ใช่เลยอย่างที่ John Winyu @johnwinyu ว่า “มีแต่กู้จนตอนนี้หนี้สาธารณะบาน มาประกาศเรื่องแก้จน (ครั้งที่เท่าไหร่ละ?) ตลกจัง มีใครเทคมึงซีเรียสลี่บ้าง” เขาหมายถึงเวลาประยุทธ์พูดสัญญิงสัญญาว่าจะทำอะไร ไม่มีใครคิดว่าจะ ‘ทำได้’ หรือ ‘ได้ทำ’
จากข่าวเมื่อวาน ประยุทธ์ทำ ‘เอ็มโอยู’ ของ ๑๒ กระทรวง เพื่อ “บูรณาการพัฒนาศักยภาพเด็กไทย” แล้วยัง “เตรียมแผนแก้ปัญหาความยากจนเริ่มในปี ๒๕๖๕” ข่าวสด @KhaosodOnline ทวนความจำว่า “ก่อนหน้านี้นายกฯ ประกาศแผนหลายครั้ง”
ที่อ้างว่าจะ “ขจัดความยากจนให้หมดจากประเทศ” พูดมาเป็นระยะๆ ๘ ปีแล้ว สองปีหลังนี่ความยากจนที่จะขจัดยิ่งเพิ่มทวีคูณ มิหนำซ้ำหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน เหตุจากรัฐบาลประยุทธ์ทำเป็นอย่างเดียว กู้ๆๆๆ ตะบี้ตะบัน
เผลอนิดเดียว กู้อีกแล้ว ประชาชนกำลังหน้าชื่นกับการได้ผู้ว่า กทม.คนใหม่ดังจินตนาการ วันนี้มีราชกิจจาฯ ออกมาบอกว่ากู้แล้วนะ อีก ๑๓,๔๓๒.๓๕ ล้านบาท จากญี่ปุ่น ดอกเบี้ยต่ำ ๐.๐๑% แต่ค่าธรรมเนียมต้นทาง (Front-End Fee) สูงหน่อย
“ร้อยละ ๐.๒๐ ของวงเงินกู้ โดยต้องชำระภายใน ๖๐ วัน หลังจากสัญญาเงินกู้มีผลบังคับใช้” ส่วนภาระหนี้เงินกู้ก้อนนี้จะผูกพันไป ๑๕ ปี โดยจ่ายดอกเบี้ยปีละ ๒ ครั้ง และผ่อนผันยังไม่จ่ายเงินต้น ๔ ปีแรก จนกระทั่งเดือนพฤษภา ๖๙
แล้วราชกิจจาฯ ไม่ลืมบอกด้วยว่ากู้เอาไปทำไร อ๋อ “อนุวัติตามนัยมาตรา ๘ แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๖๔”
เห็นอย่างนี้แล้วนึกถึงลาวทันที ทั้งที่เพิ่งชมชื่นรถไฟ ‘บุลเล็ต’ คุนหมิง-เวียงจันทร์ ซึ่งเพิ่งเปิดเดินเมื่อไม่นานมานี้เอง แต่สภาพเศรษฐกิจทั้งประเทศกำลังตกอับหนักหน่วง ภาวะเงินเฟ้อติดอันดับ ๖ ของโลก ค่าเงินกีบลดฮวบ ตอนนี้อยู่ที่ ๔๑๕ กีบต่อ ๑ บาท
“หนี้สาธารณะของลาวปัจจุบันอยู่ ๔๖๐,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหนี้จีดีพีสูงถึง 90%...โดยเจ้าหนี้รายใหญ่ของลาวคือประเทศจีน และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียหรือ ADB ที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ก็เป็นญี่ปุ่น และจีนเช่นกัน”
ใครว่าลาวเป็น ‘แบตเตอรี่ของเอเชีย’ ที่มีโรงไฟฟ้าพลังน้ำนับเป็นสิบๆ แห่ง ขายไฟฟ้าให้กับเวียตนามและไทย แต่โรงไฟฟ้าเหล่านี้จีนสร้าง ตามวิธีการโอบอุ้มรุ่นน้องของจีน แบบเดียวกับรถไฟความเร็วสูง คือกู้เงินจากจีนมาจ้างจีนสร้าง
โครงการรถไฟเร็วสูงนั่น เป็นการลงทุนที่มูลค่าสูงมาก จำนวนกว่า ๒ แสนล้านบาท (๕,๙๘๖ ล้านดอลลาร์) รัฐบาลลาวลง 40% (ธนาคาร) จีนลงอีก 60% “ฉะนั้นโครงการนี้เป็นการกู้มาสร้างเกือบ 100% โดยมีเจ้าหนี้ใหญ่คือจีน”
เหล่านั้นเป็นปัญหาทับถมนอกเหนือจากการขาดแคลนพลังงานที่ลาวกำลังเผชิญอยู่ อันเนื่องมาแต่สถานการณ์สงครามรัสเซียรุกรานยูเครน แม้นว่าการนำเข้าน้ำมันของลาวส่วนมากถึง 90% ไปจากไทย เช่นกันกับสินค้าอุปโภคบริโภค
สภาพัฒน์ฯ (สศช.) ของไทยบอกว่าสภาพเศรษฐกิจบักโกรกของลาวจะไม่กระทบไทย โดยเฉพาะเรื่องค่าเงินกีบซึ่งไม่ใช่สกุลเงินที่ใช้จับจ่ายสิ้นค้าจากไทย แต่ต่อไปถ้าลาวขาดกำลังซื้อมากๆ สินค้าไทยก็อาจไม่ขายคล่องอย่างเคย
ประเด็นแห่งการเปรียบเทียบอยู่ที่ หากรัฐบาลประยุทธ์เอาแต่กู้อย่างนี้แล้วได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกในสมัยหน้า ภาพจำจากลาวก็อาจเกิดกับไทยด้วยได้ เพราะสภาพเศรษฐกิจไทยเองก็ไม่ได้ดีโด่อะไรเลย ดังที่รัฐบาลประยุทธ์พยายามคุยโว
(https://www.facebook.com/reporterjourney/posts/2019761828196132, https://www.posttoday.com/social/general/685316 และ https://twitter.com/KhaosodOnline/status/1534758696156164096)