
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
12 hours ago
·
“ผมที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังต้องต่อสู้ในเส้นทางนี้ต่อไป” จดหมาย ‘บัสบาส” จากเรือนจำ ในคืนวันก่อนฟังคำพิพากษาฎีกา
.
.
อาทิตย์ต้นเดือนธันวาคม 2568 ทนายความเข้าเยี่ยม “บัสบาส” มงคล ถิระโคตร ผู้ต้องขังคดีมาตรา 112 ที่เรือนจำกลางเชียงราย ก่อนหน้ากำหนดนัดฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2568 ที่ผ่านมา
.
การเข้าเยี่ยมครั้งนี้ เพื่ออัปเดตนัดฟังคำพิพากษาฎีกาที่จะมาถึง ซึ่งบัสบาสยังไม่ทราบนัดมาก่อน เขาฝากให้แจ้งครอบครัวของเขา เพื่อจะได้เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษาด้วย และเขาหวังว่าตัวเองจะถูกนำตัวไปที่ศาล ไม่ใช่การอ่านคำพิพากษาผ่านวิดีโอคอนเฟนเรนซ์เหมือนในคดีก่อนหน้านี้ ซึ่งต่อมา เขาได้ถูกเบิกตัวไปฟังคำพิพากษาที่ศาล
.
เขาบอกว่าเหมือนกับพอรู้ล่วงหน้าว่าผลลัพธ์ไม่น่าจะต่างจากเดิม แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาก็ยังพยายามมีความหวังอยู่เสมอ
.
.
ปัญหาเรื่องการบดยา และความแออัดของเรือนจำ.
บัสบาสบอกว่าช่วงนี้ เขาพยายามทำใจกับความเศร้า เรื่องการเสียชีวิตของเพื่อนสนิท โดยเขาไม่ได้มีโอกาสออกไปพบเจอก่อนต้องจากกันไกล และทำให้เขากังวลต่อเรื่องสุขภาพของคนในครอบครัว ส่วนสุขภาพตอนนี้ก็โอเคแล้ว หลังฟื้นฟูมาจากช่วงอดอาหารประท้วง
.
บัสบาสยังเล่าถึงการรับยาซึมเศร้าของเขาในเรือนจำ ว่าไม่รู้เพราะอะไร ในช่วงหลังทางเรือนจำได้บดยาให้ละเอียดมากกว่าปกติ ทำให้อาจจะไม่สามารถกินยาได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย กินได้ปริมาณไม่ครบอย่างที่ควรจะเป็น เขาเข้าใจว่าทางเรือนจำกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ยา การให้ยาเป็นเม็ดอาจจะทำให้ผู้ต้องขังนำยาไปเก็บไว้เพื่อใช้ไปในทางผิดวัตถุประสงค์ แต่การแก้ไขปัญหาแบบนี้ ก็ทำให้ผู้ต้องขังที่ป่วยไม่สามารถรับยาในปริมาณที่ครบถ้วนได้ อาจส่งผลต่อการรักษาโรคของผู้ขังได้
.
บัสบาสยังบอกถึงสถานกาณณ์ในเรือนจำ ว่าตอนนี้ค่อนข้าง “แออัดมาก” เนื่องจากมีผู้ต้องขังที่เข้ามาใหม่ใน แดน 1 จำนวนมาก และเข้ามาแทบทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละหลายคน ทำให้การกินการอยู่ยากลำบากขึ้น โดยปกติเรือนนอนห้องหนึ่งมีผู้ต้องขังอยู่ได้ประมาณ 25 คน ซึ่งที่หน้าห้องก็ติดป้ายไว้อย่างชัดเจนว่าอยู่ได้ 25 คน แต่ก่อนหน้านี้ นอนกันห้องละประมาณ 30-35 คน ก่อนในช่วงนี้ เขาพบว่าผู้ต้องขังเพิ่มขึ้นเป็นห้องละประมาณ 40 คนแล้ว
.
บัสบาสเล่าว่าความแออัด ทำให้แต่ละคนต้องนอนตะแคง ไม่สามารถนอนเหยียดตรงได้ แม้ทางเรือนจำจะระบายผู้ต้องขังออกไปจากแดน 1 บ้าง แต่ไม่กี่วันก็มีผู้ต้องขังใหม่เข้ามาเติมอีก ทำให้ไม่สามารถลดจำนวนผู้ต้องขังในแต่ละห้องได้เลย และคิดว่าอาจจะแออัดขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
.
ในส่วนอากาศในภาคเหนือที่หนาวเย็น บัสบาสบอกว่าทางเรือนจำได้มีการแจกผ้าห่มเพิ่มให้คนละ 1 ผืน รวมทั้งมีการแจกเสื้อกันหนาวบางส่วน แต่มีจำนวนน้อยกว่าผู้ต้องขังที่มี ทำให้มีแต่บางแดนที่ได้รับ แต่แดน 1 ทั้งหมดไม่ได้รับแจก รวมทั้งตัวเขา
.
บัสบาสทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อยากให้เพื่อน ๆ ส่งกำลังใจให้กัน และสามารถเขียนจดหมายมาถึงเขาได้ เขาอยากอ่านจดหมายจากโลกภายนอก
.
.
จดหมายจากเรือนจำ: ผมที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังต้องต่อสู้ในเส้นทางนี้ต่อไป.
ในช่วงก่อนวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ทนายความยังได้รับจดหมายที่ส่งออกมาจากเรือนจำของบัสบาส โดยจดหมายไม่ได้ลงวันที่ แต่คาดว่าเขียนในกลางเดือนพฤศจิกายน 2568
.
————————————
.
สวัสดีครับ จดหมายนี้กว่าจะเขียนได้ ผมต้องทำใจอยู่พักใหญ่ ผมได้รับข่าวร้ายจากคุณพ่อที่แกเข้ามาตีเยี่ยมที่เรือนจำได้บอกกับผมว่า เพื่อนสนิทเพื่อนรักที่เหลืออยู่คนเดียวได้ตายไปเสียแล้ว ที่เคยคิดอะไรด้วยกันฝันอะไรด้วยกัน ตอนนี้มันจบทุกอย่างแล้ว ไร้การบอกลาไร้การเห็นหน้า แต่ความรู้สึกของผมทุกวันนี้เหมือนเขาไม่ได้จากไปไหน และเพื่อนผมคนนี้มีชื่อเล่นว่า “อั๋น”
.
ก่อนเข้าเรือนจำผมก็เตรียมตัวเตรียมใจต่าง ๆ ไว้แล้ว แต่เรื่องคนใกล้ตัวเสียชีวิต ผมไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ในนามของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มันไม่หอมหวาน สู้จริง เจ็บจริง เส้นทางนี้ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงต่อเรื่องเปราะบางและเรื่องหนัก ๆ ผมอยากให้เปิดเพลงบิน – วงพรู นั่นคืออารมณ์ของผมตอนนี้ ในส่วนตัวผมที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังต้องต่อสู้ในเส้นทางนี้ต่อไป
.
“มองข้างหน้าอย่างมีความหวัง มองข้างหลังอย่างมีบทเรียน” ในตัวผมตอนนี้ได้ใส่โซ่ตรวน แต่ใกล้ได้ถอดแล้ว จากเหตุการณ์อะไรทางเพจศูนย์ทนายคงได้ลงข่าวไปแล้ว ลองไปอ่านดูกันนะครับ
.
ส่วนจดหมาย นาน ๆ ที ผมจะส่งทีนึง เนื่องจากอารมณ์ “ติ๊ส” ของผมเอง ผมยังเข้มแข็ง ไร้การเจ็บป่วย ตอนนี้ที่เชียงรายอากาศหนาวแล้ว ก็มีการแจกผ้าห่มเพิ่มคนละผืนสำหรับแดน 1 ทุกคนก็รักษาร่างกายกันด้วยนะครับ
.
หลังจากนี้ ผมจะพยายามเขียนจดหมายอัพเดตชีวิตผม คนข้างในยังสู้อยู่ คนข้างนอกก็อย่าหยุดสู้นะครับ สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนดูแลคนที่รักให้เต็มที่ทุก ๆ วัน จะได้ไม่เสียใจทีหลัง
.
(ตัวหนังสือใหญ่) ก่อนวันสุดท้ายของชีวิต มักเป็นวันธรรมดาเสมอ ไม่ว่าท้องฟ้าจะเป็นสีอะไร ประชาชนย่อมเป็นใหญ่เสมอ
.
——————————–
.
วันที่ 11 ธ.ค. 2568 ศาลฎีกามีคำพิพากษาแก้โทษในคดีของบัสบาส จากจำคุก 50 ปี เป็นจำคุก 46 ปี โดยยังนับได้ว่าเป็นโทษจำคุกในคดีมาตรา 112 ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะนี้ บัสบาสถูกคุมขังมาเป็นเวลาเกือบ 1 ปี 11 เดือนแล้ว
.
.
อ่านเนื้อหาและดูภาพจดหมายของบัสบาสบนเว็บไซต์ https://tlhr2014.com/archives/80593ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
สามารถเขียนจดหมายถึงบัสบาส ส่งแบบลงทะเบียน จ่าหน้าซอง: “ฝากถึง มงคล ถิระโคตร แดน 1 เรือนจำกลางเชียงราย เลขที่ 222 หมู่ 3 ตำบลดอยฮาง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 57000”
หรือเขียนจดหมายออนไลน์ผ่านโครงการ Free Ratsadon โดยแอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่ลแนล https://freeratsadon.amnesty.or.th/
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1267143598589441&set=a.656922399611567