วันเสาร์, มิถุนายน 08, 2567

ชวนอ่านรีวิว หนังสารคดี ที่เป็นเรื่องของพวกเรา Breaking the Cycle


Uruda Covin
8 hours ago·

เชียงรายหนังเข้าวันที่ 7
รอบแรกคือ 14.00 น.
ฉันบอกต้นว่า เราควรดูวันนี้ ฉันไม่ชอบไปห้างสรรพสินค้าวันหยุด คนเยอะมาก และไม่รู้ว่าหนังจะเข้ากี่วัน
ฉันไม่ชอบดูหนังในโรง ด้วยเหตุผลที่ประหลาด
ฉันจมดิ่งกับเรื่องเล่าได้ง่าย และโรงภาพยนตร์คือสถานที่ซึ่งฉันถูกห่อหุ้มด้วยเรื่อง ฉันไม่ชอบนาทีที่ฉันออกจากโรงแล้วกลับมาใช้ชีวิตจริง มันเร็วไป มันตั้งรับยาก โดยเฉพาะกับเรื่องเล่าที่ดึงดูดจนฉันกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน
BREAKING THE CYCLE คือข้อยกเว้น เพราะมันเป็นสารคดี คำว่าสารคดีคือสัญญาระหว่างฉันกับผู้เล่า ว่ามันเป็นเรื่องจริง ดังนั้น ฉันเป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง ในฐานะประชาชนผู้ใช้ชีวิตในวงกลม วงจรของเรื่อง
มันเป็นเรื่องของฉัน แม้ว่าไม่มีใบหน้าของฉันปรากฎอยู่ในนั้น
เช่นเดียวกับที่มันเป็นเรื่องของคุณ
ฉันอยากรู้ ว่ามันจะถูกเล่าอย่างไร
เพราะฉันเป็นนักเขียน ฉันจึงมองมันในฐานะเรื่องเล่า ฉันเห็นว่าเรื่องน่าเล่าเหลือเกิน
เรื่องของคนกลุ่มเล็กๆ ที่พยายามหยุดวงจรซึ่งดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง วงจรที่ถูกสร้างก่อนพวกเขาเกิด วงจรซึ่งมีหลายฐานอำนาจรองรับ
คนตัวเล็กที่ต่อสู้กับเรื่องใหญ่ กล้าคิดว่ามันจะเป็นไปได้ กล้าลงมือ เป็นโครงเรื่องคลาสสิก-กรณีเป็นเรื่องแต่ง ถ้าเขียนให้ดี ให้น่าเชื่อ อย่างไรก็จับใจ
(ในอีกแง่มุม การเกิดขึ้นของหนังเรื่องนี้คือการต่อสู้ของผู้กำกับที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นงานที่ใหญ่มาก เป็นฝันใหญ่ ที่พวกเขาทำสำเร็จ)
เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนตัวละคร แก่นแท้ของเรื่องที่ฉันจับต้องได้ ก็คือการต่อสู้ของมนุษย์เพื่อคืนวันที่พวกเขาเชื่อว่าดีกว่า
ให้บังเอิญว่า พวกเขาสู้ในนามของพรรคการเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่านี่คือหนังโปรโมทพรรคการเมือง
หนังเล่าได้สนุก สนุกแม้เส้นเรื่องทั้งหมดฉันรู้อยู่แล้ว แม้ว่าภาพหลายภาพฉันเคยเห็น
ต้นบอก เขาดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเลย
ฉันหัวเราะ ถ้ารู้สึกดีสิแปลก เพราะเราคือคนหนึ่งที่อยากหยุดวงจรนี้ และสำหรับเรา ตอนนี้มันยังดำเนินต่อไป
แต่มันบันทึกประวัติศาสตร์ได้ดี ถูกต้องมั้ย
เขาพยักหน้า
นอกจากเล่าเรื่องดี ดูสนุก ความสำคัญของหนังก็คือ มันเป็นประวัติศาสตร์ที่เขียนขึ้นโดยประชาชน
มันเป็นเรื่องของพวกเรา ไม่ใช่เรื่องของด้อมส้ม ไม่ใช่เรื่องของพรรคอนาคตใหม่ แท้จริงไม่ใช่เรื่องของคนหนึ่งคนใด
เราอยู่ในภาพยนตร์นั้น เราอยู่ในวงกลม วงจร ที่ไม่ว่าคุณจะตีความอย่างไร อยู่ฝ่ายไหน เลือกพรรคใด คิดอย่างไร เราก็อยู่ในโครงสร้างเดียวกัน
ฉันบอกเขาตอนที่เรากินบะหมี่ ว่ามีสองภาพติดตาฉันจนถึงตอนนี้
แววตาของคนหนุ่มสาวที่เปล่งประกาย ขณะฟังการหาเสียง (ความหวังน่ะ มีค่า และแกร่งกว่าเพชร)
และ คุณเนาวรัตน์ ในฐานะ ส.ว.ขานชื่อเลือกนายกรัฐมนตรี
มันเกิดขึ้นแล้ว ฉันไม่ลืม ไม่มีวันลืม
.....

Ratchapoom Boonbunchachoke
18 hours ago·

Breaking the Cycle (2024, เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ | ธนกฤต ดวงมณีพร, Thailand)
รู้จักและติดตามโปรเจกต์นี้มานาน แอบเอาใจช่วยมาเรื่อย ๆ รู้ว่าคนทำหนังอิสระไทยมันยากไปหมดทั้งองคาพยพในการสร้างสรรค์งานขึ้นมาได้ พอได้เห็นหนังมันสำเร็จได้ฉายในประเทศก็ยินดีกับเอกและสนุ๊กมาก ๆ
เราว่าหนังประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดเล่าเรื่องช่วงผันผวนของการเมืองไทยในระยะเวลาการตั้งตัวของอนาคตใหม่ และเอาจริง ๆ สถานการณ์มันพลิกไปพลิกมาหลายตลบมากจนถึงปัจจุบัน หนังเลือกบันทึกห้วงเวลาตั้งพรรคจนถูกศาลตัดสินให้ยุบพรรคเป็นหลัก หลังจากนั้นเป็นรายละเอียดที่อัพเดทตามมา
หลาย ๆ เสียงตอบรับชื่นชมการที่หนังบันทึกห้วงเวลานั้นไว้ และยังทำได้สนุกน่าติดตามหรือมีความบันเทิงด้วย ซึ่งเราเห็นด้วยว่าหนังดูสนุก และพาคนดูไปทบทวนการมีหวัง สิ้นหวังและมีหวังกันใหม่อีก องค์ประกอบทางภาพยนตร์ที่เลือกมาทำงานได้ดีไม่ว่าจะการถ่าย ดนตรี การเลือกใช้ฟุตจากแหล่งอื่น การเลือกบุคคลสัมภาษณ์ การตัดต่อร้อยเรียงก็ดี
จริง ๆ นอกจากความเป็นบทบันทึกการเมืองไทยที่เราไม่ค่อยได้เห็นหนังไทยทำอย่างจริงจังแล้ว เรายังประทับใจว่ามันเป็นหนังสารคดีขนาดยาวฉายโรงในฟอร์มนี้ด้วย คือเรามักจะผูกโยงสาีรคดีเชิงข้อมูลหนัก ๆ ว่ามันอยู่ในฟอร์มทีวี หรือสมัยนี้ก็เป็นวิดีโอคอนเทนต์ การเห็นพื้นที่หนังแบบนี้ในโรงเลยน่ายินดีว่ามันไม่ได้แค่ใหม่ในฐานะหนังที่พูดถึงการเมืองไทยตรง ๆ แต่ยังรวมไปถึงในฐานะหนังสารคดีด้วย
แต่ถ้าเราจะมีติดลักษณะอะไรบางอย่างของหนัง เราอาจจะติดความดูง่ายของมันเสียหน่อย ซึ่งจริง ๆ การดูง่ายมันก็ดี แต่เราจะรู้สึกเหมือนหนังมันดูไม่มีคาแรกเตอร์บางอย่าง และกลายเป็น 'การบันทึก' การเมืองไปอย่างเดียว ซึ่งเราว่าคนทำก็เลือกมาแล้วว่าจะใส่ไม่ใส่อะไรไว้บ้าง หนังมีทั้งการบันทึกภาพการเมือง ณ ขณะนั้น การวิเคราะห์ปรากฎการณ์ขึ้นมาของพรรคผ่านบทสัมภาษณ์อ.กนกรัตน์และอ.ลลิตา และการสำรวจเสียงของแฟนคลับอย่างคุณเชอร์รี่ รวมถึงการวิเคราะห์อุปสรรคของศาลรัฐธรรมนูญผ่านตัวยิ่งชีพ ตัวเสียงสัมภาษณ์จากคนนอกพรรคมันช่วยพาหนังให้ไปไกลขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น แต่อาจจะโดยส่วนตัวอยากเห็นความบุ่งเหยิงมากกว่านี้ 555 (คนอาจจะถามแค่ กกต กับศาลรธน ยังไม่พอเหรอ) เหมือนความเข้าใจง่ายมันก็ดี แต่ความเข้าใจยากมันก็เป็นองค์ประกอบหลักอันนึงของการเมืองไทยเหมือนกัน 555 พอมันมุ่งหมายจะเคลียร์ให้ง่าย เราเลยรู้สึกขาด ๆ นิด ๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่ามันมาจากความพยายามจะไม่ offend ใครเกินไปไหม เพราะการมีอยู่ของหนังเรื่องนี้ก็น่าจะ offensive สำหรับคนบางกลุ่มอยู่แล้ว
ดังนั้นพอเห็นคนเขียนถึงหนังว่าเป็นเหมือนบทบันทึกเราเลยแอบอยากให้หนังมันทำมากกว่าบันทึกอีก มันจะสำรวจ ยุแยง provoke บางอย่างได้อีก แต่ก็เข้าใจเงื่อนไขหลายอย่างที่อาจทำให้หนังมันมาไม่ถึงคนดูเสียด้วยซ้ำ หรือเราอาจมองว่านี่เป็นเกมยาวของสารคดการเมืองไทยก็ได้ว่า แค่มีมันขึ้นมาก็ offensive กับคนหลายคนอยู่แล้ว ดังนั้นเดี๋ยวพอต่อ ๆ ไปเนื้อหาในหนังในอนาคตอาจจะกระเถิบตัวเองได้อีก
.....

.....
สกก์บงกช ขันทอง
16 hours ago·

ตอนแรกก็ว่าจะปล่อยผ่าน
แต่เห็นแอดมินบางเพจ ยันไปถึงไอโอทั้งจัดตั้งและไอโอการกุศลรุมถล่มหนัง BTC แล้วก็รู้สึกตลกดี
ทั้งเรื่องปัญหาของโรงฉาย ทั้งการรุมถล่มของไอโอ การที่หนังสารคดีที่ฟอร์มไม่ได้ใหญ่มากได้โรงฉายขนาดนี้ มันก็คือปรากฏการณ์นะ ส่วนคนจะดูหรือไม่อันนี้ก็แล้วแต่คน ชอบไม่ชอบก็อยู่ที่รสนิยมความชอบของปัจเจกบุคคล
แต่ IO ยิ่งไปปั่น แทนที่หนังมันจะไปตามครรลองของมัน คือเงียบแล้วก็ออกจากโปรแกรมไป ยิ่งทำให้หนังมีการพูดถึง คนยิ่งไปดูมากขึ้น กลายเป็นว่าคนที่เกลียดดันไปฉายแสงให้หนังที่ตัวเองได้มีโอกาสมากขึ้นไปอีก ไม่นับการโดนแหกกลับด้วยข้อมูลจริงยิ่งทำให้ IO เงิบไปอีก
แนะเลยสำหรับ IO ไม่คอมเมนท์คือดีสุด ให้ความเงียบมันทำงานไป ยิ่งโวยก็ยิ่งมีกระแส ยิ่งแซะก็ยิ่งเข้าตัว
นี่งานตัวเองก็เยอะ ยังอยากจะหาโอกาสไปดูเลย ต้องขอบคุณ IO ที่ทำให้อยากไปดูจริงๆนะ