วันจันทร์, มิถุนายน 24, 2567

รัฐบาล #เศรษฐา หยุดคุกคามประชาชน


Suchart Sawadsri
8 hours ago·

รถเก๋งแปลกหน้าที่เข้ามาในซอยโดยไม่มีนัดหมายและไม่ได้เชื้อเชิญ ทำไมรู้ปากซอยทางเข้า แต่ไม่รู้ว่าเป็นซอยตัน ดังนั้นเมื่อเข้ามาจึงต้องมากลับรถไม่ไกลจากบริเวณประตูรั้วเหล็กทางเข้าบ้าน เพื่อนมิตรหลายรุ่นหลายวัยที่เคยมาต่างก็ทราบดีว่าในซอยนี้ลำบากแค่ไหนเวลากลับรถ ครั้งแรกก็คิดว่าเป็นรถเก๋งมาหาเพื่อนบ้านที่ปลูกอยู่ข้างๆ แต่ที่ลูกชายเล่าให้ทราบ เพราะเขาบังเอิญยืนอยู่บนนอกชานบ้านชั้นสองและมองลงมาเห็นก็คือ เมื่อรถคันนั้นกลับรถเสร็จแล้ว แทนที่จะขับรถออกจากซอยไป ก็กลับชะลอรถมาจอดที่หน้าประตูรั้วเหล็ก แล้วเปิดประตูเดินอ้อมมาด้านหลังรถพร้อมกล้องมือถือ ลูกชายมองลงมาที่ถนนนอกรั้วก็เห็นว่า มีผู้ชายใส่แว่นคนหนึ่งใช้กล้องถ่ายรูปเดินมาที่ประตูรั้ว ( ที่มีตู้ไปรษณีย์สีแดงและเลขที่บ้าน ) โดยตั้งใจถ่ายเข้ามาในบริเวณบ้านด้วย ถ่ายเสร็จแล้วก็เดินกลับไปขึ้นรถขับออกไป โมนกับแม่เปิดประตูออกมาดู เพราะแปลกใจที่อยู่ๆก็มีคนมาถ่ายรูป แต่รถเก๋งคันนั้นก็ขับออกไปจนเกือบจะถึงปากซอยที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 150 เมตร แล้ว แทนที่จะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาไปตามถนนเลียบทางรถไฟ เพื่อกลับออกไปถนนใหญ่ แม่ของโมนมองเห็นไกลๆว่าเขากลับหยุดรถ และเดินลงมาถ่ายรูปที่เป็นซื่อป้ายซอย ( บริเวณปากซอยเลี้ยวเข้าเลี้ยวออกแคบๆตรงนี้ หลายคนที่เคยมาคงจำได้ว่ามันมีป้ายเลขบอกว่าเป็นแยกที่เท่าไร )
ก็ไม่ทราบว่าแขกแปลกหน้าที่เข้ามาหาพิกัดครั้งนี้ต้องการอะไร เขาอยากมาดูภาพเขียนของผมเช่นนั้นหรือ หรืออยากเข้ามาขอหนังสืออ่าน ตามที่ลูกชายเล่าให้ฟังก็เห็นว่าต้องใจเย็นมาก เพราะจอดรถลงมาถ่ายรูปถึง 2 แห่ง คือที่ประตูรั้วเหล็กหน้าบ้าน และที่หัวมุมถนนแคบๆปากซอยเข้าบ้าน
นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่บ้านสวนรังสิตมีอาคันตุกะแปลกหน้าที่ไม่ได้รับเชิญมาเยือน ครั้งแรก คือเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ที่มีรถตู้ติดฟิล์มกรองแสงขับเข้ามาในซอยโดยมาถามเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆว่า "บ้านศิลปินแห่งชาติอยู่หลังไหน" ผมก็อยู่บ้าน และคิดว่าคงจะมีเพื่อนมาเยือน ( สุจิตต์ วงษ์เทศ ก็เคยนั่งรถตู้ติดฟิล์มกรองแสงมาแบบเงียบๆไม่บอกล่วงหน้า ) แต่อาจเป็นเพราะเมื่อ 10 ปีก่อน ในช่วง คสช.ทำรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 นั้น ผมมีหมานายพลอยู่ 7 ตัวและดุๆทั้งนั้น หมานายพลเหล่านี้เมื่อเห็นมีรถหรือคนแปลกหน้าเข้ามาในซอย ก็จะไปออแข่งกันเห่าอยู่ที่ประตูรั้วทางเข้า อาคันตุกะแปลกหน้าที่อยู่ในรถตู้ติดฟิล์มกรองแสงในวันนั้น แม้จะรู้พิกัดจากเพื่อนบ้านแล้วว่าบ้านศิลปินแห่งชาติอยู่หลังไหน หลังจากชะลอรถอยู่นานก็กลับขับรถเลยผ่านบ้านไป ไม่เข้ามาทักทายนายพลทั้ง 7 ของผม และหลังจากนั้นอีกไม่นาน ก็มีพันโทแห่งกองทัพบกคนหนึ่ง ( คนเดียวกับที่เคยชวนเชิญ "เดอะปุ๊" ธนาพล อิ๋วสกุลไปดื่มกาแฟ ) โทรมาทักทายถึงบ้าน และนั่นเองที่ต่อมาทำให้ผมเลิกใช้โทรศัพท์
ใน 2 วาระที่มี "แขกไม่ได้รับเชิญ" มาเยือนนั้น ผมพอเข้าใจได้ เพราะมันเป็น "รัฐบาลรัฐประหาร" ( ม 44 / ศาลทหาร ) แต่ในวาระที่ 3 เมื่อ 22 มิถุนายน เวลาบ่าย 4 โมงที่เพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้ ชายแปลกหน้าในรถเก่งสีขาว สวมแว่นตา ใส่เสื้อยืดสีเหลือง ( ข้อมูลจากแม่และลูก ) ผมก็ไม่ทราบว่าในรถมีกันกี่คน แต่ที่แม่และลูกเล่าให้ฟัง ก็คือมีอยู่ 1 คนที่ลงจากรถ และคงจะตั้งใจคุกคาม "ชีวิตส่วนตัว" ของผมและครอบครัว แม้ว่าในปัจจุบันนี้เรามีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว !
คำว่า "ศิลปินแห่งชาติ" คุณก็เอาคืนกลับไปแล้วในสมัยรัฐบาลรัฐประหารของพลเอกประยุทธ จันทรโอชา แต่ ปัจจุบันนี้ ขณะนี้ เป็นเวลาของ "รัฐบาลเพื่อไทย" ที่มาจากการเลือกตั้งแล้วมิใช่หรือ คุณตั้งใจจะมาข่มขู่คุกคามผมและครอบครัวอีกทำไม
หรือเป็นเพราะคุณคิดว่า ผมยังชูสามนิ้วอยู่
ใช่ครับ ผมยังชูสามนิ้วอยู่ และจะย้งชูอยู่ตลอดไป
เพราะมันคือความหวังและความฝันของสามัญชน
-เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ

Pipob Udomittipong
7 hours ago·

รัฐบาล #เศรษฐา หยุดคุกคามประชาชน
...


Pipob Udomittipong
19 hours ago·

พวกอึ่งไข่ที่ภูมิใจว่าเราอยู่ภายใต้ “รัฐบาลพลเรือน” แล้วจะว่าไง? การคุกคามไม่ได้ต่างจากยุคกึ่งทหารเลย แต่พวกคุณบอกว่าไม่เป็นไร ขอให้มีรบ.พลเรือนพอแล้ว?