
Atukkit Sawangsuk
16 hours ago
·
เจตนาของม็อบคือสร้างทางตัน
ให้นิติสงครามแขวนแล้วสอยแพทองธาร ถึงตอนนั้นยุบก็ไม่ได้ มันจะเรียกร้องอำนาจพิเศษรัฐบาลพิเศษ
อำนาจต่อรองของทักษิณมีแค่ “ดีล“
ซึ่งไม่มีหลักประกันว่าจะคุ้มครองได้ตลอด
Yingcheep Atchanont
16 hours ago
·
เมื่อประชาชนไม่พอใจการปฏิบัติงานของนายกรัฐมนตรี จึงชุมนุมเรียกร้องให้ "ลาออก" จากตำแหน่ง เป็นสิ่งที่ทำได้ และชอบธรรมตามระบอบที่มีอยู่ แต่การชุมนุมเมื่อวานภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 เพียงการเรียกร้องให้ลาออกเฉยๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องชอบธรรม แต่เป็นเจตนาสร้าง "ทางตัน"
รัฐธรรมนูญ 2560 แปลกประหลาดอย่างจงใจโดยการเขียนว่า นายกฯต้องมาจากบัญชีสามรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอไว้ก่อนเลือกตั้ง หลักการนี้ไม่มีมาก่อน ดังนั้น การเรียกร้องในปี 2568 จึงต่างจาก 2549 / 2557 สมัยปี 2549 การเรียกร้องให้ทักษิณลาออก ถ้าเขาลาออกตามม็อบจริง ก็สามารถส่งรองนายกฯ ของตัวเองขึ้นมาเป็นต่อ แล้วให้พรรคไทยรักไทยของตัวเองเป็นรัฐบาลครองเสียงข้างมากต่อไปได้ ตอนนั้นก็เล็งกันว่า อาจจะเป็นสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือเจ๊หน่อย สุดารัตน์ หรืออาจเป็นจาตุรนต์ ก็ได้
แต่ในปี 2568 จะหยิบใครสักคนในพรรคเพื่อไทย หรือนอกพรรค มาเลยไม่ได้ เช่น ถ้าฝันว่า งั้นให้เพื่อไทยเสนอเอาชัชชาติซึ่งคะแนนนิยมดีมาเป็นนายกฯเลย แบบนี้ไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในบัญชีที่เสนอไว้
บัญชีของพรรคเพื่อไทยเหลือคนเดียว คือ ชัยเกษม แม้ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า สุขภาพไม่ค่อยดี แต่ก็เสนอได้ ซึ่งหากขึ้นเป็นนายกแล้วสุขภาพไม่ดี ไม่มีสง่าราศี ออกมาพูดแต่ละครั้งดูไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวก็จะถูกไล่อยู่ดี
ลำพังระบบบัญชีสามรายชื่ออาจไม่ใช่ปัญหาใหม่ แต่ปัญหาประกอบกันก็คือ มีกลไกอีกมากมายที่จะสอยคนในบัญชีนี้ เริ่มจากพิธา และพรรคก้าวไกลโดนสอยไปเรียบร้อย เศรษฐาโดนสอยไปเรียบร้อย แล้วแพทองธาร กับชัยเกษมก็คงจะอยู่ภายใต้ขวากหนามเหล่านี้ได้ไม่นานนัก แต่อีกฝั่งไม่ว่าจะเป็นอนุทิน ประยุทธ์ พีระพันธ์ กลับนอนลอยตัวรอเวลานี้อย่างสบาย ยังไงก็ไม่ถูกสอย FYI เพิ่มเติมคือ จุรินทร์ ถึงจะเงียบไปนานแต่ยังมีสิทธิอยู่ ประวิตรแม้จะไม่มีสิทธิเพราะเหลือสส. ไม่ถึง 25 แต่ถ้าสส. ย้ายกลับไปจนมีเกินโคว้ต้าก็ยังมีสิทธิถูกเสนอได้
ดังนั้นการเรียกร้องให้แพทองธารลาออก จึงเป็นข้อเรียกร้องที่เห็นปลายทางบรรยากาศแบบแปลกๆ แล้ว
หากแพทองธารลาออกจริง เพื่อไทยต้องพยายามดันชัยเกษมขึ้นแน่ๆ แต่ตอนนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ต้องง้อทุก 10-20 เสียงแบบสุดๆ ก็จะเปิดโอกาสให้พรรครวมไทยสร้างชาติ และกลุ่มสุชาติ รวมถึงประชาธิปัตย์ ต่อรองอย่างหนักว่า ถ้าจะให้โหวตชัยเกษมจะต้องแลกกับเก้าอี้รัฐมนตรี หรือการนิรโทษกรรมกปปส. หรือแลกผลประโยชน์อะไรบ้าง หรือถ้าต่อรองแล้วไม่สำเร็จก็คือมีนายกฯ จากเพื่อไทยคนที่สามไม่ได้ ก็ค้างกันอยู่อย่างนั้น ไม่มีนายกฯ ไม่มีครม.
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็จะเปิดโอกาสให้อนุทินเข้ามานำทีมรวบรวมเสียง ซึ่งอาจใช้วิธีวัดใจพรรคส้มที่ตอนหลังอนุทินมีท่าทีหันกลับไปพูดดีด้วย ถ้าส้มแดงไม่โหวต อนุทินขึ้นไม่ได้ ประเทศก็ติดล็อกอยู่อย่างนั้น และเปิดโอกาสให้มี "ดีลลับ" หรือเจรจาให้พรรคใดพรรคหนึ่งหวนกลับไปใช้วาทกรรมเดิมว่า "เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้า" .... จึงจำเป็นต้องเอาแบบนี้โหวตๆ ไปก่อน (จะอ้วก)
หรือไม่แน่ถ้าโหวตไม่ได้เลย แพทองธารลาออกแล้วเลือกนายกใหม่ไม่ได้เลย เพราะไม่มีใครรวบรวมเสียงได้ ก็อย่าลืมว่าผู้มีบารมีโดยตรงอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังรอคอยทีท่าอยู่ อาจจะมีสักคนในรวมไทยสร้างชาติเปิดเกมนี้ขึ้นมา แล้วการต่อรองทางการเมืองก็จะเปลี่ยนเกม
ใช่แหละ ก็นี่แหละคือสิ่งที่ม็อบต้องการ
คือ ต้องการให้ฝ่ายที่ตัวเองเชียร์ ที่แพ้เลือกตั้งแบบหลุดลุ่ย กลับมามีอำนาจต่อรอง มีโอกาสเป็นนายกฯ ทั้งที่มีเสียงในสภาแค่นิดเดียว
ทีนี้ภายใต้รัฐธรรมนูญนี้ที่มีกลไกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่สว. ชุดที่แล้วเลือกมา กับมาตรฐานทางจริยธรรมที่กว้างขวางเป็นทะเล เดาได้ว่า แพทองธาร รอดยากอยู่แล้ว จากคลิปสนทนากับฮุนเซ็นมีประเด็นให้เล่นเรื่องการถอดถอนได้มากมาย มากกว่าตอนถอดเศรษฐาเสียอีก ดังนั้นจึงคาดหมายได้ว่า แพทองธารอยู่ในภาวะ "นับถอยหลัง" แล้ว ถ้าม็อบจุดติด คดีจะเดินหน้าอย่างเร็วก็ 3-4 เดือน ถ้าม็อบจุดไม่ติดก็ช้าหน่อยอาจจะถึง 6-8 เดือน ซึ่งตอนนี้คุณพ่อก็คงพยายามไล่ดีลอยู่ที่จะช่วยลูกสาว แต่ไม่รู้ทันไหม
ในเมื่อผลลัพธ์ที่จะให้นายกฯ คนนี้ออกจากตำแหน่ง มันมีกลไกอื่นๆ ที่อยู่ในมืออยู่แล้ว สมชาย แสวงการก็เลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาเองกับมือหลายคน อุดม รัฐอมฤต ตุลาการตอนนี้ก็เพื่อนซี้ ไปเรียนหลักสูตรนปธ. มาด้วยกัน เป็นที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์ให้กันอยู่แล้ว สมชายจะไปลงถนนเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกทำไม
ถ้าจะขอแสดงออกซึ่งความอึดอัดสักหน่อย อยากจะม็อบอยากจะไปตะโกนสักครั้งนึง หรือขอมาอีกสักครั้ง มาแล้วกลับ มาเพื่อสะใจ ก็ทำไป อยากทำก็ทำไป แต่ถ้าเมื่อไรการชุมนุมประกาศจะปักหลัก ยืดเยื้อ ไม่ชนะไม่เลิก เมื่อนั้นก็คือการชุมนุมกำลังเล่นเกมเดิมวนเข้าลูปเดิม คือ ตั้งใจสร้างให้เกิด "ทางตัน" ทางการเมือง ไม่ใช่หาทางออกให้กับประเทศ แบบนี้เรียกเป็นแค่คน "เอาแต่ใจ" จะเอาเฉพาะแบบที่ตัวเองต้องการ
ดังนั้น ภายใต้กลไกของรัฐธรรมนูญ 2560 ภายใต้สถานการณ์ที่เสียงในสภาเป็นแบบนี้ การเรียกร้องให้นายก "ลาออก" และไม่เรียกร้องให้ยุบสภาเพราะ "กลัวแพ้" หรือ "กลัวส้มมา" จึงเป็นข้อเรียกร้องที่แปลกมาก และควรหลีกเลี่ยง
https://www.facebook.com/baitongpost/posts/23956964943958676