วันจันทร์, เมษายน 26, 2564

แม้ ‘ทองแท้ไม่กลัวไฟ’ แต่นี่เป็น “สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อใน” ย่อม "กร่อนผุพังลงไป"


แฮ้สแท็ก ทองแท้ไม่กลัวไฟของหลายโรงพยาบาลนี่เห็นชัดว่าเอาทรัพย์สินราชการมาใช้ประโยชน์ส่วนตน เพราะเขาจับโป๊ะกันได้ บ้างต้องรีบปิดเพจหนี บ้างมีหมอในสังกัดออกมาประกาศต้าน ลงเอยว่า ถ้าไม่ไป คราวหน้าต้องไสส่งแรงกว่าเก่า

ถึงจะมีการปิดกั้นเพจ change.org หัวข้อ หมอไม่ทนก็มีการใช้ทางอ้อมและทะลวงเข้าไปเติมชื่อกันได้ วันนี้เมื่อบ่ายสองจำนวนผู้ร่วมไล่ อนุทิน ชาญวีรกูล ลาออกจาก รมว.สาธารณสุข เพราะบริหารงานผิดพลาดและบกพร่อง เกิน ๑๖๖,๐๐๐ แล้ว

ถ้าหากจะอ้างว่า “ตอนเข้าผมก็ขอเขามาที่นี่ ถ้าจะไปผมก็ขอไปด้วยตัวเอง” ไม่ได้นะ เพราะถ้าขอเข้ามาแสดงว่าเขาไม่อยากได้แต่แรก ฉะนั้นถ้าเขา (พวกหมอไม่ทน) ไม่ต้องการให้อยู่ต่อ ก็ต้องถีบออกไป ในเมื่อหมอในกระทรวงที่อ้าง ยังทนได้เป็นของปลอม

มีการจับโป๊ะได้ว่าเพจลอกแบบกันอย่างของโรงพยาบาลปากช่องนานา และอาร์ ๙ แชนเนิล เนื้อหาข้อความและการออกแบบกร๊าฟฟิคเหมือนกันเด๊ะ แค่สลับสีม่วง-บานเย็นเป็นน้ำเงิน-ฟ้าเท่านั้น หรือเพจโรงพยาบาลลำปางอยู่ได้ไม่นานต้องเด้งถูกถอดออก


ส่วนเพจโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลกนั่น มีหมอ ธนาคาร สาระคำ ออกแถลงการณ์ประณามว่าเป็นการใช้ชื่อองค์กรแสดงจุดยืนการเมืองส่วนตัว ไม่บังควร แถมยังไม่มีการถามความเห็นเหล่าบุคคลากรที่ถูกใช้อ้างอิงเลยสักนิด

ปิดท้ายด้วยการ “ขอแสดงความไม่นับถือและขยะแขยง” ถ้าการเมืองไม่เละเทะ การปกครองไม่เขละขละ ดังเช่นเป็นอยู่ทุกวันนี้ คำพูดของอนุทิน “ที่ผ่านมาเจอลักษณะนี้หลายครั้ง ไม่เคยเสียกำลังใจ” ย่อมหมายถึงความหน้าด้านซึ่งต้องอภิปรายไล่ออกกันแล้ว

เนื่องจากเป็นปัญหา “สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อใน” แบบที่ Eak_THESTANDARD @EakThestandard ชี้ ปล่อยไว้รังแต่จะกัดกร่อนโครงร่างให้ผุพังลงไป ขนาดว่าเสียงเรียกร้องอีกมากว่า ไล่อนุทินคนเดียวไม่พอ ต้องไล่ประยุทธ์ จันทร์อะไรนั่นด้วย

ยิ่งสถานการณ์โควิดระบาดรอบที่สามนี่ ไม่ได้มีอะไรคลี่คลายลงแม้แต่น้อย จำนวนผู้ติดเชื้อยังเกาะระดับ ๒ พันต่อวัน คอยดูว่าผลจากการที่มีคนอินเดียเดินทางเข้าประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะเที่ยวบินวันที่ ๑๗ เมษา ที่กระทรวงต่างประเทศพยายามตอหลด

กต.ออกแถลงเรื่องพูดกันขรมว่า ชาวอินเดียระดับเศรษฐีเหมาเครื่องบินหนีสภาพการระบาดหนักหน่วงในประเทศ ส่วนหนึ่งมาไทย นั้นเป็นการแปลข่าวคลาดเคลื่อน ไม่มีการซื้อตั๋วเดินทางอย่างนั้น แต่ครั้นมีการเปิดเผยรายชื่อผู้โดยสาร บักดอนควรต้องหน้าแตก

ดัง วอ รอ ดอ@ton_warodom ประชดให้ “ไม่เหมาลำจริงด้วย แต่ทั้งลำคนไทย ๔๐ คน อินเดีย ๑๑๔ คน จะไปบอกว่าเหมาลำไม่ได้” อย่างนี้ตอกย้ำถึงการโกหกตอแหลของทางการไทย ซ้ำซากทุกครั้งที่ปรากฏมีการกระทำผิด ดำเนินการพลาด

แล้วอย่างนี้จะเอาศักดิ์ศรีและความน่าเชื่อถือใดไปทำให้นานาชาติไม่ดูแคลน และ/หรือรังเกียจ ถ้อยคำสวยหรู สำนวนการทูตคมคาย มีแต่ความว่างเปล่าเพราะไม่ได้ปฏิบัติจริง ดังเมื่อ ดอน ปรมัตถ์วินัย ไปพูดในการประชุมอาเซียน เสนอหลักการ ‘4D’

“1. De-escalating violence (หยุดยั้งความรุนแรง) 2. Delivering humanitarian assistance (ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม) 3. Discharge of detainees (ปล่อยผู้ถูกกักขัง) 4. Dialogue (เจรจาหารือ)” เห็นแว้บอาจร้อง โหยเจ๋ง

ที่ไหนได้เกือบทั้งนั้นภายในไทยเองทำตรงข้าม แล้วยังมีหน้าไปแนะให้ทำในพม่า โดยเฉพาะข้อ ๒ และ ๓ นี่เหมือนตบหน้าตัวเองซ้ายทีขวาทีเลยเชียวละ รัฐบาลไทยไม่เคยมีมนุษยธรรมกับผู้เห็นต่าง ไม่ยอมปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา ม.๑๑๒

และกระทั่งบัดนี้ไม่มีท่าทีว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาการเรียกร้องให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้ง ปฏิรูป ตามที่ขบวนการเยาวชนพร่ำบ่นตลอดมานับปี เด็กเหล่านั้นกลับถูกคุมขัง ปฏิเสธประกัน โดยยังไม่มีการพิจารณาหรือพิพากษาความผิด

(https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/934446, https://www.change.org/o/%E0%99 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2690865)