Sirote Klampaiboon (ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์)
10h
·
‘อนุทิน’ ปิดประตู ‘รัฐบาลเสียงข้างน้อย’ ไม่น่ารอด ตั้งมารอวันตายใครจะไปทำ ไม่ส่งคนภูมิใจไทยชิงประธานสภา เชื่อยุคนี้ปิดตำนานงูเห่า ยอมยุบพรรคดีกว่าหนุนพรรคแก้ ม.112 ท่องคาถา 3 ข้อ "อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้" แต่ไม่หวังส้มหล่น
25 มิ.ย.2566 - อนุทิน ชาญวีรกูล และ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ แถลงภายหลังประชุม ส.ส. ว่า พรรคมี 71 คน มี ส.ส.หน้าใหม่ 27 ยังไม่ได้หารือทิศทางโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งยังไม่ได้คุยแนวคิดให้ 50 ส.ส. ตรวจสอบคุณสมบัติ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ส่วนที่มีข่าวว่า จะมีการเสนอชื่อคนของพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร "อนุทิน" กล่าวว่า เราจะไม่ทำอะไรที่จะบล็อกหรือเป็นอุปสรรคทางการเมือง โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านจัดตั้งรัฐบาล คงเป็นข่าวลือ
ส่วนที่มีกระแสข่าวสูตรจัดตั้งรัฐบาลสูตร ที่มีพรรคภูมิใจไทย เพื่อไทย และพลังประชารัฐ อนุทิน ยืนยันว่า เป็นสูตรของผู้สื่อข่าว ไม่ใช่สูตรของพรรคภูมิใจไทย
"ตอนนี้พรรคต้องท่องคาถา 3 บท คือ "อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้" แต่ไม่ได้รอส้มหล่น อาจจะรอเป็นผู้นำฝ่ายค้านก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือการเป็นผู้แทนราษฎร อะไรที่นอกเหนือจากนี้ คือบริบทการเมือง ซึ่งพรรคอยู่บทบาทไหนก็ได้หมด เพราะทุกพรรคก็เคยเป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล"
"อนุทิน" กล่าวถึงข่าวฉีกแถลงการณ์พรรคที่ระบุว่า จะไม่ร่วมงานกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไข ม.112 โดยยืนยันว่า ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง จุดยืนดังกล่าวถือเป็นธรรมนูญของพรรค ถ้าจะเปลี่ยนแปลง ยุบพรรคดีกว่า ไม่เช่นนั้นตนและเลขาธิการพรรค ก็ไม่สามารถอยู่ตรงนี้ได้ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองจะทำอะไรลับๆล่อๆ ไม่ได้ ยิ่งออกแถลงการณ์ไปแล้วก็ต้องทำ เหมือนนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ต้องทำจะไม่ทำไม่ได้
ส่วนกรณีที่มี ส.ว. พร้อมสนับสนุน รัฐบาลเดิม 181 เสียง นั้น อนุทิน กล่าวว่า
"การตั้งรัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง รัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่น่ารอด ต้องรอวันตาย ใครจะไปทำสิ่งเหล่านั้น ทำเพื่อสะใจใคร ทำอะไรต้องยั่งยืน เพราะเป็นเรื่องบ้านเมือง ไม่สนับสนุนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และยุคสมัยนี้ไม่มีงูเห่าแล้ว ทำการเมืองแบบเก่าคงลำบาก"
เมื่อถามย้ำว่า สูตร 4 ในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย อนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มี
เมื่อถามว่า ดีใจหรือไม่ที่ได้เป็นพรรคอันดับ 3 นั้น อนุทิน กล่าวว่า "ดีใจสิ" พร้อมกับบอกว่า "นึกว่าจะได้เป็นพรรคอันดับสอง"
·
‘อนุทิน’ ปิดประตู ‘รัฐบาลเสียงข้างน้อย’ ไม่น่ารอด ตั้งมารอวันตายใครจะไปทำ ไม่ส่งคนภูมิใจไทยชิงประธานสภา เชื่อยุคนี้ปิดตำนานงูเห่า ยอมยุบพรรคดีกว่าหนุนพรรคแก้ ม.112 ท่องคาถา 3 ข้อ "อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้" แต่ไม่หวังส้มหล่น
25 มิ.ย.2566 - อนุทิน ชาญวีรกูล และ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ แถลงภายหลังประชุม ส.ส. ว่า พรรคมี 71 คน มี ส.ส.หน้าใหม่ 27 ยังไม่ได้หารือทิศทางโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งยังไม่ได้คุยแนวคิดให้ 50 ส.ส. ตรวจสอบคุณสมบัติ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ส่วนที่มีข่าวว่า จะมีการเสนอชื่อคนของพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร "อนุทิน" กล่าวว่า เราจะไม่ทำอะไรที่จะบล็อกหรือเป็นอุปสรรคทางการเมือง โดยเฉพาะการเปลี่ยนผ่านจัดตั้งรัฐบาล คงเป็นข่าวลือ
ส่วนที่มีกระแสข่าวสูตรจัดตั้งรัฐบาลสูตร ที่มีพรรคภูมิใจไทย เพื่อไทย และพลังประชารัฐ อนุทิน ยืนยันว่า เป็นสูตรของผู้สื่อข่าว ไม่ใช่สูตรของพรรคภูมิใจไทย
"ตอนนี้พรรคต้องท่องคาถา 3 บท คือ "อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้" แต่ไม่ได้รอส้มหล่น อาจจะรอเป็นผู้นำฝ่ายค้านก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือการเป็นผู้แทนราษฎร อะไรที่นอกเหนือจากนี้ คือบริบทการเมือง ซึ่งพรรคอยู่บทบาทไหนก็ได้หมด เพราะทุกพรรคก็เคยเป็นทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล"
"อนุทิน" กล่าวถึงข่าวฉีกแถลงการณ์พรรคที่ระบุว่า จะไม่ร่วมงานกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไข ม.112 โดยยืนยันว่า ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง จุดยืนดังกล่าวถือเป็นธรรมนูญของพรรค ถ้าจะเปลี่ยนแปลง ยุบพรรคดีกว่า ไม่เช่นนั้นตนและเลขาธิการพรรค ก็ไม่สามารถอยู่ตรงนี้ได้ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองจะทำอะไรลับๆล่อๆ ไม่ได้ ยิ่งออกแถลงการณ์ไปแล้วก็ต้องทำ เหมือนนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ต้องทำจะไม่ทำไม่ได้
ส่วนกรณีที่มี ส.ว. พร้อมสนับสนุน รัฐบาลเดิม 181 เสียง นั้น อนุทิน กล่าวว่า
"การตั้งรัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็ง รัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่น่ารอด ต้องรอวันตาย ใครจะไปทำสิ่งเหล่านั้น ทำเพื่อสะใจใคร ทำอะไรต้องยั่งยืน เพราะเป็นเรื่องบ้านเมือง ไม่สนับสนุนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย และยุคสมัยนี้ไม่มีงูเห่าแล้ว ทำการเมืองแบบเก่าคงลำบาก"
เมื่อถามย้ำว่า สูตร 4 ในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย อนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มี
เมื่อถามว่า ดีใจหรือไม่ที่ได้เป็นพรรคอันดับ 3 นั้น อนุทิน กล่าวว่า "ดีใจสิ" พร้อมกับบอกว่า "นึกว่าจะได้เป็นพรรคอันดับสอง"
ความยากของการจัดตั้งรัฐบาลคือ ตอนนี้สังคมมีเส้นแบ่ง ประชาธิปไตย-เผด็จการ ชัดเจนแล้ว
— อานนท์ นำภา (@arnonnampa) June 25, 2023
การที่พรรคประชาธิปไตยจะไปจับมือกับพรรคเผด็จการจึงเป็นเรื่องเกิดขึ้นยากมาก
ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่จบไปแล้ว
สังคมพัฒนาไปข้างหน้า เวลาอยู่ข้างเรา