วันศุกร์, ตุลาคม 25, 2562

อย่าเพิ่งถอดใจเมื่อกระแสแพ้กระสุน "ต่อให้ถูกซื้อไปจนเหลือ ๒ คน เราก็จะลุกขึ้นมาแล้วเดินหน้าต่อ"

เป็นกระแสหรือเป็นกระสุน ผลเลือกซ่อมสามพราน นคร ฐม พรรคอนาคตใหม่คะแนนไม่เท่าเจ้าถิ่น ชาติไทยพัฒนาจนสื่อสายสืบทอด คสช.ซัดกันใหญ่ ไทยโพสต์, เน-Shure, แนวหน้า ว่า ขาลงบ้าง ส้มเน่าบ้าง ทำยังกะพรรคนี้จะเรียบราบพนาสูร

ทั้งที่ตัวใหญ่ TT (Tud-Too) ยังไม่กล้าฟัน “อย่าเอาแค่การเลือกตั้งครั้งนี้ครั้งเดียวมาเป็นเกณฑ์ตัดสินอะไรเลย” เค้าคงพอรู้ว่า อนค.หลุดไปหนึ่งไม่ได้ส่งผลอะไรมากเท่าประโคมกันไป ดูแล้วไม่ใช่ ขี่แพะไล่  น่าจะขี่หมู (ป่า)

เรื่องของเรื่อง การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้ผูกพันคะแนนรวม อนค.ยังคงมี ๘๑ เสียงเท่าเดิม ตามมาตรา ๙๑(๓) รธน.กำกับว่าพรรคนี้มี ส.ส.พึงมีพึงได้ ๘๑ หลังแพ้สามพรานเหลือ ๘๐ เขาให้เอาบัญชีรายชื่ออันดับต่อไปขยับขึ้นแทน

ดังนี้เสียงในสภาของ อนค.ยังเท่าเดิม แม้จะมี กระสุนดูด อนาคตใหม่หลายคน (ตอนนี้แค่สองสาม แต่ต่อไปอาจ ๗-๙) ให้กลายเป็นงูเห่า อนค.ก็ยังไม่สะเทือนเท่าไร ยังเหลืออีกกว่า ๗๐ ปลายๆ ที่ยืนหยัดต่อไปได้ยาวพอควร

จริงๆ แล้วคะแนนที่ อนค.เสียไปราวหมื่นห้าไม่ได้ช่วย ชทพ. (และรัฐบาล ไอทู้บมากจริง) ไม่ว่า ปูเค็ม’* กับ ไอโอ จะโหมและโหน ตี อนค.อีท่าไหน พวกเขาก็ยังยืนหยัดปักหลักมั่น อยู่ได้และอยู่ดี ที่อดีต ผู้สมัครสอบตก ระดมถล่มต้นสังกัดเดิม ก็แค่ แพ้แล้วพาล

“มีบางคนลาออกจากพรรคไปแล้ว และอีกส่วนหนึ่งเตรียมรวมตัวกันเพื่อไปยื่นหนังสือลาออกที่ กกต. ในช่วงปลายเดือน ต.ค. และหลายคนบอกว่าพรรคอนาคตใหม่ จะไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว” ถ้าใช่ก็ไม่ใช่มิตินี้

และที่ สนิมในอย่างคนที่ อ้างเป็นผู้แพ้เลือกตั้งแล้วถูกพรรคไสหัวส่ง เช่น Chanwit Jaisawang ที่ว่าถูกย่ำยี เป็นขยะของพรรคนั้น เขาประโคมโจมตีแกนนำด้วยข้อหาว่าแบ่งเป็น ๓ ก๊วน คือกลุ่มก่อตั้ง กลุ่มแกนนำ (ชนชั้นสูง) และกลุ่ม ผู้แพ้

ว่ามีการเหยียดจากกลุ่มก่อตั้ง ซึ่งถือตัวเป็นชนชั้น จบนอก แล้วพวกผู้สมัครสอบตกเข้าได้ไม่ถึงตัว จึงถูกพวก ผู้สมัครสอบได้ เป็นส.ส.อยู่ในสภาปัดสวะให้อีก อะไรเหล่านี้ จะทำให้ อนค.พรรคแตกไหม ตอบตรงนี้ได้ว่า ไม่น่านะ

เพราะอะไร เพราะการแพ้ที่สามพรานของ อนค.เป็นเพียงการเมืองไทยอย่างเดิมๆ ในเมื่อตระกูลสะสมทรัพย์เป็น เจ้าของพื้นที่มาแต่ยุคไทยรักไทย แพ้หนแรกแล้วจะแพ้หนนี้อีกไม่ได้ จึงออกแจกกระสุน บุญคุณ บารมี จนยันไว้ได้
 
ดูจากการวิเคราะห์ของ ยุทธพร อิสรชัย ดร.รัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ว่าคะแนนชาติไทยพัฒนาครานี้เทียบกับเมื่อการเลือกตั้ง ๒๔ มีนาที่ได้แค่หมื่นสอง หายไปจากเมื่อปี ๒๕๕๔ ถึง ๓ หมื่นกว่าคะแนน แสดงว่าฐานเสียงจริงของสะสมทรัพย์แค่หมื่นสอง

ทว่าคราวนี้เผดิมชัยได้คะแนนรวม ๓ หมื่น ๗ พัน เสียงเพิ่มมาจากไหน ดร.คนนี้เขาสาวลงไปพบว่า “มีความเป็นไปได้สูงที่การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ทางพรรคพลังประชารัฐเทคะแนนให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา” เท่ากับจำนวนเสียงพรรคร่วมรัฐบาลประยุทธ์

โดยที่ อนค.ก็คะแนนน้อยไปกว่าเดิมราวๆ  ๖ พันกว่า เชื่อว่าเพราะวันเลือกตั้งเป็น “วันหยุดราชการกลางสัปดาห์” คนไปออกเสียงน้อยลงเกือบหมื่นแปด ใกล้เคียงคะแนนหย่อนบัตรของพรรคกลุ่มฝ่ายค้านราวเกือบหมื่นหก

Nutchapakorn @Thatar23 วิเคราะห์น่าฟังเหมือนกันว่า “คะแนนเสียงของชาติไทยพัฒนาที่เพิ่มขึ้น ๒๕,๓๙๖ คะแนน มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับคะแนนเสียงรวมของพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่ได้ลงเลือกตั้ง คือ ๒๓, ๔๔๘ คะแนน...

“ถ้าเอาคะแนนเสียงของพรรคฝ่ายค้านที่หายไปมามัดรวมกัน (โดยไม่เอาคะแนนพรรคเสรีรวมไทยมาคิด เพราะลงแข่งด้วยในรอบล่าสุด) #พรรคอนาคตใหม่ จะชนะการเลือกตั้ง” ได้

รวมความว่านอกจากการแพ้เลือกซ่อมนคร ฐมของอนาคตใหม่คราวนี้ไม่ได้ทำให้สถานะปัจจุบันของพรรคฝ่ายค้านนี้เปลี่ยนไปแล้ว ในระยะยาวพวกเขาก็ยังไปได้ยืด ตราบเท่าที่ไม่ถอดใจหรือว่าหันไปทำตัว อยู่เป็น

ฉะนั้นคำพูดของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคที่ว่า “คะแนนเสียงกว่า ๒๘,๐๐๐ คะแนนที่พรรคได้รับใน จ.นครปฐม และ ส.ส.อนค. ๗๐ คนเป็นเหล็กเนื้อดี” แม้จะมี สนิม บนผิวเหล็กอยู่บ้าง แต่ว่า “เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์

ต่อให้พวกเราจะถูกซื้อทั้งหมด ผมเชื่อว่าเขาซื้อปิยบุตร ซื้อธนาธรไม่ได้ ต่อให้ถูกซื้อไปจนเหลือ ๒ คน เราก็จะลุกขึ้นมาแล้วเดินหน้าต่อ ลุกขึ้นมาเพื่อทำงานการเมืองต่อไปเพื่อให้ได้สังคมอย่างที่เราใฝ่ฝัน” นั่นคือประชาธิปไตยที่เท่าเทียมจริง ไม่มีข้อแม้

(https://www.bbc.com/thai/thailand-50148929, https://www.thairath.co.th/news/politic/1689750 และhttps://www.thairath.co.th/news/politic/1689910)

*หมายเหตุ :‘ปูเค็ม นี่ตี อนค.มาอย่างต่อเนื่อง ล้วนแต่เรื่องไม่จริงเท่าไร เลยไม่ค่อยได้กระแส ล่าสุดเป็นใครอื่นคงหมอไม่รับเย็บหน้าที่แตก กรณีโจมตีไทยซัมมิตแจ้งหยุดงานสองเดือน ว่าเพราะธนาธรคนเดียว แต่แล้วความจริงออกมาว่าทั้งที่ไม่ต้องทำงาน เขาจ่ายลูกจ้าง ๗๕% ของอัตราที่เคยได้ ขนาดนี้พี่แกยังไม่รู้สา คงเพราะหน้าเขาหนาจริง