ตอนเช้า หนึ่งวันก่อน วันไม่ชอบใจใครแต่งดำ รองปลัดกระทรวง สธ.มีหนังสือด่วนถึง ผบ.ตร. กระตุ้นให้บังคับใช้กฎหมายมาตรา ๔๖ พรบ.คุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ซึ่งก็คือให้จัดการกับผู้ดำเนินการกับสมุนไพรกัญชาอย่างเสรีเกินขอบข่าย
พอบ่ายคล้อยราว ๕ โมง ทั่นรองฯ เปลี่ยนใจ ขอถอนกลับหนังสือด่วนฉบับดังกล่าว ข่าวไม่ปรากฏว่า ผบ.ตร.ว่ากระไร คงมัวแต่จับจ้องว่าใครจะออกมาแต่งดำเฉิดฉายหรือไม่ ทาง นพ.ณรงค์ สายวงศ์ อ้างว่าถอนกลับเพื่อทบทวนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ส่วนการแปรรูปหมายถึงทำการปรุงแต่งหรือแปลงสภาพ เช่น “ทุกคนที่ขายอาหารหรือขนมที่มีกัญชาผสม เช่น บราวนี่ อาจรวมถึงกรณีร้านสะดวกซื้อที่มีขายผลิตภัณฑ์กัญชา เช่น น้ำกัญชา ขาไก่กัญชา” ไม่ว่าจะขายในรูปแบบใดเข้าข่ายหมด
หมอสมิทธิ์แนะว่าจะให้ดี “ยกเลิกประกาศกระทรวงที่ทำให้กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดไปก่อน” ตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายแพทย์ ๘๕๑ คนไปก่อน “ซึ่งถึงยกเลิกประกาศไป กัญชาก็ยังใช้ทางการแพทย์ หรือมีในผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปได้” อยู่แล้ว
ร่างกฎหมายฉบับนี้ทั้ง ครม.และ กมธ.ชุดใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าให้หารด้วย ๑๐๐ แต่เมื่อเข้าพิจารณาวาระสอง มีการขอสงวนคำแปรญัตติโต้แย้งโดย ส.ส.พรรคจิ๋ว ระวี มาศฉมาดล เกิดพลิกผันมาเป็นเสียงข้างมากให้เอาแบบหารด้วย ๕๐๐
ครั้นพอจะเข้าวาระสาม เกิดการถกเถียงอย่างหนักในหมู่กรรมาธิการและสมาชิกสภาอื่นๆ ว่าการกลับมติในวาระสองทำให้เกิดผลกระทบต่อมาตราอื่นๆ ที่เหลือ สาธิต ปิตุเตชะ ประธาน กมธ.เสนอให้ถอนร่างฉบับหาร ๕๐๐ นี้กลับไปแก้ไขก่อน
ท้ายที่สุดผลโหวตออกมา ๔๗๖ เสียงให้ถอนร่างออกไปก่อน ๒๕ เสียงไม่ถอน แต่มีสมาชิก ๒๐ คนไม่ออกเสียง และ ๙ คนไม่ลงคะแนน เป็นอันว่าการรัฐประหารเสียงข้างมากคว่ำ ‘หาร ๑๐๐’ ไปไม่สุด ‘หาร ๕๐๐’ เลยค้างเติ่งอยู่ในกรรมาธิการ
“รัฐสภามีวันประชุมร่วมเหลือ ๔ วัน คือวันที่ ๒ สิงหาคม วันที่ ๓ สิงหาคม วันที่ ๙ สิงหาคม และ วันที่ ๑๐ สิงหาคม” ดังที่ประธานยุทธศาสตร์เสรีรวมไทยเตือนไว้ว่าจะพิจารณาไม่เสร็จวาระสาม การเมืองปาหี่ในสภาครานี้งัดกันระหว่างพรรคชูกับพรรคร่วม รัฐบาลตู่
(https://www.matichon.co.th/politics/news_3476990, https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/pfbid0uVyzz8 และ https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/pfbid02Lat49JR)
