ชาวสวนยางภาคใต้ บุกกรุงเทพฯ 10 ธ.ค. นี้ ย้ำ "ตายในคุกดีกว่าอดตาย"
Mon, 2014-12-08 14:39
จอม เพชรประดับ
ที่มา ประชาไท
ชาวสวนยางภาคใต้ เอาจริง เตรียมเดินเท้า เข้ากรุงเทพฯ 10 ธค.นี้ จี้ “ประยุทธ์” ทำราคายางขึ้นไม่ได้ ควรออกไป ท้าทหารจับ ย้ำ“ตายในคุก ดีกว่าอดตาย”
ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยาม มุกดา ตัวแทนชาวสวนยาง จ.ตรังให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia ถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางจากปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำในขณะนี้ว่า ราคายางพาราที่วิกฤติที่สุดในรอบหลายสิบปี จากราคา 100 บาท ลดลงมาเหลือ 30 บาทกว่า ทำให้ชีวิตคนใต้พูดไม่ออก บอกไม่ถูก และไร้ที่พึ่ง เพราะยางพาราเป็นสินค้าหลักของคนใต้ ถ้าราคายางตก ก็จะกระทบกับความเป็นอยู่ ค่าครองชีพในชีวิตประจำวันอย่างรุนแรง คนใต้ตอนนี้ไม่มีเงินที่จะจับจ่ายใช้สอย ต้องกู้เงินเพื่อให้ลูกไปโรงเรียน ไม่มีเงินผ่อนรถ ผ่อนบ้านและกระทบกับธุรกิจเกือบทุกชนิดในภาคใต้
ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยาม กล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ต้องแก้ปัญหา ไม่ได้ตำหนิรัฐบาล แต่ที่ผ่านมารัฐบาลได้ข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง นำไปสู่การออกมาตรการช่วยเหลือที่ไม่ถูกต้องกับปัญหาที่วิกฤติ รัฐบาลจะต้องทบทวนมาตรการแก้ปัญหา โดยเอาคนที่มีความรู้ มีความสามารถ มีประสบการณ์เข้าร่วมหารืออย่างเร่งด่วนเพื่อแก้วิกฤตินี้ให้ได้ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ผ่านมาได้ช่วยแก้ปัญหาได้มากน้อยแค่ไหน ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยาม กล่าวว่า ถ้าได้ผล ราคายางต้องสูงขึ้นกว่านี้ แต่ขณะนี้ ราคายางก็ยังคงดิ่งลงตลอดเวลา ส่วนการโอนเงินให้เจ้าของสวนยางเพื่อแก้ปัญหา ตามข้อเท็จจริง เจ้าของสวนยางกับเกษตรกรสวนยางไม่เหมือนกัน
“เจ้าของสวนยางจริงๆ มีแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เกษตรกรที่รับจ้างตัดยาง ไม่ได้เป็นเจ้าของสวนยาง มีมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อรัฐบาลโอนเงินเข้ามา จึงไม่ได้สะพัดสู่ท้องตลาด เพราะเจ้าของสวนยางมีเงินทุนอยู่แล้ว กลายเป็นเงินเก็บของเจ้าของสวนยาง แต่ 80 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นคนรับจ้างกรีดยางไม่ได้ประโยชน์จากมาตรการนี้เท่าที่ควร เกษตรรายย่อย อาจจะมีสวนเพียง 15 ไร่ ให้มาไร่ละ 1000 บาท เงิน 15000 บาท แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย กับภาวะหนี้สินที่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นทุกวัน” ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าว
ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าวต่อไปว่า ข้อเรียกร้องเบื้องต้นเพื่อแก้วิกฤติเฉพาะหน้าคือ ให้รัฐบาลใช้กลไกแทรกแซงตลาด เพื่อให้ราคายางสูงขึ้น ประโยชน์ก็จะทั่วถึง คนกรีดก็ได้ เจ้าของสวนก็ได้ ธุรกิจ หรือการค้าการขายทุกระดับก็ได้รับประโยชน์ทั่วกันหมด และยังส่งผลต่อรายได้ของประเทศในภาพรวมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 10 ธันวาคมนี้ จะคุยกันอย่างไร และมีข้อเรียกร้องอะไร ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าวว่า ชาวสวนยาง จังหวัดตรัง จะพูดคุยกันที่สี่แยกอันดามัน จากนั้นก็จะรวมตัวกันที่ อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ ผู้นำต้นยางพาราต้นแรกมาปลูกในประเทศไทย และเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ ไปยัง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเริ่ม 10 โมงเช้าของวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นวันรัฐธรรมนูญ จะถึงกรุงเทพฯ วันไหนอย่างไร ก็จะเดินต่อไปเรื่อยๆ เพื่อจะเรียกร้องให้รัฐบาลหันมาสนใจปัญหา และเรียกร้องให้ออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือชาวใต้ในภาวะวิกฤตินี้ให้ได้
“ชาวสวนยางในหลายจังหวัด จากสงขลาขึ้นไปถึงสุราษฎร์ธานี ชุมพร จนถึงกรุงเทพฯ เส้นทางที่เราผ่าน จะมีพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน ร่วมสมทบ เราจะให้ข้อมูลไปเรื่อย และสุดท้ายก็จะนำข้อมูลทั้งหมดเสนอต่อรัฐบาลที่กรุงเทพฯ แม้ว่าสุดท้ายจะเหลือผมคนเดียวก็จะเดิน เพื่อให้รัฐบาลออกมาตรการเร่งด่วนหากสิ่งที่พวกเราทำ เป็นการละเมิด หรือผิด ผมก็พร้อมที่จะถูกจับ แต่ผมมั่นใจว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะฟังพวกเรา ” ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าว
ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าวต่อไปว่า หลายคนหวาดกลัว เพราะมีกฎอัยการศึก แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการปิดถนน ไม่สร้างความเดือดร้อน หรือความเสียหายให้ใคร
“ในเบื้องต้น มาตรการที่จะเรียกร้องต่อรัฐบาลคือ 1.ให้แทรกแซงราคายางพารา เราขอที่ราคา 70 – 80 บาท ในระยะ 3 เดือนหรือ 6 เดือนแรกเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปก่อน และเมื่อรัฐบาลสามารถทำให้ราคายางขึ้นได้ผ่านกลไกตลาดแล้วก็ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด” ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยาม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่กลัวกฎอัยการศึก รัฐบาลต้องการให้บ้านเมืองสงบ ว่าที่ร้อยตรี สิงห์สยามกล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนให้ความร่วมมือและให้เวลาต่อรัฐบาลมาแล้วหลายเดือน เมื่อแก้ปัญหาไม่ได้ผล ความเดือดร้อนยิ่งรุนแรงมากขึ้นจึงจำเป็นต้องออกมา
“นี่คือสิทธิของมนุษย์ สิทธิของคนไทย และ คสช.ในฐานะรัฐบาลไทย ต้องฟังประชาชน ถ้าเราไม่มีเหตุผลก็จับเรา เราผิดเราพร้อมมอบตัว แต่ถ้าเราเดือดร้อน รัฐบาลก็ไม่ควรปล่อยให้ประชาชนอดตาย เพราะความผิดพลาดการบริหารของรัฐบาล คสช. รัฐบาล ใช้เงินภาษีประชาชน ดังนั้น ถ้ารัฐบาลไม่ฟังประชาชน ไม่เฉพาะชาวสวนยาง แต่ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกอาชีพ ที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารประเทศผิดพลาด ไม่ใช่จะออกมาจับกุมประชาชนที่กำลังเดือดร้อน” ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลไกของรัฐบาลในการรับฟังเสียงประชาชนก็มีอยู่แล้ว ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าวว่า เมื่อรัฐบาลรับฟัง แต่มาตรการที่ออกมากลายเป็นการเอาดารามาโชว์ มาแสดงคอนเสิร์ต อันนี้ไม่ตรงกับความเดือดร้อนของพวกเรา อย่างกรณีที่ข้าราชการทหาร ตำรวจ ข้าราชการฝ่ายปกครอง เรียกร้องขึ้นเงินเดือน เพราะเดือดร้อนเรื่องค่าครองชีพ รัฐบาลก็เอาเงินภาษีมาเพิ่มเงินเดือนให้ข้าราชการ วันนี้ เกษตรกรเดือดร้อน มาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือด้วย ทำไมรัฐบาลจะไม่รับฟังและแก้ปัญหาให้ด้วย ไม่ว่ารัฐบาลมาจากการปฎิวัติ มาจากการเลือกตั้ง เมื่อประชาชนเดือดรอ้นจะต้องรับฟังและเร่งแก้ปัญหา เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ไม่ใช่ใช้อำนาจเผด็จการ
“ผมยืนยันตรงนี้ครับว่า ถ้าทหารมาจับผม ผมก็พร้อมที่จะเข้าไปอยู่ในคุก ดีกว่าจะอยู่อย่างอดตาย ถ้าการเคลื่อนไหวของผม ทำให้คนอื่นเดือดร้อนผมยินดีเดินไปมอบตัวครับ แต่วันนี้เราเดือดร้อน ซึ่งรัฐบาลไม่ว่าประเทศไหน ถ้าแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้ รัฐบาลต้องพิจารณาตัวเองครับ” ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าวและว่าวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นรัฐบาล ราคายางพาราตก ต่อให้รัฐบาล นายชวน หลีกภัย มาบริหาร ถ้าราคาดิ่งแบบนี้ ก็ต้องออกมาเคลื่อนไหว เพราะเคลื่อนไหวในฐานะประชาชนที่เดือดร้อนไม่ได้จะมาเป็นศัตรูกับรัฐบาล
“ภาวะหนี้สินที่เกิดขึ้น จากภาวะราคายางพาราตกต่ำมาเป็นเวลากว่าปีแล้วนั้น สถาบันการเงินของรัฐ รู้ปัญหาดี ว่าชาวสวนยางพาราตอนนี้หนี้ท่วม มาตรการพักหนี้ก็เอาตัวไม่รอด ตอนนี้ มีการสร้างหนี้นอกระบบกันมากมาย เราจะพึ่งใครถ้าไม่พึ่งรัฐ เราไม่ได้คัดค้านรัฐบาล แต่มาตรการแก้ปัญหาราคายางพาราที่ผ่านมาไม่ได้ผล เรามาแก้ปัญหาร่วมกันได้มั้ย” ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยาม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ผ่านมา พยายามจะแก้ปัญหาให้ราคายางพาราอยู่ที่ 80 – 90 บาทด้วยซ้ำ แต่ชาวสวนยางปักษ์ใต้ออกมาขับไล่ไป ถึงตอนนี้ก็ต้องรับชะตากรรมกันเอง คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าวว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำให้ชาวนาภาคเหนือ ภาคอีสาน ได้ประโยชน์จากโครงการรับจำนำข้าวอย่างมาก ชาวสวนยางปักษ์ใต้ก็ไม่เคยอิจฉา กลับยินดีด้วยซ้ำ แต่ปัญหามีการคอร์รัปชันในโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้นเอง ส่วนการช่วยเกษตรกรอื่นๆ คนปักษ์ใต้ยินดีอยู่แล้ว
“วันนี้ชาวสวนยางเดือดร้อน และอยู่ในท่ามกลางความขัดแย้ง สังคมเกิดความแตกแยก แต่วันนี้เราเดือดร้อนขนาดที่เรียกได้ว่าไม่มีจะกินแล้ว ไม่ได้ออกมาเพื่อทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่ม แต่ออกมาเพราะเราเดือดร้อนจริงๆ และให้รัฐบาลช่วยเหลือ” ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าวและว่า ต้องมองข้ามประเด็นการเมือง วันนี้เป็นความทุกข์ของชาวสวนยาง ถ้าในอนาคต คนภาคเหนือ ภาคอีสานเดือดร้อน ชาวสวนยางปักษ์ใต้ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ แม้ว่าในยามที่เกิดอุทกภัยในภาคเหนือ ภาคอีสาน คนใต้ก็ร่วมบริจาคช่วย เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน การที่ออกมาเคลื่อนไหวเพราะความเดือดร้อน เป็นความจำเป็นของการอยู่รอด ไม่ใช่เรื่องการเมือง คนใต้ก็ยังขอบคุณ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้ช่วยคนใต้ไว้หลายเรื่อง รัฐบาลที่มาจากคนเหนือ คนอีสาน ก็ช่วยเหลือคนใต้ไว้หลายเรื่อง การเมืองเป็นเรื่องของเกมการแข่งขัน แต่ความเรื่องความอยู่รอด ความเดือดร้อนของประชาชนมันไม่ใช่ การต่อสู้ทางการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรกับคำพูดของพระสุเทพที่บอกว่าคนปักษ์ใต้อย่าเพิ่งออกมาคัดค้าน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะกำลังช่วยเหลืออยู่ ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยาม กล่าวว่า เป็นการรอคอยที่มีเหตุผล แต่ในส่วนของชาวสวนยางจริงๆ ต้องสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนให้ทราบ เพื่อจะให้แก้ปัญหาอย่างเร่งด่วนและขอร้องทุกฝ่าย ช่วยโอบอุ้มชาวสวนยางปักษ์ใต้ให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎอัยการศึกทำให้หลายคนกลัว เพราะจะถูกสกัดจากทหารแน่นอน จะทำอย่างไร ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าวว่า ทหารคงสกัดแน่ ถ้าถูกจับเดือดร้อนแน่เงินสู้คดีก็ไม่มี ลูกเมียก็เดือดร้อน ดังนั้นภายใต้กฎอัยการศึก ช่องทางที่ทำได้คือพูดความจริงถึงความเดือดร้อน โดยไม่สร้างความเสียหาย ให้กับคนอื่น ไม่โจมตี ไม่ด่ารัฐบาล เพียงแต่วิจารณ์การทำงานรัฐบาลที่ยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถูกจับจะรับมืออย่างไร ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าวว่า ถ้าทหาร มาคุยก็พร้อมจะคุย หากจะมาปรับทัศนคติว่าว่าเป็นการทำผิด ก็จะไม่ยอมรับ ถ้าจะขัง ก็จะยอมให้ขังอยู่ในคุก ดีกว่าต้องมาอดตายอยู่นอกคุก ดีกว่าเห็นความทุกข์ ความลำบากของพี่น้องประชาชน
“ผมขอท้าเลยครับ ถ้ารัฐบาลไม่ฟังและไม่เข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน ก็ไม่ควรเป็นรัฐบาล ออกมาอยู่ข้างนอกก็ไม่มีความสุข แต่เราจะมุ่งมั่นว่า ราคายางพาราต้องดีกว่านี้ และรัฐบาลต้องช่วยเหลือประชาชน เราเรียกร้องอย่างสงบ แต่อย่าให้ใครมาสรุปว่า ความสงบคือการอดทนต่อความทุกข์ยาก โดยไม่พูดคุยถึงความเดือดร้อน อย่าให้พวกเราต้องกลืนเลือด ต้องล้มหายตายจากเพราะความยากจนให้พื้นที่ได้คุยกันอย่างมีศักดิ์ศรีเถิดครับ” ว่าที่สิงห์สยามกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดอย่างไรกับคำพูดของคุณชวน หลีกภัยที่เคยแนะนำให้ชาวสวนยางหันมาปลูกจำปาดะแทน ว่าที่ร้อยตรีสิงห์สยามกล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา คนที่มีพื้นที่ก็ทำสวนผสมเพิ่มรายได้ได้ แต่เกษตรกรภาคใต้ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินแปลงใหญ่ เป็นเจ้าของที่ดินเพียง 5-10 ไร่เท่านั้น และหลายคนเป็นคนรับจ้างกรีดแล้วแบ่งน้ำยางกัน การทำสวนผสม ใช้ต้นทุนสูง ปลูกพืชผสมในสวนยาง ต้องรดน้ำพรวนดิน และพืชเหล่านั้นจะไปแย่งอาหารต้นยาง ทำให้น้ำยางลดลง ถ้าเข้าใจการทำสวนยางจริงๆ จะรู้เหตุผลว่าทำไมชาวสวนยางจึงมีอาชีพเสริมน้อยกว่าเกษตรกรที่อื่น
ooo
แกนนำชาวสวนยางภาคใต้ เตรียมบุก กทม.10 ธค.จี้"ประยุทธ์"ขึ้นราคายาง
https://www.youtube.com/watch?v=MnIzh-Qx7ew
ที่มา Thai Voice Media
ooo
ooo
ที่มา เดลินิวส์ออนไลน์
วันจันทร์ 8 ธันวาคม 2557 เวลา 11:10 น.
"บิ๊กตู่"ลั่นเดินหน้านโยบายปราบโกง ชี้หากไทยแก้ปัญหาทุจริตไม่ได้ จะกลายเป็นเสือย่อตัว เดินถอยหลัง ขอปชช.อย่าเพิ่งก่อม็อบ เตรียมส่งคนเจรจาม็อบสวนยางใต้
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)สนามบินน้ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง ความโปร่งใสในการบริหารจัดการองค์กรของประเทศไทย โดยได้เรียกร้องคนไทยปฏิเสธคนโกง พร้อมเน้นย้ำว่ารัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนการต่อต้าน และ ปราบปรามทุจริตอย่างจริงจัง แต่การตรวจสอบทุจริต ทำตามใจไม่ได้ ต้องมีขั้นตอน และระเบียบปฏิบัติ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงความคืบหน้าด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในมิติการลงทุน ต่างชาติตระหนักถึงความโปร่งใสเป็นสำคัญ รัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น จึงต้องจัดระเบียบ เพราะไม่อยากทำอะไรให้ประเทศชาติเสียหายไปมากกว่านี้ ทั้งต้องวางรากฐานประเทศให้เข้มแข็ง เพื่อศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในอนาคต เพราะหากแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปไม่ได้ ประเทศไทยของเราจะถอยหลัง กลายเป็นเสือย่อตัว เดินต่อไปไม่ได้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้สำนักงาน ก.พ.ปรับตัวชี้วัดการทำงานของข้าราชการ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ ลดขั้นตอน และทันยุคสมัยมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า กฎหมายมีไว้เพื่อคุ้มครองทุกคน ใช้ชีวิตอยู่อย่างเท่าเทียม แต่ขณะนี้คนต่างหวาดกลัวกฎหมาย และ ผู้บังคับใช้ จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความรู้สึกที่ดี ให้เกิดขึ้นในประชาชน และขอให้ ป.ป.ช. และองค์กรอิสระ หามาตรการป้องกันตนเองจากแรงกดดัน และอันตรายจากการทำหน้าที่ พร้อมเรียกร้องประชาชน อย่าเพิ่งเดินขบวนเรียกร้อง เพราะรัฐบาลต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเพียงสั้น ๆ ถึงกรณีที่สภาการยางแห่งประเทศ จะเข้ายื่นหนังสือต่อรัฐบาลเพื่อเสนอแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำและนัดชุมนุมกดดันรัฐบาลในวันที่ 9 ธ.ค. ที่ศาลากลาง จ.สุราษฎร์ธานีว่า "เรื่องนี้ต้องคุยกัน เดี๋ยวจะส่งคนลงไปพูดคุยทำความเข้าใจ" เมื่อถามว่าจะส่งนายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงไปพูดคุยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงว่า ใครมีหน้าที่ในเรื่องนี้ ก็ต้องลงไปพูดคุยทำความเข้าใจ.