ปปช.ชี้มูลแล้ว คดีข้าราชการตำรวจร่วมกันแก้พยานหลักฐาน จนมีการกลับคำสั่งไม่ฟ้อง ‘บอส’ วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาท ‘กระทิงแดง’ ในข้อหาเมาสุราขับรถหรูชนดาบตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิต เมื่อ ๑๑ ปีที่แล้ว หนึ่งในนั้นเป็น รมว.ศึกษา ขณะนี้
สำหรับ นายธานี อ่อนละเอียด สว. อดีตเลขานุการ กมธ.กฎหมาย สภานิติบัญญัติแห่งชาติ “และ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน” นั้น
“ป.ป.ช.เห็นควรส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้ง หรือถอดถอนดำเนินการทางวินัยไปตามหน้าที่และอำนาจ เนื่องจากเรื่องที่มีการกล่าวหามิใช่เป็นความผิดร้ายแรง ตามมาตรา ๖๔ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ”
นี่คนทั่วไปบอกว่า นายกฯ เศรษฐาต้องจัดการถอดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการแล้วละ แต่ดูเหมือนว่าตำแหน่งในโควต้าพรรคภูมิใจไทยนี้ นายกฯ โย่งคงจะไม่กล้าแตะ จนกว่าทางพรรคนั้นจะมีมติออกมาว่าอย่างไร ในกรณีนี้ก็คือแค่เปลี่ยนตัว รมว.
ทว่า ฯว่าการศึกษาที่มาจากตำรวจทั่นนี้ถ้าอยู่ไปน่าจะทำให้ข้อราชการและผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องระบบการศึกษาในสังกัด ‘กระอักกระอ่วน’ กันมากพอสมควร เนื่องจากแผนงานการบริหารชิ้นแรก ที่ทั่นแสดงวิสัยทัศน์ออกมา ดูท่าจะ ‘ผิดฝาผิดไข้’ แล้วละ
ต่อกรณีการแก้ปัญหาหนี้พอกของครูผู้น้อย รัฐมนตรีให้ใช้วิธีการแบบตำรวจ “ไม่เบี้ยว ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่ตาย” ประเด็นสุดท้ายนั่นทั่น รมว.อธิบายว่า “ครูดีกว่า (ตำรวจ) ที่ไม่มีปืนใกล้ตัว เลยไม่ฆ่าตัวตาย” ขำไหมล่ะคุณครู
แต่ที่อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.ไม่ได้พูดถึงเพราะเดี๋ยวนี้ไม่เกี่ยวแล้ว ก็การที่ตำรวจตายด้วยปืน ของตำรวจที่นักเลงท้องถิ่นสั่งให้ลูกน้องใช้ยิงเก็บสารวัตรนักปราบส่วยรถบรรทุก ในคดีที่กำลังฮือฮาขณะนี้ ผลสอบออกมาแล้ว กำนันนครปฐมเป็นตัวการเอก
กลับมาที่ รมว.อดีตนายพลตำรวจซึ่งมีเอี่ยวทุจริตในหน้าที่ พยายามสวมหมวกกันน็อคตั้งแต่ต้น น้อมนำพระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้แก้หนี้ครู บอกว่า “ต้องช่วยกันลดค่าใช้จ่าย” สิ เช่นเวลาเดินทางไปสอนก็ให้รวมรถกันไปคันเดียว
ในทางสังคมให้แก้ค่านิยมเสียใหม่ เอาแค่พอมีพอใช้ เวลาไปงานไหน ก็ใส่ซองเพียง ๒๐ บาท แล้วถ้าไม่มีจริงๆ ให้ไปช่วยเจ้าภาพล้างจานแทน
(https://www.prachachat.net/politics/news-13932633cio6ox0ga)