
Thicha Nanakorn
19 hours ago
·
ความอยุติธรรม การลงโทษที่ไม่ได้สัดส่วน …
สามารถสร้างบาดแผลขนาดใหญ่ในประชาชน ในสังคม
ที่สำคัญสามารถทำลายความชอบธรรมของ “ระบบ” ของรัฐ
ผู้พิพากษาที่ทำหน้าที่ในนามพระปรมาภิไธย …
นอกจากแม่นกฎหมาย ใช้กฎหมายเป็น ก็ต้องมีวิสัยทัศน์ด้วย
ความสมดุล …
ทั้งกฎหมาย บทลงโทษ
คือความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรม
หากทำไม่ได้ ใช้ไม่เป็น …
“ระบบ
กระบวนการยุติธรรมจะกัดกิน ทำลายตัวเอง”
No justice No peace !!!

บันทึกถึง “ตัน” โดย ดร.กฤษดา บุญชัย
ตัน สุรนาถ แป้นประเสริฐ ผู้ชายธรรมดาที่ทำสิ่งไม่ธรรมดาเพื่อสังคม
ตัน สุรนาถ แป้นประเสริฐ ไม่ได้เป็นเพียงชื่อที่กำลังถูกพูดถึงในข่าวคดีการเมือง แต่สำหรับคนที่รู้จักเขา ตันคือเด็กหนุ่มจากชุมชนวัดโพธิ์เรียง บางกอกน้อย ผู้เติบโตมากับเสียงหัวเราะของเพื่อนบ้าน กลิ่นหอมของครัวเรือนริมคลอง และการสืบทอดหัวใจเพื่อชุมชนจากพ่อ—นรินทร์ ประธานชุมชนที่ลูก ๆ รู้จักในฐานะ “คนที่ไม่เคยหยุดทำเพื่อบ้านเมือง”
ตันเลือกเดินตามรอยพ่อ เขาไม่ได้ใช้ชีวิตวัยหนุ่มไปกับการไขว่คว้าความสำเร็จส่วนตัว แต่ทุ่มเทกับการเปลี่ยนพื้นที่สีเทาให้กลายเป็นพื้นที่สีสดใส ตั้งแต่การริเริ่ม “บางกอกนี้ดีจัง” ใน 17 ชุมชนย่านบางกอกน้อย–บางกอกใหญ่ ไปจนถึงการขยายเป็นเครือข่าย “บางกอกกำลังดี” ที่รวมพลังได้กว่า 50 ชุมชนในกรุงเทพฯ
พลังที่อบอุ่นและจริงใจ
สิ่งที่ทำให้ตันเป็นที่รัก ไม่ใช่แค่ผลงาน แต่คือวิธีที่เขา “ทำให้เห็น” เขาสื่อสารด้วยการลงมือ ไม่ใช่เพียงคำพูด เขายิ้มง่าย ยิ้มที่ทำให้โลกดูสดใสกว่าที่เป็นจริง และยิ้มที่บอกกับเด็ก ๆ ว่า “พวกเธอมีคุณค่า”
ตันคือคนที่พร้อมจะเป็น ลมใต้ปีก อยู่ข้าง ๆ ให้กำลังใจ และหนุนงานหนักของใครอีกหลายคน เขาคือคนที่เมื่ออยู่ด้วยแล้ว “ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยว” เด็กและเยาวชนหลายคนเลิกยาเสพติดเพราะแรงบันดาลใจจากเขา หลายชุมชนเปลี่ยนจากพื้นที่เสี่ยงเป็นพื้นที่สร้างสรรค์เพราะความมุ่งมั่นของเขา
วันที่ความเงียบงันเข้ามาแทนที่
แต่วันนี้ ความเงียบงันเข้ามาแทนที่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของตัน เขาถูกตัดสินจำคุก 16 ปี จากเหตุการณ์ที่เขาไม่ได้ตั้งใจเข้าไปเกี่ยวข้อง หลายคนที่รักและรู้จักเขาได้แต่ตั้งคำถามว่า “ทำไมคนที่ใช้ชีวิตเพื่อชุมชน ต้องถูกพรากไปด้วยข้อหาที่เขาไม่ได้ก่อ?”
คำพิพากษาในวันนี้ ไม่ได้เพียงทำร้ายตัน แต่ยังพรากความหวังของเด็กและเยาวชนที่เขาคอยหนุนเสริม พรากพลังของชุมชนที่เขาใช้ทั้งชีวิตบ่มเพาะ
เสียงที่ยังไม่เงียบ
ถึงแม้ตันจะถูกกักขัง แต่เสียงของผู้คนที่รักเขายังคงดังต่อเนื่อง “ตันเป็นคนดีของสังคม” “ตันคือแรงบันดาลใจ” “ตันไม่ควรถูกจองจำ” เสียงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า เขาไม่ได้เดินคนเดียว และงานที่เขาทำยังคงมีชีวิตอยู่ในหัวใจของหลายชุมชน
บทสรุปที่อบอุ่น
ตัน สุรนาถ แป้นประเสริฐ คือผู้ชายธรรมดาที่เลือกใช้ชีวิตเพื่อทำสิ่งไม่ธรรมดา—สร้างความหวังให้ชุมชน และโอบอุ้มเยาวชนให้มีเส้นทางชีวิตที่ดีกว่าเดิม
การจองจำเขาไม่สามารถลบล้างสิ่งดีที่เขาทำมาได้ และไม่ควรพรากคนเช่นนี้ไปจากสังคม หากเรายังเห็นคุณค่าของความรัก ความจริงใจ และพลังสร้างสรรค์ที่เขามอบให้ เราต้องไม่ยอมให้ความอยุติธรรมเป็นจุดจบของเรื่องราวนี้
เพราะคนที่ทำเพื่อสังคม ควรได้รับการปกป้อง ไม่ใช่ถูกทำลาย
#saveตัน #saveสุรนาถ้า
https://www.facebook.com/thicha.nanakorn.2025/posts/31338904559089867?ref=embed_post
·

สามารถสร้างบาดแผลขนาดใหญ่ในประชาชน ในสังคม
ที่สำคัญสามารถทำลายความชอบธรรมของ “ระบบ” ของรัฐ

นอกจากแม่นกฎหมาย ใช้กฎหมายเป็น ก็ต้องมีวิสัยทัศน์ด้วย

ทั้งกฎหมาย บทลงโทษ
คือความงดงามและศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรม
หากทำไม่ได้ ใช้ไม่เป็น …
“ระบบ

No justice No peace !!!











บันทึกถึง “ตัน” โดย ดร.กฤษดา บุญชัย
ตัน สุรนาถ แป้นประเสริฐ ผู้ชายธรรมดาที่ทำสิ่งไม่ธรรมดาเพื่อสังคม
ตัน สุรนาถ แป้นประเสริฐ ไม่ได้เป็นเพียงชื่อที่กำลังถูกพูดถึงในข่าวคดีการเมือง แต่สำหรับคนที่รู้จักเขา ตันคือเด็กหนุ่มจากชุมชนวัดโพธิ์เรียง บางกอกน้อย ผู้เติบโตมากับเสียงหัวเราะของเพื่อนบ้าน กลิ่นหอมของครัวเรือนริมคลอง และการสืบทอดหัวใจเพื่อชุมชนจากพ่อ—นรินทร์ ประธานชุมชนที่ลูก ๆ รู้จักในฐานะ “คนที่ไม่เคยหยุดทำเพื่อบ้านเมือง”
ตันเลือกเดินตามรอยพ่อ เขาไม่ได้ใช้ชีวิตวัยหนุ่มไปกับการไขว่คว้าความสำเร็จส่วนตัว แต่ทุ่มเทกับการเปลี่ยนพื้นที่สีเทาให้กลายเป็นพื้นที่สีสดใส ตั้งแต่การริเริ่ม “บางกอกนี้ดีจัง” ใน 17 ชุมชนย่านบางกอกน้อย–บางกอกใหญ่ ไปจนถึงการขยายเป็นเครือข่าย “บางกอกกำลังดี” ที่รวมพลังได้กว่า 50 ชุมชนในกรุงเทพฯ
พลังที่อบอุ่นและจริงใจ
สิ่งที่ทำให้ตันเป็นที่รัก ไม่ใช่แค่ผลงาน แต่คือวิธีที่เขา “ทำให้เห็น” เขาสื่อสารด้วยการลงมือ ไม่ใช่เพียงคำพูด เขายิ้มง่าย ยิ้มที่ทำให้โลกดูสดใสกว่าที่เป็นจริง และยิ้มที่บอกกับเด็ก ๆ ว่า “พวกเธอมีคุณค่า”
ตันคือคนที่พร้อมจะเป็น ลมใต้ปีก อยู่ข้าง ๆ ให้กำลังใจ และหนุนงานหนักของใครอีกหลายคน เขาคือคนที่เมื่ออยู่ด้วยแล้ว “ไม่เคยรู้สึกโดดเดี่ยว” เด็กและเยาวชนหลายคนเลิกยาเสพติดเพราะแรงบันดาลใจจากเขา หลายชุมชนเปลี่ยนจากพื้นที่เสี่ยงเป็นพื้นที่สร้างสรรค์เพราะความมุ่งมั่นของเขา
วันที่ความเงียบงันเข้ามาแทนที่
แต่วันนี้ ความเงียบงันเข้ามาแทนที่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของตัน เขาถูกตัดสินจำคุก 16 ปี จากเหตุการณ์ที่เขาไม่ได้ตั้งใจเข้าไปเกี่ยวข้อง หลายคนที่รักและรู้จักเขาได้แต่ตั้งคำถามว่า “ทำไมคนที่ใช้ชีวิตเพื่อชุมชน ต้องถูกพรากไปด้วยข้อหาที่เขาไม่ได้ก่อ?”
คำพิพากษาในวันนี้ ไม่ได้เพียงทำร้ายตัน แต่ยังพรากความหวังของเด็กและเยาวชนที่เขาคอยหนุนเสริม พรากพลังของชุมชนที่เขาใช้ทั้งชีวิตบ่มเพาะ
เสียงที่ยังไม่เงียบ
ถึงแม้ตันจะถูกกักขัง แต่เสียงของผู้คนที่รักเขายังคงดังต่อเนื่อง “ตันเป็นคนดีของสังคม” “ตันคือแรงบันดาลใจ” “ตันไม่ควรถูกจองจำ” เสียงเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า เขาไม่ได้เดินคนเดียว และงานที่เขาทำยังคงมีชีวิตอยู่ในหัวใจของหลายชุมชน
บทสรุปที่อบอุ่น
ตัน สุรนาถ แป้นประเสริฐ คือผู้ชายธรรมดาที่เลือกใช้ชีวิตเพื่อทำสิ่งไม่ธรรมดา—สร้างความหวังให้ชุมชน และโอบอุ้มเยาวชนให้มีเส้นทางชีวิตที่ดีกว่าเดิม
การจองจำเขาไม่สามารถลบล้างสิ่งดีที่เขาทำมาได้ และไม่ควรพรากคนเช่นนี้ไปจากสังคม หากเรายังเห็นคุณค่าของความรัก ความจริงใจ และพลังสร้างสรรค์ที่เขามอบให้ เราต้องไม่ยอมให้ความอยุติธรรมเป็นจุดจบของเรื่องราวนี้
เพราะคนที่ทำเพื่อสังคม ควรได้รับการปกป้อง ไม่ใช่ถูกทำลาย
#saveตัน #saveสุรนาถ้า
https://www.facebook.com/thicha.nanakorn.2025/posts/31338904559089867?ref=embed_post