https://www.youtube.com/watch?v=eEoQXvqKMQ8&feature=youtu.be
(พูดถึงทหาร นาทีที่ 9.24)
ดำเนินรายการโดย ผศ.ปกป้อง จันวิทย์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2557 “ประเทศไทยในสามทศวรรษหน้า: สี่ความท้าทายเพื่อการเติบโตอย่างมีคุณภาพ” (Positioning Thailand in the Next Three Decades: Four Challenges to Quality Growth)
วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ณ ห้องบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ บี ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์
ที่มา มติชนออนไลน์
เพราะในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีจะประกาศเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล และพูดย้ำบ่อยครั้งว่าทุกคนในรัฐบาลเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ
ไม่มีใครคิดถึงเรื่องประโยชน์ส่วนตัว
เหมือนกับว่าจะไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้อย่างแน่นอน
แต่นายอานันท์กลับบอกว่ามีหลายเรื่องที่เขาอึดอัดใจเพราะไม่แน่ใจว่ารัฐบาลมีความพยายามที่จะดูแลปัญหาคอร์รัปชั่นมากแค่ไหนและจริงใจเพียงใด
"ข่าวลือมันมากเหลือเกิน ผมว่าข่าวลือด้านนอกทหารก็คงจะได้ยินบ้าง ผมเป็นคนไม่เชื่อข่าวลือ และไม่ใช่คนที่ฟังแล้วไปขยายต่อ แต่เมื่อได้ยินมา ผมก็หวังว่าจะไม่ใช่"
"อานันท์" นั้นไม่ได้เป็นแค่อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เขาเป็นนักธุรกิจมาก่อน มีเครือข่ายสายสัมพันธ์ในแวดวงธุรกิจระดับใหญ่ ดังนั้น ข่าวสารที่เข้าหูเขาจึงไม่ธรรมดา
การที่บอกเพียงว่าเป็นข่าวลือ ไม่แน่ใจว่าจริงหรือเปล่า
ถ้าตีความตามภาษาการทูต
นั่นคือ"เรื่องจริง"
ในแวดวงธุรกิจนั้นพูดกันหนาหูว่าแม้จะเปลี่ยนรัฐบาลแต่ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ได้ลดลงเลย เพียงแต่เปลี่ยน "คนรับ" เท่านั้นเอง
เปลี่ยนจาก "นักการเมือง" เป็น "ข้าราชการ"
มีคนเคยบอกว่าสิ่งที่จะทำให้คสช.และรัฐบาลชุดนี้ล้มลงได้ก็คือ ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น
และวันนี้ "อานันท์ ปันยารชุน" ก็ส่งสัญญานเตือนแล้ว
อยู่ที่ว่า คสช.จะได้ยินหรือไม่เท่านั้นเอง
นักวิเคราะห์การเมืองหลายคนมองว่าการเมืองไทยนั้นจะเข้มข้นรุนแรงที่สุดในช่วงกลางปีหน้า
ด้วยปัจจัย3ประการ
ประการแรก กลางปีหน้า ปฏิทินการเมืองจะเข้าสู่ช่วงการร่างรัฐธรรมนูญ
ความขัดแย้งทางการเมืองจะปะทุขึ้นเพราะต้องมีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในรัฐธรรมนูญ
ซึ่งหากกระแสความไม่พอใจสูง"มวลชน"อาจออกมาประท้วง
ประการที่สอง สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยหากยังไม่ฟื้นตัว ความไม่พอใจเรื่องปากท้องจะรุนแรงมาก
นักธุรกิจส่วนใหญ่หวังกันว่ากลางปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว
หมายความว่าช่วงครึ่งปีแรกนั้นหมดหวังอย่างดีก็เท่ากับหรือแย่ลงกว่าเดิม
ประการที่สาม เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น
ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่จัดการอย่างจริงจัง ปล่อยให้ "ข่าวลือ" ที่นายอานันท์ได้ยินมากลายเป็นความจริงและลุกลามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
กระแสความไม่พอใจ3สายจะมาบรรจบกัน
และเวลาที่ไม่พอใจ ไม่มีใครแยกแยะว่าเป็นเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ หรือคอร์รัปชั่น
ทุกคนคิดอย่างเดียว คือ ต้องเปลี่ยนแปลง
อย่าลืมว่าคนไทยนั้นขี้ลืม
บางทีพล.อ.ประยุทธ์อาจจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร เคยเจอมาก่อน
วันนี้ไม่มีใครจำได้ว่า "ทักษิณ" ทำให้เศรษฐกิจไทยรอดพ้นจากหายนะเมื่อปี 2540
ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟที่ใครๆ บอกว่าจะต้องใช้หนี้กันถึงชาติหน้าจบสิ้นภายในเวลาไม่กี่ปี
เหมือนกับวันนี้ที่คนไทยเริ่มลืมไปแล้วว่าคสช.นั้นช่วยทำให้การประท้วงระดับคนไทยจะรบกันสงบลงได้
ทุกคนคิดถึงวันนี้และพรุ่งนี้เท่านั้น
จับตากลางปีหน้าให้ดี