วันพุธ, สิงหาคม 20, 2568

วันหนึ่งประเทศเราอาจกลายเป็นเพียง “อดีตที่เคยรุ่งเรือง” เหมือนที่ฟิลิปปินส์เคยเป็น เรามีเงื่อนไขหลายอย่างคล้ายกับฟิลิปปินส์จริง ๆ แค่หวังว่า…วันนั้นจะไม่มีวันมาถึง


Pathom Indarodom
19 hours ago
·
ไม่นานมานี้ ผมได้นั่งรถไฟฟ้าสายใหม่กับเพื่อนชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งที่มาทำธุรกิจในกรุงเทพฯ เขาอ้าปากค้างเล็กน้อยตอนมองตารางเวลาแบบดิจิทัล เห็นรถมาเป๊ะทุก 4 นาที จนออกปากชมแบบในคลิปที่มีคนชื่นชมระบบรถไฟฟ้าของเรามากมาย

“บ้านคุณสุดยอดเลย” เขาว่า “ของเรานี่… รถเก่า ๆ ตู้โทรม จอไม่ติด บางสถานีก็เหม็นมาก ไม่เข้าใจเลยว่าฟิลิปปินส์เคยมีรถไฟฟ้ามาก่อนอาเซียนทุกประเทศนะ แต่ตอนนี้…”

เขาหัวเราะอย่างเหนื่อยใจ แล้วพูดประโยคที่ทำให้ผมสะดุด

“อย่าชะล่าใจไปนะ ไทยอาจจะเดินตามเราในวันหนึ่งก็ได้”

เป็นประโยคสั้น ๆ ที่ทำให้ต้องคิดว่าเพราะอะไรที่ทำให้ฟิลิปปินส์ที่เคยนำทุกประเทศในอาเซียนต้องกลายเป็นผู้ตามในวันนี้

ย้อนกลับไปปี 1984 ฟิลิปปินส์เปิดตัวรถไฟฟ้า LRT Line 1 ที่มะนิลา ถือเป็นรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายแรกในอาเซียน ก่อนจะมี BTS ที่กรุงเทพฯ ถึง 15 ปี

แต่หลังจากนั้น… ก็เหมือนเวลาหยุดเดิน

ระบบรถไฟไม่ได้ขยายตัวเท่าที่ควร การบำรุงรักษาขาดงบประมาณ ตู้รถไฟเก่าแต่ไม่ได้เปลี่ยนใหม่ และประชาชนเริ่มไม่เชื่อมั่นระบบขนส่งของรัฐ

แทนที่จะพัฒนาไปเป็นระบบรางเชื่อมเมืองแบบเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น มะนิลากลับกลายเป็นมหานครที่รถติดที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และคนจำนวนมากต้องใช้เวลาเดินทางวันละ 3–4 ชั่วโมงอย่างสิ้นเปลือง

เมื่อคุยกันอย่างจริงจัง เพื่อนผมจึงเล่าให้ฟังต่อว่า ประเทศเขาเคยมีระบบการศึกษาแบบอเมริกัน มีคนพูดภาษาอังกฤษได้ทั่วประเทศ เคยมีสายการบินแห่งชาติที่รุ่งเรือง และเศรษฐกิจเติบโตสูงมากในยุค 1960s–1970s

แต่ปัจจัยเหล่านี้ค่อย ๆ เสื่อมถอยเพราะ…

• การเมืองที่ไม่มั่นคง
• ระบบอุปถัมภ์ที่ทำให้การบริหารไร้ประสิทธิภาพ
• การพึ่งรายได้จากแรงงานในต่างประเทศแทนการสร้างอุตสาหกรรมในประเทศ
• ขาดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว
• ความเหลื่อมล้ำที่ไม่ถูกจัดการ

เขายิ้มเศร้า ๆ แล้วพูดว่า

“บ้านผมไม่ได้พังเพราะภัยธรรมชาติ แต่พังเพราะคนละเลยการดูแลมัน ไทยอาจเป็นแบบฟิลิปปินส์ได้นะ ผมตามข่าวมาหลายปี ผมคิดว่าเรามีอะไรคล้ายกันมาก“

ผมนั่งเงียบไปครู่หนึ่ง เพราะความจริงคือ… เราก็มีเงื่อนไขหลายอย่างคล้ายกับฟิลิปปินส์จริง ๆ

• การเมืองที่วนเวียนกับความขัดแย้งและการรัฐประหาร
• ระบบราชการที่เทอะทะ
• เศรษฐกิจที่ยังเน้นแรงงานราคาถูกมากกว่านวัตกรรม
• โครงสร้างประชากรที่กำลังแก่ลงโดยไม่มีแผนรองรับ
• การศึกษาเน้นปริญญา แต่ไม่ตอบโจทย์อุตสาหกรรม
• ความเหลื่อมล้ำที่สูงขึ้น โดยเฉพาะระหว่างเมืองกับชนบท

แม้เราจะมีรถไฟฟ้าใหม่ ๆ ผุดขึ้นทุกปี แต่ถ้ารากฐานของประเทศไม่มั่นคง นวัตกรรมจะกลายเป็นเพียงเปลือกที่สวยงาม เหมือนตู้รถไฟที่เคยใหม่ แต่ไม่มีใครดูแล

เพื่อนผมทิ้งท้ายไว้ว่า

“ไม่ว่าประเทศไหนจะเริ่มต้นดีแค่ไหน ถ้าไม่มีวินัยและวิสัยทัศน์ มันก็ถอยหลังได้เสมอ”

และนั่นเป็นประโยคที่ผมจำฝังใจ

วันนี้ไทยอาจถูกชื่นชมในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความสะดวกสบาย และภาพลักษณ์สมัยใหม่ แต่หากเราไม่เรียนรู้จากอดีตของเพื่อนบ้าน
ไม่พัฒนาอย่างมีระบบ
ไม่ฟังเสียงคนตัวเล็ก
ไม่วางแผนระยะยาวอย่างจริงจัง

วันหนึ่งเราก็อาจกลายเป็นเพียง “อดีตที่เคยรุ่งเรือง” เหมือนที่ฟิลิปปินส์เคยเป็น

แค่หวังว่า…วันนั้นจะไม่มีวันมาถึง

pathom@indarodom.com
 
https://www.facebook.com/photo/?fbid=24185004224459386&set=a.158896414163503