
Pipob Udomittipong
17 hours ago
·
Breaking! วันศุกร์ เพิ่งจะฝากโฆษกทำเนียบข่าวอ่าน statement ว่า เพราะอาจมีช่องทางดีลกับ #อิหร่าน ขอเวลาคิดอีกสองสัปดาห์ แต่ปรากฎว่าเมื่อคืนวันเสาร์ที่อเมริกา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศใน Truth Social ว่า กองทัพสหรัฐฯ ได้ทิ้งระเบิดโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งของอิหร่าน รวมถึงโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมใต้ดินที่ #Fordo
นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ โจมตีโครงสร้างทางทหารที่สำคัญของอิหร่านโดยตรง นับแต่ปี 1979 จากแคนดิเดตที่ประกาศตัวว่าเป็น “peacemaker” ทรัมป์ได้กลายเป็น President of War ไปแล้ว คงทำให้พวก #MAGA ใจสลายไปไม่น้อย
ประธานาธิบดีทรัมป์เขียนในโซเชียลที่เป็นกิจการส่วนตัวของเขาว่า “เราได้โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ 3 แห่งในอิหร่านสำเร็จ รวมถึงโรงงานฟอร์โด นาทันซ์ และเอสฟาฮาน เครื่องบินทั้งหมดของเราอยู่นอกน่านฟ้าอิหร่านแล้ว”
“ระเบิดถูกทิ้งเต็มลำที่โรงงานนิวเคลียร์ฟอร์โด เครื่องบินทั้งหมดกำลังเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย ขอแสดงความยินดีกับนักรบอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่ของเรา ไม่มีกองทัพใดในโลกที่จะทำได้เช่นนี้อีกแล้ว ตอนนี้ได้เวลาแห่งสันติภาพแล้ว!”
สื่อรายงานด้วยว่า ทรัมป์ได้โทรรายงานผลงานให้เนทันยาฮูของ #อิสราเอล รับทราบ หลังจากทิ้งระเบิดแล้ว พูดได้ว่า งานนี้เนทันยาฮูคิด ทรัมป์ทำ และระยำด้วยกันทั้งคู่ เพราะมันไม่ได้ชัดเจนอะไรเลยว่า อิหร่านกำลังจะสามารถผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้เพียงอีก “ไม่กี่สัปดาห์” แบบที่นายกฯ ยิวประกาศ ซึ่งเขาก็ประกาศว่า “ไม่กี่สัปดาห์” มาชาติหนึ่งแล้ว
แม้แต่ผอ.หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ NIA เองก็ยืนยันต่อกรรมาธิการของสภาว่า อิหร่านยังไม่สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้ แต่ทรัมป์ก็ไม่เชื่อคนที่เขาแต่งตั้งมากับมือ ไม่เชื่อหน่วยข่าวกรองของตัวเอง
ทรัมป์ได้แถลงด้วยตนเองเมื่อสักครู่บอกว่า “เป้าหมายของเราคือการทำลายขีดความสามารถในการเสริมสมรรถนะนิวเคลียร์ของอิหร่าน และหยุดยั้งภัยคุกคามจากนิวเคลียร์ที่เกิดจากรัฐ ผู้ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายอันดับหนึ่งของโลก”
เขายังขู่ด้วยว่า จะปฏิบัติการกับอิหร่านมากขึ้น หากอิหร่านไม่กลับมาใช้มาตรการทางการทูต “อิหร่านซึ่งเป็นนักบุลลีแห่งตะวันออกกลาง จะต้องสร้างสันติภาพ ไม่เช่นนั้นแล้ว การโจมตีในอนาคตจะรุนแรงขึ้นและสะดวกมากขึ้นด้วย”
ทรัมป์ยืนยันว่า โรงงานนิวเคลียร์ทั้งสามแห่ง “ถูกทำลายจนหมดสิ้น” ส่วนทางการอิหร่านยอมรับว่า สถานที่ดังกล่าวถูกโจมตี แต่ไม่ได้อธิบายถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นทันที โดยยืนยันว่า โรงงานทั้ง 3 แห่งถูกโจมตี ทั้งที่ฟอร์โดและนาทันซ์ถูกทิ้งระเบิดเมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ในอิหร่าน
โรงงานทั้งสองโรงเคยถูกอิสราเอลโจมตีมาแล้ว แต่น่าจะยิงไม่เข้า โดยเฉพาะฟอร์โด ซึ่งสร้างอยู่ใต้ภูเขา แต่มีรายงานว่าครั้งนี้ ทรัมป์ส่งเครื่องบิน B2 นำระเบิด GBU-57 ขนาด 30,000 ปอนด์ ที่มีอานุภาพเป็นรองแค่ระเบิดนิวเคลียร์ ไปทิ้งที่โรงงานทั้งสามแห่ง ระเบิดแบบนี้สามารถเจาะทะลวงทำลายโครงสร้างใต้ตินลึก 200 ฟุต ฟอร์โดน่าจะไม่เหลือ
มันก็มีประเด็นว่า การส่งเครื่องบินไปโจมตีประเทศอื่นแบบนี้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา หรือ congressional authorization หรือเปล่า?
เรื่องนี้เทา ๆ เพราะแม้รัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นอำนาจของรัฐสภาในการประกาศสงคราม (Declaration of War) แต่ในช่วงหลายสิบปีที่พวกเราโตกันขึ้นมา เราคุ้นเคยกับสงครามที่นำโดยสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรไม่รู้กี่ครั้ง จำได้ไม่หมด แต่ในทางเทคนิคถือได้ว่า สหรัฐฯ ไม่เคย “ประกาศสงคราม” เลย นับแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
เหตุที่ปธน.สหรัฐฯ คนแล้วคนเล่า สามารถส่งทหารและเครื่องบินไปโจมตีประเทศอื่นได้ เพราะใช้อำนาจตามกฎหมายที่เรียกว่า Authorization for Use of Military Force (AUMF) เป็นกฎหมายซึ่งมอบอำนาจให้ประธานาธิบดีแบบจำกัด เพื่อใช้กำลังทหารต่อศัตรูที่เฉพาะเจาะจง หรือในบริบทที่เฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างเช่น มติ AUMF เมื่อปี 2001 อนุญาตให้ใช้กำลังกับผู้ที่รับผิดชอบต่อการโจมตี 9/11 ได้ เป็นมติที่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาครั้งเดียว แต่ก็ยังคงมีผลบังคับใช้มาโดยตลอดจนปัจจุบัน ปธน.หลังจากนั้นทุกคนก็อ้างอำนาจตามมติ AUMF ส่งเครื่องบินไปบอมป์ประเทศอื่นอย่างสนุกสนาน รวมทั้งทรัมป์ในคราวนี้ด้วย
แม้รัฐสภาจะพยายามควบคุมอำนาจของฝ่ายบริหารในการสั่งการโจมตีด้วยทหาร ด้วยการประกาศใช้ War Powers Act เมื่อปี 1973 โดยกำหนดให้ประธานาธิบดีต้องแจ้งให้รัฐสภาทราบภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากส่งกองกำลังเข้าร่วมความขัดแย้ง และจำกัดระยะเวลาการส่งกำลังทหารไว้ที่ 60-90 วัน เว้นแต่รัฐสภาจะอนุมัติให้ขยายเวลา
แต่ปธน.คนแล้วคนเล่าก็ยังสามารถใช้อำนาจส่งทหารไปรบในประเทศอื่นได้ตลอด เรื่องการขออนุญาตจารัฐสภา มันจึงเป็นเรื่องเทา ๆ ไม่ถึงกับถูกกฎหมายตรง ๆ แต่ก็ไม่ผิดกฎหมายทีเดียว แม้ตอนนี้จะมีคนออกมาเรียกร้องให้ impeach ทรัมป์ เพราะการโจมตีอิหร่าน แต่ผมเชื่อว่าไม่สำเร็จเพราะ “ความเทา” ของกฎหมายที่ตีเช็คเปล่าให้ประธานาธิบดีอเมริกันทุกคนมีอำนาจใช้กำลังทหารได้ตามอำเภอใจ
แต่อย่างน้อย ความหวังที่ทรัมป์ที่จะได้ #โนเบลสันติภาพ แบบเดียวกับโอบามา ดูจะห่างไกลมากขึ้นทุกที และตลาดหุ้นคงจะถูกทุบต่อไปเรื่อย ๆ นักลงทุนไทยซวยหน่อย เพราะโดนสองเด้ง
ปล. รูปการ์ตูนนี้วาดตั้งแต่ปี 2017 แต่ยังใช้ได้อยู่ “เนทันยาฮูคิด ทรัมป์ทำ”
https://www.nytimes.com/.../us-bomb-iran-trump-war.html
https://www.facebook.com/photo/?fbid=10162661877381649&set=a.10150096728651649
.....

Kasian Tejapira
8 hours ago
·
ความดีความงามและความจริง
คนฉีกทิ้งถ่มถุยเข้าลุยไล่
สร้างความเกลียดความกลัวแผ่ทั่วไป
โลกยกย่องอย่างไรขาวเป็นดำ
ความชั่วความต่ำทรามและความเท็จ
ฤาควรปูนบำเหน็จให้ลือร่ำ
โลกหมดหวังพังภินท์สิ้นศีลธรรม
สยบอำนาจยอมพร้อมแบกชู
https://www.facebook.com/photo?fbid=10237533505979916&set=a.2556231547988