วันเสาร์, ตุลาคม 04, 2568

ประกันสังคมกำลังเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ๑-๑๗ ตุลาคม อยู่ในช่วงประชาพิจารณ์ ‘บำนาญสูตรใหม่’ ที่จะเพิ่มบำนาญให้ผู้ประกันอย่างน้อยๆ ๖ แสนคน

ประกันสังคมกำลังเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ในอีกราวๆ สี่เดือนข้างหน้า เมื่อจะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ที่ว่า หัวเลี้ยว นี้เนื่องจากที่ผ่านมาทีมก้าวหน้า นำโดย ษัษฐรัมย์ ธรรมบุสดี ได้ทำการปฏิรูประบบประกันสังคมมากมาย

แต่ก็ยังมีอีกมากจักต้องได้รับการสานต่อ “พวกเราสามารถเพิ่มเงินเด็กให้เด็ก ๑.๒ ล้านคน เงินคนว่างงาน ให้ ๘ หมื่นคน พร้อมกับการป้องกันเงินรั่วไหลจากการลงทุนที่ผิดพลาดนับแสนล้าน” ในช่วงการทำงานเพียง ๑๕ เดือน

และที่ยังค้างคา ต้องเร่งมือให้เสร็จภายในสี่เดือนข้างหน้า ก็คือ บำนาญสูตรใหม่ซึ่งอยู่ในช่วงประชาพิจารณ์ ๑-๑๗ ตุลาคม ษัษฐรัมย์บอกว่าสูตรใหม่ที่เรียกว่า CARE นี้ จะทำให้ผู้ได้รับบำนาญอยู่แล้ว ๔ แสนคนจาก ๘ แสน ได้รับบำนาญเพิ่ม

ยังมีผู้ได้รับบำนาญใหม่อีก ๒ แสนคน จะได้รับเพิ่มมากกว่าสูตรเดิมราว ๗% แต่การคำนวณบำนาญแบบใหม่นี้มีค่าใช้จ่าย ที่ษัษฐรัมย์ว่า “จะเรียกว่าค่าใช้จ่ายก็ไม่ถูกต้องเพราะมันคือการคืนเงินที่พวกเขาถูกปล้นชิงไปจากความไม่เป็นธรรม”

และว่า “มูลค่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านน้อยกว่าตึก Skyy9 หนึ่งตึก แต่คือความคุ้มค่าอย่างที่สุดในการสร้างความเชื่อมั่นและคืนความเป็นธรรมให้ทุกคน...เรามั่นใจว่านี่คือความเป็นธรรมที่สำคัญที่เราจะทำได้ใน ๔ เดือนสุดท้ายของเรา”

ตัวอย่างหนึ่งของการต่อสู้เพื่อผู้ประกันตน ดูได้จากคลิปที่ ไอ๊ซ์ รักชนก ศรีนอก สส.พรรคประชาชนเล่าไว้ เกี่ยวกับการลงทุนของกองทุนประกันสังคม ว่าปกติจะมีกรรมการชุดหนึ่งประชุมกันเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ มาวันหนึ่งทีมก้าวหน้าพบว่า

มีตัวแทนบริษัทหนึ่งร่วมประชุมถึงสองคนทุกครั้ง คนหนึ่งนั่งประชุมในคณะกรรมการมีป้ายชื่อแสดงว่าเป็นตัวแทนของบริษัทเมอร์เซอร์ อีกคนเป็นชาวต่างชาติประชุมผ่านวิดีโอคอลระบบซูม เมื่อซักถามเขายืนยันว่าคือตัวแทนแท้ๆ ของบริษัท

ตลอดเวลาที่ร่วมประชุมทุกครั้ง เขาไม่เคยเปิดไมค์แสดงความเห็นหรือคำถาม เนื่องจากเขาพูดภาษาไทยไม่ได้และฟังไม่เข้าใจ แต่บริษัทก็ไปจ้างช่วง หรือ Subcontract อีกคนให้ไปร่วมนั่งประชุม ซึ่งผิดสัญญาว่าจ้าง ที่ประกันสังคมจ่าย ๑๕ ล้านบาท

ปัญหาอยู่ที่หลังจับโป๊ะกันไปแล้ว และหมดสัญญาว่าจ้าง คนที่เคยเข้าไปนั่งประชุมก็ยังไปร่วมประชุมต่อไป ซ้ำให้คำแนะนำต่างๆ ชนิดที่ “จะเปิดช่องให้ตึกแบบกรณี Skyy9 เนี่ย เกิดขึ้นได้อีก ๓๐ ตึก” สส.รักชนกบอกกองทุนฯ มีเงินอยู่ ๒.๗ ล้านล้าน

“ถ้าเผื่อคุณนั่งอยู่ในที่ประชุม ที่รู้ว่าเดือนหน้าประกันสังคมจะไปลงทุนอะไร พอรู้ข้อมูลคุณก็ไปซื้อตาม พอประกันสังคมเข้าลงทุน ราคามันก็จะขึ้น แค่นี้ก็คือรวยไม่รู้เรื่องแล้ว” นี่คือ Conflict of Interest หรือผลประโยชน์ทับซ้อน

“ประกันสังคมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร”

(https://www.facebook.com/watch?v=779823741520884 และ https://www.facebook.com/sustarum.t/posts/JFqQLkNVRq)