วันอังคาร, พฤศจิกายน 30, 2564

ภาพนี้เล่าเรื่องราวของคุณยายวัย 74 ปี แห่งตรอกสาเก ที่ต้องมาขายบริการทางเพศเพราะประสบปัญหาการเงินจากช่วง covid-19 เพียงเพราะต้องนำเงินมาเลี้ยงชีพและแมว ซึ่งเจ้าของภาพต้องการให้เราตั้งคำถามเกี่ยวกับบุคคลในภาพนี้

รู้จักกับคุณยายบัวผัน ผู้เป็นแบบในภาพวาดได้ยังไง

คุณยายบัวผันท่านนั่งอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน เห็นแววตานั้นแล้วผมจอดรถเลย หลังจากที่ผมเทียวไปเทียวมาอยู่หลายสัปดาห์ ผมเข้าไปพูดคุยกับคุณยายบัวผันว่ามีเจตนาอยากจะมาวาดรูปเพื่อประกวด คุณยายก็ค่อนข้างระแวงว่าเราจะเป็นมิจฉาชีพไหม หรือว่าเราจะเป็นคนที่ไม่ดีไหม ผมยืนยันว่า “เชื่อผมนะครับผมจะเอาเรื่องที่คุณยายประสบพบเจอไปสื่อสารสู่สาธารณะ”

คุณยายบัวผันมาเป็นโสเภณีด้วยความจำเป็น ตอนสมัยวัยรุ่นคุณยายเดินทางจากโคราชเข้ามาทำงานเป็นสาวโรงงานในกรุงเทพฯ จนกระทั่งประสบอุบัติเหตุแขนหักเมื่ออายุประมาณ 30-40 ปี แต่ทางโรงงานไม่รับกลับเข้าไปทำงานอีก คุณยายเคยอาศัยอยู่กับลูกชายแต่มีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับลูกสะใภ้จึงตัดสินใจออกมาอยู่คนเดียว ท่านต้องขวนขวายทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองรอด เลี้ยงดูตัวเองด้วยอาชีพโสเภณีมาตลอด ได้บ้างไม่ได้บ้าง วันไหนฝนตกก็ลำบากหน่อย
 
เมื่อได้คุณยายบัวผันเป็นแบบของภาพพอร์เทรตแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นอะไร

เรานัดหมายกันไปดูสถานที่ทำงานของคุณยายในวันรุ่งขึ้น เพื่อเข้าไปดูภาพรวมว่าห้องในโรงแรมม่านรูดมีองค์ประกอบอะไรบ้าง ผมบันทึกเสียงและบันทึกภาพไว้ ในครั้งต่อไปก็เตรียมเฟรมผ้าใบ อุปกรณ์มาสเกตช์ภาพคุณยาย เก็บรายละเอียดตามความเป็นจริงตามที่ตาเห็นว่าความรู้สึกคุณยาย สีหน้าคุณยาย ท่านั่งของคุณยายที่ผมพบครั้งแรกเป็นยังไง บรรยากาศภายในห้องจะค่อนข้างอึมครึม มีอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกหม่นหมอง อะไรสักอย่างที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ ผมทำได้ดีที่สุดก็คือถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานศิลปะที่เห็นนั่นแหละครับ

แต่เวลาที่ลงสีผมไม่อยากทำให้รู้สึกหดหู่หรือเศร้าเกินไป ผมอาจจะเพิ่มรายละเอียดบางจุดหรือว่าลดบางอย่างนิดหน่อยให้มีความงามทางศิลปะอยู่ด้วย ให้คนที่เสพผลงานได้เข้ามาชม แล้วค่อยๆ คิดว่าคุณยายท่านนี้เป็นใคร นั่งทำอะไร อยู่ที่ไหน



ระหว่างที่วาดภาพยังพอจำได้ไหมว่าคิดถึงอะไร รู้สึกยังไง

ผมคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติ ณ ปัจจุบัน สะท้อนกลับมาที่ภาพตรงหน้า ปัญหาที่ทำให้เขามานั่งอยู่ตรงนี้มันเกิดขึ้นจากอะไร คนสูงอายุอย่างคุณยายควรได้อยู่อย่างสุขสบายในพื้นที่อบอุ่นปลอดภัยของตัวเอง ถ้ามีรัฐสวัสดิการที่ดีคุณยายจะไม่ต้องแบกร่างของตัวเองมานั่งริมถนน ท่ามกลางการระบาดของโควิดแบบนี้

อยากให้คนที่ได้มีโอกาสเห็นภาพนี้มองเห็นอะไร

ผมค่อนข้างคาดหวังสูงครับ ผมคาดหวังมากกว่ารางวัลเยอะเลยครับ อยากให้คนดูภาพนี้แล้วตั้งคำถามว่าทำไมจึงมีภาพนี้เกิดขึ้นได้ เชื่อมโยงกับปัญหาโครงสร้างอะไรบ้าง ครอบครัวของเขามีปัญหาหรือเปล่า สังคมของเขามีปัญหาหรือเปล่า รัฐสวัสดิการมีความสำคัญมากน้อยขนาดไหน คำถามเหล่านี้คือสิ่งที่ผมคาดหวังกว่ารางวัลที่ได้รับมา

พอร์เทรตสำหรับผมไม่ได้เป็นแค่ภาพเหมือน ไม่ได้เป็นแค่ความสวยงาม ไม่ได้เป็นแค่บันทึกประวัติศาสตร์ แต่พอร์เทรตในศตวรรษที่ 21 ต้องเป็นอะไรที่ขับเคลื่อนสังคมได้ไม่มากก็น้อย ผมอยากทำให้สิ่งที่ผมพบเห็นและรู้สึกสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
 


ความรู้สึกของผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันประกวดวาดภาพพอร์เทรตครั้งแรกในประเทศไทยเป็นยังไงบ้าง

ภูมิใจในตัวเองมากครับ ดีใจที่คณะกรรมการเห็นถึงความตั้งใจที่ผมต้องการนำเสนอประเด็นทางสังคม ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นประกาศการประกวดนี้ผมดีใจมาก ผมมีความฝันว่าถ้ามีโอกาสสักครั้งหนึ่งจะส่งงานไปประกวดที่เมืองนอก แต่โอกาสนั้นมันมาถึงเมืองไทยแล้ว รู้สึกว่านี่แหละเวทีของเรา อยากจะพูดในสิ่งที่เราคิด และอยากจะแสดงออกในสิ่งที่ต้องการจริงๆ
 
คาดหวังอะไรในเส้นทางข้างหน้าที่กำลังมุ่งไป

ก่อนที่ผมจะมาร่วมประกวด RCB Portrait Prize ผมยอมรับว่าค่อนข้างท้อกับการเรียน ท้อกับชีวิต เนื่องจากการเรียนออนไลน์ช่วงโควิดมันบั่นทอนจิตใจนักศึกษา ผมเองต้องหาเลี้ยงชีพไปด้วยเรียนไปด้วย ก็ลำบากเหมือนกัน การที่ผมเจอกับคุณยายบัวผันที่ชีวิตแทบจะเลือกอะไรไม่ได้เลยทำให้ผมรู้สึกว่าต้องสู้เพื่ออะไรสักอย่าง อย่างน้อยก็อยากเอาเงินรางวัลที่ได้รับซื้ออาหารอร่อยๆ ไปมอบให้เขาสักครั้งหนึ่ง

ผมอยากประสบความสำเร็จครับ อยากมีชื่อเสียง อยากมีเงินเหมือนกับศิลปินคนอื่น แต่ในขณะเดียวกันผมก็อยากทำให้สังคมมันดีขึ้น อยากเป็นส่วนเล็กๆ ที่ทำให้งานศิลปะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่ทำให้คนได้ตระหนักรู้ว่าจริงๆ แล้วปัญหาของสังคมไทยมันมีอะไรบ้าง เกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมอยากเปลี่ยนแปลงมัน



อ่านบทสัมภาษณ์นี้จบแล้ว ใครอยากสัมผัสภาพพอร์เทรต ‘คุณยายบัวผัน’ และภาพอื่นๆ ที่เข้าร่วมประกวดอีกนับร้อยชิ้นด้วยตาของตัวเอง มาพบกันได้ตั้งแต่วันนี้ – 7 ธันวาคม 2021 ในนิทรรศการ Portrait Prize 2021 ที่ River City Bangkok โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และร่วมเป็นคณะกรรมการลงคะแนนภาพที่ชื่นชอบที่สุด สำหรับ People’s Choice Prize ซึ่งมีมูลค่าเงินรางวัลถึง 100,000 บาท ภายในนิทรรศการจะมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการลงคะแนนด้วยการสแกน QR code

สำหรับศิลปินที่สนใจเข้าร่วมประกวดใน RCB Portrait Prize 2022 ก็ไม่ต้องรอนาน เตรียมตัวเตรียมใจ เริ่มลงมือและส่งผลงานเข้าประกวดได้จนถึงวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2022 ติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการประกวดได้ทางเว็บไซต์ rivercitybangkok.com/th และอินสตาแกรม @portraitprize

อ่านบทสัมภาษณ์เต็มได้ คลิกที่นี่