วันพุธ, เมษายน 15, 2563

สงครามไซเบอร์ ไทย-จีน เปิดแผลพุพอง 'แย่งน้ำโขง'

น่าสังเกตุพฤติกรรม สลิ่มช่วงนี้เงียบกริบกับ #สงครามน้ำลาย ไทย-จีน บนทวิตเตอร์ เพราะ พระเทพฯทรงได้รับรางวัลเพื่อนสนิทของจีนสองครั้ง ดัง Pavin Chachavalpongpun เอ่ยถึงหรือเปล่า หรืออาจสะอึกกับอะไรบางอย่างก็ได้

ในเมื่อความสัมพันธ์แนบแน่นกับมหามิตรมังกรนี้มีแผลพุพองพอดู ประโยชน์ที่ได้ไปตกแก่ “คนรวยที่กุมบังเหียนเศรษฐกิจไทย ที่ได้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน อาทิ ซีพี...ไม่ได้ตกลงมาถึงคนข้างล่าง” ดังปวินว่า

ครั้นเน็ตติเซ็นไทยสามารถตอบโต้กองทัพไซเบอร์จีนอย่างระรื่นสะใจผู้ชม จนกลายเป็น ไอดอลของทั่วภูมิภาคอาเซียนกันไปแล้ว โดยเฉพาะ “ใน Weibo ปรากฏคนจีนเชียร์ชาวทวิตไทยกันตรึม ล่าสุดปล่อยคลิปแร้ป ประเทศกูมี ซับจีน-อังกฤษ”

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ เก็บมาเล่าว่า “กลายเป็นไวรัลบน Weibo ยอดทะลุล้านวิวชั่วข้ามคืน คนจีนดูแล้วต้องช็อคสุด ๆ กับเหตุการณ์ ๖ ตุลาของไทยว่าเหมือนที่คนจีนประสบ เข้าใจแล้วว่าทำไมทวิตไทยจึงเกลียดเผด็จการ และมีภูมิต้านทานสูง”

แม้แต่เมื่อสถานทูตจีนในไทยลงมาเล่นด้วยแรงๆ แถลงว่า “คนบางกลุ่มบนโลกออนไลน์ ใช้โอกาสนี้ทำให้เรื่องขยายใหญ่โตลุกลามออกไป พยายามวางแผนมุ่งร้าย ยุแยงเพื่อทำให้ผู้คนผิดใจกัน...จีนไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” ขอให้ยึดหลักการ จีนเดียวเหนียวแน่นต่อไป
 
เท่านั้นแหละแผลพุพองก็ปะทุ เรื่องเก่าตั้งแต่ต้นปีที่รัฐบาลนี้ไปเจรจา ว่าเขื่อนต่างๆ ของจีนบนลำน้ำโขงตอนบนเก็บกักน้ำมากเสียจน ไทยและประเทศปลายน้ำโขงประสบความเดือดร้อนจากความแห้งแล้ง เพราะปริมาณน้ำใต้เขื่อนน้อยลงมาก

รายงานงานศึกษาวิจัยเรื่องน้ำโขงของ อลัน เบซิสต์ และโคลด วิลเลี่ยมส์ พบว่าจากการตรวจวัดด้วยดาวเทียม “เมื่อปี ๒๐๑๙ มณฑลยูนนานของจีนมีระดับความเปียกชื้นที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย” แต่ “ระดับน้ำในแม่น้ำโขงช่วงตั้งแต่ชายแดนไทยลาวกลับลดต่ำลง ๓ เมตร”

ผู้เขียนรายงานบอกว่า “เป็นการลดลงต่ำกว่าที่ผ่านมาในอดีต...จีนไม่ปล่อยน้ำไหลลงมาในช่วงฤดูฝน แม้จะรู้ว่าการกักน้ำจากจีนจะทำให้ประเทศด้านล่างต้องเผชิญผลกระทบรุนแรงจากภัยแล้งก็ตาม” (https://www.bbc.com/thai/thailand-52276706?ka2I)

พอปลายมกราจีนแจ้งว่าจะเปิดเขื่อนของตนระบายน้ำเพิ่มให้อีก ๑๕ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที “ด้วยท่าทีเป็นพระคุณต่อไทยและท้ายน้ำ แต่ ๒๕ ม.ค-วันนี้ อัตราไหลยังคงต่ำมาก” เพจ TheMekongButterfly @MekongButterfly รายงานไว้

“ธ.ค.๖๒ จีนแจ้งว่าจะลดระบายน้ำจาก #เขื่อนจินฮง ๑-๔ ม.ค.๖๓ แล้วจะกลับมาระบายปกติ” ๖ มกราตรวจสอบพบว่า อัตราไหลของน้ำโขงกลับต่ำกว่าเดิม เหลือ ๑,๐๒๖ ลบ.ม./วิ ปกติอัตราไหลของน้ำที่เชียงแสน ๑,๕๕๒ ลบ.ม./วิ

ความรู้สึกที่เห็นว่าจีนเอาเปรียบ “เห็นแก่ตัว ไม่รับผิดชอบ บูลลี่” แล้วยังพบว่าพวกนักรบไซเบอร์ที่ต่อกรกับเน็ตติเซ็นไทย ส่วนใหญ่เป็น ไอโอ และ บ็อทส์ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน จึงมี #ชานมข้นกว่าเลือด หรือ #MilkTeaAlliance เกิดขึ้น

แฮ้สแท็กดังกล่าวเป็นดั่ง แพ็คมัดหวายของคนรุ่นใหม่ในไทย ไต้หวันและฮ่องกง ที่กำลังเป็นเทร็นดิ้งอาเซียน สัญญลักษณ์ของการผนึกกำลังชูประชาธิปไตยอัน หอมหวาน ชนิดที่ Pimkarn Kiratiwirapakorn คุยว่า “กลายเป็นเครื่องดื่มต่อต้านเผด็จการไปแล้วค่ะ”

แล้วยังได้ผู้นำหญิงของไต้หวัน เขียนสารอวยพรวันสงกรานต์ถึงชาวไทย (ที่ทำมาหากินและอยู่อาศัยในไต้หวัน) ที่ไม่ได้ฉลองกันเนื่องจากการระบาดของเชื้อไข้ โควิด-๑๙ เสียอีก สงสัยทั้งสามประเทศจะได้ประกาศอิสรภาพพร้อมกัน