ที่มา Thai Voice Media
คุณ Nick Nostitz นักข่าวและนักเขียนอิสระ ชาวเยอรมัน ที่ติดตามทำข่าวความเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี ทุกสถานการณ์ที่เกิดความขัดแย้งรุนแรง เขาจะเสี่ยงชีวิตเข้าไป บันทึกเรื่องราว ทั้งภาพ และข้อเขียน เพื่อเปิดเผยความจริงให้กับชาวโลกได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย
แม้ว่า เขาจะให้ความเป็นธรรมในการนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาทั้งสองด้าน ด้วยการเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงในทุกเหตุการณ์ของการชุมนุมในทุกกลุ่ม ทุกสี แล้วก็ตาม แต่ยังก็ไม่วายกลุ่มการเมืองไทย ที่ไม่เข้าใจหลักการของการนำเสนอข่าว ไม่เข้าใจหลักการของสิทธิเสรีภาพ กลับไปกระทำรุนแรงต่อเขา
โดยการทำร้ายเขาหลายต่อหลายครั้ง ในหลายเหตุการณ์ และเมื่อเกิดรัฐประหารขึ้น อาชีพสื่ออิสระอย่างเขาก็ได้รับผลกระทบในแง่ของรายได้ เพราะ รัฐบาลเผด็จการทหาร คสช.ใช้กฎอัยการศึก ปิดกั้นการทำหน้าที่สื่มวลชนทั้งประเทศ จนไม่อาจจะที่จะทำให้เขาดำรงชีพอยู่ได้ในประเทศไทย เขาจึงตัดสินใจที่จะพาครอบครัวกลับประเทศเยอรมัน แม้ว่าคนไทยผู้รักประชาธิปไตยจะรู้สึกเสียดาย เพื่อนต่างชาติผู้ร่วมเพื่อให้เกิดประชาธิปไตยในประเทศไทย แต่เพื่อปลอดภัยในชีวิตและครอบครัวของเขา ก็เป็นเรือ่งจำเป็น และน่าเห็นใจอย่างยิ่ง แต่ด้วยเหตุที่เขา ไม่มีเงินมากพอที่จะใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศ
เขาจึงได้เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือตาม เนื้อหาข้างล่างนี้ ดังนั้น พี่น้องคนไทยที่รักประชาธิปไตย ต่อสุ้เพื่อสิทธิเสรีภาพ และความถุกต้องชอบธรรม ต้องการที่จะช่วยเหลือ ก็สามารถทำได้ตามบัญชีธนาคารที่แนบท้ายอยู่ด้านล่างนี้
I am in need of help
Dear all,
I am rapidly slipping into a very bad situation here. As many know, for quite a while I have been planning to move to Germany with my family. The first reason is that I simply cannot generate enough income anymore in my profession as freelance photojournalist and writer, with no improvement in the nature of the business in sight. The second reason is that my security situation here in Thailand is precarious. After the assault against me by the PDRC on November 25, 2013, a broad hate campaign was launched against me, and which led to a fortunately failed abduction attempt on May 7, 2014.
I am still receiving threats, and the group responsible for this has so far refused any communication or attempt to clear the situation. This has compounded my financial problems, and is severely affecting my ability to work. I have not been able to work at all during the 7 months of PDRC protests, and even now I cannot, for example, go anywhere in southern Thailand, as this is the main support base for the PDRC.
Our problem now is that we have to wait until the adoption process for our son, who is now almost ten years old and has lived with us since he was 7 months old, is finalized. We applied for the adoption approximately 2 years ago, but massive delays in the process have eaten up most of my savings.
As it is now, with all my calculations, I may have just enough money for at most 3 -4 months living in Thailand, which may not be enough time for the very complex bureaucratic procedures involved both in the adoption and in resettling to Germany.
Arriving broke in Germany (and not even a place to live yet, but at least an organization there is helping us) is bad enough, but not having enough money to even last until we can finally move is nerve wrecking. The prospect that we may be forced to leave all our belongings behind, or even worse – to be separated from my family, or not being able to make it to safety in Germany in time before the next round of political conflict starts, gives me sleepless nights, and worsens my already existing PTSD issues. Many friends have and are still trying to help us with speeding up the adoption process, but that still leaves us short of much needed cash.
The situation forces me to raise funds. I hope that some of you, who have appreciated my work over the last couple of years, and who can afford it, are able to help us out with some donations, please.
Donations can be sent to following bank accounts:
1) Nikolaus Nostitz
Siam Commercial Bank, Bangpho Branch
209 Pracharat Sai 2 Rd.
Bangsue
Bangkok 10800
Thailand
Acc. No.: 027-261598-2
SWIFT: SICOTHBK
2) Nikolaus Nostitz
Unicredit Bank AG, Muenchen
Kardinal Faulhaber Str.
Germany
โดยสรุป คุณ Nick Nostitz บอกว่า สถานการณ์ที่เลวร้ายในประเทศไทย เขาและครอบครัววางแผนที่จะเดินทางกลับเยอรมัน ด้วยเหตุผลขอ้แรกคือ เขาไม่สามารถหารายได้มาเลี้ยงชีพและเลี้ยงครอบครัว ด้วยการเป็นนักข่าวและนักเขียนอิสระในประเทศไทยได้อีกต่อไป และด้วยสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีขึ้นเลย อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยตอนนี้ก็ไม่ปลอดภัยสำหรับเขาเลย ด้วยสองเหตุผลสำคัญดังกล่าวทำให้เขาไม่สามารถทำงานและมีรายได้มากว่า 7 เดือนแล้วหลังการชุมนุมของกปปส. ไม่มีรายได้ในการเดินทางไปทำข่าวในที่ต่าง ๆ ด้วย
ทางด้านคุณจรรยา ยิ้มประเสริฐ นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ในต่างประเทศ ได้แสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊คของเธอด้วยเช่นกันว่า " Nick Nostitz เป็นนักข่าวต่างชาติคนหนึ่งที่เกาะติดสนามการปะทะระหว่างทหารและคนเสื้อแดง และกล้ายืนหยัดเป็นประจักษ์พยานในศาล เขาถูกคนคลั่งเจ้าคุกคามต่อเนื่อง จนทำให้การทำงานของเขาในประเทศไทยอยู่ท่ามกลางอันตรายบ่อยครั้ง เขาไม่อาจอยู่ในเมืองไทยได้ต่อไปในสภาพปัญหาทางรายได้เพราะทำงานไม่ได้ และต้องเผชิญกับความคุกคามต่อเนื่องเช่นนี้ ตอนนี้นิกค์จำเป็นจริงๆ ต้องขอรับการสนับสนุนเพื่อกระบวนการย้ายกลับเยอรมันที่ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน นี่คือการขอรับบริจาคจากคนต่างชาติที่ทำคุณูปการต่อขบวนการประชาธิปไตย ใครมีกำลังช่วยสนับสนุนนิกค์ได้ เลขบัญชีอยู่ท้ายข้อความของเขานะครับ ขอบคุณนิกค์ที่ยืนหยัดเพื่อความจริงในประเทศไทยจนถึงบัดนี้ ขออวยพรให้การย้ายกลับเยอรมันกระทำได้อย่างราบรื่น"
Thaivoicemedia ได้ติดต่อขอคุยกับเขาเรื่องนี้ผ่านทางเฟสบุ๊ค คุณ Nick Nostitz ตอบกลับมาว่า ช่วงเวลานี้อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับเขาที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ แม้ว่าเป็นเรื่องความเดือดรอ้นที่เขากำลังเผชิญอยุ่ "ขอบคุณมากครับ ประเทศไทย เป็นเหมือนบ้านของผมเองไปแล้ว ผมใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยมากกว่า เยอมรัน ซึ่งเป็นประเทศของผมเสียอีก หัวใจผมเหมือนจะแตกสลายเหมือนกัน เมื่อจะต้องจากประเทศไทยไป" นี่คือ คำพูดเพียงสั้น ๆ ที่เขาพุดกับ Thaivicemedia เท่าที่เขาสามารถพูดได้ในสถานการณ์อันปลอดภัยยิ่งสำหรับเขาในการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยในยามนี้
Assault on Nick Nostitz
In recent days there has been some discussion about the nature of the attack on long-time New Mandala contributor Nick Nostitz. We have been provided three images of the incident where Nick is being assaulted. It’s a very ugly scene. If New Mandala readers have other pictures or video of the incident please don’t hesitate to let us know.
I am in need of help
Dear all,
I am rapidly slipping into a very bad situation here. As many know, for quite a while I have been planning to move to Germany with my family. The first reason is that I simply cannot generate enough income anymore in my profession as freelance photojournalist and writer, with no improvement in the nature of the business in sight. The second reason is that my security situation here in Thailand is precarious. After the assault against me by the PDRC on November 25, 2013, a broad hate campaign was launched against me, and which led to a fortunately failed abduction attempt on May 7, 2014.
I am still receiving threats, and the group responsible for this has so far refused any communication or attempt to clear the situation. This has compounded my financial problems, and is severely affecting my ability to work. I have not been able to work at all during the 7 months of PDRC protests, and even now I cannot, for example, go anywhere in southern Thailand, as this is the main support base for the PDRC.
Our problem now is that we have to wait until the adoption process for our son, who is now almost ten years old and has lived with us since he was 7 months old, is finalized. We applied for the adoption approximately 2 years ago, but massive delays in the process have eaten up most of my savings.
As it is now, with all my calculations, I may have just enough money for at most 3 -4 months living in Thailand, which may not be enough time for the very complex bureaucratic procedures involved both in the adoption and in resettling to Germany.
Arriving broke in Germany (and not even a place to live yet, but at least an organization there is helping us) is bad enough, but not having enough money to even last until we can finally move is nerve wrecking. The prospect that we may be forced to leave all our belongings behind, or even worse – to be separated from my family, or not being able to make it to safety in Germany in time before the next round of political conflict starts, gives me sleepless nights, and worsens my already existing PTSD issues. Many friends have and are still trying to help us with speeding up the adoption process, but that still leaves us short of much needed cash.
The situation forces me to raise funds. I hope that some of you, who have appreciated my work over the last couple of years, and who can afford it, are able to help us out with some donations, please.
Donations can be sent to following bank accounts:
1) Nikolaus Nostitz
Siam Commercial Bank, Bangpho Branch
209 Pracharat Sai 2 Rd.
Bangsue
Bangkok 10800
Thailand
Acc. No.: 027-261598-2
SWIFT: SICOTHBK
2) Nikolaus Nostitz
Unicredit Bank AG, Muenchen
Kardinal Faulhaber Str.
Germany
โดยสรุป คุณ Nick Nostitz บอกว่า สถานการณ์ที่เลวร้ายในประเทศไทย เขาและครอบครัววางแผนที่จะเดินทางกลับเยอรมัน ด้วยเหตุผลขอ้แรกคือ เขาไม่สามารถหารายได้มาเลี้ยงชีพและเลี้ยงครอบครัว ด้วยการเป็นนักข่าวและนักเขียนอิสระในประเทศไทยได้อีกต่อไป และด้วยสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ไม่ดีขึ้นเลย อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยตอนนี้ก็ไม่ปลอดภัยสำหรับเขาเลย ด้วยสองเหตุผลสำคัญดังกล่าวทำให้เขาไม่สามารถทำงานและมีรายได้มากว่า 7 เดือนแล้วหลังการชุมนุมของกปปส. ไม่มีรายได้ในการเดินทางไปทำข่าวในที่ต่าง ๆ ด้วย
และอีกปัญหาหนึ่งคือ รอขั้นตอนการรับรองการเลี้ยงดูลูกชายของเขา ตอนนี้อายุ 10 ปีแล้วซึ่งเขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่อายุได้ 7 เดือน ทั้ง ๆ ที่ได้เสนอขอทำเรื่องนี้ไป 2ปี แล้วแต่ล่าช้าอย่างมาก และทำให้เงินเก็บที่สะสมไว้ก็หมดไปกับเรือ่งนี้อย่างมากด้วย นี่คือเหตุผลสำคัญ และเมื่อมาประเมินดูแล้ว เงินสะสมที่มีอยู่ตอนนี้ก็สามารถเลี้ยงครอบครัวให้อยู่ในประเทศไทยต่อไปได้อีกเพียง 3-4 เดือนเท่านั้นซึ่งไม่เพียงพอที่จะใช้จ่ายในขั้นตอนการรับรองสถานของลูกและการกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเยอรมัน
และที่แย่ไปกว่านั้นเมื่อกลับไปอยู่เยอรมันแล้ว ก็ไม่มีที่อยู่ด้วยเหมือนกัน แต่อย่างน้อยยังมีองค์กรการกุศลคอยให้การช่วยเหลืออยู่บ้าง แน่นอนการต้องจากไปโดยละทิ้งในสิ่งที่เราเคยเป็นเจ้าของเป็นเรื่องที่แย่มาก และเป็นเรื่องที่ปวดร้าวมากหากจะต้องทำให้ครอบครัวของเขาต้องแยกจากกัน และก่อนที่ความไม่ปลอดภัยในชีวิตจะเกิดขึ้นเมื่อความขัดแย้งระลอกใหม่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในประเทศไทย ซึ่งเขาไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้เลยในแต่ละคืนกับปัญหาเหล่านี้ ทำให้เขากลายเป็นโรคหวาดผวาไปแล้ว
แม้ว่าเพื่อนๆของเขาพยายามที่จะทำให้การรับอุปการะลูกชาย จะรวดเร็วขึ้น แต่ก็ยังจำเป็นต้องอาศัยการใช้เงินจำนวหนึ่งอยู่ดี ด้วยสถานกาณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ทำให้เขาจำเป็นต้องขอรับการช่วยเหลือด้านการเงิน เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คนไทยที่ชื่นชมผลงานของเขาในรอบหลายปีที่ผ่านมา สามารถช่วยเหลือเขาและครอบครัวให้ผ่านพ้นสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ไปได้ กรุณาส่งความช่วยเหลือของท่านมาที่บัญชีที่ปรากฎอยู่นี้ ( รายละเอียดบัญชี 2 บัญชีในเมืองไทย และที่เยอรมัน อยู่ด้านบน )
ในกรณีนี้ คุณสมบัติ บุญงามอนงค์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองในนาม วันอาทิตย์สีแดง ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ ในเฟสบุ๊คของเขาว่า ""นิค ผู้บันทึกภาพและเป็นพยานในประวัติศาสตร์"3-4 เดือนเท่านั้น ฝรั่งสูงใหญ่สะพายกล้องไปทุกม๊อบและกิจกรรมทางการเมือง เขาคือ Nick Nostitz ช่างภาพอิสระชาวเยอรมัน เขาเป็นเหมือนประจักษ์พยานคนหนึ่งที่เป็นชาวต่างชาติในเหตุการณ์ทางการเมืองไทย เดินเข้าออกเวที นั่งคุยกับแกนนำทุกสีฝ่าย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ในเหตุการณ์ต่าง ๆ และเขานั่งคุยกับมวลชนทุกกลุ่ม
ในกรณีนี้ คุณสมบัติ บุญงามอนงค์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองในนาม วันอาทิตย์สีแดง ได้แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้ ในเฟสบุ๊คของเขาว่า ""นิค ผู้บันทึกภาพและเป็นพยานในประวัติศาสตร์"3-4 เดือนเท่านั้น ฝรั่งสูงใหญ่สะพายกล้องไปทุกม๊อบและกิจกรรมทางการเมือง เขาคือ Nick Nostitz ช่างภาพอิสระชาวเยอรมัน เขาเป็นเหมือนประจักษ์พยานคนหนึ่งที่เป็นชาวต่างชาติในเหตุการณ์ทางการเมืองไทย เดินเข้าออกเวที นั่งคุยกับแกนนำทุกสีฝ่าย รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ในเหตุการณ์ต่าง ๆ และเขานั่งคุยกับมวลชนทุกกลุ่ม
หากจะมีชาวต่างชาติสักคนที่ผมคิดว่าเขาเข้าใจปัญหาการเมืองไทยมากที่สุดคนหนึ่ง
ผมคิดว่าเขาคนนั้นต้องเป็น Nick Nostitz ภาพถ่ายนับหมื่นภาพในเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์การเมืองไทยในรอบสิบปีอยู่ในคอมพิวเตอร์ของเขา ซึ่งแลกมากับการเอาตัวเองเข้าไปในพื้นที่อันตรายไม่ว่าจะเป็นบ่อนไก่ ซอยรางน้ำ ในเหตุการณ์ พค 53 เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด นิคถูกอีกฝ่ายหวาดระแวงว่าเป็นสายลับและเป็นขี้ข้าทักษิณเข้ามาถ่ายภาพในม๊อบของ กปปส และเคยถูกทำร้ายในม๊อบ
ผมทราบมาระยะหนึ่งแล้วว่านิคจะพาภรรยาและลูกไปอยู่ที่เยอรมัน ที่ซึ่งโอกาสของประชาชนจะเติบโตและใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และเขากำลังระดมทุนเพื่อหาช่องทางในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เมื่อผมเห็นข้อความขอความช่วยเหลือจากนิค ผมโทรไปหาเขาและติดต่อขอซื้อภาพของผมที่นิคเป็นคนถ่ายไว้ 10 ภาพ ด้วยเงินที่ผมขายนาฬิกา 2475 ได้ จำนวน 10,000 บาท เขาเป็นคนที่มีค่าคนหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทยวันนี้ในฐานะฝรั่ง ความทรงจำและภาพถ่ายของเขาเป็นประวัติศาสตร์ ผมยินดีอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนการตัดสินใจของเขาในครั้งนี้ "
ทางด้านคุณจรรยา ยิ้มประเสริฐ นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ในต่างประเทศ ได้แสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊คของเธอด้วยเช่นกันว่า " Nick Nostitz เป็นนักข่าวต่างชาติคนหนึ่งที่เกาะติดสนามการปะทะระหว่างทหารและคนเสื้อแดง และกล้ายืนหยัดเป็นประจักษ์พยานในศาล เขาถูกคนคลั่งเจ้าคุกคามต่อเนื่อง จนทำให้การทำงานของเขาในประเทศไทยอยู่ท่ามกลางอันตรายบ่อยครั้ง เขาไม่อาจอยู่ในเมืองไทยได้ต่อไปในสภาพปัญหาทางรายได้เพราะทำงานไม่ได้ และต้องเผชิญกับความคุกคามต่อเนื่องเช่นนี้ ตอนนี้นิกค์จำเป็นจริงๆ ต้องขอรับการสนับสนุนเพื่อกระบวนการย้ายกลับเยอรมันที่ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน นี่คือการขอรับบริจาคจากคนต่างชาติที่ทำคุณูปการต่อขบวนการประชาธิปไตย ใครมีกำลังช่วยสนับสนุนนิกค์ได้ เลขบัญชีอยู่ท้ายข้อความของเขานะครับ ขอบคุณนิกค์ที่ยืนหยัดเพื่อความจริงในประเทศไทยจนถึงบัดนี้ ขออวยพรให้การย้ายกลับเยอรมันกระทำได้อย่างราบรื่น"
Thaivoicemedia ได้ติดต่อขอคุยกับเขาเรื่องนี้ผ่านทางเฟสบุ๊ค คุณ Nick Nostitz ตอบกลับมาว่า ช่วงเวลานี้อาจจะไม่ปลอดภัยสำหรับเขาที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ แม้ว่าเป็นเรื่องความเดือดรอ้นที่เขากำลังเผชิญอยุ่ "ขอบคุณมากครับ ประเทศไทย เป็นเหมือนบ้านของผมเองไปแล้ว ผมใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยมากกว่า เยอมรัน ซึ่งเป็นประเทศของผมเสียอีก หัวใจผมเหมือนจะแตกสลายเหมือนกัน เมื่อจะต้องจากประเทศไทยไป" นี่คือ คำพูดเพียงสั้น ๆ ที่เขาพุดกับ Thaivicemedia เท่าที่เขาสามารถพูดได้ในสถานการณ์อันปลอดภัยยิ่งสำหรับเขาในการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยในยามนี้
ooo
Assault on Nick Nostitz
oooภาพของ Nick Nostitz งานพระราชทาน เพลิงศพ พันเอก ดร. อภิวันท์ วิริยะชัย