ใครคงกลัวว่าเธอจะพูดความจริง ‘คดีจำนำข้าว’ อีก ในระหว่างฤดูหาเสียงต้นปีใหม่ละมัง ตำรวจเลยต้องขยันทำคดีค้างปี ด้วยการบุกจับตัว นุช-ชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ อดีตพนักงาน ธกส.ผู้เปิดโปงว่า มีการปั้นตัวเลขความเสีย ‘เบิ้ล’ สองเท่า
“น่าสนใจมาก ว่าการกระทำแบบนี้เป็นคดีได้ยังไง เนื้อหาคืออะไร และทำไมจับในภาวะการเมืองแบบนี้” ยิ่งชีพ (เป๋า) @yingcheep รำพึงทางทวิตเตอร์เมื่อวาน แม้นว่าเธอได้รับการประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์ ๔ หมื่นบาท โดยรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย
การจับกุมถึงคอนโดที่พักโดยตำรวจนอกเครื่องแบบ ๓ นาย ตามหมายจับที่ศาลออกไว้ตั้งแต่ ๓ สิงหา ๖๔ ปีกว่าๆ แล้วเพิ่งมาจับตอนนี้ ด้วยข้อหา “หมิ่นเจ้าหน้าที่โดยการโฆษณา” เข้าตำรา #SLAPP หรือการฟ้องปิดปาก ผู้ร้องเรียนการทุจริตประพฤติมิชอบ
คดีของนุชเกิดจากการที่เธอแจ้งข้อสังเกตุต่อระดับสูง ถึงความไม่ชอบมาพากลของตัวเลขที่ชงไว้ปรักปรำรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เธอเป็นเจ้าหน้าที่ต้องเซ็นรับรอง หลายครั้งเข้าทนไม่ไหวจึงลาออกจากพันธะหน้าที่แล้วเตือนผู้เข้ารับช่วงงานให้ระวังตกเป็นเครื่องมือ
จากนั้นเธอก็ตกเป็นเป้าหมายหัว ได้รับการกดดันต่างๆ นานา ถูกหาว่ามีจิตวิปลิต ส่งไปตรวจรักษาในโรงพยาบาลจิตเวชเป็นเวลากว่าปี จนผลออกมาว่าเธอไม่ได้ผิดปกติอะไร หลังจากกลับเข้าทำงานอีกครั้งตลอดสองปีต่อมาก็ยังถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นานา
“เธอถูกตั้งคณะกรรมการสอบถึง ๔ ชุด เหตุจากการที่เธอเปิดเผยความผิดปกติ ‘ในคดี’ โครงการรับจำนำข้าวทางสื่อและทางเฟซบุ๊ก” ในที่สุดถูกเลิกจ้าง และถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ในความผิดอาญาเรื่อง การหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
“ตอนนี้นุชมีคดีติดตัวอยู่ ๕ คดี เป็นคดีหมิ่นประมาททั้งหมด เหตุจากเราเลือกจะเปิดเผยเอกสารว่ามันมีการเบิ้ลตัวเลข มีการทุจริตในคดีโครงการจำนำข้าวฯ ให้เลขมันสูงกว่าความเป็นจริง ตรงนี้มันคือการฟ้องปิดปากแล้ว” เธอกล่าวในการเสวนาเมื่อปลายเดือนพฤศจิกา
“ล่าสุด เรายังโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ๒๐๐,๐๐๐ กว่าบาท จากสรรพากร เขาตีความว่าเงินที่เข้ามาเป็นรายได้ของเรา ทั้ง ๆ ที่เงินจำนวนนั้นเราเอามาใช้ประกันตัวสู้คดี” ก่อนหน้านั้นก็โดนคนร้ายดักตีในลานจอดรถของธนาคารการเกษตรฯ นั่นเอง
(https://www.facebook.com/JustEconLaborInstitute/posts/pLUQl และ https://twitter.com/sunaibkk/status/1606849425221255170)