ตัวตึงกว่าใครในพรรคเพื่อไทย ก็ผู้นำจิตวิญญาน ทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ พักงานนี่แหละ ออกโชว์วิสัยทัศน์อีกรอบ ก็ของเดิมที่ไม่ได้ทำนั่นละ มีของใหม่เพิ่มบ้าง แต่ลงท้ายก็ฟื้นความหลัง ความรุ่งเรืองในอดีตที่ผ่านไปแล้วไม่หวนกลับ
สำหรับวิสัยทัศน์เรื่อง “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤตโลก” เรื่องใหม่เห็นจะเป็น ‘เอเอ็มซี’ หรือบริษัทจัดการสินทรัพย์ของภาคประชาชน เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงเหลือเกิน ซึ่ง “คลังยังไม่รับลูกเท่าไหร่” ก็เลยออกมาย้ำมายัน ดันต่อในครานี้
อีกเรื่องเป็นการรีดไขมันระบบราชการด้วยการ “ปรับโครงสร้างระบบราชการทุกกระทรวง” โดยจะขอให้มหาวิทยาลัยรับไปค้นคว้าวิจัยและทำแผน “ปรับปรุงการบริหาร” และ “ประหยัดค่าใช้จ่ายภาครัฐ” อ้างวิธีการของดูไบ “ไม่มีภาษี มีแต่ค่าบริการ (Fee)
ก็เป็นปกติวิสัยของทักษิณ ที่พูดถึงเรื่องใหม่ๆ ที่คิดจะทำแล้วก็ต้องท้าวความเรื่องเก่าๆ ที่เคยทำแล้วได้เรื่องได้ความ เสียแต่ว่าสิ่งที่สร้างชื่อเสียงในอดีต มันไม่ได้ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน จะบอกให้ประชาชนหวังให้ส่งผลถึงโครงการใหม่ๆ ไม่ได้ คนละเรื่องกัน
ฉะนี้ สิ่งที่คุยไว้อีกหลายอย่างสะกิดต่อมรำคาญของผู้ฟังอีกแล้ว ดังการให้สัมภาษณ์ วีระ ธีรภัทร ก่อเกิดเสียงยี้ระงม เช่น Thanapol Eawsakul ว่า “ทักษิณมั่นใจ เหลือเกินว่าตัวเองคือ อัศวินลูกที่ ๓ ผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ตัวแทนแห่งความหวัง
และรวมไปถึงว่า ลูกสาวตัวเองก็เก่งไม่แพ้กัน” Pavin Chachavalpongpun ก็มีเวอร์ชั่นของเขา ว่า “อุ้งอิ้งต้องช่วยตัวเองก่อน” กับเรื่องที่บอกว่าคนไทยไม่รักกัน “นี่คือด่าลูกสาวโดยตรง ในการเปิดแผลความบาดหมางระหว่างรัฐบาลกับกองทัพให้ฮุนเซนรับรู้”
ยิ่งตอนที่ทักษิณอ้างสรรพคุณตนเองผ่านเรทติ้งสิงคโปร์ นั่นโดนปวินย้อนเกี่ยวกับการที่มี สส.เพื่อไทย ๖-๗ โหวตรับร่างนิรโทษกรรมฉบับประชาชน ว่าทักษิณเอาวิธีการของสิงคโปร์มาใช้ คือปล่อยให้มีฝ่ายก้าวหน้าหยิบมือหนึ่งให้ระบอบการเมืองดูดีเท่านั้นเอง
กรณีนิรโทษกรรมนี่ต้องดูโพสต์ของ Baramee Chaiyarat เป็นอุทธาหรณ์ “แกพูดชัดเจนดีว่ามันเป็นการกลั่นแกล้ง แต่ผมอยากจะบอกว่าคนที่ถูกคดี ๑๑๒ หลายคนก็คิดไม่ต่างกับแก แต่พวกเขากลับถูกกักขังจองจำ ไม่ได้รับสิทธิแม้กระทั่งการประกันตัว
ซึ่งเลวร้ายกว่าแกไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศไม่รู้กี่สิบกี่ร้อยเท่า เสียดายว่าขนาดแกรู้อย่างนี้ พรรคเพื่อไทยยังโหวตคว่ำ พรบ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชนเลย” แต่สำหรับ Vipon Kititasnasorchai ซึ่งอ้างตนเป็น “ข้าราชการกฎหมายสายอนุรักษ์”
บอกให้ “รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ” กันบ้าง ตอนที่เขาได้เข้าไปเป็นอนุกรรมการศึกษาแนวทางนิรโทษกรรม มีไลน์มาทางมือถือ ว่า “อย่ารวมนิรโทษ ๑๑๒ นะ” อ้างว่าความขัดแย้งจะเกิด “แล้วพวกคุณจะปล่อยให้เหลือแค่ เรื่องนี้แหลมทิ่มใจผู้คนในสังคมต่อไปทำไมกัน”
(https://www.facebook.com/vipon.kititasnasorchai/posts/v1XxUZ6se1CA, https://www.facebook.com/baramee.chaiyarat.2024/posts/faSUkKxX7iR และ https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/AM3svfTfTR1)