ก็เลยเจอ สมชัย ศรีสุทธิยากร ซึ่งเดี๋ยวนี้ประจำค่าย ‘เสรีรวมไทย’ สวนให้สิ “ประกาศว่าตัวเองพร้อมจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่เพียงคนเดียวของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค
และคณะกรรมการบริหารยังไม่มีมติ และยังไม่มาเชิญอย่างเป็นทางการ ท่านคือคนนอกพรรค จะมากำหนดมติพรรคล่วงหน้าไม่ได้ เข้าข่ายคนนอกครอบงำพรรค มีโทษทางอาญา มาตรา ๒๙ และมาตรา ๑๐๘ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง”
อ้าว ตายห่ละสิ “ส่วนกรรมการบริหารพรรคถ้ายอมให้ครอบงำ ก็โทษถึงยุบพรรค มาตรา ๒๘ และ มาตรา ๙๒(๓) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง” สมชัยเหน็บต่ออีกหน่อยว่า “การจะเข้าการเมือง ก็ศึกษากฎหมายให้ดีด้วย หรือถ้ามีทีมงานกฎหมาย เปลี่ยนใหม่เถอะ อ่อน ขายหน้า”
ดูซิว่าจะเป็นแคนดิเดทนายกฯ พรรคต่ำสิบไหม เวลานี้มี ส.ส.ตามไปด้วยแค่สิบคน ดูดสู้ภูมิใจไทยเขาไม่ได้ มีกูรูการเมืองเยาะไว้ ว่าแม้ได้ ส.ส.ถึง ๒๕ ดังเขาปรามาส ก็จะเป็นได้แค่พรรคฝ่ายค้านควบกันกับ ปชป.นั่นแหละ
ถ้าเป็นดั่งเขาว่า ก็น่าเสียใจมากอยู่นะ อุตส่าห์เตรียมการมานานเนิ่น อย่างน้อยๆ ตั้งแต่เมื่อ ๑ ปีที่แล้วเต็มๆ มีคนเขาจับเส้นถูกขนดหลังเด๊ะเลยเชียว ดูได้จากรายการคำขวัญวันเด็กสำหรับปีใหม่ อันเป็นครั้งที่ ๙ แล้วละ (แต่ศาลรัฐธรรมนวยบอกอยู่ไม่ครบ ๘ ปี)
คำขวัญสำหรับปีนี้และปีหน้า อ่านดูก็ธรรมดาๆ ไม่ติดใจอันใด แต่คำขวัญเมื่อตอนจะขึ้นปี ๖๔ นั่นสิ บอกว่า “เด็กไทยวิถีใหม่ ‘รวมไทยสร้างชาติ’ ด้วยภักดีมีคุณธรรม” สงสัยตอนนั้นเสกสถุลคิดคำขวัญให้มั้ง มันถึงได้ออกมาเป็นชื่อพรรคในวันนี้
(https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_636749SOSvsfjo, https://www.facebook.com/100001454030105/posts9u03 และ @SAHINOP)
