Thanapol Eawsakul ·
4 hours ago
·
ทำไม ภาพหลุดเบน สมิธ กันชนชั้นนำไทย
อนุทิน ชาญวีรกูล
สารัชถ์ รัตนาวะดี
อภิรัชต์ คงสมพงษ์
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
อุปกิต ปาจรียางกูร ฯลฯ
จึงหลุดครั้งแรกผ่านสื่อเครือผู้จัดการของสนธิ ลิ้มทองกุล
......
(1)
พลันที่ ชนะ ผาสกสกุล มือทำงานและคนวงในของสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อเครือผู้จัดการเปิดเผย
ภาพหลุด !!! สะเทือนรัฐบาล ???? “อนุทิน–เอกนิติ” โผล่ร่วมเฟรม ‘เบน สมิธ’
https://www.facebook.com/chana2u/posts/pfbid02AzAL1xKqEeGuiTXVUZFcSa4eAiW2D7fnNoX4L39hvsYxrC75YX8K1NXrdxW7iFXGl
คนข่าวอย่างหนุ่มเมืองจันท์ อ่านออกเลยว่า
"ภาพทั้งหมดน่าจะเก่าสมควร แต่ไม่ว่าจะ ”เก่า“ แค่ไหน
ในทางการเมือง นี่คือ ”ระเบิด“ เอาคืน แบบไม่ยอมตายคนเดียว"
https://www.facebook.com/boycitychanFC/posts/pfbid0V3pDJ8ktgHcjvTeGFQto3XafZxtjpBvSppfkTWWNpJNCtqaany53xRWSEXGpEajml
(2)
สำหรับผมแล้ว คำถามที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือทำไมต้องปล่อยผ่าน สื่อเครือผู้จัดการของสนธิ ลิ้มทองกุล
เพราะก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 2 พย 2568 รายการสนธิเล่าเรื่อง
สนธิ ลิ้มทองกุลคนเดียวกันนี้แหละที่อกมาปกป้องเยน สมิท และซัดรังสิมันต์ โรม
บทเรียนราคาแพงของ สส.รังสิมันต์ โรม
กรณีมั่วข้อมูล "เบน สมิธ" จากงานรับใช้ CIA?
โดยมีตอนหนึ่งว่า
....
ผมได้ให้คนของผมไปตรวจสอบกับกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และผลการตรวจสอบพบว่า
1. คนที่ขึ้นเวทีชักชวนประชาชน ไม่ใช่ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์
2. จากการตรวจสอบฐานข้อมูล ตม. พบว่าคนที่เดินทางเข้าประเทศด้วยเที่ยวบิน MU5035 ในวันดังกล่าว คือ นายลอว์เรนซ์ อีวาน เฟลด์แมน อายุ 36 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นนักแสดงอิสระ และภายหลัง ทอม ไรต์ ยอมรับว่าผิดจริง และอ้างว่า ลอว์เรนซ์ ถูกจ้างมาปลอมตัวเป็นเบน สมิธ แต่นั่นไม่ใช่ข้อเท็จจริงตามหลักฐาน ตม.
3. ตำรวจเปรียบเทียบภาพถ่ายและเอกสารการเดินทาง ยืนยันว่าคนที่แสดงตัวเป็น "เบนจามิน เบอร์เกอร์" ที่โรงแรมฮิลตันนั้น ชื่อจริงคือ นายลอว์เรนซ์ อีวาน เฟลด์แมน
4. พนักงานสอบสวนจึงออกหมายจับ นายลอว์เรนซ์ อีวาน เฟลด์แมน ตามที่ปรากฏข่าว ส่วน นายเบน สมิธ ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลยแม้แต่นิดเดียว
.
ด้วยความเสียหายอย่างหนัก นายเบน สมิธ จึงเดินสายฟ้องร้องทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง คุณรังสิมันต์ โรม ทั้งคดีอาญาหมิ่นประมาทและคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ซึ่งผมเชื่อว่าจากหลักฐานเชิงประจักษ์ทั้งหมด รังสิมันต์ โรม แพ้คดีอย่างแน่นอนที่สุด
2 พย 2568 รายการสนธิเล่าเรื่อง
https://www.facebook.com/photo/?fbid=2310367362766370&set=a.110174852785643
(3)
อาการกลับหลังหัน 180 องศาของสนธิ ลิ้มทอกงุล
บอกอะไรกับเรา
ก. สนธิ เพิ่งตาสว่าง เนื่องจากเพิ่งเห็นข้อมูลใหม่
ข.. สนธิ ด่าเบน สมิธ แก้เกี้ยวภายหลังจาก ปปง ยึดทรัพย์เบน สมิธ และเครือข่ายสแกมเมอร์
ค. สนธิ กลัวตกขบวน เพราะเห็นว่ารัฐบาลอนุทิน ไปไม่รอดแล้ว
ง ถูกทุกข้อ
https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/25549111664728998
.....
Jua Rattanapan
16 hours ago
·
สนธิ ลิ้มทองกุล คงต้องกลายเป็นสื่อเสียหมาตอนแก่ในคราวนี้
รายการสนธิเล่าเรื่อง
ต้องนำดอกไม้ธูปเทียนไปกราบขอโทษ สส. รังสิมันต์โรม กับ สส. วิโรจน์ ลักคณาอดิสัย พรรคประชาชน เรื่องกล่าวว่าพวกเขากล่าวเท็จ กรณีเงินเทาในไทยของ เบน สมิท ฝรั่งชาวเขมร
…………………………………………………………..
1
เมื่อวันนที่ 2 พย 2568 รายการสนธิเล่าเรื่อง
หัวข้อสนทนานั่งเทียนเล่าจากคุณสนธิ
บทเรียนราคาแพงของ สส.รังสิมันต์ โรม
กรณีมั่วข้อมูล "เบน สมิธ" จากงานรับใช้ CIA?
.
วันก่อนผมพูดถึงบทบาทของ คุณรังสิมันต์ โรม สส. พรรคประชาชน ที่ชอบกล่าวหาคนอื่น โดยเฉพาะกรณีสแกมเมอร์ที่กลายเป็นประเด็นร้อน มีการกล่าวหาว่ามีนักการเมืองไทย 7 คนเกี่ยวข้อง แต่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อ แต่ชื่อที่ถูกโจมตีมาตลอดคือฝรั่งที่ชื่อเล่นว่า "เบน สมิธ"
.
นายเบน สมิธ หรือชื่อเต็มๆ ว่า เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ถูกโยงเข้ากับบริษัท เทียน เทียน เวนเจอร์ ที่เคยถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งหลายคนสงสัยว่าเบน สมิธ คือสแกมเมอร์รุ่นดั้งเดิม แต่สิ่งที่ รังสิมันต์ โรม นำมากล่าวหา มาจากข้อมูลของอดีตนักข่าว ทอม ไรต์
.
ทอม ไรต์ คือนักข่าวที่เคยเปิดโปงการคดโกงเงินกองทุน 1MDB ของมาเลเซียในสมัยนายกฯ นาจิบ ราซัค ที่มีนาย เจ โล เอาเงินไปฟอก ซื้อเรือยอชต์ เครื่องบินส่วนตัว และไปทำหนังฮอลลีวูด (นำแสดงโดย ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ) จนกระทั่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ออกหมายจับนายเจ โล ซึ่งตอนนี้หนีไปกบดานที่จีน
.
มีข้อสังเกตว่า นายทอม ไรต์ ทำคดี 1MDB สำเร็จได้อย่างไร? คำตอบคือ ข้อมูลส่วนหนึ่งมาจาก FBI, CIA และ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ส่งให้เขาทำ! หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง นายทอม ไรต์ คือเครื่องมือของหน่วยงานความมั่นคงอเมริกา เพื่อสร้างปัญหาโค่นล้ม นาจิบ ราซัค ที่มีความสนิทสนมกับจีนอย่างเกินเหตุ ทั้งเรื่องรถไฟความเร็วสูงและการกล่าวว่า "จีนคือมิตรแท้"
.
เมื่ออเมริกามีนโยบายปราบปรามสแกมเมอร์ ทอม ไรต์ จึงพุ่งเป้าไปที่ เบน สมิธ ซึ่งผมอนุมานว่าคือการทำงานรับใช้ CIA เพื่อสร้างตัวอย่าง แต่เผอิญยังหาความผิดชัดๆ ของเบน สมิธ ไม่ได้ เพราะเมื่อเช็กหมายจับทั้งในไทยและต่างประเทศแล้ว นายเบน สมิธ ไม่ได้ถูกหมายจับเลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงแค่การทำผิดกติกาตลาดหลักทรัพย์ที่นิวซีแลนด์ที่ถูกปรับไป 2 หมื่นดอลลาร์นิวซีแลนด์
.
รังสิมันต์ โรม จึงอ้างข้อเขียนของ ทอม ไรต์ ที่โยงเบน สมิธ เข้ากับคดี เทียน เทียน เวนเจอร์ โดยการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เรื่องฉ้อโกงประชาชน ซึ่งมีคนระบุว่า CEO ที่ขึ้นเวทีชักชวนนักลงทุนที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2562 คือ เบน สมิธ นี่คือจุดที่ สส. พรรคประชาชน มั่วข้อมูล เพราะไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง!
.
ผมได้ให้คนของผมไปตรวจสอบกับกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และผลการตรวจสอบพบว่า
1. คนที่ขึ้นเวทีชักชวนประชาชน ไม่ใช่ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์
2. จากการตรวจสอบฐานข้อมูล ตม. พบว่าคนที่เดินทางเข้าประเทศด้วยเที่ยวบิน MU5035 ในวันดังกล่าว คือ นายลอว์เรนซ์ อีวาน เฟลด์แมน อายุ 36 ปี ซึ่งมีอาชีพเป็นนักแสดงอิสระ และภายหลัง ทอม ไรต์ ยอมรับว่าผิดจริง และอ้างว่า ลอว์เรนซ์ ถูกจ้างมาปลอมตัวเป็นเบน สมิธ แต่นั่นไม่ใช่ข้อเท็จจริงตามหลักฐาน ตม.
3. ตำรวจเปรียบเทียบภาพถ่ายและเอกสารการเดินทาง ยืนยันว่าคนที่แสดงตัวเป็น "เบนจามิน เบอร์เกอร์" ที่โรงแรมฮิลตันนั้น ชื่อจริงคือ นายลอว์เรนซ์ อีวาน เฟลด์แมน
4. พนักงานสอบสวนจึงออกหมายจับ นายลอว์เรนซ์ อีวาน เฟลด์แมน ตามที่ปรากฏข่าว ส่วน นายเบน สมิธ ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลยแม้แต่นิดเดียว
.
ด้วยความเสียหายอย่างหนัก นายเบน สมิธ จึงเดินสายฟ้องร้องทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง คุณรังสิมันต์ โรม ทั้งคดีอาญาหมิ่นประมาทและคดีแพ่งเรียกร้องค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ซึ่งผมเชื่อว่าจากหลักฐานเชิงประจักษ์ทั้งหมด รังสิมันต์ โรม แพ้คดีอย่างแน่นอนที่สุด
.
อาการ "ของขึ้น" ของคุณรังสิมันต์ โรม ที่ออกมาโวยวายกล่าวหาว่ามีนักการเมืองไทยอีก 7 คน ที่พัวพันสแกมเมอร์ โดยไม่ยอมเปิดเผยชื่อ เป็นการ "ด่ากราด" และ "ตีเหมารวม" ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบการเมืองไทย โดยเฉพาะ สส. ที่ "หิวแสง" และ "รับงาน" มาโจมตีใครเป็นพิเศษ
.
ผมขอสอนมวยคุณรังสิมันต์ โรม ว่า"ถ้าคุณมีชื่อ 7 คน ให้เปิดมาสิ อย่าใช้ตีเหมารวม ทำทุกอย่างให้คลุมเครือ โดยที่คุณไม่ยอมพูดชื่อออกมา กรุณาธำรงศักดิ์ศรีของความเป็น สส. พรรคประชาชนหน่อย อย่าทำให้เป็นกุ๊ยข้างถนน นึกจะด่าใครก็ยกมือแล้วชี้หน้าด่าเขา โดยไม่เอ่ยชื่อ ทำให้เขาเสียหายไปหมด"
.
การทำงานของ สส. ต้องทำด้วยความระมัดระวัง มีหลักฐานเหมือนที่ผมทำมาตลอด 50 ปี ในอาชีพสื่อตั้งแต่อายุ 28 จนวันน้ 78 ปีแล้ว ผมทำด้วยความระมัดระวัง มีหลักฐาน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับ เบน สมิธ และการฟ้องร้องที่ตามมา คือ "บทเรียนราคาแพง" ที่รังสิมันต์ โรม จะทำอะไรให้คิดหน้า-คิดหลัง นิดหนึ่ง อย่าสักแต่ว่ามีปาก ก็พูดออกมาเพื่อให้แสงเข้าตัวเอง
2
คุณสนธิ ลิ้มทองกุลครับ
ขอรายงานผลการทำงานผลการปฏิบัติงานของทางการไทย ที่ยึดทรัพย์และเงินสีเทา พวกสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ดังนี้
ด่วน! ปปง.ยึด-อายัดทรัพย์ ‘เฉิน จื้อ‘ - ’ก๊ก อาน‘ และเครือข่าย ’เบน สมิธ‘ กว่
วันที่ 2 ธ.ค.68
คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. มีมติยึดและอายัดทรัพย์ "เฉิน จื้อ" - "ก๊ก อาน" และ เครือข่าย "เบน สมิธ " รวมกว่าหมื่นล้านบาท
คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 13/2568 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเครือข่ายผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในขบวนการสแกมเมอร์ (Scammer) ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในคดีสำคัญ 4 รายคดี ยึดและอายัดทรัพย์สินรวม 289 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 10,165 ล้านบาท ดังนี้
1. รายคดี นายเฉิน จื้อ (Chen Zhi) กับพวก สำนักงาน ปปง. ได้ตรวจสอบพบข้อมูล
เครือข่ายการฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล โดยมีฐานใหญ่อยู่ในกัมพูชา เชื่อมโยง นายเฉิน จื้อ กับพวก เป็นผู้ก่อตั้งและประธานกลุ่มบริษัท Prince Holding Group (Prince Group) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจข้ามชาติในประเทศกัมพูชา กลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมในแต่ละคดี มีความเกี่ยวข้องกันและใช้วิธีการฟอกเงินที่ได้จากการกระทำความผิดโดยเปลี่ยนสภาพระหว่างเงินตราในแต่ละประเทศกับสินทรัพย์ดิจิทัล และตรวจสอบพบบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ในคดีนี้ และมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงกันไปสู่บุคคลที่อยู่ในเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเป็นขบวนการหลอกลวงในลักษณะ ไฮบริดแสกม ใช้การหลอกลวงในหลายรูปแบบ หลายขั้นตอน เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินผ่านบัญชี
เงินฝากธนาคาร ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 102 รายการ (เช่น ที่ดิน เงินสด สินค้าแบรนด์เนม และเครื่องประดับ) รวมมูลค่าประมาณ 373 ล้านบาท
2. รายคดี นายก๊ก อาน (MR.KOK AN) กับพวก สืบเนื่องจากกรณีการจับกุมผู้กระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน ราย น.ส.ปาริฉัตต์ แซ่เอี๊ยว กับพวก กรณี น.ส.ชาล็อต ออสติน (ผู้เสียหาย) ได้ถูกคนร้ายหลอกลวงได้รับความเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลพบความเชื่อมโยงกลุ่มผู้กระทำความผิดในลักษณะขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเครือข่ายใหญ่ ซึ่งมีศูนย์ปฏิบัติการในราชอาณาจักรกัมพูชา เช่น อาคาร 25 ชั้น อาคาร18 ชั้น อาคาร Hiso และอาคาร Crown Casino มีขบวนการให้เจ้าของบัญชีม้าสแกนใบหน้าเพื่อ
ยืนยันการท าธุรกรรม โดยมีนายก๊ก อาน สัญชาติกัมพูชา เป็นเจ้าของสถานที่
พบข้อมูลเครือข่ายการฉ้อโกงประชาชนที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีการรับโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร และน าเงินที่ได้จากการกระทำความผิดมาซื้อทรัพย์สิน ใช้ผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินจ านวนมากในประเทศไทย ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 90 รายการ (เช่น ที่ดิน และ
เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 467 ล้านบาท
3. รายคดี นางสาวแตงไทย บ้านมะหิงษ์ กับพวก ได้หลอกลวงผู้เสียหายว่าพบข้อมูล
การส่งสินค้าซึ่งมีสิ่งของผิดกฎหมายจากจังหวัดเชียงรายไปที่ประเทศจีน และผู้เสียหายมียอดเงินในบัญชีธนาคารซึ่งเกี่ยวพันกับการฟอกเงินผิดกฎหมายต้องถูกตรวจสอบบัญชีธนาคาร จากการสืบสวนเส้นทางการเงิน พบข้อมูลว่า นางสาวแตงไทยฯ ได้รับมอบอำนาจให้ทำธุรกรรมเกี่ยวกับบัญชีธนาคารของ นายยิม เลียก หรือ MR. LEAK YIM ซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดทายาทเครือข่ายผู้มีอิทธิพลในกัมพูชา เป็นเครือข่ายสแกมเมอร์ ที่หลอกลวงผู้เสียหายเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดมูลฐาน พบข้อมูลการทำธุรกรรมนางสาวแตงไทยฯ เชื่อมโยงไปยังบุคคลและนิติบุคลจำนวนมาก รวมทั้งมีข้อมูลการโอนเงินไปยัง นายเบน สมิธ หรือ MR. SMITH BEN ซึ่งมี
พฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน มีการโอนเงินไปมาระหว่างบริษัทต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เสมือนว่ามีการดำเนินธุรกิจ และใช้บริษัทในการถือครองทรัพย์สินแทนตนเอง และบุคคลใกล้ชิด ซึ่งเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินและการถือครองทรัพย์สินในลักษณะที่มีความซับซ้อนสูง
ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 66 รายการ (เช่น ที่ดิน ห้องชุด หลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขาย
หลักทรัพย์ และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 9,279 ล้านบาท
4. รายคดี นายเอื้ออังกูร สันติรักษ์โยธิน กับพวก กรณี กลุ่มมิจฉาชีพชักชวนให้ประชาชนลงทุนเทรดหุ้น ผ่านกลุ่มไลน์ชื่อ กลยุทธ์การลงทุน ซึ่งเป็นกลุ่มที่สอนการลงทุน ให้ข้อมูลผลกำไร เป็นลักษณะการจูงใจเพื่อให้ร่วมลงทุนจนหลงเชื่อจึงตัดสินใจเข้าลงทุนด้วยผ่านแอปพลิเคชัน ULELA Max จากการสืบสวนขยายผล จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีการนำเงินที่ได้จากการหลอกลงทุนมีการนำไปเปลี่ยนแปลงเป็นเหรียญสกุลเงินดิจิทัล (USDT) จากนั้นได้มีการโอนเหรียญไปยังกระเป๋าดิจิทัล เชื่อโยงไปยังเครือข่ายของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ กลุ่มบริษัท
สัญชาติกัมพูชา คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 31 รายการ (เงินสด และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 46 ล้านบาท
3
คุณสนธิ ลิ้ททองกุลครับ
ตามที่คุณสบประมาท สส. พรรคประขาชนคุณควรนำดอกไม้ธูปเทียน ไปกราบตีน และขอโทษ พวก สส. รังสิมันต์ โรมและวิโรจน์ ลักคณาอดิสัย ในพรรคประชาชน ที่เขาพวกเขาทำงานเปิดโปงพวกธุรกิจเงินสีเทา แก็งสะแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์ จนนำเงินกลับมาให้ประเทศไทยและประชาชนไทยเป็นหมื่นล้านด้วยความยากลำบากและเสี่ยงภัย
เมื่อความจริงปรากฎแล้ว คุณต้องไปกราบตีนพวกเขาด้วยที่มีความสาทารถหาเงินเข้าประเทศเป็นหมื่นล้านใช้เวลาไม่ถึว 4 เดือน ก่อนยุบสภา
ถ้าไม่ทำคุณจะกลายเป็นคนทำสื่อเสียหมาตอนแก่นะครับ
ยิ่งแก่ ยิ่งไม่เข้ายา
ขุนจัน พันนา
https://www.facebook.com/photo/?fbid=2310367362766370&set=a.110174852785643
