วันเสาร์, มกราคม 04, 2568

คราวนี้กลับไทยของจริง คุณอ้วน-จุฑาวัชร, คุณอ้น-วัชเรศร และคุณอิน-วัชรวีร์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เข้าเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง วัดอรุณราชวราราม และวัดบวรนิเวศวิหาร ขาดแต่เพียงคุณอ่อง-จักรีวัชรเท่านั้นที่ยังมิได้มีโอกาสร่วมเฟรมสี่พี่น้องดรีมทีม (และยังขาดคุณแม่อีกคน)


Royal World Thailand - รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย
7 hours ago
·
สามพี่น้องวิวัชรวงศ์ ได้เดินทางเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในกรุงเทพมหานคร คุณอ้วน-จุฑาวัชร, คุณอ้น-วัชเรศร และคุณอิน-วัชรวีร์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เข้าเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง วัดอรุณราชวราราม และวัดบวรนิเวศวิหาร ขาดแต่เพียงคุณอ่อง-จักรีวัชรเท่านั้นที่ยังมิได้มีโอกาสร่วมเฟรมสี่พี่น้องดรีมทีม

https://www.facebook.com/royalworldthailand/posts/1012706757556942


ปีเก่าผ่านพ้นไป ล่วงเข้าสู่ปีใหม่ 2568 แต่สถานการณ์การดำเนินคดีจากการแสดงออกทางการเมืองยังดำเนินต่อไป “เราต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ถ้าเราทนอยู่ต่อไปอย่างไม่มีความรับผิดชอบ ทุกอย่างจะยิ่งแย่ แล้วประเทศมันจะไปต่อได้ยังไง” - ณวรรษ - #ยกเลิก112 #นิรโทษกรรมประชาชน


@thalugazzz
·8h

“เราต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ถ้าเราทนอยู่ต่อไปอย่างไม่มีความรับผิดชอบ ทุกอย่างจะยิ่งแย่ แล้วประเทศมันจะไปต่อได้ยังไง” - ณวรรษ - #ยกเลิก112 #นิรโทษกรรมประชาชน
.....


ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
17 hours ago
·
ปีเก่าผ่านพ้นไป ล่วงเข้าสู่ปีใหม่ 2568 แต่สถานการณ์การดำเนินคดีจากการแสดงออกทางการเมืองยังดำเนินต่อไป ปีที่ผ่านพ้น ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้พูดคุยและบอกเล่าเรื่องราวของผู้ถูกดำเนินคดีบางส่วน ที่ต่อสู้คดีความ และเผชิญกับผลกระทบด้านต่าง ๆ จากกระบวนการยุติธรรมที่เกิดขึ้น ชวนย้อนอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้ยังต้องต่อสู้คดีต่อไป
.
.
“เป้” ณัฐพล เมฆโสภณ นักข่าวประชาไท และ “ยา” ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์ ช่างภาพอิสระ กลายเป็นสื่อมวลชนที่ถูกดำเนินคดีจากการติดตามไปทำข่าวนักกิจกรรมแสดงออกทางการเมืองถึง 2 คดีในปีเดียว ทั้งจากกรณีนักกิจกรรมไปพ่นสีกำแพงวัง และไปแจกใบปลิวเรียกร้องต่อวุฒิสภา ก่อให้เกิดคำถามต่อเสรีภาพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน และทั้งสองคนยังต้องต่อสู้เพื่อสิ่งเหล่านี้ในปีต่อไป เมื่อคดียังไม่สิ้นสุดลง
.
“กรณีที่เกิดขึ้นมันทำให้สื่อทุกคนที่ทำข่าวก็มีสิทธิตกเป็นผู้ต้องหาได้ เลยไม่ค่อยมั่นใจว่ามันเสรีจริงรึเปล่าในการทำงานสื่อ เขาอาจจะบอกว่าถ้าคุณทำตามหลักจรรยาบรรณคุณก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ ปัญหาก็คือที่ผมกำลังโดนกล่าวหาอยู่เนี่ย ผมก็ทำตามหลักจรรยาบรรณอยู่เหมือนกัน”
.
“เสรีภาพสื่อถามว่ามีมากมั้ย ผมว่ามันมีมาก แต่ไม่ได้ถึงกับมากพอ ถ้าคะแนนเต็ม 10 เสรีภาพของสื่อมวลชนในประเทศนี้อาจจะอยู่แค่ประมาณ 7 แค่นั้นเอง มันไม่ได้มากไปกว่านั้น”
.
อ่านบทสัมภาษณ์เป้ https://tlhr2014.com/archives/66645
อ่านบทสัมภาษณ์ยา https://tlhr2014.com/archives/66688
.
.
“ฟลุค” กิตติพล เป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานีวัย 21 ปี ผู้จบการศึกษา ปวช. จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี และไม่ได้เรียนต่อ ต้องทำงานช่วยเหลือครอบครัว เขาเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองในช่วงปี 2564 และกลายเป็นผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จากการถือกระดาษใส่กรอบมีข้อความ “ไม่มีจะแดกในรัชกาลที่ 10”
.
ปีที่ผ่านมา หลังการต่อสู้คดี ศาลจังหวัดอุบลราชธานีมีคำพิพากษายกฟ้อง เห็นว่าข้อความไม่ได้เข้าข่ายความผิดมาตรานี้ แต่อัยการยังคงยื่นอุทธรณ์คดีต่อมา ทำให้เขายังต้องต่อสู้คดีต่อไป
.
“คดีนี้เป็นข้ออ้างของคนที่จงรักภักดี มาตรา 112 เป็นกฎหมายที่เอาไว้ให้คนเหล่านั้นเอาไว้ปกป้องตัวเองมากกว่า”
.
อ่านเรื่องราวของฟลุค https://tlhr2014.com/archives/64554
.
.
“บังเอิญ” เป็นศิลปินแนว Punk Art จากขอนแก่นวัย 26 ปี ผู้กลายเป็นผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ใน 2 คดี พ่วงด้วยคดีทำลายโบราณสถานจากกรณีพ่นสีกำแพงวัดพระแก้ว เพื่อเรียกร้องสิทธิให้ผู้ต้องขังทางการเมือง ดูเหมือนเขาจะต่อสู้โดยรู้อยู่แล้วว่าอาจถูกจองจำจากการแสดงออกเหล่านี้ ปีที่ผ่านมา เขาถูกพิพากษาจำคุก 8 เดือนไปแล้วในคดีหลังสุด แต่ยังได้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ และปีนี้ ยังต้องเผชิญกับคำพิพากษาในศาลชั้นต้นในคดีมาตรา 112 ทั้งสองคดีที่กำลังจะมาถึง
.
“ไม่มีอะไรที่ผมกลัวอีกแล้ว หลังจากที่พ่นกำแพงวังในวันนั้น ผมมองถึงความกล้าได้ กล้าเสี่ยง กล้าลองเผชิญกับพวกเขาดู เพราะถึงแม้ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ แต่มันก็ยังคงไม่สามารถห้ามเราได้ หรือปิดความคิดเราได้”
.
อ่านเรื่องของบังเอิญ https://tlhr2014.com/archives/68363
.
.
“มิกกี้บัง” และ “คาริม” เป็นสองสมาชิกของกลุ่มทะลุฟ้า ซึ่งกลายเป็นผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ในคดีเดียวกัน กรณีถูกกล่าวหาว่าวางเพลิงซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ระหว่างการชุมนุมครบรอบ 15 ปี รัฐประหาร #ม็อบ19กันยา64 ทั้งสองคนเป็นคนหนุ่มผู้เติบโตภายใต้ระบอบรัฐประหารของ คสช. จนตระหนักถึงความต้องการเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นกว่านี้ หลังการต่อสู้คดี ศาลอาญาลงโทษจำคุกมิกกี้บัง 5 ปี 10 วัน และจำคุกจิตริน 3 ปี 10 วัน แต่ทั้งคู่ได้รับการประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ และยังต้องต่อสู้คดีต่อไป
.
“ที่ผมเศร้าสุด ๆ ก็สถานภาพนักศึกษา หลังจากเข้าไปอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นเวลา 50 วัน เพราะศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวในนัดส่งฟ้อง ตอนนั้นผมก็ปี 4 แล้วกำลังทำโปรเจ็ค ทำเรื่องเตรียมจะจบการศึกษาแล้ว การอยู่ในนั้นชีวิตเลยยุ่งยากต่อการจัดการเรื่องเรียน เลยไม่สามารถจัดหารให้จบได้”
.
“เขาปราบปรามโดยใช้กฎหมาย จนทำให้หลายคนที่เข้ามาร่วมต่อสู้มีภาระเต็มไปหมด หลายคนก็ไม่ได้มีแผนอะไร เราแค่รู้สึกว่าต้องออกมาต่อสู้ ออกมาทำอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ก็ต้องเผชิญผลกระทบจากกฎหมายของรัฐ”
.
อ่านบทสัมภาษณ์มิกกี้บัง https://tlhr2014.com/archives/67405
อ่านบทสัมภาษณ์คาริม https://tlhr2014.com/archives/68531

https://www.facebook.com/photo?fbid=1006340764669727&set=a.656922399611567



ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ หรือ อยู่ให้เป็น-เย็นให้พอ-รอวันเอาคืน ?


Wassana Nanuam
9 hours ago
·
ประวัติศาสตร์ หน้าใหม่
“บิ๊กแอ้ด” ให้ “นายกฯอิ๊งค์”
เข้าพบ ขอพร ปีใหม่
ขอ ประสบความสำเร็จ
ในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง
ก่อนไป สักการะพระแก้วมรกต-ศาลหลักเมือง
หลัง เช้า ไปเข้าเฝ้า สมเด็จพระสังฆราชฯ และ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ที่บ้านพิษณุโลก
#ดีลผสมข้ามขั้ว
ประวัติศาสตร์หน้าใหม่
นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาว นายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกรัฐประหาร เข้าพบ พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ซึ่งเคยเป็นนายกฯ หลัง การรัฐประหาร ล้มล้าง นาย ทักษิณ ชินวัตร 19 กย.2549 และถูก พลเอก พัลลภ ปิ่นมณี อดีตนายทหาร จปร.7 และอดีตรองผอ.รมน. อ้างว่า ร่วมวางแผน ก่อนการรัฐประหาร ด้วย ก่อนที่ พลเอก พัลลภ จะย้ายข้าง มาอยู่ฝ่าย นายทักษิณ และให้สัมภาษณ์ เปิดเบื้องหลังรัฐประหาร
นางสาว แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่ทำเนียบองคมนตรี วังสราญรมย์ เพื่อขอพรเนื่องในเทศกาลปีใหม่
พล.อ.สุรยุทธ์ ได้อวยพรให้ นายกรัฐมนตรี ประสบความสำเร็จในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ ไปไหว้พระแก้วมรกต สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่บ้านของไทย ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จากนั้น เดินทางไปไหว้ศาลหลักเมือง

https://www.facebook.com/photo?fbid=9134733336585043&set=a.440635312661599
.....


Pavin Chachavalpongpun
8 hours ago

·
เห็นภาพนี้แล้วมันตลกร้าย Irony มาก การเมืองไทยกลับมาแบบ full circle วันนี้ แพทองธารไหว้สวยๆ สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี แต่สุรยุทธ์คนนี้เองมีส่วนในการทำรัฐประหารและเห็นชอบรัฐประหารต่อทักษิณเมื่อปี 2006 หลังจากล้มทักษิณได้ ภูมิพลแต่งตั้งสุรยุทธ์เป็นนายก และสุรยุทธ์ได้ใช้หลายโอกาสในการลบความชอบธรรมของรัฐบาลทักษิณก่อนหน้านี้ อาทิ ได้กล่าวขอโทษชุมชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เกี่ยวกับความรุนแรงของรัฐ เพราะต้องการชี้ประเด็นของรัฐบาลทักษิณกับนโยบายโหดร้ายต่อคนในสามจังหวัดนั้น เอาล่ะ ผ่านมาหลายปี วันนี้ ลูกสาวทักษิณไหว้สวยๆ หลังจากคุณพ่อทำดีลกับเจ้า เรามาดูกันว่า รอบนี้ ดีลจะยืนยงกี่ปี และเจ้าจะหักหลังทักษิณอีกเมื่อใด

https://www.facebook.com/photo?fbid=8372028629565493&set=a.127047247397047



ชมคลิป ทหารซุ่มจับ 4 คนจีน แก๊งคอลฯ มุดรั้วชายแดนเข้าไทย | 3 ม.ค. 68


ทหารซุ่มจับ 4 คนจีน แก๊งคอลฯ มุดรั้วชายแดนเข้าไทย | 3 ม.ค. 68 | ห้องข่าวหัวเขียว

THAIRATH TV Original

Jan 2, 2025 

ทหารจับกุม 4 ชาวจีน สมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลักลอบเข้าเมือง ขณะเดินเท้าลัดเลาะเข้าไทยจากชายแดนที่อรัญประเทศ ไปดูจังหวะเจ้าหน้าที่แสดงตัวจับกุม.. 

https://www.youtube.com/watch?v=nqpfMrP14BI



ชาวแอฟริกาโดนหลอกมาทำงานที่กรุงเทพ แล้วโดนแก๊งจีนเทาลักพาตัวไปค้ามนุษย์ที่ชายแดนพม่า ถูกบังคับให้ทำงานเป็น scammer เขาบอกว่าถ้าใครไม่ทำงานจะโดนลงโทษเฆี่ยนตี แล้วเขาบอกว่ายังมีอีกหลายพันคนโดนจับตัวมาทำงานแบบนี้ คนโดนลักพาตัวค้ามนุษย์กลางกรุงด้วยแก๊งจีนเทา รัฐไทยทำอะไรได้บ้าง


- anchr @_femrt
·10h

ชาวแอฟริกาโดนหลอกมาทำงานที่กรุงเทพ แล้วโดนแก๊งจีนเทาลักพาตัวไปค้ามนุษย์ที่ชายแดนพม่า ถูกบังคับให้ทำงานเป็น scammer เขาบอกว่าถ้าใครไม่ทำงานจะโดนลงโทษเฆี่ยนตี แล้วเขาบอกว่ายังมีอีกหลายพันคนโดนจับตัวมาทำงานแบบนี้ 

มูบารัค ยามาล เมื่อเดินทางถึงไทยเป็นระยะสั้น ๆ เพื่อหางานทำ

อมานูเอล เยลคาล
บีบีซีแผนกภาษาอัมฮารา
3 มกราคม 2025

มูบารัค ยามาล ชาวเอธิโอเปียวัย 26 ปี ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า การแสวงหาอนาคตที่ดีกว่าจะนำไปสู่บททดสอบอันน่าสะพรึงกลัว เมื่อต้องติดอยู่ใน "ค่ายแรงงานทาสไซเบอร์" ในประเทศเมียนมา

เขาหมดหวังที่จะเลี้ยงดูครอบครัวซึ่งอยู่ตอนกลางของภูมิภาคโอโรเมีย หลังออกจากวิทยาลัยเอกชนก่อนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ และเมื่อได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับข้อเสนองานที่ให้ค่าตอบแทนสูงถึง 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 54,000 บาท) ในประเทศไทย เขาจึงไม่รั้งรอที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้

"ผมไม่ได้ถามเกี่ยวกับรายละเอียดงานมากนัก" เขายอมรับ

ตัวแทนหางานซึ่งรู้จักกันในชื่อว่า "อับดิ" รับรองว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว และเพียง 5 วันเท่านั้น มูบารัคก็ได้บินออกจากกรุงแอดดิสบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ย. 2023 โดยเขาเดินทางมาพร้อมกับชาวเอธิโอเปียอีกหนึ่งราย ซึ่งต่อมาทั้งคู่พบว่า ความหวังทั้งหมดได้พังทลายลงในไม่ช้าเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย

แทนที่จะได้ทำงานตามที่สัญญากันไว้ อับดิกลับส่งพวกเขาขึ้นรถบัสไปยัง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเมืองชายแดนทางภาคเหนือของไทย จากนั้นถูกลักลอบส่งไปยังประเทศลาว และท่ามกลางหนึ่งสัปดาห์แห่งความสับสน พวกเขาถูกส่งกลับมายังประเทศไทยอีกครั้งและถูกนำตัวขึ้นรถบัสไปยัง อ.แม่สอด จ. ตาก ซึ่งเป็นเมืองชายแดนไทย-เมียนมา

เมื่อเดินทางมาถึงแม่สอด ชาวจีนเข้าควบคุมและนำตัวกลุ่มชาวเอธิโอเปีย 6 คน ขึ้นเรือข้ามแม่น้ำเมยไปยังเมียนมาในตอนดึก ซึ่งเป็นค่ายที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ค่าย "ช่องแคบ" ('Jiao Ke' camp)



สิ่งที่พวกเขาเดินทางมาถึงนั้นไม่ใช่สถานที่ทำงานถูกกฎหมาย แต่มันเป็นหนึ่งในค่ายฉ้อโกงหลายแห่งที่ดำเนินการโดยกลุ่มอาชญากรทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นสำหรับมูบารัคแล้ว ฝันร้ายกำลังเปิดฉากขึ้นอย่างแท้จริง

จากข้อมูลของสำนักงานสหประชาชาติว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม (UNODC) ระบุว่า ค่ายเหล่านี้เชี่ยวชาญด้านโรแมนซ์สแกมหรือหลอกให้รัก ฟอกเงิน และค้ามนุษย์ โดยในตอนแรกมีเพียงพลเมืองจีนที่ถูกนำเข้ามาเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมดังกล่าว แต่ตอนนี้มันขยายเป็นปฏิบัติการระดับโลก ดึงดูดผู้คนจำนวนมากจากภูมิภาคตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารา (Sub - Saharan Africa) ซึ่งถูกค้ามนุษย์เพื่อใช้แรงงานในการหลอกลวงผู้คนต่าง ๆ

"คืนที่เรามาถึงค่าย ทุกคนช็อกมาก เราจึงแทบไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย ได้แต่ยอมรับในสิ่งที่พวกเขาบอก" มูบารัคเล่าย้อนความหลัง

มีรายงานว่ามีผู้คนอย่างน้อย 120,000 คน ที่ถูกบังคับให้ทำงานฉ้อโกงทางออนไลน์ในเมียนมาเพียงแห่งเดียว จากรายงานของข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

ในจำนวนเหล่านี้ยังรวมถึงชาวแอฟริกาตะวันออกจากประเทศต่าง ๆ เช่น เอธิโอเปีย ยูกันดา เคนยา และซูดาน แต่พบว่าชาวเอธิเปียมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาเดินทางไปยังประเทศไทยได้ง่ายเพราะไม่ต้องขอวีซ่าล่วงหน้าและมีเที่ยวบินตรงให้บริการ

เมื่อเดินทางมาถึง "ค่ายช่องแคบ" ('Jiao Ke' camp) ตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตากของไทย โดยโทรศัพท์และหนังสือเดินทางทั้งหมดถูกยึดทันที จากนั้นชาวเอธิโอเปียถูกนำไปไว้ที่ตู้สินค้าที่ตั้งเรียงซ้อนกันเป็นที่พักอาศัย โดยแต่ละหลังจะมีคนอยู่ประมาณ 12-15 คน

มูบารัคบอกว่า ในขั้นต้นพวกเขาต้องผ่านการฝึกอบรมเป็นเวลา 15 วัน เพื่อเรียนรู้เทคนิคการหลอกลวงออนไลน์

"การเชือดหมู (Pig butchering)"

มูบารัคบอกว่า การฝึกอบรมมุ่งเน้นไปที่เทคนิคการหลอกลวงแบบโรแมนซ์สแกมที่เรียกกันว่า "การเชือดหมู" ซึ่งเริ่มต้นจากการทำให้เหยื่อเริ่มไว้วางใจอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะฉ้อโกงเงินที่พวกเขาเก็บออมมาทั้งชีวิต โดยเขาบอกว่าเริ่มแรกได้รับคำสั่งให้มุ่งเน้นไปที่เหยื่อในตุรกี ปากีสถาน และซาอุดีอาระเบีย ภายใต้นามแฝงของผู้หญิงที่ชื่อว่า "อลิเซีย"

เขาเล่าการหลอกลวงดำเนินไปอย่างเป็นขั้นตอน เริ่มต้นด้วย "อลิเซีย" ที่ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จ โดยมูบารัคจะแชทกับเป้าหมายผ่านแอปพลิเคชันวอทส์แอป (Whatsapp) โดยใช้สคริปต์หรือบทที่เขียนไว้แล้วล่วงหน้า และใช้ภาพนางแบบต่าง ๆ สำหรับการวิดิโอคอลเพื่อทำให้มันดูน่าเชื่อถือมากขึ้น

ในช่วงแรกเขาจะขอให้เหยื่อลงทุนในจำนวนเล็กน้อยผ่านเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบบริษัทต่าง ๆ เช่น แอมะซอน (Amazon) โดยอนุญาตให้เหยื่อทำกำไรและถอนเงินออกมา เพื่อสร้างความมั่นใจ จากนั้นเหยื่อจะถูกชักจูงให้ฝากเงินหลายพันดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่สามารถถอนเงินออกมาได้อีกต่อไป และเมื่อพวกเขาตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ก็กลายเป็นว่าสูญเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเงินออม บ้าน หรือ รถยนต์

การลงโทษที่โหดร้าย


มูบารัคอธิบายวิธีการทรมานที่เขากล่าวว่าถูกใช้ในค่ายช่องแคบ

สำหรับใครก็ตามที่ปฏิเสธการมีส่วนร่วมในการหลอกลวงหรือหาเงินไม่เป็นไปตามเป้า ผู้นำค่ายจะใช้ความรุนแรงขั้นสุดเพื่อบังคับให้ทำตามคำสั่ง

"มีครั้งหนึ่งที่ผมถูกทุบตีอย่างรุนแรงจนหมดสติ" มูบารัคเล่า "ผมพยายามป้องกันตัวเอง จากนั้นพวกเขาก็เริ่มทรมานด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า"

ผู้จัดการแคมป์แห่งนี้จะคัดเลือกคนงานจำนวนไม่กี่คนขึ้นมาเพื่อเลื่อนตำแหน่งให้เป็นหัวหน้าเพื่อดูแลเพื่อนร่วมชาติของตนเอง มูบารัคจำได้ว่ามีชาวเอธิโอเปียรายหนึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมเพื่อดูแลการทำงานของเขา

"ถ้าเขาโกรธ เขาอาจส่งตัวคุณไปลงโทษได้" มูบารัคกล่าว

หลังจากมูบารัคทำเงินไม่ได้ตามยอดที่เขากำหนดไว้ว่าต้องหาเงินให้ได้เดือนละ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 170,000 บาท) เขาก็ถูกทุบตี บังคับให้อดนอน และถูกขังอยู่ในห้องมืด โดยบอกว่าต้องจ่ายเงิน 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากต้องการออกจากค่าย

ในที่สุด ครอบครัวของเขาจำต้องขายปศุสัตว์ที่เลี้ยงไว้รวมถึงผลผลิตธัญพืชต่าง ๆ เพื่อให้ได้ค่าไถ่เป็นเงินรวมกัน 4,500 ดอลลาร์สหรัฐ (153,000 บาท) เพื่อนำตัวเขาออกมา

เรื่องราวของผู้รอดชีวิต


ร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกายของมูบารัค

ในที่สุด มูบารัคก็ได้รับการปล่อยตัวและสามารถเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดในเอธิโอเปียด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรพัฒนาเอกชนหรือเอ็นจีโอ (NGOs) ท่ามกลางความเจ็บปวดที่หลั่งรากลึก

"ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ผมรอดมาได้" มูบารัคกล่าว พร้อมกับเปิดรอยแผลเป็นบนร่างกายที่เกิดจากการทุบตีในค่ายให้ดู

ปัจจุบัน เขากลับมาอาศัยอยู่กับครอบครัวในภูมิภาคโอโรเมียและไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างปกติ เนื่องจากผลกระทบจากการทุบตียังส่งผลให้ร่างกายของเขาอ่อนแอจนถึงทุกวันนี้

เขาบอกว่ายังมีอีกหลายพันคนที่ติดอยู่ในค่ายคล้ายคลึงกันและไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ เว้นแต่ว่าจะยอมจ่ายค่าไถ่ที่ถูกเรียกสูงมาก ครอบครัวของเหยื่อเองก็วิงวอนซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ทางการเอธิโอเปียเข้ามาแทรกแซง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้ามากนัก

บีบีซีพยายามขอความเห็นต่อคณะผู้แทนเอธิโอเปียในญี่ปุ่นและอินเดียซึ่งดูแลประเทศไทยและเมียนมาไปหลายครั้ง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ

ในแถลงการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2024 เอกอัครราชทูตเนเบียต เกตาชิว โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของเอธิโอเปียได้เน้นย้ำถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือพลเมืองในเมียนมากลับสู่ประเทศ และเตือนประชาชนเกี่ยวกับการฉ้อโกงทางออนไลน์ในลักษณะยื่นข้อเสนอลวงที่เกี่ยวข้องกับโอกาสทำงานในต่างประเทศ

บางครั้งมูบารัคยังคงเห็นวิดีโอต่าง ๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งปรากฏชื่อ "อับดิ" ที่เป็นนายหน้าจัดหางาน

"ผมนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองในค่ายอยู่บ่อย ๆ" มูบารัคสะท้อนความรู้สึก "ผมอยากเห็นเขาถูกจับกุมและนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม"

https://www.bbc.com/thai/articles/c390e78nj9mo




อ.ธิดา วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในปี 2568 ระหว่างอำนาจระบอบอำมาตย์ และอำนาจประชาชน

https://www.facebook.com/watch/?v=534687399616274
.....


UDD news ยูดีดีนิวส์ @udd_red
·7h

อ่านฉบับเต็ม : อ.ธิดา วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในปี 2568 ระหว่างอำนาจระบอบอำมาตย์ และอำนาจประชาชน ได้ที่ https://udd-news.blogspot.com/2025/01/2568_3.html



ควรหรือไม่ ต่างชาติอบรม หลักสูตรความมั่นคงไทย อะไรคือความเสี่ยง


ควรหรือไม่ ต่างชาติอบรม หลักสูตรความมั่นคงไทย | ข่าวค่ำ | 3 ม.ค. 68

Thai PBS

Jan 3, 2025

กรณีอบรมอาสาตำรวจจีน ตำรวจยืนยันว่า ผู้เข้าอบรมมีทั้งนักศึกษาจีนของมหาวิทยาลัย ซึ่งกลุ่มนี้ไม่เสียเงิน และมีบุคคลภายนอกที่เข้าร่วมอบรม โดยกลุ่มนี้ถูกเรียกเก็บเงิน การเปิดอบรมในลักษณะนี้ ด้านหนึ่งอาจจะมองได้ว่า เป็นเรื่องดีที่ได้เผยแพร่ข้อมูลเมื่อใช้ชีวิตอยู่ในไทย แต่หากมองให้ลึกลงไปอีกด้าน อาจมีความสุ่มเสี่ยงบางอย่าง ที่ต้องติดตามรายละเอียด หรือเฝ้าระวังหรือไม่ พูดคุยเพิ่มเติมกับ ผศ. วันวิชิต บุญโปร่ง คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต

https://www.youtube.com/watch?v=Md1jJXqghkA



หมื่นล้าน ว้าวว - ป.ป.ช. เปิดบัญชีทรัพย์สิน นายกฯ แพทองธาร รวย 1.3 หมื่นล้าน กู้เงินแม่-พี่ชาย-พี่สาว 2.8 พันล้าน



ป.ป.ช. เปิดบัญชีทรัพย์สิน นายกฯ แพทองธาร รวย 1.3 หมื่นล้าน กู้เงินแม่-พี่ชาย-พี่สาว 2.8 พันล้าน

3 มกราคม 2025
บีบีซีไทย

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีทรัพย์สินรวมกว่า 1.3 หมื่นล้าน หนี้สิน 4.4 พันกว่าล้าน พร้อมรายการกู้เงินแม่-พี่ชาย-พี่สาว วันเดียวกันถึง 6 รายการ กว่า 2.8 พันล้านบาท

วันนี้ (3 ม.ค.) ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินฯ ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 โดย น.ส.แพทองธาร แจ้งว่ามีทรัพย์สินร่วมกับสามี นายปิฎก สุขสวัสดิ์ รวมทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท แบ่งเป็นของ น.ส.แพทองธาร 13,846,208,451 บาท เป็นของนายปิฎก 147,118,452 บาท และเป็นของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 500,000 บาท โดยมีหนี้สินทั้งสิ้นรวม 4,441,159,711 บาท

น.ส.แพทองธาร แจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 265,567,322 บาท แบ่งเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส 3,409,682 บาท เงินปันผล 259,267,639 บาท ดอกเบี้ย 2,000,000 บาท ค่าเช่า 890,000 บาท และมีรายจ่ายต่อปี 57,720,000 บาท

ทรัพย์สินของ น.ส.แพทองธาร แบ่งเป็นเงินสด 7,272,743 บาท เงินฝาก 1,081,187,216 บาท เงินลงทุน 11,007,772,574 บาท เงินให้กู้ยืม 15,238,714 บาท ที่ดิน 724,922,982 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 168,615,386 บาท ยานพาหนะ 66,770,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 358,789,334 บาท ทรัพย์สินอื่น 415,639,500 บาท

สำหรับเงินสดของ น.ส.แพทองธาร มีเงินหลายสกุล ทั้งเงินบาท เยน ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และปอนด์สเตอร์ลิง ส่วนเงินฝาก มี 29 บัญชี มูลค่า 1,081,187,216 บาท เงินลงทุนในกองทุนและหุ้นบริษัท 32 แห่ง ส่วนรายการให้กู้ยืม พบว่ามีรายชื่อของ นายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งเป็นพี่ชาย ทำสัญญากู้เงินเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2559 จำนวน 15,238,714 บาท



รายการที่ดิน แจ้งว่ามีทั้งหมด 12 แปลง ที่น่าสนใจคือ ที่ดินใน ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 3 แปลง รวมทั้งหมด 9 งาน 180 ตารางวา รวมมูลค่า 9,900,600 บาท นอกจากนี้ ยังพบว่ามีที่ดินในเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (AZA-TOKIWA AKAIGAWAMURA YOICHI-GUN) ซื้อมาเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2562 มูลค่า 30,000,000 บาท โดยแจ้งถือครองร่วมกับคู่สมรส แจ้งบัญชีคนละ 15,000,000 บาท

ส่วนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง แจ้งว่ามี 9 หลัง แบ่งเป็น 5 ห้องชุด ใน กทม. พร้อมกับมีบ้าน 2 ชั้น จำนวน 2 หลังที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี และ เขตคันนายาว กทม. นอกจากนี้ ยังมีตึกแถว 4 ชั้น ที่ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ในส่วนของยานพาหนะ แจ้งว่ามีรถยนต์ 23 คัน อาทิ ยี่ห้อ BENTLEY รุ่น FLYING SPUR HYBRID มูลค่า 10,600,000 บาท, ยี่ห้อ ROLLS-ROYCE รุ่น PHANTOM มูลค่า 6,700,000 บาท และ ยี่ห้อ TESLA แบบ MODEL X LONG RANGE มูลค่า 3,190,000 บาท

สำหรับรายการสิทธิและสัมปทานที่น่าสนใจ พบว่ามีการเช่าบ้านที่ Flat 11, Knaresborongh house, 7 Knaresborongh Place, London มูลค่า 111,612,250 บาท โดยเป็นสัญญาเช่า ตั้งแต่ 20 ก.พ. 2550 ถึง 24 ธ.ค. 3537 รวมระยะเวลาเช่า 987 ปี และที่ Flat 6, 14 Montpelier street, London มูลค่า 208,342,867 บาท โดยเป็นสัญญาเช่าตั้งแต่ 26 ก.ค. 2560 ถึง 21 ม.ค. 3552 รวมระยะเวลาเช่า 992 ปี นอกจากนี้ ยังมีการจ้างก่อสร้างบ้าน มูลค่า 38,034,227 บาทด้วย

ขณะที่ทรัพย์สินอื่น ประกอบด้วย ทองคำแท่ง จำนวน 75 บาท มูลค่า 3,000,000 บาท นาฬิกา 75 เรือน มูลค่ารวม 162,000,000 บาท ของสะสม (ตุ๊กตาแบร์บริค) 9 ตัว มูลค่า 1,900,000 บาท กระเป๋า 217 ใบ มูลค่า 76,650,000 บาท แหวน 108 วง มูลค่า 31,773,900 บาท เครื่องประดับกำไลข้อมือ 69 เส้น มูลค่า 28,559,700 บาท เครื่องประดับสร้อยคอ 67เส้น มูลค่า 35,675,400 บาท ต่างหู 205 คู่ มูลค่า 49,330,500 บาท เครื่องแต่งกาย 167 ชุด มูลค่า 26,750,000 บาท

สำหรับรายการหนี้สินอื่น พบว่า น.ส.แพทองธาร ได้ทำสัญญากู้เงินจาก น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซึ่งเป็นพี่สาว เมื่อ 8 ก.ย. 59 ทั้งหมด 4 รายการ รวม 2,388,724,094 บาท นอกจากนี้ ยังกู้เงินจาก นายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งเป็นพี่ชาย เมื่อ 8 ก.ย. 59 จำนวน 335,420,541 บาท อีกทั้งยังกู้เงิน คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นมารดา เมื่อ 8 ก.ย. 59 จำนวน 136,517,701 บาท และกู้เงิน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นลุง จำนวน 2 รายการ เมื่อปี 2566 รวมจำนวน 1,315,460,000 บาท



อดีตนายกฯ เศรษฐา ทรัพย์สินลดลง

ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี แจ้ง ป.ป.ช. ว่าตนมีทรัพย์สิน 985,437,437 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินของนายเศรษฐา 625,310,943 บาท และคู่สมรส นางพักตร์พิไล ทวีสิน 360,126,494 บาท โดยมีหนี้สินรวม 754,255 บาท

นายเศรษฐา แจ้งทรัพย์สินเป็นเงินสด 1,000,000 บาท เงินฝากจำนวน 48 บัญชี รวมมูลค่า 99,524,406 บาท เงินลงทุน 1,394,738 บาท ในจำนวนนี้เป็นการลงทุนในโทเคนดิจิทัลชื่อ SiriHubA มูลค่า 199,838 บาท ที่ดินมูลค่า 158,400,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 156,423,120 บาท ยานพาหนะมูลค่า 50,000,000 บาท สิทธิและสัมปทาน มูลค่า 22,827,987 บาท และทรัพย์สินอื่น มูลค่า 135,740,700 บาท โดยนายเศรษฐา แจ้งเงินเบิกเกินบัญชี 674,994 บาท

ขณะที่คู่สมรสแจ้งว่ามีเงินสด 1,800,000 บาท เงินฝาก จำนวน 39 บัญชี รวม 38,199,762 บาท เงินลงทุน 58,998,824 บาท ยานพาหนะ รวมมูลค่า 2,050,000 บาท สิทธิและสัมปทาน รวมมูลค่า 759,007 บาท และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมมูลค่า 258,318,900 บาท โดยแจ้งเงินเบิกเกินบัญชี 79,261 บาท

นายเศรษฐา ยังแจ้งอีกว่ามีรายได้ต่อปี 22,730,066 บาท เป็นเงินเดือนค่าจ้างและโบนัส 879,130 บาท เงินบำนาญชราภาพ 49,848 บาท ดอกเบี้ยจากทรัพย์สิน 450,845 บาท ผลประโยชน์หรือผลตอบแทนจากการถือครองโทเคนดิจิทัล 139 บาท รายได้จากบุตร 20,000,000 บาท

ขณะที่รายจ่ายต่อปี รวม 43,198,179 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 7,290,000 บาท ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 1,635,000 บาท และค่าใช้จ่ายในการจัดงานฌาปนกิจของมารดา 24,816,000 บาท


ก่อนหน้านี้ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สินฯ เมื่อพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 67 นายเศรษฐาและคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สิน รวมทั้งหมด 1,018,719,225 บาท

https://www.bbc.com/thai/articles/cd0e8e5vjdko
.....


Thanapol Eawsakul
14 hours ago
·
ถามโง่ๆเลยนะครับ
คนรวยเขากู้เงินกันเองในครอบครัว
อันนี้ถือว่าเป็นปกติไหมครับ
....
สำหรับรายการหนี้สินอื่น พบว่านางสาวแพทองธาร ได้ทำสัญญากู้เงินจากนางสาวพิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซึ่งเป็นพี่สาว เมื่อ 8 ก.ย.59 ทั้งหมด 4 รายการ รวม 2,388,724,094 บาท
นอกจากนี้ ยังกู้เงินจาก นายพานแท้ ชินวัตร ซึ่งเป็นพี่ชาย เมื่อ 8 ก.ย. 59 จำนวน 335,420,541 บาท
อีกทั้งยังกู้เงิน คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นมารดา เมื่อ 8 ก.ย. 59 จำนวน 136,517,701 บาท
และกู้เงิน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นลุง จำนวน 2 รายการ เมื่อปี 2566 รวมจำนวน 1,315,460,000 บาท


เปิดข้อมูล "สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย" หลัง ปค. มหาดไทย ยกข้อกฎหมายขู่! เร่งชี้แจงข้อเท็จจริง "คอร์สอบรมต่างชาติ"



เปิดข้อมูล "สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย" หลัง ปค. มหาดไทย ยกข้อกฎหมายขู่! เร่งชี้แจงข้อเท็จจริง "คอร์สอบรมต่างชาติ"

3 ม.ค. 2568 17:56
โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เปิดข้อมูล "สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย" หลัง กรมการปกครอง มหาดไทย ยกข้อกฎหมายขู่! คุกไม่เกิน 3 ปี/ปรับไม่เกิน 6 หมื่น แถมส่งหนังสือให้สมาคมฯ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวข้องการฝึกอบรมแก่ชาวต่างชาติ หากผิดวัตถุประสงค์ "อธิบดี ปค." จ่อถอนชื่อสมาคมออกจากทะเบียนได้ เผยปี 61 ตั้งเพิ่มประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี เฉพาะวัตถุประสงค์ ข้อ 4.3 ระบุสนับสนุนกองทัพในเรื่องการฝึกคนในชาติให้เป็นกำลังสำรอง

วันนี้ (3 ม.ค.2568) มีรายงานจากระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีสื่อสังคมออนไลน์ ระบุมีการเปิดคอร์ส "อบรมตำรวจอาสาคนจีน" โดยมีรายชื่อ สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดน และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างเกี่ยวกับภารกิจของสมาคมนั้น

ล่าสุด น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย ระบุ กระทรวงมหาดไทย โดยส่วนทะเบียนมูลนิธิและสมาคม (สมส.) สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบในเบื้องต้น

พบชื่อ "สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย" จดทะเบียนจัดตั้ง เลขทะเบียนที่ จ.1697 เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2523 สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 84/12 หมู่ 7 ซอยทองปาน 1 ถนนท่าข้าม แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ

สำหรับกรณีที่ปรากฏข่าวกรณีสมาคมเข้าไปเกี่ยวข้องกับคอร์สอบรมแก่ชาวต่างชาติ หากสมาคมฯ ได้ดำเนินการจริง อาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสมาคม โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ของสมาคมข้อ 4.3 ที่กำหนดว่า สนับสนุนกองทัพในเรื่องการฝึกคนในชาติให้เป็นกำลังสำรอง

กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือให้สมาคมชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งหากพบว่าสมาคมดำเนินกิจการขัดต่อกฎหมายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรืออาจเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชนหรือความมั่นคงของรัฐ

"อธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะนายทะเบียนสมาคมมีอำนาจสั่งถอนชื่อสมาคมออกจากทะเบียน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 102 ต่อไปได้"

นอกจากนี้ หากพบว่ากรรมการของสมาคมผู้ใดดำเนินกิจการผิดวัตถุประสงค์ของสมาคม และการดำเนินกิจการนั้นเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ

จะมีความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 56 พ.ร.บ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ

ขณะที่ข้อมูลกรมการปกครอง ระบุถึง "สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย" ที่จดทะเบียนเมื่อปี 2523 ล่าสุดมีการประกาศโดยนายทะเบียนสมาคมกรุงเทพมหานคร เรื่อง จดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม [สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย อักษรย่อ สกร หรือ TDRF]

ล่าสุดเมื่อ พ.ย.2562 พบว่า มีชื่อ นาย ส. เป็นนายกสมาคม มีผู้ร่วมก่อตั้ง 4 ราย ได้ยื่นคําร้องขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติม ข้อบังคับของสมาคมล่าสุดเมื่อ 6 พ.ย. 2562 ยังพบว่า ในปี 2561 มีการจดจัดตั้งสมาคม ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีสมาชิก เริ่มต้น 3 ราย

มีวัตถุประสงค์ 9 ข้อ เฉพาะข้อ 4.3 กำหนดว่า สนับสนุนกองทัพในเรื่องการฝึกคนในชาติให้เป็นกำลังสำรอง

ขณะที่รายได้ของสมาคม ข้อ 34.3 ระบุว่า มาจากการฝึกอบรม หรือจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคม

ในส่วนของสมาชิกสามัญ ข้อ 6.3 เป็นนายทหารตั้งแต่ชั้นสัญญาบัตร หรือ ข้าราชการระดับ 3 ขึ้นไป หรือ ผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารพิเศษ ทั้งในและนอกประจำการ

อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่า สมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดน ได้จดทะเบียนกับขึ้นตรงกับหน่วยงานราชการทหารแต่อย่างใด

เช่นเดียวกับรายงานข่าวจากกองทัพบก ระบุว่า เป็นเพียงกลุ่มคนที่ ร่วมกันไปจดทะเบียนขึ้นเป็นสมาคม แต่มีชื่อพ้องกับหน่วยงานสังกัด หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน กองทัพบก ทำให้มีการเชื่อมโยงเกี่ยวข้องคนสีเขียว

อีกทั้งสมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดน มีชุดการแต่งกายคล้ายชุดผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร ที่ทางกองบัญชาการรักษาดินแดน ได้ฝึกอบรมให้กับครู อาจารย์ และผู้บริหารสถาบันการศึกษา เพื่อให้ไปกำกับดูแลนักศึกษาในสถาบันของตนเอง

โดยมีการจัดอบรม และมอบใบประกาศนียบัตรถูกต้อง เมื่อเห็นการแต่งกายประชาชนที่ไม่เข้าใจก็คิดว่าเป็นหน่วยงานทหาร

ขณะที่ โซเชียลมีเดีย ที่ทำขึ้นภายใต้ชื่อ สมาคมกำลังรักษาดินแดนไทย ที่มีการเคลื่อนไหวสุดท้าย เมื่อ 6 ปีก่อน เช่น มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ โดยจัดขึ้นที่สโมสรทหารบก วิภาวดีรังสิต.

https://mgronline.com/politics/detail/9680000000765






 

รันทุกวงการ! อึ้งโครงการอบรมคนจีนลามวงการทหาร ใส่เครื่องแบบเขียวขี้ม้า-ชุดขาวร่วมงานพิธีฯฉ่ำ แถมมีพิธีประดับยศในสโมสรทหารบก



อึ้งอบรมคนจีนลามวงการทหาร ใส่เครื่องแบบประดับยศ-ร่วมพิธีฯฉ่ำ

3 ม.ค. 2568
PPTY Online

รันทุกวงการ! อึ้งโครงการอบรมคนจีนลามวงการทหาร ใส่เครื่องแบบเขียวขี้ม้า-ชุดขาวร่วมงานพิธีฯฉ่ำ แถมมีพิธีประดับยศในสโมสรทหารบก

หลังจากเมื่อวานนี้ ทีมข่าว PPTVHD36 เปิดข้อมูลเรื่องหลักสูตรอบรมอาสาตำรวจคนจีน ซึ่งมีการเก็บค่าอบรมหัวละ 38,000 บาท โดยมีตำรวจ กก.สส.บก.น.3 เป็นวิทยากร หลังจบหลักสูตรมอบเสื้อกั๊กตำรวจ บัตรอาสาตำรวจ ที่มีสัญลักษณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยระบุว่าเป็นสมาชิกแจ้งเหตุข่าวอาชญากรรมและการจราจร จนกลายเป็นประเด็นร้อนที่คนในสังคมต่างตั้งคำถามทำได้หรือไม่

ล่าสุดวันนี้ เพจ"บิ๊กเกรียน" เปิดเผยภาพชายคนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดข้าราชการ ชุดขาว และอีกภาพแต่งกายคล้ายเครื่องแบบทหาร



พร้อมระบุข้อความ “คนจีนฉ่ำ ​จีนแต่งชุดคล้ายข้าราชการ​ ร่วมงานสำคัญๆ กลุ่มนักธุรกิจอสังหา​ริมทรัพย์​ชาวจีนและเอเจนซี ถือวีซ่านักเรียน เข้าอบรมหลักสูตรต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบ โดยเฉพาะคนจีนชื่อ #นายพันติ๊ก เป็นเอเจนซี”

ซึ่งเพจ “บิ๊กเกรียน” เปิดเผยภายหลังว่า ชายจีนที่เคลมตัวเองว่า เป็นนายพันติ๊ก ป้ายชื่อที่หน้าออกเขียนว่า "ลีหมิง" โดยจะเห็นว่าภาพที่เพจ “บิ๊กเกรียน” นำมาเปิดเผยนั้น นายลี หมิง คนนี้แต่งชุดขาวดูกลมกลืนกับข้าราชการคนอื่นๆ ถ่ายภาพตอนไปร่วมงานพิธีสำคัญ ในภาพน่าจะเป็น พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก เชิงสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์หรือสะพานพุทธฯ น่าจะเป็นพิธีวางพานพุ่ม

และอีกหลายภาพ นายลีหมิง แต่งชุดสีเขียวขี้ม้าแขนยาว คล้ายเครื่องแบบทหาร โดยเพจ “บิ๊กเกรียน” ให้ข้อมูลในเพจเพียงว่า “โฉมหน้านายพันติ๊ก ​หนุ่มจีน อาชีพเอเจนซี​ทำอสังหาริมทรัพย์​(ขายคอนโด​มิ​เนียม)​ เคลมตัวเองว่าเป็นนายพันติ๊ก”

และอีกโพสต์เป็นภาพหมู่ถ่ายหน้าตึกกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งเพจ “บิ๊กเกรียน” ระบุว่า "ตรวจสอบ ผู้พันติ๊ก คนจีน ด้วย ชักชวนเข้าคอร์ส อบรมสมาชิกรักษาดินแดน" ตามมาด้วยภาพในพิธีประดับยศ โดยเพจ “บิ๊กเกรียน” ระบุว่า “ผู้พันติ๊ก จัดคนจีน เข้าร่วมคอร์ส​ กันมาตั้งแต่ปี62 ​ตีเนียน เข้าร่วมอบรม กับ สมาคมแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย ภาพในงานพิธีประดับเครื่องหมายเลื่อนชั้นตำแหน่ง เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 23 กุมภาพันธ์ ปี'62 ณ ชั้น 2 ของสโมสร แห่งหนึ่ง แถวๆ ถนนวิภาวดี​รังสิต​”


เจาะเครื่องแบบคนจีนแต่งตัวคล้ายทหาร

ทั้งนี้จากภาพที่ เพจ “บิ๊กเกรียน” นำมาเปิดเผย ทีมข่าวพยายามจะดูรายละเอียดว่า เครื่องแบบที่ นายลี หมิง ใส่ คือเครื่องแบบหน่วยใด สังกัดใดกันแน่ ไล่ตั้งแต่สีของชุดที่ นายลีหมิงใส่ เป็นสีเขียวขี้ม้า ซึ่งเป็นสีประจำของทหารบก

ส่วนที่บริเวณบ่า มีการใส่อินทรธนู ลักษณะคล้ายกับอินทรธนูของผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร แต่ไม่ใช่ เพราะถ้าอินทรธนูของผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารจะไม่มีเส้นขีดกลาง โดยทีมข่าวก็ตั้งข้อสังเกตอีกหรือว่าจะเป็นอินทนูของทหาร ยศใดตำแหน่งใด จึงเอาไปถามทหารจริงๆ ซึ่งก็ได้คำตอบว่า ทหารไทยไม่มีอินทรธนูลักษณะนี้

ส่วนเครื่องหมายที่บริเวณหน้าอก มีการติดเครื่องหมายและเหรียญหลายอย่าง อันแรกคือเครื่องหมายผ่านการกระโดดร่ม หรือกระโดดหอ ติดที่หน้าอกเสื้อด้านขวา ถัดลงมาเป็นป้ายชื่อเขียนว่า ลี หมิง

ส่วนหน้าอกเสื้อด้านซ้าย ติดเครื่องหมายแถบ หรือแพแถบข้าราชการ ซึ่งเมื่อไปเทียบดูกับแพแถบข้าราชการทหารยศต่างๆก็ไม่มีแบบนี้เพราะส่วนใหญ่แพแถบทหารยศต่างๆจะมีแค่ 2 แถว แต่ของนายลีหมิง กลับมี 3 แถว แต่ถ้าชุดสีเขียวแบบเต็มตัว ชุดของ นายลีหมิง ดูคล้ายชุดผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารมากที่สุด


เครื่องแบบคนจีนแต่งตัวคล้ายทหาร

นอกจากข้อมูลจากเพจ บิ๊กเกรียน ทีมข่าว PPTVHD36 ยังไปค้นเจอคลิปที่ถูกโพสต์ในติ๊กต๊อก เป็นคลิป ของผู้หญิงคนจีนคนหนึ่งที่เป็นนักร้อง มาทำงานสอนร้องเพลงในประเทศไทย และมักจะไปอบรมหลักสูตรต่างๆ โดยปรากฏภาพที่เธอใส่ชุดเครื่องแบบลักษณะเป็นชุดขาว มีการติดเครื่องหมายตราสัญลักษณ์ต่างๆ คล้ายชุดปกติขาวของข้าราชการไทย

นอกจากนั้นยังปรากฏคลิปการอบรมของสมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดน หลักสูตร “ผู้กำกับกำลังสำรองรักษาดินแดน” โดยมียศเรียกชื่อนำหน้าว่า “ผู้กำกับตรี” ใส่ชุดเครื่องแบบเต็มยศ ขึ้นประดับเครื่องหมายผู้สำเร็จการอบรม หลักสูตร“ผู้กำกับกำลังสำรองรักษาดินแดน” รุ่นที่ 34 ห้อง เทวกรรมรังรักษ์ สโมสรทหารบก วิภาวดี

ทั้งนี้หากดูจากคลิป ป้ายหลังเวที เขียนสมาคมกำลังสำรองรักษาดินแดนไทย ทีมข่าวจึงนำชื่อนี้ไปค้นในเฟซบุ๊ก ก็พบว่า มีสมาคมนี้จริง เมื่อ 7 สิงหาคม 2565 มีการโพสต์ เข้ารับการฝึกอบรม หลักสูตร "ผู้กำกับกำลังสำรองรักษาดินแดน" รุ่นที่ 34 ประจำปี 2565 จริง (ตรงกับรุ่นที่หญิงชาวจีนโพสต์คลิป) โดยรายละเอียดการรับสมัคร มีการบอกวัตถุประสงค์ คุณสมบัติของผู้สมัครไว้อย่างละเอียด รวมถึง ค่าใช้จ่ายในการสมัคร 54,500 บาทต่อคน


อบรมคนจีนแต่งตัวคล้ายทหาร แถมมีพิธีประดับยศ

ซึ่งในคุณสมบัติผู้สมัครน่าสนใจ เช่น

-สุภาพบุรุษ หรือสุภาพสตรี
-อายุไม่ต่ำกว่า 30ปี
-เป็นเจ้าของกิจการ หรือผู้บริหารระดับสูงขององค์กรธุรกิจ

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1/239898



ต้อนรับปี 2025 ด้วยคำถามยั่วๆ จาก อ.ปวิน คุยกับ อ.ชาญวิทย์ เรื่องชีวิต การเดินทาง และเรื่องการเมือง


Ep.133 ต้อนรับปี 2025 ด้วยกันค่ะ

Pavin

Jan 3, 2025 
สวัสดีปีใหม่ค่ะเพื่อนๆ วันนี้ ดิชั้นได้รับเกียรติจากอาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อีกแล้ว อาจารย์แวะมาทำธุระที่เมืองโอกินาวา เลยพักผ่อนต่อที่เกียวโต วันนี้เราคุยกันเรื่องชีวิต การเดินทาง และเรื่องการเมือง อาจารย์มองอนาคตการเมืองไทยบนความไม่แน่นอน โดยเฉพาะในการเลือกตั้งที่ผ่านมา อาจารย์สนับสนุนพรรคก้าวไกล เลยไม่แน่ใจว่า พรรคนี้จะโดนอะไรในอนาคตอีกไหม นอกจากนี้ เรายังคุยเรื่องประวัติศาสตร์ อาจารย์ตั้งคำถามว่า เพราะไทยไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้น เลยมีการพัฒนาช้า จริงหรือไม่ ยั่วๆ ด้วยคำถามแบบนี้ตั้งแต่ต้นปีเลยค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=Vrk7otk96Eg


แล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่หลายคนอาจคาดการณ์ไว้ว่า ต้องมีซักวัน พี่น้องวิวัชรวงศ์ได้กลับมาเยือนประเทศไทยกันครบแล้ว คุณอ้น-วัชเรศร ได้พาพี่ชายและน้องชาย คุณอ้วน-จุฑาวัชร และคุณอิน-วัชรวีร์ เดินทางจากสหรัฐอเมริกา ถึงยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3 มกราคม 2568


Royal World Thailand - รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย
10 hours ago
·
แล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่หลายคนอาจคาดการณ์ไว้ว่าต้องมีซักวัน ต้องมีซักวัน ท่องคำเติมฝัน ปลอบใจรอวันที่คอยแสนไกล วันที่ทุกอย่างเปิดทางให้สมดังใจ ถึงนานเพียงใดหัวใจจะคอยจะทน พี่น้องวิวัชรวงศ์ได้กลับมาเยือนประเทศไทยกันครบแล้ว คุณอ้น-วัชเรศร ได้พาพี่ชายและน้องชาย คุณอ้วน-จุฑาวัชร และคุณอิน-วัชรวีร์ เดินทางจากสหรัฐอเมริกา ถึงยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการในวันนี้ (3 มกราคม 2568)
เป็นการรวมตัวสี่พี่น้องวิวัชรวงศ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว กับอดีตหม่อม สุจาริณี วิวัชรวงศ์ กลับแผ่นดินเกิดอีกครั้งในรอบกว่า 30 ปี ขณะที่คุณอ่อง-จักรีวัชร ได้พำนักอยู่ในประเทศไทยถาวรและเริ่มประกอบอาชีพอาจารย์แพทย์แล้วเช่นกัน จึงเป็นที่จับตามองเริ่มตั้งแต่ปีใหม่นี้เลยว่า เมื่อรวมตัวรึยูเนี่ยนกันอย่างเป็นทางการแล้ว บทบาทของทั้งสี่พี่น้องจะเป็นไปในทิศทางไหนต่อไป
หลายคนอาจได้เห็นคุณอ้น และคุณหมออ่องในหน้าสื่อบ่อยครั้งโดยเฉพาะตั้งแต่กลับมาประเทศไทย หากแต่น้อยคนที่จะได้เห็นคุณอ้วน และคุณอิน นอกจากจะมีเพียงภาพถ่ายที่เผยแพร่ในช่วงปีใหม่หรือโอกาสสำคัญเท่านั้น
ซึ่งตลอดเวลาที่พำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกานั้น คุณอ้วน พระราชโอรสคนโต ซึ่งจบการศึกษาด้านอุตสาหกรรรมการบินและอวกาศ ได้ทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทอุตสหกรรมการบินยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ที่เมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่คุณอิน พระราชโอรสคนเล็ก ซึ่งจบการศึกษาด้านกฎหมายและบริหารธุรกิจ ได้ทำงานที่ธนาคาร ยูเอสแบงค์ เมืองมินิอาโปลิส รัฐมินิโซตา
นับเป็นเหตุการณ์และก้าวสำคัญรับปีใหม่ของพระราชสำนักไทย แม้หลายคนก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าไม่อาจเป็นไปได้ หากแต่วันนี้ได้มาถึงแล้ว วันที่ดรีมทีมรวมตัวกันในบ้านเกิดอีกครั้ง หลายฝ่ายเริ่มจับตามองกันหนักขึ้นไปอีกว่า จะมีเหตุการณ์ใดสำคัญที่เกิดขึ้นอันเกี่ยวเนื่องกับพระราชสำนักหรือไม่
แม้หลายคนเชื่อและมั่นใจว่าทุกอย่างในราชสำนักได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว แม้จะกลับมากันครบก็ไม่อาจกระทบใดๆภายใน หากแต่เชื่อว่าหลายคนยังตื่นเต้นหรือหวาดหวั่น สี่พี่น้องจะรวมตัวกันไปกินร้านชายสี่หมี่เกี๊ยวที่ใดหรือไม่ จึงเป็นที่ติดตามกันต่อไป

https://www.facebook.com/photo?fbid=1012631234231161&set=a.2282931891811851



วันศุกร์, มกราคม 03, 2568

ฝุ่น พีเอ็ม ๒.๕ มาแล้วนะ ‘แผนฉุกเฉิน’ แก้ปัญหาฝุ่น อันเป็นวาระแห่งชาติจะออกได้กี่โมง พ้นเส้นตายที่ศาลปกครองให้ไว้ มาแล้ว ๒๐ วัน

เข้าปีใหม่เต็มตัว ก็เจอฝุ่น พีเอ็ม ๒.๕ กันละนะ กรุงเทพฯ เริ่มแล้ว เชียงใหม่กำลังตามมา รัฐบาล แม้วอิ๊งประกาศว่าแผนกำจัดฝุ่นจิ๋วเป็นวาระแห่งชาติ แต่ แผนฉุกเฉินแก้ปัญหาฝุ่นยังไม่ออกมา แม้นว่าคำสั่งศาลปกครองให้ต้องเสร็จตั้งแต่ ๑๒ ธันวานั่นแล้ว

เมื่อ ๑๒ กันยา ๖๗ “ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น โดยไม่ต้องรอจนกว่าคดีจะถึงที่สุด” ตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นเมื่อ ๑๙ มกรา ๖๗

นั่นเป็นคดี ฝุ่นภาคเหนือ ที่ศาลฯ มีคำสั่งให้ “นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จัดทำ แผนฉุกเฉินเพื่อป้องกัน ควบคุม แก้ไข บรรเทา หรือระงับภยันตรายอันเกิดจากฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐานในภาคเหนืออย่างเร่งด่วน”

ซึ่งให้เวลาดำเนินการ ๙๐ วัน แต่ผ่านเส้นตายมาแล้ว ๒๐ วัน ไม่มีทีท่าว่ามาตรการฉุกเฉินดังกล่าวจะออกได้เมื่อไร เนื่องจาก “ปัจจุบันเรื่องอยู่ในระหว่างการรอลงนาม ของผู้บังคับบัญชากรมควบคุมมลพิษ” และมิอาจทราบว่ากี่โมงการเซ็นชื่อจะมีได้

ในขณะที่ แผนฝุ่นระดับชาติที่ประกาศใช้กันมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ ก็สิ้นสุดไปแล้วพร้อมกับวันสิ้นปี ๒๕๖๗ ปัญหาขณะนี้คือ “ภาครัฐไม่ได้ทำให้ประชาชนเห็นว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในระดับใดที่รัฐจะเรียกว่าฉุกเฉิน” และแผนการรับมือจริงๆ เป็นเช่นไร

กรีนพีซ ประเทศไทย ระบุว่า การยื่นอุทธรณ์ของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานนั้น แสดงถึงความไม่จริงใจต่อการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ที่คุกคามสุขภาพของคนเหนืออย่างรุนแรง”

วัชลาวลี คำบุญเรือง ทนายความจากมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ผู้รับผิดชอบคดีภาคเหนือ ปริวิตกว่า “เวลาที่ฝุ่นภาคเหนือมา มันไม่ได้มาในระดับสีแดงหรือสีส้ม แต่มาระดับสีม่วง แล้วก็ฝุ่นข้ามแดน” อีก เขาต่างตั้งตารอมาตรการของรัฐบาลอยู่

แผนรับมือฝุ่นในปี ๖๘ ของรัฐบาล “มุ่งเป้าไปที่การลดการเกิดไฟในป่า มาตรการทางสาธารณสุขรองรับคนป่วยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการรับมือในเชิงป้องกันมากกว่ามาตรการในภาวะฉุกเฉิน” แล้วมาตรการนี้ก็ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นจากคนในท้องที่

โดยเฉพาะในเรื่องระบบแจ้งเตือนไม่แข็งขันพอ ทนายคดีฝุ่นภาคเหนือแนะว่า “รัฐบาลควรจะมีการแจ้งเตือนที่เข้มข้นมากขึ้น ทำให้คนตะหนักได้ว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆ” เหล่านี้จะอ้างว่ามีแผนแล้ว แต่มันจะออกมาไม่ทันฝุ่นละสิ

เนื่องเพราะผู้บังคับบัญชาหน่วยงานรับผิดชอบไม่เซ็นประกาศใช้เสียที

(ภาพประกอบจากการชุมนุมลงชื่อร่วมยื่นฟ้องคดีฝุ่นภาคเหนือเมื่อปี ๖๖ ซึ่งมีผู้ลงชื่อ ๗๒๗ คน  https://prachatai.com/journal/2025/01/111895)

ในขณะที่ทั่วโลกต่อต้านสถานีตำรวจลับของจีน ตร.ไทยจัดอบรม มอบชุดเครื่องแบบ และตราสัญลักษณ์ให้คนจีนที่ผ่านการอบรม 3 วัน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ มันจะได้เหรอ? กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า จีนใช้สถานีโพ้นทะเลเหล่านี้ เพื่อข่มขู่และสังเกตการณ์ชาวจีนที่อาศัยในต่างประเทศ





สถานีตำรวจลับของจีนที่มีกว่า 100 แห่งทั่วโลกคืออะไร ทำไมชาติตะวันตกถึงต่อต้าน


ข้อมูลระบุว่า จีนมีสถานีตำรวจลับกว่า 100 แห่งทั่วโลก แต่ยังไม่พบในไทย

18 เมษายน 2023
บีบีซีไทย

อัยการสหรัฐฯ ได้จับกุมชายสองคนในนครนิวยอร์ก ฐานตั้ง “สถานีตำรวจลับ” ในย่านไชนาทาวน์ของแมนฮัตตัน

อัยการเปิดเผยว่า หลู เจียนหวัง วัย 61 ปี และ เฉิน จินปิง วัย 59 ถูกแจ้งข้อหาทำการสมรู้ร่วมคิดเพื่อปฏิบัติตนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนโดยไม่ได้แจ้งต่อทางการสหรัฐฯ และในข้อหาขัดขวางกระบวนการยุติธรรม

พวกเขามีกำหนดขึ้นศาลรัฐบาลกลางในบรูคลิน ภายในวันนี้ (18 เม.ย.)

รัฐบาลจีนปฏิเสธไม่ได้จัดตั้งสถานีตำรวจเช่นนี้ โดยอ้างว่า เป็น “ศูนย์บริการ” สำหรับชาวจีนโพ้นทะเล

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า “นายหลิวแห่งบร็องซ์” และ “นายเฉินแห่งแมนฮัตตัน” ร่วมกันจัดตั้งสถานีตำรวจสำหรับชาวจีนในสหรัฐฯ ตามคำสั่งของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของรัฐบาลจีน

สถานีตำรวจลับแห่งนี้ ถูกปิดลงช่วงฤดูใบไม้ร่วง เมื่อปี 2022 หลังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ถูกสำนักสอบสวนกลางสหรัฐฯ หรือเอฟบีไอ สืบสวน

“คดีนี้เปิดโปงถึงการกระทำของรัฐบาลจีนที่ละเมิดอธิปไตยของสหรัฐฯ ด้วยการจัดตั้งสถานีตำรวจลับใจกลางนครนิวยอร์ก” บรีออน เพียซ อัยการในบรูคลิน กล่าว

สถานีตำรวจลับจีน คืออะไร ?

รัฐบาลสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศเชื่อว่า จีนมีสถานีตำรวจลับอย่างน้อย 100 แห่งใน 53 ประเทศทั่วโลก รวมถึงสหราชอาณาจักร และเนเธอร์แลนด์

“รัฐบาลจีนกระทำการล้ำเส้น จนยากที่จะยอมรับได้ เราจะพิทักษ์เสรีภาพของประชาชนที่อาศัยในประเทศของเรา จากภัยคุกคามจากการกดขี่ของเผด็จการ” ผู้ช่วยอัยการสูงสุด นายแมทธิว โอลเซน จากแผนกความมั่นคงแห่งชาติของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าว

ตามข้อมูลของอัยการสหรัฐฯ นายหลู เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายของจีน และได้รับการชักชวนให้มาช่วยรัฐบาลจีน ดำเนิน “การกระทำที่กดขี่” ในสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่ปี 2015 นั่นรวมถึงการคุกคามผู้เห็นต่างที่อาศัยในสหรัฐฯ ด้วย


นายหลู ออกมาจากศาลบรูคลิน

เมื่อปี 2018 นายหลูเผชิญข้อกล่าวหาว่า พยายามผลักดันให้ชาวจีนที่ลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ กลับไปประเทศจีน รวมถึงการรังควาน ข่มขู่ คุกคาม บุคคลและครอบครัวที่อาศัยในจีนและสหรัฐฯ ไม่เพียงเท่านั้น อัยการสหรัฐฯ ระบุว่า นายหลูถูกชักชวนจากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน เพื่อควานหานักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนประชาธิปไตยในจีน อย่างไรก็ดี นายหลูปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีเหล่านี้

ทางการสหรัฐฯ ได้สอบปากคำนายหลู และนายเฉิน เมื่อเดือน ต.ค. 2022 หลังเอฟบีไอดำเนินการตรวจค้นสถานที่ที่เชื่อว่าเป็นสถานีตำรวจลับ โดยมีการยึดโทรศัพท์มือถือไป

นายหลูและนายเฉินยอมรับว่า ได้ลบข้อมูลการติดต่อกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ ซึ่งอัยการสหรัฐฯ เชื่อว่า อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการลับในแผ่นดินสหรัฐฯ

หากศาลตัดสินว่านายหลูและนายเฉินมีความผิดจริง พวกเขาอาจต้องโทษจำคุกถึง 25 ปี

จีนชี้ เป็นเพียง “ศูนย์บริการ”

สถานทูตจีนในสหรัฐฯ และแคนาดา ระบุว่า สถานที่ที่เป็น “ศูนย์บริการโพ้นทะเล” ถูกเปิดขึ้นในช่วงที่โลกเผชิญการระบาดของโควิด เป้าประสงค์ของสถานีเหล่านี้ คือ สนับสนุนชาวจีนที่อยู่ในต่างประเทศ อาทิ การต่อใบขับขี่ และปัญหาอื่น ๆ

แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า จีนใช้สถานีโพ้นทะเลเหล่านี้ เพื่อข่มขู่และสังเกตการณ์ชาวจีนที่อาศัยในต่างประเทศ

ในความเป็นจริงแล้ว รัฐบาลจีนได้ลงนามในข้อตกลงทวิภาคีด้านการตรวจการของตำรวจในต่างประเทศ กับรัฐบาลหลายประเทศ นับแต่ปี 2015 รวมถึงประเทศอิตาลีด้วย

ช่วงปี 2016-2018 ตำรวจอิตาลีได้ดำเนินการตรวจการร่วมกับตำรวจจีนหลายครั้ง รวมถึงในกรุงโรม และเมืองมิลาน ก่อนขยายไปยังอีกหลายเมือง

เซฟการ์ด ดีเฟนเดอร์ ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่ไม่แสวงผลกำไร ก่อตั้งขึ้นและมีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสเปน เพื่อสังเกตการณ์กรณีบังคับสูญหายในจีน ระบุว่า พบหลักฐานว่ามีการติดระบบกล้องวงจรปิดตามชุมชนของชาวจีน ที่อ้างว่า “เพื่อป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”

นายหลูในศาล


ประเทศที่มีสถานีตำรวจลับของจีนอยู่

ในปี 2016 ตำรวจอิตาลีระบุว่า การร่วมมือกับตำรวจจีน จะนำไปสู่ “ความร่วมมือในระดับสากลมากขึ้น รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลและทรัพยากร เพื่อจัดการกับกลุ่มอาชญากรและก่อการร้าย ที่มุ่งทำร้ายประเทศต่าง ๆ” และในตอนนี้ เซฟการ์ด ดีเฟนเดอร์ ตรวจพบว่า มีสถานีตำรวจลับจีนอยู่ในอิตาลี 11 แห่ง รวมถึงในเมืองเวนิส และปราโต อีกด้วย

สถานีตำรวจจีนแห่งหนึ่งในกรุงโรม ถึงกับจัดพิธีเปิดโดยมีเจ้าหน้าที่อิตาลีเข้าร่วมด้วยในปี 2018 อ้างอิงจากวิดีโอที่โพสต์บนเว็บไซต์ของจีน แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างตำรวจสองประเทศ

ไม่เพียงเท่านั้น ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า จีนได้ดำเนินข้อตกลงในลักษณะคล้ายกันกับประเทศโครเอเชีย และเซอร์เบีย ระหว่างปี 2018-2019 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน

ตามข้อมูลของ เซฟการ์ด ดีเฟนเดอร์ สถานีตำรวจลับ (และไม่ลับในบางประเทศ) ตั้งอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในทวีปเอเชียด้วย ไม่ว่าจะเป็น กัมพูชา (2 แห่ง) ญี่ปุ่น (1) เกาหลีใต้ (1) เมียนมา (2) บรูไนดารุสซาลาม (1) แต่ยังตรวจไม่พบว่ามีในประเทศไทยหรือไม่

https://www.bbc.com/thai/articles/cekrkmlgdr8o
.
https://x.com/pipob69/status/1874723676823970008



ความเป็นมา ความคิดเสรีนิยมท้าทายอนุรักษ์นิยม


เสรีความคิดท้าทายอนุรักษ์นิยม (3 เม.ย.62)

Thai PBS

Apr 3, 2019

https://www.youtube.com/watch?v=5jQfQA_lueg
.....

https://www.facebook.com/watch/?v=1976635112848478

THE STANDARD
was live.
11 hours ago
·
เจาะผลนิด้าโพล เท้งขึ้นอันดับ 1 - พีระพันธุ์คะแนนขึ้น สัญญาณอนุรักษนิยมตื่น?
คุยกับแขกรับเชิญ 2 ท่าน
- รศ. ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า (NIDA)
- รศ. ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
พบกันในรายการ THE STANDARD NOW กับ อ๊อฟ ชัยนนท์ วันที่ 2 มกราคม 2568 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD



พระไทย : พระครู ถีบสังฆทาน เปิดใจ กูเป็นเจ้าอาวาส กูมีสิทธิ ไม่สลด ด่าสีกา มันจะมาสอนพระ ปลดแล้ว!


https://www.facebook.com/watch/?v=1095054868829191





 https://x.com/Thairath_TV/status/1874349845315829973


ว่อนโซเชียล! คอร์สอบรมอาสาตำรวจคนจีน จ่ายเงิน 3.8 หมื่นบาท ด้านมหาวิทยาลัย แจงแล้ว มีการอบรมล่ามจริง เพื่อช่วยประสานงานตำรวจ แต่ไม่มีเรียกเก็บเงิน เชื่อมีคนแอบอ้างโครงการ





 https://x.com/MorningNewsTV3/status/1874791985825087591



ทนายแจม สส. กทม. พรรคประชาชน โพสต์แฉอบรมอาสาตำรวจจีน จ่ายค่าคอร์ส 38,000 บาท แค่ 3 วัน ได้ใบรับรอง-บัตรโลโก้ ตร. ล่าสุดตำรวจชี้แจงแล้ว

https://www.facebook.com/watch/?v=1740674830052819





 https://x.com/lawyerJammy/status/1874721780914659648



👨🏻‍⚖️ ฟัง กฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง ทนายความสิทธิมนุษยชน เล่าถึงการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมภายหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 สมัยเมื่อครั้งที่ตนยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอัพเดทสถานการณ์การพิจารณาคดีมาตรา 112 ในปัจจุบัน

https://www.facebook.com/watch/?v=384732571397229
iLaw
16 hours ago
·
ฟัง กฤษฎางค์ นุตจรัส หรือทนายด่าง ทนายความสิทธิมนุษยชน เล่าถึงการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมภายหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 สมัยเมื่อครั้งที่ตนยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอัพเดทสถานการณ์การพิจารณาคดีมาตรา 112 ในปัจจุบัน
.
เนื้อหาในคลิปเป็นส่วนหนึ่งจากงานเสวนา “เส้นทางนิรโทษกรรมทางการเมืองและคดีมาตรา 112” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 ที่ Kinjai Contemporary
.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ilaw.or.th/articles/47113


Preview : พรุ่งนี้ 1 ทุ่ม ช่อง Pavin อาจารชาญวิทย์มาคุยเรื่องการเมือง รักแดง เสียดายส้ม สุดท้าย ฝันสลาย 55555

https://www.facebook.com/watch/?v=476226375498989
.....

https://www.facebook.com/watch/?v=1772486680245645


สวัสดีปีใหม่จากไอ่เด็ก(ดื้อ)


Tawan Tantawan
19 hours ago
·
เข้าสู่ปี 2025 มาแบบเร่งรีบและไม่ทันตั้งตัว
เพราะมัวแต่เตรียมงานเสวนาของวันที่ 6 มกรา
2024 ผ่านมาแบบใจร้ายเกินไป
จริงๆคุยกับพี่บุ้งไว้ว่า
“ถ้ามีโอกาสได้ออกจากคุกมาด้วยกัน จะไปเที่ยวกันให้เยอะๆ ไปหาอะไรอร่อยๆกิน”
พูดง่ายๆก็คือไปใช้ชีวิตของเรานั่นแหละ
แต่มันกลับไม่เป็นไปแบบที่เราคุยกันไว้
สำหรับคนที่ยังอยู่แบบนี้
มันเลยเป็นเหมือนฝันร้ายที่จะทิ่มแทงเราเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
บางทีก็เหมือนจะดีขึ้นมาบ้างนิดหน่อย
แต่บางทีน้ำตาก็ไหลออกมาแบบไร้เหตุผล
เหมือนว่าความเจ็บปวดมันยังคงอยู่ตลอด
พูดตามตรงว่าหนทางมันดูว่างเปล่า
เพราะขนาดผู้ใหญ่ที่มีอำนาจยังกลัวระบบอยู่เลย
และบอกตามตรงว่าตัวหนูเองก็ไม่รู้อะไรเลย
ไม่รู้ต้องทำยังไง
แต่ขอบคุณและดีใจที่ยังมีผู้ใหญ่ใจดีอยู่บ้าง
ส่วนไอ่เด็ก(ดื้อ)ที่ไม่มีอำนาจอะไรแบบเราก็อยากทำให้เต็มที่ เพราะเชื่อว่าถ้าคนที่จากไปเป็นเรา พี่บุ้งก็คงจะพยายามทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เหมือนกัน
ยังไงใครสะดวกมางานเสวนาวันที่ 6 มกรา ที่ FCCT เวลา 17.00น.-19.20น. และร่วมจับตาการไต่สวนการเสียชีวิตของพี่บุ้งวันที่ 13 มกรา ที่ศาลธัญบุรี เวลา 13.00น. ก็เชิญชวนนะคะ อยากให้มากันเยอะๆเลย
2025 ไม่รู้จะเป็นยังไง แต่ยังไงก็สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกคน ขอให้ 2025 ใจดีกับทุกๆคนนะคะ
ภาพโดย แมวส้ม

https://www.facebook.com/photo/?fbid=945234180882038&set=a.117374607001337


กรุงเทพรีวิว รีวิว บรรยากาศงานเค้าดาวน์เมื่อคืนที่เกิดขึ้น ลิซ่าก็ร้องแบบจัดเต็มเป็นมินิคอนเสิร์ตเลย แต่สิ่งที่แอดรู้สึกได้ มันเกิดอะไรขึ้นกับระบบเสียงหรือเปล่าเพราะว่าเสียงน้องเบามาก


กรุงเทพรีวิว - Mahanakhon Bangkok Review
18 hours ago
·
บรรยากาศงานเค้าดาวน์เมื่อคืนที่เกิดขึ้นต้าวลิชก็ร้องแบบจัดเต็มเป็นมินิคอนเสิร์ตเลยค่ะแต่สิ่งที่แอดรู้สึกได้นะ มีแฟนเพจ comment แล้วมันแบบตรงกันจริงๆก็คือมีแต่คนพิมว่าการถ่ายภาพและระบบเสียงมันเกิดอะไรขึ้นกับระบบเสียงหรือเปล่าเพราะว่าเสียงน้องเบามากนะคะ
แล้วก็จริงๆน้องเนี่ยถือ ไมค์ตลอดมีความตั้งใจจะร้องสดแต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเนาะก็เลยทำให้เป็นเหมือนว่ามีการเปิด Backing Track อยู่ด้วยคะแล้วน้องก็เหมือนกันร้องน้อยลงไม่แน่ใจว่ามันมีปัญหาเกี่ยวกับ Backup หรือว่าเบื้องหลังอะไรด้วยหรือเปล่านะคะน้องยังมีแว๊บลงจากเวทีไปด้วย ตอนแรกแอดก็นึกว่าน้องจะไปเปลี่ยนชุดคะ แต่ที่ไหนได้น้องไม่ได้เปลี่ยนชุดแสดงว่าไม่รู้ว่าพักเหนื่อยหรืออะไร ก็คือต้องบอกว่ารู้สึกดีแล้วก็ตื้นตันใจกับน้องแหละคะ แล้วก็ดีใจที่คืนข้ามปีเรามีน้องลิซ่ามาเค้าดาวน์ แต่ระหว่างที่ดูโชว์แอดก็มีความรู้สึกอึดอัดใจหลายๆอย่างไม่รู้ว่าทุกคนเป็นเหมือนกันหรือเปล่านะคะ
นั่นก็คือเสียงมันน้อยมากเลยแล้วก็รู้สึกได้ว่าน้องสัมผัสได้นะคะเพราะว่าทุกคนมัวแต่ยกมือถือขึ้นถ่ายนะก็เข้าใจแหละว่าใครเห็นลิซ่าอยู่ตรงหน้าก็ต้องยกมือถือถ่ายแหละนะคะ
แต่ว่า เออ หรือว่าแอดจะคิดไปเองเออเองหรือเปล่าไม่ใช่นะคะเพราะว่าน้องเนี่ยมีพูดออกมาว่าเอ่อไม่ให้ความร่วมมือเลย คือแอบตกใจนิดนึงนะคะ แต่ว่าน้องลิชน้องก็เป็นคนที่แบบว่าพูดตรงๆอยู่แล้วเนาะ
แล้วก็เสียงเงียบคือเงียบมากมันเงียบเกินไปสำหรับลิซ่านะคะเพราะว่าเอาจริงๆเนี่ยแฟนๆทั่วโลกเนี่ยรอเจอแต่ว่าน้องมาเล่นที่ไทยเนี่ยเงียบมากมันเงียบผิดปกตินะคะ

เงียบเกินกว่าที่ปกติจะเป็นแบบลิซ่านึกออกใช่มั้ยทุกคนก็คืออย่างเวลาเราไปคอนแบบนี้เนี่ยมันเป็นการรวมบิลและลิลลี่เนาะซึ่งก็เป็นกลุ่มที่ชอบเอ่อเรื่องเดียวกัน คนเดียวกัน คอเดียวกันนั้นเราหวีดกันคอแตกเลยทีเดียวนะคะ
แต่พอตรงนี้มันเป็นฟรีคอนเสิร์ตด้วยส่วนหนึ่งแล้วก็เห็นว่ามีคนจับฉลากใช่มั้ยซื้อของมูลค่าอะไรกันสักอย่างเนี่ยส่วนนึงนะคะ เอ่อการที่เรารวมคนหลากหลายมากนักซึ่งอาจจะแบบว่ามีแฟนคลับ เขาเรียกว่าเป็นแฟนคลับของหลายๆคน หรือบางคนก็แค่แบบอยากจะแวะไปสังสรรค์อะไรแบบเนี้ย มันก็เลยทำให้ไม่ใช่แบบลิลลี่เต็มๆอ่ะ มันก็เลยทำให้นอยมากเลยเพราะว่าเพลงมันนี่ซึ่งมันตัดเลยแต่มันไม่ได้ยินเสียงใครร้องช่วยน้องเลยจริงๆนะ คือคอนเสิร์ตมันก็ต้องการการ Build ทุกคนนึกออกใช่มั้ย แล้วก็พิมพ์หน้าจอก็คือเสียงเบามากเลยไม่รู้ว่าทำไมอืมเสียงไมค์ออกมามันเบาอ่ะคะ เราก็ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นเนาะหรือเขาอาจจะตัดเสียงรอบข้างก็เป็นได้นะคะ
แอดก็เข้าใจได้เนาะอย่างเราสมมุติเราเป็นลิลลี่อย่างเงี้ยเราก็ไม่สู้ถ้าคนเยอะขนาดนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วดูดีกว่า อย่างน้อยมันก็มีที่มีทางที่เราจะเห็นน้องแน่ๆอะไรแบบนี้แต่ก็อย่างนี้ก็คือดูหน้าจอยังไงก็เห็นน้องแบบเต็มอิ่มแน่ๆ

ดีใจมากบรรยากาศโดยรวมทั้งหลายที่ขาดความร่วมมือคือเรียกว่าน้อยไปนิดดีกว่าเนาะในความรู้สึกของแอดนะ

ใครอยู่หน้างานช่วยเล่าหน่อยมันเกิดอะไรขึ้นหรือว่าจอทีวีตัดเสียงกรี๊ดมันเบาแบบผิดปกติจริงๆ ไม่ปกติสำหรับลิซ่าเลยคะเวลาไปไหน ใครไปดูตรงนั้นมันเกิดอะไรขึ้นหรือว่าจริงๆในบรรยากาศมีเสียงแต่ว่าออกจอทีวีมันไม่มีอันนี้งงจริงนะคะ #lisa #NewYears #ICONSIAM #กรุงเทพรีวิว

อ่านคอมเมนต์ต่อที่
https://www.facebook.com/photo/?fbid=568568539392707&set=a.140020765580822



ชัยธวัชเปิดหลักฐานแชต LINE สั่งเจ้าหน้าที่ตามเก็บภาพหาเสียง อบจ. พรรคประชาชน พรรคเดียว พร้อมตั้งคำถาม ทำไมแค่พรรคเดียว และ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งผู้ช่วยหาเสียงผู้มากบารมีเหนือนายกรัฐมนตรี มีส่วนรู้เห็นหรือสั่งการให้เจ้าหน้าที่กระทำการดังกล่าวด้วยหรือไม่


THE STANDARD

Ssrnotoped072ha10u4c53l14c9i7cmg97gt66hg026iam1ctu63g4h8m1ti ·



UPDATE: ชัยธวัชเปิดหลักฐานแชต LINE สั่งเจ้าหน้าที่ตามเก็บภาพหาเสียง อบจ. พรรคประชาชน พรรคเดียว
.
วันนี้ (2 มกราคม) ชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พรรคประชาชน โพสต์ภาพผ่าน X เป็นภาพแชต LINE ของปลัดอำเภอคนหนึ่งที่ส่งไปในแชตกลุ่มของกำนันและผู้ใหญ่บ้าน สั่งการให้ติดตามการหาเสียง อบจ. พรรคประชาชน
.
ชัยธวัชระบุว่า สองวันนี้เริ่มงานปีใหม่ด้วยการมาช่วยหาเสียงให้ทีม อบจ. เชียงใหม่-ลำพูนของพรรคประชาชน การเลือกตั้ง อบจ. คราวนี้นอกจากจะผิดปกติที่จัดเลือกตั้งวันเสาร์ ซึ่งทำให้หลายคนติดงาน ไม่สะดวกไปใช้สิทธิแล้ว ยังน่ากังวลว่าอาจจะมีการใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้สมัครบางคนหรือบางพรรคด้วย
.
อย่างเช่น เช้าวันนี้มีปลัดอำเภอส่งข้อความไปในกลุ่ม LINE ของกำนันและผู้ใหญ่บ้านตำบลหนึ่งโดยแจ้งว่า “ทางท่านนายอำเภอ xxx มี ว.0 (คำสั่ง) ให้ทางกำนันและผู้ใหญ่บ้านลงพื้นที่หรือมอบหมายผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตร (กำนัน) ติดตาม/บันทึกภาพกิจกรรมของพรรคประชาชน รายงานให้ทราบครับ”
.
“คำถามคือ ทำไมถึงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ติดตามและบันทึกภาพกิจกรรมหาเสียง อบจ. ของพรรคประชาชน แค่พรรคเดียวเท่านั้น และ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งผู้ช่วยหาเสียงผู้มากบารมีเหนือนายกรัฐมนตรี มีส่วนรู้เห็นหรือสั่งการให้เจ้าหน้าที่กระทำการดังกล่าวด้วยหรือไม่” ชัยธวัชระบุ
.
อ้างอิง:
https://x.com/chaithawat_mfp/status/1874724923832484175...
.
#TheStandardNews

https://www.facebook.com/photo?fbid=940536851538992&set=a.586524703606877
......



“เราเป็นประชาธิปไตยแล้วนะ (คะ)” Keyword แห่งปี 2567 ประชาธิปไตยที่น่าเบื่อนี้ จะต่อเนื่องถึงปี 2568


.....
Atukkit Sawangsuk
December 31, 2024
·
Keyword แห่งปี 2567
ที่จะต่อเนื่องถึงปี 2568
“เราเป็นประชาธิปไตยแล้วนะ (คะ)”
เรามีรัฐบาลจากเสียงข้างมากในสภา
พรรคการเมืองแข่งขันกันในการเลือกตั้ง
แพ้ชนะตามกติกา ใครรวมเสียงมากกว่าก็ได้เป็นรัฐบาล ไม่มีใบอนุญาตอะไรทั้งนั้น
แถมด้วยคำสำทับ “ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว”
:
ฮะ (เสียงอุทานจากบางคนที่เพื่อนตาย ถูกจับถูกขัง ตั้งแต่ปี 53 ถึง 65)
ที่สู้กันมาเกือบยี่สิบปี
ได้แค่เนียะเองเหรอ

https://www.facebook.com/baitongpost/posts/9027042950710787


องค์กรอิสระประเทศนี้ เก่งแต่กับพรรคเดียวจริงๆ สส.สงขลา ภูมิใจไทย โดน ปปช.ชี้มูล อาญา-จริยธรรม ใช้เวลา 11 ปี กว่าจะชี้มูลความผิด จับได้เพราะ สส. โพสต์เฟสบุ๊กเอง 😂 บอกว่ามีผู้ใจบุญ 2 ราย ออกให้หมด


Atukkit Sawangsuk
10 hours ago
·
สส.สงขลา ภูมิใจไทย
โดน ปปช.ชี้มูล อาญา-จริยธรรม
เข้ารักษา รพ.เอกชน 1.45 ล้าน มีคนช่วยจ่าย 1.33 ล้าน เอาใบเสร็จไปเบิกสภา ได้เกือบ 5 แสน ต่อมาตั้งคนที่ช่วยจ่ายเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว
https://www.isranews.org/.../134640-invesndsdssssc.html
:
โห ปปช. เก่งโคตร สืบสวนสอบสวนจนจับได้
จับได้เพราะ สส. โพสต์เฟสบุ๊กเอง
บอกว่ามีผู้ใจบุญ 2 ราย ออกให้หมด
เป็นอานิสงส์ที่เคยช่วยคนด้อยโอกาส ได้รับผลบุญในชาตินี้
พรี่ได้อานิสงส์แล้วก็ไม่น่าเอาบิลไปเบิก
แล้วไปให้ตำแหน่งต่างตอบแทน
https://www.isranews.org/.../isranew.../130728-invescah.html
:
จับทุจริตจากหน้าเฟส
วันๆ สั่งเด็กในสำนักงานส่องเฟสส่อง X นักการเมืองก็พอ
(คดีนี้เผลอๆ ไม่ได้เห็นเอง คู่แข่งในพื้นที่ cap มาฟ้อง)
ไม่ต้องมีกรรมการ ปปช. 9 คน เงินเดือนเงินประจำตำแหน่ง รถประจำตำแหน่ง ที่ปรึกษา เลขา ผู้เชี่ยวชาญ ฯลฯ
และเจ้าหน้าที่เต็มสำนักงาน มีสาขาแทบทุกจังหวัด
:
เหมือนกันเลยครับ กกต. ก็ไล่จับผิดหน้าเฟส
หรืออันที่จริง คู่แข่ง cap มาฟ้อง




https://www.facebook.com/baitongpost/posts/9037449156336833





https://x.com/captainnerd23/status/1874750291993878814