ถ้าจะมองคดี ทุจริต ประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ ของอดีตรอง ผบ.ตร. สุรเชษฐ์ หักพาล กับ ของ ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ถูกนายกฯ ‘เศรษฐา’ แขวนไว้ที่สำนักนายกฯ ละก็ ดูเหมือนกรณี ‘บิ๊กโจ๊ก’ จะกระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย
กระเตื้องต่อการที่เขาเก็บคะแนนนิยมทางการเมืองได้มากกว่า ผบ.ตร. พวกกูรูการเมืองต่างรับว่าคดีของเขา ยังไม่สามารถฟันธงเป๋งๆ ลงไปจะแจ้งว่า เขาเป็นปลายทางรับเงินพนันออนไลน์ตามที่ถูกกล่าวหา ขณะที่คดีของต่อศักดิ์ขยับ
กระชับเข้าไปอีกขั้นว่า เลขาธิการ ปปช.ยืนยันต่อผู้สื่อข่าวว่ามีการแจ้งข้อหา ‘บิ๊กต่อ’ ผบ.ตร.คนล่าสุด กรณีเขาและภรรยา “ไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินในส่วนบ้านที่ประเทศอังกฤษ ต่อ ป.ป.ช.” ปปช.ออกหมายไปแล้วแต่ต่อศักดิ์ไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหา
ต้องดูกันอีกว่าผ่านมาก็หลายวัน ต่อศักดิ์และภรรยามีการตอบรับข้อกล่าวหาอย่างใดหรือไม่ ถ้ายังไม่มีข่าวคราวอะไรเพิ่มเติมในเรื่องนี้ ก็จะเป็นที่เพ่งเล็งของประชาชนว่าอะไรกัน ผบ.ตร.มีอำนาจอิทธิพลถึงขนาดเมินเฉยข้อกล่าวหาได้หรือ
ระหว่างรอๆ กันอยู่นี่ #บิ๊กโจ๊ก เกิดมีเซอร์ไพร้ส์ ประกาศว่าถ้าตนได้กลับไปทำงานสำนักตำรวจแห่งชาติละก็ จะ “ถอนฟ้องยกรวง” คดีที่ตนและลูกน้องที่โดนสอบโดนข้อหา โหมฟ้องบิ๊กต่อกรณีทุจริตในการปฏิบัติหน้าที่หลายข้อหา
“พร้อมอโหสิ เลิกอาฆาตล้างแค้น เสียสละเรื่องในอดีต ลุยงานเพื่อองค์กร” ตำรวจต่อไป “พร้อมบอกด้วยว่าตนตั้งใจจะทำงานกู้ภาพลักษณ์ที่เสียไปให้แก่องค์กรตำรวจแห่งชาติ” นั่นลย ก็คงได้ผลในเชิงสร้างคะแนนนิยมในหมู่ผู้ติดตามผลงานจำนวนมากอยู่
มาดูกันว่าประเด็นงัดข้อ ระหว่าง ผบ.ตร.ผู้ลัดวงจรมาครองตำแหน่ง ผบ.ตร.ด้วย ‘ตั๋วช้าง’ กับรองฯ ที่คร่ำหวอดกับสายอำนาจอันเหนียวแน่นใน สตช. จะสามารถหย่าศึกช้างสารชนกัน ทำให้สำนักงานตำรวจ โดดเด่นอีกครั้งได้ไหม
(https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4611879 และ https://matichon.co.th/local/crime/news_4611879…)