รู้ไหมครับ คำว่า #ไม่อยากยุ่งการเมือง เป็นคำที่ "มีความเป็นการเมืองมากที่สุด" เพราะเป็นคำที่มีอำนาจควบคุมจิตสำนึกของคนจำนวนไม่น้อยให้เชื่อว่าการยุ่งเรื่องการเมืองไม่เกิดประโยชน์อะไรและสร้างปัญหาให้กับตัวเอง ยิ่งกว่านั้นมันคือการปฏิเสธความจริงที่ว่าการเมืองในโลกสมัยใหม่ยุ่งกับชีวิตคุณตั้งแต่ชีวิตในมุ้งยันชีวิตทางสังคม ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ
ค่าเทอมที่แพง หนี้สินพอกพูน เศรษฐกิจแย่ การศึกษาด้อยคุณภาพ เรียนจบแล้วตกงาน ฯลฯ มันเกี่ยวกับปัญหาการเมืองระดับชาติที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่มีเสถียรภาพ และไร้ประสิทธิภาพทั้งนั้นเลย ยิ่งคุณไม่อยากรับรู้ ไม่อยากยุ่งการเมืองมากเท่าใด การเมืองแบบเผด็จการ ห่วยแตกยิ่งยุ่งกับชีวิตคุณได้ง่ายดายและยุ่งมากขึ้น และทำให้คุณกลายเป็นพลเมืองที่เชื่องปกครองง่ายได้มากขึ้น
สุรพศ ทวีศักดิ์
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) รายงานภาวะการว่างงานของประชาชนประจำเดือนกันยายน ปี61 พบว่าจำนวนคนว่างงานทั้งหมดอยู่ที่ 373,000 คน โดยกลุ่มคนที่ว่างงานมากที่สุดเป็น บัณฑิต หรือคนที่จบในระดับอุดมศึกษา กว่า 145,000 คน รองลงมา คือระดับมัธยมต้น 97,000 คน และมัธยมปลาย ประถมศึกษา และผู้ที่ไม่มีการศึกษาหรือต่ำกว่าประถมศึกษา ตามลำดับ
เมื่อแบ่งเป็นตามอายุ พบว่าผู้มีอายุ 15-24 ปี ว่างงานถึง 5.1% ซึ่งเป็นปกติของคนกลุ่มนี้ ส่วนกลุ่มผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป คิดเป็น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และผู้ชายจะว่างงานมากกว่าผู้หญิง ซึ่งผู้ชายมีอัตราการว่างงานที่ 1% ส่วนผู้หญิง 0.9%
เมื่อพิจารณาด้านประสบการณ์การทำงาน พบว่ามีกลุ่มคนที่ไม่เคยทำงานมาก่อนมีจำนวน 178,000 คน (47.7%) ส่วนผู้ว่างงานที่เคยทำงานมาก่อน 195,000 คน (52.3%) โดยผู้ว่างงานในภาคการบริการและการค้า 82,000 คน ภาคการผลิต 96,000 คน ขณะที่ผู้ว่างงานจากภาคเกษตรกรรมมีจำนวน 17,000 คน
(https://www.smartsme.co.th/content/101761?fbclid=IwAR0ZGm26To5_chb0XvNy41wHKrB3od9cJIyIBP8XktWOnLCL7nQz2APO9Gw)
ooo
As a member of the 1%, Dennis Mehiel knows best that the wealthy only benefit more when Americans don't vote. His org @ShowUp2018 is encouraging first time voters to show up on November 6th to make a change. pic.twitter.com/VKF3GMB4n9— NowThis (@nowthisnews) October 27, 2018