โลกวันนี้มีประเด็น
ที่มา โลกวันนี้
เมื่อวาน (10 ธ.ค.) เป็นวันสำคัญ (หรือไม่สำคัญชักไม่แน่ใจ) คือเป็นวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ธ.ค. ของทุกปี
สาเหตุที่วันที่ 10 ธ.ค. ถูกกำหนดให้เป็นวันรัฐธรรมนูญ มาจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรสยาม ฉบับถาวร เพื่อเป็นหลักในการปกครองของประเทศให้แก่ประชาชนชาวไทย เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2475
ที่ต้องขีดเส้นใต้เส้นโตๆคือคำว่า “ฉบับถาวร” เพราะไม่เคยมีอยู่จริง
ที่ผ่านมารัฐธรรมนูญถูกฉีกทิ้งแล้วร่างใหม่หลายครั้ง จนทำสถิติเป็นชาติที่ใช้รัฐธรรมนูญเปลืองที่สุดในโลก
รัฐประหารครั้งที่แล้ว คณะยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ฝันหวานว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับสุดท้าย เพราะมั่นใจว่าเขียนไว้ดีแล้ว รัดกุมแล้ว
แต่ใช้ได้ไม่กี่ปีก็ถูกฉีก และให้คณะเดิมมาแก้มือยกร่างใหม่
การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่กำลังอยู่ในช่วงฝุ่นตลบ แย่งชิงเสนอประเด็นกันให้วุ่นวาย
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เปรียบเปรยรัฐธรรมนูญเป็นแกงส้มหม้อใหญ่ ที่มีพ่อครัวจำนวนมากมาร่วมกันปรุง ต่างคนต่างแย่งเสนอสูตรของตัวเอง เพราะเชื่อว่าอร่อยที่สุด ถกเถียงกันทั้งที่ยังไม่ได้ตั้งเตาก่อไฟด้วยซ้ำ
ประมาณว่ามากคนมากความอะไรทำนองนั้น
การถกเถียงแย่งกันเสนอสูตรแกงส้มมองเผินๆเหมือนเป็นเรื่องดี ที่บรรดาพ่อครัวต่างมีอิสระในการนำเสนอความเห็น
แต่มาฉุกคิดเมื่อได้อ่านความเห็นของ ศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์จากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ระบุเอาไว้ว่า
…พวก สปช. หลายคนกำลังออกมา “น้ำลายแตกฟอง” เรื่อง รธน. ใหม่ มีข้อเสนอ “อ่อยเหยื่อ” ออกมา เช่น จะมีนิรโทษกรรมเหมาเข่ง จะเลือกตั้งนายกฯและ ครม. โดยตรง ฯลฯ
สปช. ที่กำลัง “บ้าน้ำลาย” เป็นอย่างใดอย่างหนึ่งในสองอย่างต่อไปนี้
หนึ่ง เป็นพวกไร้เดียงสา นึกว่าพวกตนจะมีอิสระร่าง รธน. ตามที่ตนคิดฝันจริงๆ ถ้าเป็นข้อนี้ สปช. พวกนี้ก็เหมือน “เด็กทารกเล่นขายข้าวแกง” คือเป็นเด็กที่จินตนาการนึกว่าตัวเองเป็นแม่ครัว แม่ค้าขายอาหารจริงๆ
สอง เป็นพวกกะล่อนหลอกลวง คือรู้ทั้งรู้ว่าเนื้อหา รธน. ได้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ตัวเองเป็นแค่ “ออกแขกโรงลิเก” มีหน้าที่ทำให้การร่าง รธน. วกวน ยืดยาว และ “ดูเป็นอิสระ ชอบธรรม” แต่ สปช. ก็ยังจงใจออกมาโยนประเด็น “อ่อยเหยื่อ” ให้พวกไร้เดียงสาทางการเมืองวิ่งเต้นตามเพลง
ที่น่าขำก็คือ มีหลายคน ทั้งใน ปชป. ในพรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. และมวลชนของพรรคบางคนหลงเชื่อ ถึงกับ “วิ่งไล่ตามประเด็น รธน.” ที่ถูกโยนออกมา กลัวจะตกรถไฟ วิ่งไปเสนอโน่นนี่กับ สปช. หวังว่าจะผลักดันเนื้อหาประชาธิปไตยเข้าไปใน รธน. ฉบับใหม่ได้จริงๆ ซึ่งก็คือ “ฝันเปียก” ว่า “งาช้างจะงอกออกมาจากปากสุนัข” ได้
โทษที รธน. ฉบับใหม่น่ะ เนื้อหาหลักๆเขากำหนดไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว ไอ้ที่เสนอๆกันมาให้ดูดี น่าตื่นเต้น ก็แค่ “ออกแขกโรงลิเก” เท่านั้น ลิเกตัวจริงออกโรงเมื่อไร พวกฝันหวานจะช็อกว่าทำไมฉบับใหม่ถึงได้ “หัวคูณ” ยิ่งกว่าฉบับ 50 เสียอีก!…
ไม่รู้ว่า ศ.ดร.พิชิตมองโลกแง่ร้ายไปหรือเปล่า แต่ถือว่าเป็นความเห็นที่ทำให้ต้องฉุกคิด กระตุกขา สะกิดเตือนพวกที่กำลังเคลิ้มให้รู้สึกตัวหันมามองโลกจากความเป็นจริง
สร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์จากการทำรัฐประหาร จะเป็นไปได้จริงๆหรือ
ถ้าเป็นไปได้จริง ต้องถือว่า “Amazing Thailand” และจะเป็น “Thailand Only” ที่ทั้งโลกต้องจดจำ
