แฮ้สแท็ก ‘ทองแท้ไม่กลัวไฟ’ ของหลายโรงพยาบาลนี่เห็นชัดว่าเอาทรัพย์สินราชการมาใช้ประโยชน์ส่วนตน เพราะเขาจับโป๊ะกันได้ บ้างต้องรีบปิดเพจหนี บ้างมีหมอในสังกัดออกมาประกาศต้าน ลงเอยว่า ‘ถ้าไม่ไป’ คราวหน้าต้องไสส่งแรงกว่าเก่า
ถึงจะมีการปิดกั้นเพจ change.org หัวข้อ ‘หมอไม่ทน’ ก็มีการใช้ทางอ้อมและทะลวงเข้าไปเติมชื่อกันได้ วันนี้เมื่อบ่ายสองจำนวนผู้ร่วมไล่ อนุทิน ชาญวีรกูล ลาออกจาก รมว.สาธารณสุข เพราะบริหารงานผิดพลาดและบกพร่อง เกิน ๑๖๖,๐๐๐ แล้ว
ถ้าหากจะอ้างว่า “ตอนเข้าผมก็ขอเขามาที่นี่ ถ้าจะไปผมก็ขอไปด้วยตัวเอง” ไม่ได้นะ เพราะถ้าขอเข้ามาแสดงว่าเขาไม่อยากได้แต่แรก ฉะนั้นถ้าเขา (พวกหมอไม่ทน) ไม่ต้องการให้อยู่ต่อ ก็ต้องถีบออกไป ในเมื่อหมอในกระทรวงที่อ้าง ‘ยังทนได้’ เป็นของปลอม
มีการจับโป๊ะได้ว่าเพจลอกแบบกันอย่างของโรงพยาบาลปากช่องนานา และอาร์ ๙ แชนเนิล เนื้อหาข้อความและการออกแบบกร๊าฟฟิคเหมือนกันเด๊ะ แค่สลับสีม่วง-บานเย็นเป็นน้ำเงิน-ฟ้าเท่านั้น หรือเพจโรงพยาบาลลำปางอยู่ได้ไม่นานต้องเด้งถูกถอดออก
ส่วนเพจโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลกนั่น มีหมอ ธนาคาร สาระคำ ออกแถลงการณ์ประณามว่าเป็นการใช้ชื่อองค์กรแสดงจุดยืนการเมืองส่วนตัว ไม่บังควร แถมยังไม่มีการถามความเห็นเหล่าบุคคลากรที่ถูกใช้อ้างอิงเลยสักนิด
ปิดท้ายด้วยการ “ขอแสดงความไม่นับถือและขยะแขยง” ถ้าการเมืองไม่เละเทะ การปกครองไม่เขละขละ ดังเช่นเป็นอยู่ทุกวันนี้ คำพูดของอนุทิน “ที่ผ่านมาเจอลักษณะนี้หลายครั้ง ไม่เคยเสียกำลังใจ” ย่อมหมายถึงความหน้าด้านซึ่งต้องอภิปรายไล่ออกกันแล้ว
เนื่องจากเป็นปัญหา “สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อใน” แบบที่ Eak_THESTANDARD @EakThestandard ชี้ ปล่อยไว้รังแต่จะกัดกร่อนโครงร่างให้ผุพังลงไป ขนาดว่าเสียงเรียกร้องอีกมากว่า ไล่อนุทินคนเดียวไม่พอ ต้องไล่ประยุทธ์ จันทร์อะไรนั่นด้วย
ยิ่งสถานการณ์โควิดระบาดรอบที่สามนี่ ไม่ได้มีอะไรคลี่คลายลงแม้แต่น้อย จำนวนผู้ติดเชื้อยังเกาะระดับ ๒ พันต่อวัน คอยดูว่าผลจากการที่มีคนอินเดียเดินทางเข้าประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะเที่ยวบินวันที่ ๑๗ เมษา ที่กระทรวงต่างประเทศพยายามตอหลด
กต.ออกแถลงเรื่องพูดกันขรมว่า ชาวอินเดียระดับเศรษฐีเหมาเครื่องบินหนีสภาพการระบาดหนักหน่วงในประเทศ ส่วนหนึ่งมาไทย นั้นเป็นการแปลข่าวคลาดเคลื่อน ไม่มีการซื้อตั๋วเดินทางอย่างนั้น แต่ครั้นมีการเปิดเผยรายชื่อผู้โดยสาร บักดอนควรต้องหน้าแตก
ดัง วอ รอ ดอ@ton_warodom ประชดให้ “ไม่เหมาลำจริงด้วย แต่ทั้งลำคนไทย ๔๐ คน อินเดีย ๑๑๔ คน จะไปบอกว่าเหมาลำไม่ได้” อย่างนี้ตอกย้ำถึงการโกหกตอแหลของทางการไทย ซ้ำซากทุกครั้งที่ปรากฏมีการกระทำผิด ดำเนินการพลาด
แล้วอย่างนี้จะเอาศักดิ์ศรีและความน่าเชื่อถือใดไปทำให้นานาชาติไม่ดูแคลน และ/หรือรังเกียจ ถ้อยคำสวยหรู สำนวนการทูตคมคาย มีแต่ความว่างเปล่าเพราะไม่ได้ปฏิบัติจริง ดังเมื่อ ดอน ปรมัตถ์วินัย ไปพูดในการประชุมอาเซียน เสนอหลักการ ‘4D’
“1. De-escalating violence (หยุดยั้งความรุนแรง) 2. Delivering humanitarian assistance (ส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม) 3. Discharge of detainees (ปล่อยผู้ถูกกักขัง) 4. Dialogue (เจรจาหารือ)” เห็นแว้บอาจร้อง ‘โหยเจ๋ง’
ที่ไหนได้เกือบทั้งนั้นภายในไทยเองทำตรงข้าม แล้วยังมีหน้าไปแนะให้ทำในพม่า โดยเฉพาะข้อ ๒ และ ๓ นี่เหมือนตบหน้าตัวเองซ้ายทีขวาทีเลยเชียวละ รัฐบาลไทยไม่เคยมีมนุษยธรรมกับผู้เห็นต่าง ไม่ยอมปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา ม.๑๑๒
และกระทั่งบัดนี้ไม่มีท่าทีว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหาการเรียกร้องให้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้ง ‘ปฏิรูป’ ตามที่ขบวนการเยาวชนพร่ำบ่นตลอดมานับปี เด็กเหล่านั้นกลับถูกคุมขัง ปฏิเสธประกัน โดยยังไม่มีการพิจารณาหรือพิพากษาความผิด
(https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/934446, https://www.change.org/o/%E0%99 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2690865)