แค่ ‘hick up’ สะอึกเท่านั้น ให้โปรเฟสเซ่อโฆษกคอยตามตบหลังก็หาย คำพูดเป็นนายของนายกฯ “ตอนนี้มีเงินจ่ายเยียวยา
๕,๐๐๐ บาทแค่เดือนเดียว เดือนต่อไปต้องรอ พ.ร.ก.เงินกู้ ๑
ล้านล้านบาท” จากคลิปที่ @jin_Somroutai ช่อง ๗ เอามายัน
นั้นนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีช่วยแก้ไขใหม่ให้กระชับว่า ‘ไอทู้บ’ ผู้โอบอ้อม ไล่แจกจ่ายอุปกรณ์การแพทย์แก่มิตรประเทศเพื่อนบ้าน
หมายถึงงบประมาณปี ๖๓ เท่านั้นที่หมด ยังมีเงินกู้ของปีหน้าไว้สำรอง
ปลัดคลังฯ มายันอีกคน “ว่าท่านพูดชัดเจนในข้อเท็จจริง...ซึ่ง
พ.ร.ก.เงินกู้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ
และการประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นจึงจะหาเงินกู้เพื่อนำมาจ่ายเยียวยาประชาชนในเดือนที่
๒ และเดือนที่ ๓ ต่อไป”
ช่วยกันประคับประคอง ‘ไข่ในหิน’ ใบนี้ให้ไปตลอดสมัยสองหน่อยได้ไหม โถ
ต้องฟังเขาโอด “หากมาทำตรงนี้ แล้วจะรู้ว่ามันยากแค่ไหน มันเสี่ยงอันตรายแค่ไหน
ในการใช้จ่ายงบประมาณเหล่านี้” โฆษกทหารWassana
Nanuam บอก
เข้าใจตรงกันแล้วนะว่าลูกหลานประชาชนมีส่วนร่วมแก้วิกฤตประเทศถ้วนหน้า
ด้วยการตามใช้หนี้เงินกู้ที่ว่านั่น แต่สิ่งดีๆ ที่นายกฯ ดันลืมพูด ตรงที่มีการทบทวนงบประมาณปี
๖๔ พิจารณาตัดงบฯ ทุกกระทรวงลง ๒๕-๕๐ เปอร์เซ็นต์เพื่อเอาไปอัดสู้โควิด
เลยได้รู้ว่า งบประมาณที่ตั้งไว้มากมายชนิดขาดดุลสะสมนั้น
แท้จริงแล้วตัดได้ ลดได้ โดยเฉพาะในส่วนที่จะเอาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เช่น ประชาสัมพันธ์
จ้างที่ปรึกษา สัมมนา ดูงานต่างประเทศ ค่าจัดอีเว้นต์ จ้างออร์แกไน้เซอร์
ไรงี้เกินต้องการไปตั้ง ๒๕%
(https://www.facebook.com/asatreerat/posts/2991641270950354 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2141459)
ปัญหามีแต่เพียงว่าผู้นำพูดผิด พูดตกหล่น
พูดเกินจริง พูดพล่อย ปากเปรอะเลอะเทอะแบบผู้นำอเมริกันคนนี้ไม่ได้
เพราะผิดแล้วผิดเลย จะให้ลิ่วล้อคอยช่วยแก้ประชาชนก็ยังไม่ไว้ใจ
ไม่เหมือนในอเมริกาที่มีการแยกอำนาจชัดเจน
เมื่อประธานาธิบดีมั่ว เอาแต่ใจตัวเป็นที่ตั้ง
พวกผู้ว่าการรัฐเขาก็ไม่เอาด้วย จากกรณีที่ทรั้มพ์หน้าแตกหลังประกาศอำนาจเบ็ดเสร็จ
จะทำการเปิดปิดประเทศตามความคิดส่วนตน (ชี้ไปที่หัว) ผู้ว่านิวยอร์ค แมสซาชูเส็ท
และอิลลินอยส์ ประกาศไม่เอาด้วย เช่นเดียวกับผู้ว่าฯ แคลิฟอร์เนีย ออเรกอน
และวอชิงตัน
ในกาลข้างหน้าหลังจากโควิดสยบ
พันธะหนักยิ่งกว่าอยู่ที่ไม่สามารถออกมายืนเกาะโพเดี้ยม แถลงเรียกร้องความร่วมมือจากประชาชน
ว่าจะให้พวกเขาอดๆ อยากๆ เพื่อความพอเพียง ยึดมั่นปรัชญาแห่งชาติได้อีกแล้วนะ
เมื่อวันก่อน ‘ไอเอ็มเอฟ’ ออกโรงเตือนไว้แล้วว่าปี ๖๓ นี้
เศรษฐกิจโลกติดลบ ๓ เปอร์เซ็นต์แน่นอน จีดีพีของประเทศต่างๆ ล้วนหดตัวถ้วนหน้า
อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ไม่มีใครไม่ติดลบ เฉพาะไทยที่เคยฝันว่าจะโต ๓ เปอร์เซ็นต์
ก็หดตัวเหลือ -๖.๗%
ซ้ำร้ายการแก้ไขพิษภัยจากโควิด-๑๙
จะไม่จบง่ายๆ หลังจากที่การระบาดยุติแล้ว ณ
เวลานี้ดูเหมือนว่าเส้นกร๊าฟการติดเชื้อจะเข้าสู่ระนาบแนวนอน
ทว่าสมรรถนะในการรักษาผู้ป่วยเต็มพิกัดที่มีอยู่แล้ว เครื่องช่วยหายใจทั้งประเทศมีเพียง
๒๐๐ อัน
นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ
ธนบุรีเฮ้ลต์แคร์กรุ๊ป โรงพยาบาลเอกชนอันดับสามของไทย บอกกับ นสพ.บางกอกโพสต์ว่า
หากมีจำนวนผู้ป่วยใหม่ๆ ในอัตราวันละร้อยรายก็เต็มกำลังแล้ว มากกว่านี้แย่แน่ๆ
ขณะนี้ทั้งโรงพยาบาลจุฬาและศิริราชเตียงคนไข้เต็มหมด
“เขาประเมินว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจริงๆ
มากกว่าจำนวนที่มีการประกาศแล้ว ๔๐ เท่าเห็นจะได้ ในเมื่อ ๘๐
เปอร์เซ็นต์ของคนที่ติดเชื้อไม่ปรากฏอาการ หมายความว่าอาจมีคนติดเชื้อถึง ๒ แสนรายโดยไม่รู้ตัว”
ดังนั้นการสกัดโควิดระยะยาวได้ต้องไล่ตรวจให้ถ้วนทั่ว
ประเทศไทยตรวจหาผู้ติดเชื้อไปแล้ว ๓
หมื่นราย และปัจจุบันสามารถตรวจได้วันละ ๑ พันคน แต่การตรวจฟรีโดยรัฐบาลจะทำเฉพาะคนที่มีอาการแล้วเท่านั้น
ผู้ต้องการตรวจเพราะสงสัยหรือเพียงสุ่มตรวจจะต้องไปโรงพยาบาลเอกชนซึ่งค่าตรวจ ๖
พันบาทต่อราย
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่
๓๔ ราย ซึ่งจัดว่าน้อยและทรงตัว แต่ความสามารถในการรับมือผู้ป่วยในไทยอยู่ที่ต้องมีการติดเชื้อใหม่แค่วันละ
๒๐-๓๐ รายเท่านั้นจึงจะรับไหว แสดงว่า ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยยังห่างไกลจากจุดอันตราย
ภาวะวิกฤตโควิด-๑๙ จะยืดเยื้อต่อไปเป็นเวลานานถึง
๑๘ เดือน แต่อีกไม่ช้าฤดูฝนกำลังจะมา
รัฐบาลมีเส้นตายต้องระงับการแพร่เชื้อให้ได้ภายในก่อนเดือนกรกฎาคม
เมื่ออากาศชื้นทำให้ผู้คนมักป่วยด้วยหวัดหรือไข้ธรรมดา
อันเป็นช่องทางให้โคโรน่าไวรัสเข้าแทรกซ้อนได้ง่าย
(https://www.bangkokpost.com/business/1900975/the-coming-storm?
และ https://thaipublica.org/2020/04/imf-world-economic-outlook-15-4-2563/)
ที่เป็นมาหมอบุญให้คะแนนการรับมือโควิดของรัฐบาลตูบที่เกรด
B+ “So far so good.”
เขาว่าปัญหาอยู่ที่การตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจฉับไวและขับเคลื่อนทันควันของรัฐบาล
“อืดอาดไปนิด”
จะลองผิดลองถูก
หรือให้ข้อมูลผิดๆ บ่อยๆ ไม่เป็นไรมีลูกน้องคอยแก้ให้เหมือนที่ทำมาจนเป็นนิสัยติดตัว
อีก ‘ไม่ได้’
เพราะถ้าผู้นำยังขืนบ๊องๆ ตามสบาย #รจตกม