พอผลาดขึ้นมา เรียกหาเทพมนตรี เรียกหาสนธิญาณ อ้างสถาบันทิศทางไทย
— ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (@ohm_1977V2) December 17, 2022
ตอนทำปรึกษาเค้าสักคำหรือเปล่า
1,พรบ.คอมฯ 2,ฉ้อโกงประชาชน#สุวินัย #บายศรีสู่ขวัญ #ข่าวลือ
ขอบคุณเจ้าของคลิปครับ#ประชาภักพิทักษ์สถาบัน pic.twitter.com/z7h2prmX43
แถลงหลังคุมตัว 'สุวินัย' เรี่ยไร-ทำพิธี เจ้าตัวยืนยันเจตนาดี-สติเต็มร้อย
ภาพจาก ข่าวสด
2022-12-17
ประชาไท
ตำรวจไซเบอร์ แถลงหลังเชิญตัว 'สุวินัย' เรี่ยไร-ทำพิธี เจ้าตัวยืนยันเจตนาดี แต่มองว่าหากวิทยาศาสตร์ช่วยไม่ได้ก็ต้องใช้พิธีกรรมเข้าช่วย สอบปากคำพบสติเต็มร้อย ไม่เข้าข่าย ม.112 แต่เข้าข่ายฐานฉ้อโกงประชาชน ม.343 และ ม.344, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 และความผิดตาม พ.ร.บ.เรี่ยไร
17 ธ.ค. 2565 เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น. ที่กองบังคับการ 1 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.แถลงการจับกุม นายสุวินัย ภรณวลัย อายุ 66 ปี หลังเปิดบัญชีรับบริจาคเงินทำพิธีบายศรีขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเฟซบุ๊ก โดยจับกุมได้ที่บ้านพักในซอยพัฒนาการ 44 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า ภายหลังตำรวจสืบทราบข้อมูล ได้รับคำสั่งให้ติดตามตรวจสอบและพบว่าผู้ต้องสงสัยมีบ้านพักอยู่ย่านสวนหลวง จึงเดินทางไปเชิญมาสอบปากคำ โดยเจ้าตัวเป็นอาจารย์เกษียณอายุ พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ระบุว่าตัวเองไร้เจตนาไม่ดี เพียงเพราะมองว่าหากวิทยาศาสตร์ช่วยไม่ได้ก็ต้องใช้พิธีกรรมเข้าช่วย
จากการสอบปากคำพบว่าเจ้าตัวมีสติเต็มร้อย และไม่พบว่าเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามกฎหมายอาญา ม.112 แต่เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามกฎหมายอาญา ม.343 และ ม.344,นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ม.14(1) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และความผิดตาม พ.ร.บ.เรี่ยไร มีโทษปรับ 200 บาท ซึ่งผู้ต้องหาให้การภาคเสธในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบยอดเงินบริจาคพบว่ามียอดเกือบ 7 แสนบาท แต่โอนเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับพิธีกรรม โดยว่าจ้างผู้ทำพิธีที่สำนักงานใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปแล้ว 3 แสน บาท จากนี้ จะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีความเชื่อมโยงไปบัญชีผู้ใดบ้าง สำหรับผู้ที่โอนเงินบริจาคไปแล้ว สามารถมาแสดงเจตจำนงค์และร้องทุกข์กล่าวโทษที่ บก.สอท.1 ได้หากต้องการเงินคืน พร้อมฝากถึงประชาชนด้วยว่า ขอให้ระมัดระวังการโพสต์ต่างๆ ที่มีลักษณะก้าวล่วงเบื้องสูงในช่วงเวลานี้
สำหรับนายสุวินัย พบว่ามีตำแหน่งเป็นประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย เคยเป็นอดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยังเป็นนักเขียน,คอลัมนิสต์ มีผลงานเป็นหนังสือและบทความ ตีพิมพ์กับหลายสำนักพิมพ์ ซึ่งหนึ่งในนั้น มีหนังสือชื่อ “แกะรอยทักษิโณมิกส์” มีเนื้อหารวบรวมบทความทางเศรษฐศาสตร์ที่เกี่ยวกับนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลในยุคของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร รวมถึงยังมีคำวิพากษ์ต่าง ๆ ของผู้เขียนที่มีต่อนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ในอดีต