วันอาทิตย์, กันยายน 17, 2566

ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนตัวผู้นำรัฐบาลจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกเศรษฐา ทวีสิน อ.ประจักษ์ ก้องกีรติ ว่า “เรายังเห็นเงาทะมึนของระบอบประยุทธ์อยู่เบื้องหลัง มรดกทางการเมืองของคณะรัฐประหารยังคงอยู่”



 

คลิปเต็ม

การเมืองชนชั้นนำ

Decode

Sep 16, 2023 

ภาคต่อของระบอบประยุทธ์ ฉากทัศน์ต่อไปทางการเมืองของชนชั้นนำภายหลังจากการสลายขั้วจัดตั้งรัฐบาล และคณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายของรัฐบาลที่ไม่เห็นเค้าลางทางนโยบายที่จะกระทุ้งขุมอำนาจของผู้มีอำนาจเดิม ที่ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนตัวผู้นำรัฐบาลจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกเศรษฐา ทวีสิน แต่อาจารย์ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์บอกว่า “เรายังเห็นเงาทะมึนของระบอบประยุทธ์อยู่เบื้องหลัง มรดกทางการเมืองของคณะรัฐประหารยังคงอยู่” 

นี่คือเกมของชนชั้นนำที่ทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดกั้นก้าวไกลจากการจัดตั้งรัฐบาลแม้จะต้องเปลือยเปล่าอย่างโจ่งแจ้ง “ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคของการตัดสิทธิ์ แขวนแคนดิเดตของพรรคก้าวไกล หรือกลไกของ สว.” ชนชั้นนำต้องยอมใช้วิธีเหล่านี้อย่างที่ประชาชนทั่วไปก็เห็นจากการโหวตนายกตั้งแต่รอบแรก

ส่งผลให้รัฐบาลที่ผ่านการอนุมัติ “ได้รับความเมตตา ปราณี เป็นรัฐบาลที่ปลอดภัยสำหรับชนชั้นนำ“ นำไปสู่การตั้งคำถามต่อนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่เคยหาเสียงไว้ กลับไม่สามารถประกาศแถลงต่อรัฐสภาได้อย่างตรงไปตรงมา อย่างนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหารและปฏิรูปกองทัพ ก็ต้องหลีกเลี่ยงใช้คำว่า “พัฒนากองทัพร่วมกัน” และอาจารย์ประจักษ์ชวนตั้งคำถามต่อว่า นี่จะเป็นสาเหตุที่จะกดเพดานนโยบายในการขับเคลื่อนของรัฐบาลคณะนี้หรือไม่ 

ยิ่งกว่านั้น อาจารย์ประจักษ์ชวนชี้ว่า “ประเทศไทยเสียโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตย” เพราะจากผลการเลือกตั้ง ถ้าหากพรรคเพื่อไทยจับมือพรรคก้าวไกลและ 8 พรรคร่วมเดิมไว้แน่น “นี่จะเป็นโอกาสในการผลักดันวาระที่ก้าวหน้าหลาย ๆ วาระได้” ถ้าทั้งสองพรรคจับมือกันแน่นกว่านี้ แม้อาจจะยากหน่อย แต่ก็ต้องอดทน เพราะอย่างไร พรรคฝ่ายรัฐบาลเดิมก็ไม่สามารถรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ในเมื่อเลือกทางเดินที่ติดลบเช่นนี้ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรในระยะยาว แต่ในแง่พัฒนาการทางการเมือง อาจารย์ประจักษ์กล่าวว่า “มันหยุดชะงักแน่ ๆ”