาญเหมือนถูกหลอกทำสแกมเมอร์ และเมื่อย้ายมาอาคารที่ 2 ซึ่งมีคนจีนอยู่ 50 คน เขาถูกบังคับให้โกนหัว แต่เขาไม่ได้ถูกทำร้าย หลังจากนั้นถูกส่งไปอาคารที่ 3 และได้รับความช่วยเหลือออกมาหลังจากตำรวจไทยประสานไปยังชนกลุ่มน้อย”พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าว
จเรตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการหลอกระหว่างคนจีนด้วยกัน แต่ต้องมาผ่านประเทศไทยเพื่อไปประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อมีการร้องขอ เราได้มีการตรวจสอบทันที โดยจุดที่ข้ามแดนเป็นช่องทางธรรมชาติที่เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่อยู่ติดชายแดนสามารถข้ามไปเขตเศรษฐกิจพิเศษที่กำลังสร้างใหม่เพื่อทำแหล่งคอลเซ็นเตอร์
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงชายแดนกล่าวว่า เส้นทางที่ซิงซิงถูกนำตัวข้ามไปฝั่งเมืองเมียวดีน่าจะเป็นพื้นที่หมู่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน อ.แม่สอด ซึ่งฝั่งตรงกันข้ามพื้นที่เขตเศรษฐกิจมีดงเหมย ซึ่งอยู่ในความดูแลของกองกำลังกะเหรี่ยง DKBA โดยขบวนการค้ามนุษย์ได้แบ่งกันทำงานในการหาเหยื่อซึ่งแยกเป็นชาติต่างๆ อาทิ ชาวจีน ชาวโรฮิงญา แรงงานต่างด้าว เมื่อได้เหยื่อแล้วจะมีนายหน้าฝั่งไทยไปรับมาลงเรือเพื่อข้ามฟากมาบริเวณนี้เพื่อส่งต่อไปยังอาคารที่แยกเป็นส่วนๆ และจะมีนักธุรกิจที่ทำงานด้านสแกมเมอร์หรือคอลเซ็นเตอร์มารับไป โดยกรณีของซิงซิงถูกส่งไปยังอาคารที่อยู่ในความดูแลของกองกำลังกะเหรี่ยง BGF
ขณะที่เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ได้เผยแพร่เอกสารข้อมูลระบุว่า ขณะนี้มีผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์กว่า 6,000 คนจาก 21 ประเทศถูกกักขังในประเทศเมียนมา ทนทุกข์กับการถูกทารุณกรรม ความบอบซ้ำทางจิตใจ การเรียกค่าไถ่จำนวนมหาศาลและถูกตัดขาดความช่วยเหลือจากทั่วโลก ผู้เสียหายมากกว่าครึ่งหนึ่งคือ 3,900 คนเป็นชาวจีน
เครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้เสียหายจาการค้ามนุษย์ระบุว่า อำเภอแม่สอด ประเทศไทย ได้กลายเป็นทางผ่านที่สำคัญซึ่งถูกกลุ่มอาชญากรข้ามชาติของจีนใช้ในการส่งผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์เข้าสู่ประเทศเมียนมาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ บริเวณนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมย ภายใต้การควบคุมของกองกำลังชาติพันธุ์ ได้แก่ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) และกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) ซึ่งทำให้การช่วยเหลือผู้เสียหายมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
“ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2567 เครือข่ายฯ ได้ประสานงานกับรัฐบาลไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์เพื่อขอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในบริษัท Zhongfa, Hexin, Yougqian และ Tai Chang ซึ่งมีรายงานการใช้ความรุนแรง การฆาตกรรม และการทารุณกรรมที่โหดเหี้ยม แม้จะมีความพยายามทางการทูต ความสนใจจากสื่อ และแรงกดดันทางการเมือง แต่ผู้เสียหายยังคงถูกขัง ทนทุกข์จากการถูกทำร้ายจิตใจ ช็อตไฟฟ้า น้ำร้อนราด บังคับให้ทำงานหนักเกี่ยวข้องกับกิจกรรมหลอกลวงบนโซเชียลมีเดียเพลทฟอร์มหลายแห่ง โดยยังไม่มีความคืบหน้าในการช่วยเหลือ”เครือข่ายภาคประชาสังคมฯระบุ
เครือข่ายภาคประชาสังคมยังระบุด้วยว่า กรณีที่นักแสดงชาวจีน 'Xing Xing' ถูกหลอกให้เดินทางจากประเทศจีนมายังแม่สอด ได้สร้างความตระหนกในโลกออนไลน์เกี่ยวกับอันตรายจากการเดินทางมายังประเทศไทยและความเสี่ยงในการตกเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในประเทศเมียนมา สะท้อนให้เห็นถึงความเหิมเกริมไม่เกรงกลัวต่อกฏหมายขององค์กรอาชญากรรมเหล่านี้ จีนเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการปราบปรามองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา และเมียนมา โดยเฉพาะการต่อสู้กับการหลอกลวงทางออนไลน์ การพนัน และการหลอกลวงผ่านคอลเซ็นเตอร์ การพัฒนากรอบกฎหมายที่มีประสิทธิภาพ การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็ง และกระบวนการฟ้องร้องที่รวดเร็ว ทำให้ประเทศจีนสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายได้หลายหมื่นคนและดำเนินคดีอาชญากรรมจำนวนมากในเวลารวดเร็ว
“เราขอเรียกร้องให้ทางการจีนและทางการไทยมีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์ในประเทศเมียนมา ตลอดจนช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ทุกคนอย่างเร่งด่วน”เครือข่ายระบุ
ขณะที่ ศ.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่ามีข้อมูลในพื้นที่ว่ามีอาคารแห่งหนึ่งอยู่ในเมืองเมียวดีเป็นศูนย์กลางคล้ายกับตลาดค้ามนุษย์เพราะมีการหลบหนีของเหยื่อชาวจีนออกมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เป็นข่าวโดยในกรณีที่เกิดขึ้นกับนักแสดงรายนี้ เข้าใจว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่มีอาชีพล่อลวงคนมาแล้วกักขังที่ตึกแห่งนี้เพื่อรอให้กลุ่มการค้าต่างๆ เช่น สแกมเมอร์ พนันออนไลน์ มาซื้อตัวเอาไป ซึ่งเป็นความสลับซับซ้อนของขบวนการเหล่านี้ การที่เขาสามารถตั้งศูนย์ค้ามนุษย์อยู่ในเมืองเมียวดีได้นั้น ต้องมีการรู้เห็นเป็นใจและจ่ายเงินให้กับกลุ่มกองกำลังที่ดูแลพื้นที่ตรงนี้ (อ่านรายละเอียดสัมภาษณ์ ศ.ปิ่นแก้วใน ( https://transbordernews.in.th/home/?p=41002 )

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1179907080806765&set=a.504230305041116
.....


สำนักข่าวชายขอบ
6 hours ago
·
“ศ.ปิ่นแก้ว”แฉฮับค้ามนุษย์ในเมืองเมียวดี เชื่อมีการจ่ายส่วยรอบด้าน แนะรัฐบาลตั้งตัวแทนจัดวงหารือกับกองกำลังเจ้าของพื้นที่ ระบุอยากเห็นนายกฯแพทองธารมีแผนปฎิบัติการที่ชัดเจน-ไม่ใช่แค่นโยบาย
----------
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ศ.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งทำวิจัยและเขียนหนังสือเรื่องทุนนิยมคาสิโน ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวชายขอบ”ถึงกรณีที่นักแสดงชายที่ใช้ชื่อว่าซิงซิง (Xing Xing) หรือชื่อจริง นายหวังซิง (Wang Xing) ถูกแก๊งจีนเทาหลอกลวงมาประเทศไทยและถูกนำตัวข้ามไปยังแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมย ฝั่งเมืองเมียวดี ประเทศพม่า ตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ว่ามีข้อมูลในพื้นที่ว่ามีอาคารแห่งหนึ่งอยู่ในเมืองเมียวดีเป็นศูนย์กลางคล้ายกับตลาดค้ามนุษย์เพราะมีการหลบหนีของเหยื่อชาวจีนออกมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่เป็นข่าวโดยในกรณีที่เกิดขึ้นกับนักแสดงรายนี้ เข้าใจว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่มีอาชีพล่อลวงคนมาแล้วกักขังที่ตึกแห่งนี้เพื่อรอให้กลุ่มการค้าต่างๆ เช่น สแกมเมอร์ พนันออนไลน์ มาซื้อตัวเอาไป ซึ่งเป็นความสลับซับซ้อนของขบวนการเหล่านี้ การที่เขาสามารถตั้งศูนย์ค้ามนุษย์อยู่ในเมืองเมียวดีได้นั้น ต้องมีการรู้เห็นเป็นใจและจ่ายเงินให้กับกลุ่มกองกำลังที่ดูแลพื้นที่ตรงนี้

“ตรงนี้ช่วยตอบคำถามในหลายกรณี บางคนถูกหลอกไปทำงานที่ท่าขี้เหล็ก บางคนถูกหลอกไปสามเหลี่ยมทองคำ และถูกขายต่อกันเป็นทอดๆ ทำไมจึงมาลงเอยอยู่ที่ฝั่งตรงกันข้ามกับแม่สอด เพราะฝั่งนั้นเป็นฮับค้ามนุษย์ใหญ่ที่มีคนหลายชาติถูกบังคับให้ทำงานอยู่ บางตึกมีแต่เหยื่อที่เป็นชาวจีน บางตึกผสมกันหลายชาติ เพื่อรอให้ธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านี้มาซื้อ เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนใหญ่ กรณีดาราจีนก็น่าแปลกใจว่ามีอาชีพอะไรพิเศษหรือ ถึงต้องเอาดาราเข้ามา อาจเป็นไปได้ว่าเขาต้องการคนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์บางธุรกิจผิดกฏหมาย แต่สิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดคือตึกที่ใช้ค้ามนุษย์และเขาใช้ไทยเป็นทางผ่าน” ศ.ปิ่นแก้ว กล่าว

นักวิชาการผู้นี้กล่าวว่า เราต้องขจัดขบวนการค้ามนุษย์และต้องไม่เป็นทางผ่าน โดยกลุ่มกองกำลังที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะBGF (Karen Border Guard Force- กองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง)ซึ่งตึกแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้เรื่อง รวมถึงกองกำลังอื่นๆที่กองทัพไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีอยู่ด้วยควรที่จะมีกลไกในการจัดปัญหานี้ เพราะตึกเหล่านี้ไม่ได้อยู่กลางป่าเขา

“คำถามใหญ่คือขบวนการค้ามนุษย์ใหญ่ขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ฝั่งไทยไม่มีผลประโยชน์ร่วม อันนี้ไม่ได้หมายถึงแค่กรณีดาราจีน แต่เป็นการขนคนในกรณีอื่นๆ เพราะมีข่าวตลอดว่ามีการขนคนจีนใส่ตู้คอนเทนเนอร์ข้ามไปฝั่งนู้นด้วยช่องทางต่างๆ ต้องมีการจ่ายส่วยแน่ๆ แหล่งข่าวบอกว่าจ่ายรอบวง หมายความว่าจ่ายทั้งสองฝั่ง ผู้ที่มีผลประโยชน์ประกอบด้วยคนหลายฝ่ายซึ่งรวมถึงฝั่งไทย ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ก็แล้วแต่ ถ้าต้องการปราบปรามจริงจังก็ต้องขุดไปถึงรากว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง”อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรที่ผ่านมามีข่าวเรื่องการหลอกลวงชาวต่างชาติข้ามจากไทยไปยังแหล่งอาชญากรรมเมืองเมียวดีอย่างต่อเนื่องและเหยื่อต่างก็ร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยแต่ได้รับคำตอบเพียงความเงียบ ศ.ปิ่นแก้วกล่าวว่า ปัญหาการค้ามนุษย์รัฐบาลไทยพยายามประกาศว่าหัวหอกในการจัดการ ขณะเดียวกันก็รู้อยู่ว่าไปเจอตอเพราะมีผู้มีอิทธิพลได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ ดังนั้นถ้ารัฐบาลจะจัดการปัญหาอย่างเด็ดขาดเหมือนที่ประกาศไว้ก็ต้องกล้าที่จะขุดว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง

“ขบวนการขนคนมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ใช้กองทัพมดและหลบด่านต่างๆ แต่ที่แน่นอนคือการจ่ายส่วยให้คนหลายฝ่าย และต้องมีการขนคนข้ามแดนด้วย จึงเป็นไปไม่ได้ว่าข้ามแดนไปโดยไม่มีใครรู้เห็น ต่อให้ไปทางช่องทางธรรมชาติ อย่างไรก็ต้องมีการจ่ายส่วน พวกเขาทำงานกันเป็นขบวนการใหญ่มากๆ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์กับคนระดับไหนบ้าง เกี่ยวข้องกับนักการเมืองด้วยหรือไม่ ถ้ารัฐบาลจริงจังเหมือนที่อดีตนายกฯทักษิณ (ชินวัตร) ประกาศไว้ว่าจะปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือจัดการกับขบวนการค้ามนุษย์ก่อน เพราะหากไม่มีแรงงานกลุ่มนี้ไปป้อนเหยื่อให้ พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ทำงานไม่ได้ ธุรกิจค้ามนุษย์กับคอลเซ็นเตอร์จึงอยู่คู่กัน”ศ.ปิ่นแก้ว กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกับข้อเสนอให้พื้นที่เมืองแม่สอดเป็นโซนสีแดงที่ต้องควบคุมเพื่อให้ชาวต่างชาติที่เข้าไปต้องขออนุญาตก่อน ผู้เขียนหนังสือเรื่องทุนนิยมคาสิโนกล่าวด้วยว่า เห็นด้วยแต่เป็นเพียงครึ่งหนึ่งที่จะจัดการกับปัญหาได้ เพราะเมืองเมียวดีกับเมืองแม่สอดเป็นเมืองคู่กัน ดังนั้นสองเมืองต้องคุยกันโดยการแก้ปัญหาจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากทุกฝ่ายไม่ตั้งวงหารือกัน ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนของรัฐไทยหรือตัวแทนของกลุ่มกองกำลังต่างๆในเมืองเมียวดีที่ดูแลพื้นที่นั้น เพราะมีความจำเป็นที่ต้องทำให้เมืองคู่แฝดนี้ปลอดจากธุรกิจผิดกฎหมาย

“ที่ผ่านมารัฐไทยยังไม่เคยตั้งตัวแทนหารือกับกลุ่มกองกำลังกะเหรี่ยงตามแนวชายแดนเหล่านี้เลย แล้วจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเมืองเมียวดีไปสู่ทิศการพัฒนาได้อย่างไร”ศ.ปิ่นแก้ว กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้บริหารระดับนโยบายมักพูดอยู่เสมอว่าการเจรจาต้องทำระหว่างรัฐต่อรัฐเท่านั้น จึงไม่มีการเจรจากับกลุ่มกองกำลัง ศ.ปิ่นแก้วกล่าวว่า ก็เพราะคิดเช่นนั้นจึงไม่มีการแก้ไขปัญหา เพราะในพื้นที่นั้น กลุ่มกองกำลังเป็นผู้มีอำนาจควบคุมพื้นที่ ถ้าไม่คุยกับเขาแล้วจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นมีใครพูดเรื่องนี้

เมื่อถามอีกว่าแปลกใจหรือไม่ว่าทำไมรัฐบาลจีนจึงสามารถส่งเครื่องบินมารับคนจีนกว่า 900 คนที่ถูกกักขังอยู่ในเมืองเมียวดีได้โดยใช้สนามบินแม่สอด แต่รัฐบาลไทยกลับไม่แสดงปฎิกริยาใดๆ ศ.ปิ่นแก้วกล่าวว่า “แปลกใจคะ หรือเราต้องรอให้จีนเขาขยายอำนาจมาบริเวณนี้แล้วจัดการพื้นที่นอกอาณาเขตของเขาหรืออย่างไร ที่สำคัญคือรัฐบาลไทยต้องเลิกบอกว่าประเทศไทยเป็นเพียงทางผ่านเท่านั้น แล้วปล่อยให้คนต้นเรื่องเข้ามาจัดการ ซึ่งวิธีคิดเช่นนี้เป็นการชะลอปัญหาแต่ไม่ได้แก้ปัญหา เราควรคิดว่าประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ฮับการค้ามนุษย์และคอลเซ็นเตอร์ดำเนินไปได้ ดังนั้นเราต้องริเริ่มแก้ปัญหา ไม่ใช่ใส่เกียร์ว่าง”

ศ.ปิ่นแก้วกล่าวว่า นอกจากชาวต่างชาติที่ถูกหลอกเข้าไปทำงานในแหล่งอาชญากรรมริมแม่น้ำเมยแล้ว แม้แต่คนไทยก็ถูกหลอกอยู่ในนั้นเช่นกัน ที่สำคัญทุกวันนี้คนไทยทุกคนต่างถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงกันอยู่ทุกวัน ผลเสียหายที่เกิดขึ้นจึงไม่สามารถมองได้ว่าประเทศไทยเป็นแค่เมืองทางผ่าน แต่เป็นประเทศที่เป็นเหยื่อของขบวนการเหล่านี้ด้วย หากจะตัดไฟเสียแต่ต้นลมก็ต้องจัดการขบวนการค้ามนุษย์ที่ใช้เมืองชายแดนไทยเป็นฐานที่มั่นในการปฎิบัติการ

“อยากเห็นนายกฯแพทองธาร(ชินวัตร) ตอบสนองการแก้ปัญหานี้ อยากเห็นแนวทางในการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ที่นำเอาเหยื่อไปเป็นแรงงานของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ว่าทำได้อย่างไร ที่ผ่านมาไม่เคยมีแผนในการแก้ปัญหาที่ชัดเจนเลย พูดแต่นโยบายกว้างๆที่ไม่นำไปสู่การแก้ปัญหาทางปฎิบัติ”ศ.ปิ่นแก้ว กล่าว

นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กล่าวว่า กรณีของดาราชาวจีนที่ถูกหลอก ไทยกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เพราะนายหน้าอ้างว่าชวนมาแสดงหนังในไทยซึ่งเป็นการฉีกหน้าอย่างใหญ่หลวง แต่คนของทางการบางหน่วยงานกลับให้ข่าวว่าเขาเต็มใจมา ซึ่งคนที่ให้ข่าวในลักษณะนี้ขาดความรับผิดชอบอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่รู้เลยหรือว่าเป็นขบวนการค้ามนุษย์ แน่นอนว่าคนที่มาอาจเต็มใจเพราะต้องการมาแสดงหนัง แต่พอมาถึงจริงกลับไม่ใช่

“การให้ข่าวทำนองนี้ไม่ช่วยทำให้ภาพพจน์ของไทยดีขึ้น จะอย่างไรเสียเราก็กลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดไปเรียบร้อยแล้ว ขบวนการค้ามนุษย์เขามีแท็คติกสารพัดในการหลอกคน มีน้องคนจีนรายหนึ่งถูกหลอกมาเมืองเมียวดีเพราะคิดว่ามีงานดีๆรออยู่ แต่สุดท้ายต้องให้ญาติหอบเงิน 1.5 ล้านบาทมาไถ่ตัว ไม่มีใครอยากทำงานวันละ 12-14 ชั่วโมง ทำไม่ได้ตามเป้าก็ถูกกักขังทรมาน เราเองต้องเปลี่ยนวิธีคิดแบบเหมารวมเช่นนี้ เพราะทำให้เราใส่เกียร์ว่างมาโดยตลอด”ศ.ปิ่นแก้ว กล่าว

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1179846557479484&set=a.504230311707782




'


 

Thai PBS เปิดพฤติกรรมขบวนการพาต่างชาติ พานักแสดงจีนข้ามไปเมียนมา จากชายแดน จ.ตาก อยู่ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก


เปิดขบวนการพาต่างชาติข้ามชายแดน จ.ตาก | Thai PBS News

Jan 7, 2025 

เปิดพฤติกรรมขบวนการพาต่างชาติข้ามชายแดน จ.ตาก เมื่อดูพิกัดของจุดที่นักแสดงจีนข้ามไปเมียนมา พบว่า อยู่ในพื้นที่หนึ่งของ อ.แม่สอด จ.ตาก ไม่ไกลจากนั้นมีเมืองที่ถูกจับตาเรื่องความเคลื่อนไหวของขบวนการที่พัวพันเรื่องผิดกฎหมาย

https://www.youtube.com/watch?v=qq_z9Z90rG
.
https://x.com/ThaiPBSNews/status/1876625003413708828


สรุปเรื่อง "ซิงซิง" ดาราชาวจีนกลับไทย ย้อนไทม์ไลน์เหตุการณ์ เกิดอะไรขึ้นกับดาราคนนี้บ้าง


สรุปเรื่อง "ซิงซิง" ดาราชาวจีนกลับไทย ย้อนไทม์ไลน์เหตุการณ์ | Thai PBS News

Jan 7, 2025 

สรุปเรื่อง "ซิงซิง" ดาราชาวจีนกลับไทย ย้อนไทม์ไลน์เหตุการณ์จากเดินทางมาถึงไทย หายตัวไป กระทั่งทางการไทยรับตัวจากทางการเมียนมา เกิดอะไรขึ้นกับดาราคนนี้บ้าง

https://www.youtube.com/watch?v=3DKjY34JOJI
.
https://x.com/ThaiPBSNews/status/1876619097527431506




ลามไม่หยุด! สื่อนอกตีข่าว อดีตนายกฯไทย ปราศรัยเหยียดเชื้อชาติ

ARM WORAWIT @armupdate
·2h

ลามไม่หยุด! 
สื่อนอกตีข่าว อดีตนายกฯไทย ปราศรัยเหยียดเชื้อชาติ 
วันนี้ The South China Morning Post ตีข่าว อดีตนายกฯไทย ทักษิณ ชินวัตร ถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังพูดส่งเสริมความสวยงามของหญิงไทย โดยเหยียดผิวผู้หญิงแอฟริกัน "ดำจมูกแบน และหายใจลำบาก แต่ทำเงินได้เป็นล้าน"

https://x.com/armupdate/status/1876658599747051758



เปิดภาพวงจรปิด นาทียิงดับ อดีตส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา


ลิม กิมยา คนกลาง
prachatai @prachatai

หลายสำนักข่าวรายงานตรงกัน ช่วงเย็นวันนี้ (7 ม.ค. 2568) เวลาประมาณ 18.00 น. ลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านจากพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (CNRP) และเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง วัย 74 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต บริเวณเกาะกลางถนน ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ

อ่านต่อ https://prachatai.com/journal/2025/01/111917




 https://x.com/MatichonOnline/status/1876648713705435546



วันอังคาร, มกราคม 07, 2568

“พอมีที่ดินที่มากเกินไปจึงเกิดการทำสนามกอล์ฟ” นักวิชาการพาดพิงกองทัพ เป็น ‘รัฐพันลึก’ ผู้ถือครองที่ดินมากที่สุดในไทย มากกว่า ‘เสี่ยเจริญ’ มากกว่า สนง. ‘ทรัพย์สินฯ’

เมื่อสองอาทิตย์กว่าๆ ที่ผ่านมา มีการเสวนาทางวิชาการเกี่ยวกับอำนาจทางเศรษฐกิจของกองทัพไทย ซึ่งพูดถึงสมรรถนะทางธุรกิจของกองทัพไว้อย่างน่าทึ่งยิ่งนัก ดัง สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี วิทยากรท่านหนึ่งระบุว่าเป็นรัฐพันลึก (Deep State) นั่นเลยเชียว

การประกอบกิจการเพื่อทำกำไรให้แก่กองทัพเองก็มีมากหลายแทบไม่น่าเชื่อ แต่เนื่องจากเป็นผู้ถือครองที่ดินมากที่สุดในประเทศไทย “พอมีที่ดินที่มากเกินไปจึงเกิดการทำสนามกอล์ฟ” แจ้งไว้ต่อกรรมาธิการสภาผู้แทนฯ ๕๕ แห่ง ไม่แจ้งอีก ๔ แห่ง

ธุรกิจอื่นๆ แบบติดพันก็มี “โรงแรม/ที่พัก มากกว่า ๑๘ แห่ง สถานที่ท่องเที่ยว/การจัดการท่องเที่ยวบนที่ดินของกองทัพ กว่า ๓๗๑ แห่ง” นอกนั้นมีสวนปาล์มแห่งหนึ่งที่สุราษฎร์ กิจการจำหน่ายไฟฟ้า ๑ แห่งที่อำเภอสัตหีบ น้ำมันเชื้อเพลิงที่ฝาง

ส่วนกิจการโทรคมนาคมไม่ต้องพูดถึง วิทยุ โทรทัศน์มากกว่า ๒๐๐ ช่อง ร้านค้าของชำอีก ๑๖๓ แห่ง ทั้งหลายเหล่านี้สุภลักษณ์ชี้ว่า เนื่องมาจาก “เมื่อทหารอยู่ในการเมืองมากเกินไป นานเกินไป บ่อยเกินไป...ทหารจึงไปควบคุมเศรษฐกิจ”

ปริมาณที่ดินซึ่งกองทัพถือครอง ๖.๒๕ ล้านไร่ บวกกับที่ดินซึ่ง กานดา นาคน้อย นักเศรษฐศาสตร์ ม.คอนเน็คติกัต บอกว่าบวกกับ “ที่ดินที่เช่ากรรมสิทธิ์ต่อจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ อีกกว่า ๒.๖ ล้านไร่” รวมเป็นเกิน ๗ ล้านไร่ นั้น

ทิ้งห่างผู้ถือครองที่ดินประเทศไทยมากเป็นอันดับสอง คือเสี่ย เจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งมีประมาณ ๖ แสนไร่ และมากกว่าหลายเท่าของที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีราวๆ ๔๑,๐๐๐ ไร่ นำไปสู่คำถามว่า ทำไมต้องใส่ใจกับการถือครองที่ดินจำนวนมากๆ เหล่านี้

อจ.กานดาให้คำตอบกรณีของกองทัพว่า “เหล่านี้ถูกนำไปใช้ประโยชน์เพื่อกำไรและสวัสดิการของผู้นำในกองทัพไทยเพียงเท่านั้น ซ้ำยังขาดความโปร่งใสในการตรวจสอบการใช้ประโยชน์จากที่ดิน” ข้อสำคัญ รัฐบาลก็ไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ด้วยได้

อีกคำถามว่า “เราเคยเจอร่องรอยการเสียภาษีหรือไม่” จากที่ดินซึ่งกองทัพนำไปทำธุรกิจเหล่านี้ สุภลักษณ์บอกว่า “กิจการส่วนใหญ่ของกองทัพเป็นกิจการเพื่อสวัสดิการของกำลังพล ดังนั้นจึงไม่เข้าข่ายของภาษี” แต่ในกรณี ธนาคารทหารไทย

กานดาเน้นว่า “อันนี้เป็นหน่วยงานที่จ่ายภาษีตามปกติ...แต่กลับมีปัญหาว่าจริงๆ แล้วธนาคารทหารไทยมีหนี้สินเยอะและเอาภาษีไปอุ้ม เสร็จแล้วก็ได้ปรับโครงสร้างหนี้ให้หมดไป ปัจจุบันเหลือประมาณ ๑% เศษ” เสร็จแล้วจึงสรุปเป็นปุจฉาไว้ได้ว่า

ธุรกิจของกองทัพเหล่านั้น แม้บางอย่างประกอบการตามระเบียบกฏเกณฑ์ทางการค้า แต่ก็มีส่วนได้เปรียบ มากกว่าผู้ประกอบการทั่วๆ ไป เช่นนี้มันเหมาะควรหรือไม่ เพียงใด

(https://prachatai.com/journal/2025/01/111913) 

ไขความลับน้ำมันแพง

https://www.facebook.com/prawes.prapha.nu.kul.kic/videos/464858509994073

ฟังจาก tiktok
https://www.tiktok.com/@beebee8989/video/7450458861330320658


มาแล้ว ข่าว Serious Shopping Skills !!! ทรัพย์สิน "อุ๊งอิ๊ง" หมื่นล้าน กระเป๋าแบรนด์เนมกว่า 200 ใบ สื่อแซะไม่ต่างรองเท้า 3,000 คู่ของ "อีเมลดา มาร์กอส"



ฝรั่งตะลึง! ทรัพย์สิน "อุ๊งอิ๊ง" 400 ล้านดอลลาร์ สูงกว่า “ไบเดน” กระเป๋าแบรนด์เนมกว่า 200 ใบ แซะไม่ต่างรองเท้า 3,000 คู่ของ "อีเมลดา มาร์กอส"

เผยแพร่ 5 ม.ค. 2568 ปรับปรุง: 6 ม.ค. 2568 06:09
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - สื่อนอกตีข่าวไปทั่วโลกฮือฮาทรัพย์สิน 400 ล้านดอลลาร์ (1.4 หมื่นล้านบาท) ของนายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร สูงกว่าผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน โจ ไบเดน มีแค่ 10 ล้านดอลลาร์ ชี้มีอพาร์ตเมนต์หรูกลางกรุงลอนดอนเช่านานเกือบ 1,000 ปี กระเป๋าแบรนด์เนม 217 ใบ วิจารณ์ไม่ต่างจากอดีตภรรยาประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ อีเมลดา มาร์กอส รองเท้า 3,000 คู่ เงินสดอีก 319 ล้านดอลลาร์

บลูมเบิร์กรายงานวันศุกร์ (3 ม.ค.) ว่า กลายเป็นที่กล่าวขวัญไปในทันทีเมื่อการแจ้งทรัพย์สินแก่ ป.ป.ช.ของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไทย แพทองธาร ชินวัตร ที่มีทรัพย์สินรวม 400 ล้านดอลลาร์ (1.4 หมื่นล้านบาท) กลายเป็นข่าวดังไปทั่วทุกมุมโลกตั้งแต่ CNA ของสิงคโปร์ ดิอินไควเรอร์ของฟิลิปปินส์ NDTV ของอินเดีย CBC News ของแคนาดา BBC และเดอะการ์เดียนของอังกฤษ CBS News ของสหรัฐฯ AFP ของฝรั่งเศส เป็นต้น

เป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ 2 แห่งย่านใจกลางกรุงลอนดอน โดยบลูมเบิร์กชี้ว่าเป็นสิทธิการถือครอบครองยาวนานถึง 992 ปีเป็นอย่างน้อยจาก 1 ใน 2 แห่งกลางย่านใจกลางกรุงลอนดอน

อ้างอิงจากสื่อไทยพบว่า ในการยื่นนั้นระบุคืออพาร์ตเมนต์ที่แรกคือ Flat#11 7Knaresborough House, Knaresborough Place สิทธิครอบครอง 987 ปี มูลค่า 111,612,250 บาท และคาดว่าจะหมดสัญญาการครอบครองใน 24 ธ.ค.3537

ส่วนอพาร์ตเมนต์แห่งที่ 2 คือ Flat #6 14 Montpelier Street มูลค่าอยู่ที่ 208,342,867 บาท คาดว่าจะหมดสัญญาในวันที่ 24 ม.ค.3552 ซึ่งบลูมเบิร์กให้ความสนใจโดยชี้ว่ามีสิทธิการครอบครองนาน 992 ปีที่ทั้ง 2 แห่งมีการถือครองที่อาจจะเรียกว่าเช่าได้นานเกือบ 1,000 ปีทีเดียว

ทรัพย์สินโดยรวมตามที่นายกฯ ไทยแจ้งไว้มีโดยรวมสุทธิที่ราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อเทียบกับทรัพย์สินสุทธิ (net worth) ของผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อ้างอิงตามการรายงานของนิตยสารฟอร์บส์เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 10 ล้านดอลลาร์ ส่วนว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ นั้น นิตยสารฟอร์บส์เพิ่งรายงานเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ล่าสุดว่า มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่รวม 3.6 พันล้านดอลลาร์ ลดลงไปจากตัวเลขเดิมที่ราว 4 พันล้านดอลลาร์

เป็นที่น่าสนใจว่านายกฯ หญิงของไทยสามารถเช่าอพาร์ตเมนต์ได้ยาวถึงเกือบพันปีในกรุงลอนดอนนั้น อ้างอิงจากเว็บไซต์ compare mymove พบว่ารัฐบาลอังกฤษอนุญาตให้มีระยะเวลาการเช่าได้นานสูงสุดถึง 999 ปีทีเดียว

ทว่าในการประกาศบนเว็บไซต์รัฐบาลอังกฤษเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ปี 2024 พบว่ารัฐบาลอังกฤษได้ผ่านกฎหมายปฏิรูปการเช่า (Leasehold reforms) ที่ตามประกาศระบุว่า กฎหมายฉบับแก้ไขการเช่า Leasehold จะช่วยให้เป็นการง่ายขึ้นต่อเจ้าของสัญญาเช่าแบบ Leasehhold เพื่อให้สามารถซื้อสิทธิการครอบครองโดยสมบูรณ์ที่เรียกว่า freehold ได้ ด้วยการเพิ่มระยะการเช่ามาตรฐานออกไปถึง 990 ปีสำหรับบ้านและแฟลต

Leasehold คือการเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว โดยไม่ได้กรรมสิทธิ์ครอบครอง ขณะที่ Freehold คือการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แบบขายขาด โดยผู้ซื้อจะได้กรรมสิทธิ์ไปครอบครองอย่างเต็มตัว และสามารถปรับปรุง ซ่อมแซม ตกแต่งห้อง เพื่อลงทุนทำกำไรต่อได้

บลูมเบิร์กกล่าวว่า นอกจากนี้พบว่า แพทองธาร ชินวัตร เป็นเจ้าของร่วมที่ดินกับสามีที่เกาะฮอกไกโด ญี่ปุ่น

ตามการรายงานระบุว่า นายกฯ แพทองธารได้โอนหุ้นที่มีอยู่ราว 24% ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลชินวัตร SC Asset Corp Pcl เมื่อพฤศจิกายนให้ผู้จัดการกองทุนให้ดูแลคือ บลจ.เกียรตินาคินภัทร อ้างชื่อตามรายงานสื่อไทย

การแจ้งทรัพย์สินยังรวมถึงเงินสดและเงินที่ฝากในบัญชีธนาคารกว่า 24 บัญชี รวม 31.6 ล้านดอลลาร์ (1.09 พันล้านดอลลาร์)

เอเอฟพีรายงานว่า ผู้นำไทยได้ประกาศว่ามีหนี้สินเกือบ 5 พันล้านบาท

เป็นที่น่าจับตาว่านายกฯ หญิงของไทยได้แสดงรายการทรัพย์สินรวมไปถึงของใช้ส่วนตัวราคาแพง เอเอฟพีชี้ว่า เป็นต้นว่านาฬิกาหรู 75 เรือน มูลค่า 162 ล้านบาท และกระเป๋าแบรนด์เนมอีกกว่า 200 ใบ ซึ่งสื่อในประเทศให้ตัวเลขไว้ที่ 217 ใบด้วยกัน มูลค่า 76 ล้านบาท

และจากรายการของฟุ่มเฟือยเหล่านี้ทำให้นักท่องเน็ตอเมริกันบนเว็บไซต์ยาฮูอดไม่ได้ที่จะต้องเปรียบเทียบผู้นำหญิงไทยคนปัจจุบันกับอดีตภรรยาผู้นำเผด็จการฟิลิปปินส์ผู้อื้อฉาว อีเมลดา มาร์กอส ที่ทำสถิติมีรองเท้าถึง 3,000 คู่จนเป็นที่จดจำไปทั่วโลก


เป็นต้นว่า CapeCod กล่าววิจารณ์ว่า “ผมเข้าใจว่าคุณรวยมากและซื้อสิ่งของราคาแพงได้ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีกระเป๋าตั้ง 200 ใบ? นาฬิกา 75 เรือน? เพราะ 1 ชิ้นหรือ 2 ชิ้นก็น่าจะเพียงพอ แต่ทำไมคุณถึงต้องมีเยอะขนาดนั้นด้วย”

ซึ่งทำให้ Rodneym เข้ามาตอบว่า “อีเมลดา มาร์กอส (อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของฟิลิปปินส์) คงรู้”

ขณะที่ผู้ใช้ชื่อ Chuck K ตอบว่า “ในเอเชีย เป็นการแข่งขันเพื่ออวดรวย”

ส่วน Tim แสดงความเห็นถึงข่าวความร่ำรวยของแพทองธารว่า “คนยากจนทุกคนในประเทศต่างกำลังดิ้นรนในประเทศ และคุณต้องการกระเป๋าและนาฬิกาหรูหรา เป็นผมคงทำไม่ได้”

ขณะที่ Rob กล่าวว่า “พ่อโดนถอดออกจากตำแหน่งเนื่องมาจากคอร์รัปชัน คนเหล่านั้นจับเธอที่รู้ว่าแย่กว่ารับตำแหน่งแทน อาจจะถึงขั้นให้เงินทรัมป์เลือกตั้ง”

และ SabaiSabai แสดงความเห็นว่า “เธอมาจากหนึ่งในตระกูลที่คอร์รัปชันมากที่สุดในไทย และมีการกล่าวว่าทำให้มีการมองไปได้ว่าส่วนใหญ่ของตระกูลร่ำรวยเป็นพันล้านบาทไทยนั้นล้วนแต่คอร์รัปชันทั้งนั้น”

https://mgronline.com/around/detail/9680000001097
.....

"นายกฯอุ๊งอิ๊ง" ผวา ที่มาทรัพย์สิน 13,000 ล้าน



6 ม.ค. 2568
สยามรัฐออนไลน์

เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Paisal Puechmongkol" ระบุว่า นายกอุ๊งอิ๊ง ผวา ที่มาทรัพย์สิน 13,000 ล้าน อาจถูกตรวจสอบที่มาของรายได้ และภาระภาษี 30%

1. ข่าวการแสดงบัญชีทรัพย์สินของนายกอุ๊งอิ๊งในวัย 30 ปีเศษ ที่มีทรัพย์สินถึง 13,000 ล้านบาท กำลังเป็นข่าวดังทั่วโลก เพราะเป็นผู้นำรัฐบาลที่อายุน้อยที่สุด แต่อาจมีทรัพย์สินมากที่สุด ซึ่งขณะนี้ นายเรืองไกร ได้ไปยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินแล้ว ซึ่งจะต้องติดตามผลต่อไป

2. เป็นอันว่า ณ เวลานี้ นายกอุ๊งอิ๊ง มีทรัพย์สินถึง 13,000 ล้านบาท จึงเป็นที่สงสัยของคนทั้งหลายว่าการได้มาซึ่งทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลนี้ มีที่มาอย่างไร และได้เสียภาษีถูกต้องแล้วหรือไม่ เพราะถ้าพลั้งพลาดก็จะเกิดภาษีถึง 30% ค่าปรับอีก 30 % เงินเพิ่มอีก 1.5% ต่อเดือน และอาจกระทบต่อจริยธรรมที่อาจกระทบต่อการดำรงตำแหน่งได้อีกด้วย

3. การมีทรัพย์สิน 13,000 ล้านบาทนั้น มีที่มาได้ 2 ทาง (1) จากการซื้อหามาในกรณีนี้ก็มีปัญหาว่าเงินที่นำไปซื้อนั้นเป็นเงินที่ได้มาจากที่ไหน และได้เสียภาษีถูกต้องแล้วหรือไม่ และได้ทำนิติกรรมสัญญาถูกต้องตามกฎหมายแล้วหรือไม่ หรือว่าเป็นการรับโอนระหว่างคู่กรณีโดยไม่มีการซื้อขายจริง (2) โดยการรับยกให้ ซึ่งแยกได้เป็นอีก 2 กรณี คือ ~กรณีที่ 1 ได้รับยกให้โดยเสน่หา ในกรณีนี้ถือเป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษี 30% ซึ่งจะต้องถูกตรวจสอบว่าได้เสียภาษีแล้วหรือไม่ และในกรณีที่ 2 เป็นการรับให้โดยธรรมจรรยา เช่น พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ยกให้ เป็นต้น

ในกรณีนี้ จะต้องมีจำนวนไม่มาก เพราะเป็นเรื่องของธรรมจรรยา เท่านั้น เว้นแต่ พ่อแม่ตายแล้วได้มาในทางมรดกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

https://siamrath.co.th/n/592012





 

คุณเหนื่อยมั้ย เกิดในประเทศนี้

https://www.facebook.com/somchay.sukkeaw.9/videos/1308765123651223?idorvanity=1334225320047371