ปุดโถ พ่องหย่าย สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหมไม้ประดับกองทัพ ถูกถามเรื่องกวนใจ คดีทหารเป็นโจทก์ฟ้อง ๑๑๒ ทักษิณ ชินวัตร “ในฐานะ รมว.กลาโหม จะไม่เข้าไปล้วงลูกใช่หรือไม่” ก็ใช่สิ นักข่าวนี่เซี้ยวถามได้ จะไปล้วงได้ไง
“เป็นเรื่องทางคดีไป” ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทัพบกเป็นคนฟ้อง แหม ข่าวออกใหญ่ สมัยนั้น ‘แอสทีวี’ เบาที่ไหน เขียนชัด “พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ได้มอบหมายให้ พล.ต.ศรายุทธ กลิ่นมาหอม
ผู้อำนวยการสำนักพระธรรมนูญ กองทัพบก เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลอาญา โดยคดีดำเลขที่ ๑๘๒๔/๒๕๕๘ ตั้งแต่วันที่ ๒๖ พ.ค.” ปีนั้น เป็น “ฐานความผิดคดีหมิ่นประมาท” ตาม กม.อาญา ม.๑๑๒, ๓๒๖ และ ๓๒๘
“เมื่อฟ้องแล้วก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม” แล้วแล้วกันไป แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่พ้นเรื่อง ๑๑๒ อยู่ดี เนื่องจากมีร่างนิรโทษกรรมผู้กระทำผิดตาม ม.๑๑๒ กำลังจะเข้าสภาอยู่ รมว.จากพรรคเพื่อไทยตอบสะใจ ต้องถามความเห็นหน่วยงานเกี่ยวข้อง
“ด้านความมั่นคงต้องถามไปที่เหล่าทัพ ซึ่งกองทัพก็จะมีระบบรับฟังความคิดเห็นของกองทัพอยู่ อย่างน้อยที่สุดเมื่อเรื่องเข้าสู่สภากลาโหมก็จะฟังผู้นำทางทหาร” อย่าไปก้าวก่ายก้ำเกินเขาล่ะ ส่วนที่ว่าฐานความผิดนิรโทษอาจรวมถึง ‘สไนเปอร์’ ด้วยล่ะ
แน่นอนสุทินไม่ตอบ เลี่ยงไปบอกว่าผลการศึกษาต่อกรณี สมาชิกสภาจะเอามาใช้ก็ได้ไม่ใช้ก็ได้ สำหรับจุดยืนของตนต้องตามความเห็นพรรค เสร็จแล้วเปลี่ยนเรื่องไปด่า ‘ก้าวไกล’ สนุกกว่า แหมแค่ทหารไปอบรมวิทยากรการศึกษา โวยวายไปได้
พวกนั้นคิดแคบนะ เอาแต่ก้าวหน้า ก้าวไปข้างหน้าท่าเดียว ไม่รู้จักเหลียวหลังเสียบ้าง ฝ่ายค้านต้องไปศึกษาทฤษฎีการเรียนรู้เสียใหม่นะ “เพราะอดีตรับใช้ปัจจุบัน และปัจจุบันเอาไปใช้วางแผนในอนาคต” วุ้ย ทั่นกะลาโหม พูดเป็นปะรัดชะยา
(https://www.matichon.co.th/politics/news_4611698 และ https://www.thairath.co.th/news/politic/2790959)