แจ้งไว้บนเพจเฟชบุ๊คของพวกเขาเมื่อ ๑๘ กันยา เริ่มด้วย ‘สิทธิประโยชน์’ ที่ทำสำเร็จหมดแล้ว ได้แก่ เพิ่มเงินสงเคราะห์เด็กแรกเกิดถึง ๖ ขวบ เดิมได้รับ ๘๐๐ บาทต่อเดือน เพิ่มเป็น ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน ช่วยคลอดบุตร ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ลาคลอดได้ ๑๒๐ วัน คู่สมรสได้ ๑๕ วัน
สินเชื่อที่อยู่อาศัย ในวงเงินไม่เกิน ๕ ล้านบาท ดอกเบี้ยไม่เกิน ๒% ถ้าวงเงินไม่เกิน ๒ ล้านบาท ดอกเบี่ย ๕ ปีแรก ๑.๕๙% ต่อปี กรณีถูกเลิกจ้างจ่ายชดเชย ๙ เดือน อัตราสูงสุด ๖๐% ของเงินเดือน (เดิม ๕๐% ของเงินเดือน)
ขยายสิทธิทันตกรรม รักษารากฟันเทียบเท่าบัตรทอง เหมาจ่าย ๑๗,๕๐๐ บาทตลอดการรักษา เพิ่มการตรวจบันทึกข้อมูลสุขภาพฟันและเพิ่มทำฟันคุดในเอกชน นอกจากนั้นยังได้ร่วมงานกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
เป็นครั้งแรกในรอบ ๒๐ ปีที่มีการพัฒนาระบบสุขภาพ มีการร่างกฎหมายระบบประกันสังคมถ้วนหน้า และหลักการนำประกันสังคมออกนอกระบบราชการ อีกทั้งวางเงื่อนไขการลงทุนของกองทุนประกันสังคม มีธรรมาภิบาล ตรวจสอบได้ และดูแลสิทธิเสรีภาพแรงงาน
ด้านสิทธิประโยชน์ที่ทำสำเร็จบางส่วน ก็มี เพิ่มค่าคลอดบุตร เป็น ๒๐,๐๐๐ บาทต่อครั้ง (จากเดิม ๑๕,๐๐๐ บาท) สนับสนุนสิทธิลาคลอด ๑๘๐ วัน เรื่องนี้รอเข้าบอร์ดแพทย์ ส่วนการช่วยค่าเลี้ยงบุตรตลอดอายุ ๗-๑๒ ปี ๗,๒๐๐ บาทต่อปี ข้อมูลผ่านอนุกรรมการฯ แล้ว
ยังมีการเปลี่ยนสูตรคำนวณบำนาญเสียใหม่ โดยมีเป้าหมายให้ได้รับบำนาญไม่ต่ำกว่า ๓,๐๐๐ บาท/ เดือน อันนี้จัดทำสูตร CARE แล้วรอทำประชาพิจารณ์ กับเรื่องประกันการว่างงานเพิ่มอีก ๓ เดือน ทั้งในกรณีลาออกและเลิกจ้าง
ถ้าลาออกจ่ายค่าชดเชย ๖ เดือน ในอัตราสูงสุด ๓๐% ของเงินเดือน ซึ่งข้อมูลผ่านอนุกรรมการฯ แล้ว ส่วนเรื่องขยายสิทธิประโยชน์คนพิการ ให้เข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทุกที่ และไม่ตัดสิทธิการใช้ร่วมกับสวัสดิการอื่น ยังรอเข้าอนุกรรมการฯ อยู่
สำหรับกรณีที่ถือได้ว่าเป็นความ ก้าวหน้า ชัดแจ้งของสำนักงานประกันสังคม คือการสร้างกฏระเบียบ “ห้ามบอร์ดประกันสังคมจัดดูงานต่างประเทศกันเป็นเวลา ๒ ปี และลดสัดส่วนคนไปดูงานในส่วนของประกันสังคมก้าวหน้า ๖ คน
(https://www.facebook.com/ThePoliticsByMatichon/posts/e6RAmugNQV6)
