น่าสังเกตุพฤติกรรม ‘สลิ่ม’ ช่วงนี้เงียบกริบกับ #สงครามน้ำลาย
ไทย-จีน บนทวิตเตอร์ เพราะ ‘พระเทพฯ’ ทรงได้รับรางวัลเพื่อนสนิทของจีนสองครั้ง
ดัง Pavin Chachavalpongpun เอ่ยถึงหรือเปล่า หรืออาจสะอึกกับอะไรบางอย่างก็ได้
ในเมื่อความสัมพันธ์แนบแน่นกับมหามิตรมังกรนี้มีแผลพุพองพอดู
ประโยชน์ที่ได้ไปตกแก่ “คนรวยที่กุมบังเหียนเศรษฐกิจไทย
ที่ได้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน อาทิ ซีพี...ไม่ได้ตกลงมาถึงคนข้างล่าง”
ดังปวินว่า
ครั้นเน็ตติเซ็นไทยสามารถตอบโต้กองทัพไซเบอร์จีนอย่างระรื่นสะใจผู้ชม
จนกลายเป็น ‘ไอดอล’ ของทั่วภูมิภาคอาเซียนกันไปแล้ว
โดยเฉพาะ “ใน Weibo ปรากฏคนจีนเชียร์ชาวทวิตไทยกันตรึม ล่าสุดปล่อยคลิปแร้ป
‘ประเทศกูมี’ ซับจีน-อังกฤษ”
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ เก็บมาเล่าว่า “กลายเป็นไวรัลบน Weibo ยอดทะลุล้านวิวชั่วข้ามคืน
คนจีนดูแล้วต้องช็อคสุด ๆ กับเหตุการณ์ ๖ ตุลาของไทยว่าเหมือนที่คนจีนประสบ เข้าใจแล้วว่าทำไมทวิตไทยจึงเกลียดเผด็จการ
และมีภูมิต้านทานสูง”
แม้แต่เมื่อสถานทูตจีนในไทยลงมาเล่นด้วยแรงๆ
แถลงว่า “คนบางกลุ่มบนโลกออนไลน์ ใช้โอกาสนี้ทำให้เรื่องขยายใหญ่โตลุกลามออกไป
พยายามวางแผนมุ่งร้าย ยุแยงเพื่อทำให้ผู้คนผิดใจกัน...จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน”
ขอให้ยึดหลักการ ‘จีนเดียว’ เหนียวแน่นต่อไป
เท่านั้นแหละแผลพุพองก็ปะทุ เรื่องเก่าตั้งแต่ต้นปีที่รัฐบาลนี้ไปเจรจา
ว่าเขื่อนต่างๆ ของจีนบนลำน้ำโขงตอนบนเก็บกักน้ำมากเสียจน ไทยและประเทศปลายน้ำโขงประสบความเดือดร้อนจากความแห้งแล้ง
เพราะปริมาณน้ำใต้เขื่อนน้อยลงมาก
รายงานงานศึกษาวิจัยเรื่องน้ำโขงของ อลัน
เบซิสต์ และโคลด วิลเลี่ยมส์ พบว่าจากการตรวจวัดด้วยดาวเทียม “เมื่อปี ๒๐๑๙ มณฑลยูนนานของจีนมีระดับความเปียกชื้นที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย”
แต่ “ระดับน้ำในแม่น้ำโขงช่วงตั้งแต่ชายแดนไทยลาวกลับลดต่ำลง ๓ เมตร”
ผู้เขียนรายงานบอกว่า “เป็นการลดลงต่ำกว่าที่ผ่านมาในอดีต...จีนไม่ปล่อยน้ำไหลลงมาในช่วงฤดูฝน
แม้จะรู้ว่าการกักน้ำจากจีนจะทำให้ประเทศด้านล่างต้องเผชิญผลกระทบรุนแรงจากภัยแล้งก็ตาม”
(https://www.bbc.com/thai/thailand-52276706?ka2I)
พอปลายมกราจีนแจ้งว่าจะเปิดเขื่อนของตนระบายน้ำเพิ่มให้อีก
๑๕ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที “ด้วยท่าทีเป็นพระคุณต่อไทยและท้ายน้ำ แต่ ๒๕ ม.ค-วันนี้
อัตราไหลยังคงต่ำมาก” เพจ TheMekongButterfly @MekongButterfly รายงานไว้
“ธ.ค.๖๒ จีนแจ้งว่าจะลดระบายน้ำจาก #เขื่อนจินฮง ๑-๔ ม.ค.๖๓ แล้วจะกลับมาระบายปกติ” ๖ มกราตรวจสอบพบว่า อัตราไหลของน้ำโขงกลับต่ำกว่าเดิม
เหลือ ๑,๐๒๖ ลบ.ม./วิ ปกติอัตราไหลของน้ำที่เชียงแสน ๑,๕๕๒
ลบ.ม./วิ
ความรู้สึกที่เห็นว่าจีนเอาเปรียบ “เห็นแก่ตัว
ไม่รับผิดชอบ บูลลี่” แล้วยังพบว่าพวกนักรบไซเบอร์ที่ต่อกรกับเน็ตติเซ็นไทย
ส่วนใหญ่เป็น ‘ไอโอ’ และ ‘บ็อทส์’ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน จึงมี #ชานมข้นกว่าเลือด หรือ #MilkTeaAlliance เกิดขึ้น
แฮ้สแท็กดังกล่าวเป็นดั่ง ‘แพ็ค’ มัดหวายของคนรุ่นใหม่ในไทย ไต้หวันและฮ่องกง ที่กำลังเป็นเทร็นดิ้งอาเซียน
สัญญลักษณ์ของการผนึกกำลังชูประชาธิปไตยอัน ‘หอมหวาน’ ชนิดที่ Pimkarn
Kiratiwirapakorn คุยว่า “กลายเป็นเครื่องดื่มต่อต้านเผด็จการไปแล้วค่ะ”