วันจันทร์, กุมภาพันธ์ 20, 2566

ควรหรือไม่ที่จะช่วยกันผลักดัน การเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ในการเมืองไทย


Thai Ariyaskun
6h
แลนด์ไลด์คือเป้าหมาย ไม่สนใจจับมือกับใคร
อันนี้ตอบชัดๆ จากคุณภูมิธรรม เวชยชัย นะครับ ว่าต้องไปที่ 300 เสียงครับ
ตอนนี้ไม่สนใจจับมือกับใครครับ เพื่อไทยไม่มีพรรคพี่พรรคน้องครับ แลนด์สไลด์ 300 เสียงเท่านั้น
ประชาชนต้องชัดเจนที่จะโค่นประยุทธ์ให้ได้ครับ ไม่อย่างนั้นผู้คนอดอยาก ลำบากไปอีกนานครับ
ภารกิจทางประวัติศาสตร์ ของคนไทยตอนนี้ ไม่ต่างจากพระเจ้ากรุงธน คือ ต้องขับไล่พม่า หรือประยุทธ์ออกไปให้ได้ครับ นี่คือ ความจำเป็นเบื้องแรกสุดของคนไทยครับ เรื่องอื่นยังไม่ต้องสนใจ ทำเรื่องแรกไม่ได้ เรื่องอื่นๆ ก็ไม่ได้ทำ
ooooo
Thanapol Eawsakul
16h
ทำไมการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์จึงไม่เกิดขึ้นและไม่ควรเกิดขึ้น ในการเมืองไทยไม่ว่าฝ่ายไหน
......
หลังเลือกตั้ง 2562 มีบรรดากูรูนักวิเคราะห์การเมือง เอาคะแนนการเลือกตั้งมาเปิดดูแล้วชี้ว่าความพ่ายแพ้ของ" ฝ่าย ประชาธิปไตย" หรือนัยหนึ่งความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทย นั้นเพราะมีพรรคอนาคตใหม่มาตัด คะแนนเสียง
(ซึ่งการวิเคราะห์แบบนั้นวิเคราะห์แบบ ฉาบฉวยมาก ยกตัวอย่างเฉพาะการเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานครทั้งพรรคเสรีรวมไทยและพรรคเศรษฐกิจใหม่ได้คะแนนเฉลี่ยต่อเขต 3,000 ถึง 5,000 คะแนน ซึ่งถ้าไม่มีสองพรรคการเมืองนี้เกิดขึ้นคะแนนไปรวมกันฝั่งไหน ในปีกประชาธิปไตย ฝั่งนี้นก็จะ เป็นฝ่ายชนะเช่นกัน)
จึงมีผู้เสนอว่าจำเป็นจะต้องมีการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์คือพรรคการเมืองที่เรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตยมาตกลงกันว่าเขตไหนพรรคไหนจะลงเพื่อให้คะแนนเป็นเอกภาพ
หรือนัยหนึ่งให้พรรคการเมืองพรรคอื่นๆต้องเสียสละให้พรรคเพื่อไทยในเขตที่คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะ
ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ไร้สาระมาก
แต่เมื่อมาดูการเลือกตั้ง 2566 แล้วสิ่งที่เรียกว่าการเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์นั้นไม่เป็นจริงไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่เรียกว่า ปีกประชาธิปไตย หรือปีกอนุรักษ์ นิยมก็ตาม
กรณีดังกล่าว ดูได้จากพรรคเพื่อไทยเมื่อมีปัญหาของการ จัดสรรผู้สมัครลงเขตเลือกตั้งแล้วไม่มีเขตไหนเลย ที่จะจบลงด้วยดีเมื่อผู้สมัครเดิม ไม่ได้ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยก็มีทางเลือกอื่นโดยเฉพาะพรรคไทยสร้างไทยของสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อดักคะแนนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ
ดังนั้นแม้ในพรรคเพื่อไทยเองก็ยังจัดการไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรที่จะให้สิ่งที่เรียกว่าพรรคการเมืองใน ปีกประชาธิปไตยต้องมายอมให้กับพรรคเพื่อไทย
นี่ยังไม่รวมถึงการที่เพื่อไทยยังไม่กล้าประกาศเป็นสัญญาประชาคมว่าไม่ว่าก่อนหรือหลังเลือกตั้งจะไม่จับมือกับพรรคพลังประชารัฐของประวิตรวงษ์สุวรรณอย่างเด็ดขาด
สำหรับปีกอนุรักษ์นิยมก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน การแย่งตกปลาในบ่อเพื่อน ของพรรคสร้างใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติ ของประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นสร้างปัญหาให้กับเพื่อนบ้านที่ร่วมรัฐบาลกันมาไม่ว่าจะเป็นประชาธิปัตย์หรือชาติไทยพัฒนา
ถ้าปีก ประชาธิปไตยยังตกลงกันไม่ได้แล้วปีกอนุรักษ์นิยมก็ยิ่งมีปัญหามากยิ่งกว่า
ดังนั้การเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์จึงไม่เกิดขึ้นและไม่มีควรเกิดขึ้น ในการเมืองไทยไม่ว่าฝ่ายไหน