วันจันทร์, กันยายน 08, 2568

บรรดา "ส้ม" ควรอ่านอย่างยิ่ง


The101.world
20 hours ago
·
แม้สถานการณ์การเมืองไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจทำให้หลายคนรู้สึกหงุดหงิด เซ็ง โกรธ หรือกระทั่งหมดหวัง แต่หากตัดอารมณ์เหล่านี้ออกไปก็ต้องยอมรับว่าการเมืองไทยเต็มไปด้วยความเข้มข้น ดุเดือด และน่าติดตามไม่แพ้ซีรีส์ชั้นดี เราได้เห็นทั้งการกำหนดประเด็น (framing) การสร้างข้อเสนอทางการเมือง จังหวะจะโคนของเกม การชิงไหวชิงพริบ การบลัฟ การโต้ และการแก้เกม แบบไม่มีใครยอมใคร - ถ้าเป็นซีรีส์จริง ก็ไม่น่าจะแพ้ชาติไหนในโลก
.
แกนกลางของเรื่องทั้งหมดอยู่ที่การตัดสินใจของพรรคประชาชน ที่เลือกโหวตให้ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 การตัดสินใจครั้งนี้ก่อให้เกิดข้อถกเถียงอย่างกว้างขวาง โดยมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยทั้งสองฝั่งเป็นจำนวนมาก
.
สำหรับคนที่เห็นด้วยและสนับสนุนคงไม่ต้องพูดถึงมากนัก เพราะเหตุผลในการอธิบายน่าจะพอเหมาสรุปได้ว่าไม่แตกต่างจากสิ่งที่พรรคประชาชนนำเสนอมากนัก แต่ที่น่าสนใจคือ ความเห็นของคนที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของพรรค โดยเฉพาะกลุ่มที่มองจากฐานประชาธิปไตย
.
ในบรรดาข้อถกเถียงอันหลากหลายที่เกิดขึ้น ข้อถกเถียงที่แหลมคมที่สุดน่าจะเป็นคำถามที่ว่า การโหวตให้อนุทินและพรรคภูมิใจไทย ในบริบทที่รัฐบาลรักษาการของพรรคเพื่อไทยถูกปฏิเสธอำนาจยุบสภาเป็นการตัดสินใจที่ยังสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยหรือไม่?
.
ที่ว่า ‘ผิดหลักการ' เพราะ การปฏิเสธอำนาจยุบสภาของรัฐบาลรักษาการพรรคเพื่อไทยเป็นเรื่องใหญ่ -เป็นการประกาศยึดอำนาจอธิปไตยที่ควรอยู่กับฝ่ายบริหารด้วยเหตุผลเทคนิคกฎหมาย ถ้ายึดหลักการนี้อย่างเคร่งครัด ทางออกจึงควรเป็นการหันไปสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเลือก ‘ชัยเกษม นิติศิริ’ มายุบสภาทันที เพื่อยืนยันว่าอำนาจยุบสภาเป็นสิทธิของรัฐบาล ไม่ใช่ของ ‘รัฐพันลึก’
.
ในทางกฎหมาย ประเด็นนี้มีความคลุมเครืออยู่และนักกฎหมายก็มีความเห็นที่แตกต่างหลากหลาย ซึ่งเรื่องนี้โดยหลักย่อมอยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะตีความ อย่างไรก็ตาม การที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจวินิจฉัยจำเป็นต้องมีวัตถุแห่งคดี โดยต้องมีการกระทำหรือกฎหมายที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญเสียก่อน ปัญหาจึงไม่จบ เพราะตราบใดที่ไม่มีพระราชกฤษฎีกาประกาศให้ยุบสภา ก็ถือว่ายังไม่มีวัตถุคดี กลายเป็นช่องว่างทางกฎหมาย
.
อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรคเพื่อไทยแสดงเจตนาอย่างชัดเจนแล้วว่าต้องการยุบสภา (แม้ต่อให้มีจุดประสงค์เพื่อการแก้เกมทางการเมือง) ฝ่ายการเมืองก็ควรต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่างชัดเพื่อยืนยันหลักการ โดยไม่ต้องเถียงกันในเชิงหลักกฎหมาย
.
อย่าลืมว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง มีข่าวทั้งที่ออกสื่อและข่าวลือว่า มีความพยายามทำสารพัดดีลทางการเมือง (ทั้งสีแดงและสีน้ำเงิน) กับชนชั้นนำ แต่ดีลเหล่านี้ต่อให้จริงก็เกิดขึ้นในพื้นที่การเมืองอย่างไม่เป็นทางการ คุยกันหลังม่าน และยากที่จะพิสูจน์ได้ในทางสาธารณะ การที่รัฐบาลถูกปฏิเสธอำนาจยุบสภาอย่างเป็นทางการต่อสาธารณะด้วยเทคนิคกฎหมาย จึงเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการเลยเส้นประชาธิปไตยที่ไม่อาจปล่อยผ่าน
.
แม้พรรคประชาชนจะยืนยันว่า รัฐบาลรักษาการมีอำนาจยุบสภา โดยแสดงออกผ่านทั้งแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ และการพูดผ่านแกนนำพรรค แต่ในขั้นตอนของการตัดสินใจประเด็นถกเถียงของเรื่องนี้กลับถูกให้น้ำหนักไปกับ ‘ความจริงจังและจริงใจ’ หรือ 'การเล่นเกม' ของพรรคเพื่อไทยเป็นหลัก (ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพรรคเพื่อไทยมีปัญหาในเรื่องนี้จริง) ซึ่งเป็นการให้เหตุผลที่ออกจะผิดฝาผิดตัว และน่าผิดหวัง
.
เพราะการเลือก ‘หลักการ’ เฉพาะตอนที่คิดคำนวณแล้วว่ามันน่าจะเป็นไปได้จริง ก็ไม่น่าจะเรียกได้ว่า ‘หลักการ’
.
อย่างไรก็ดี การจะบอกว่าพรรคการเมืองใดหรือใครสักคน ‘ไร้หลักการ’ คงไม่อาจตัดสินได้จากเหตุการณ์และการเลือกเพียงครั้งเดียว หากแต่ต้องชั่งน้ำหนักจากภาพรวมในระยะยาว เพราะในสถานการณ์ที่ซับซ้อน โจทย์ยาก และแหลมคม การจะตัดสินใจให้ถูกต้องทุกครั้งย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ นักวิเคราะห์ นักวิชาการ และนักเคลื่อนไหวจำนวนหนึ่งที่แม้ไม่เห็นด้วยกับการเลือกของพรรคประชาชน ก็เลือกที่จะดีเฟนด์พรรคในแง่มุมนี้
.
‘ไม่มีหลักการ’ หรือแค่ ‘เลือกผิด’ การตัดสินใจหลายครั้งต่อจากนี้จะเป็นคำตอบ
.
และไม่ต้องห่วง ขึ้นชื่อว่าการเมืองไทย บททดสอบใหม่ๆ ไม่เคยมาช้า
.
สมคิด พุทธศรี
บรรณาธิการอำนวยการ The101.world



อ่านผลงานใหม่ทั้งหมดในสัปดาห์ที่ผ่านมาของวันโอวันและ Subscribe รับ Newsletter ได้ที่:
https://mailchi.mp/baae4674064c/101-this-week-12872095



101 SUPPORT — ร่วมซัพพอร์ต ร่วมส่งพลัง ร่วมสร้างสรรค์สื่อ
ร่วมสนับสนุน ‘วันโอวัน’ ได้ที่: https://www.the101.world/101support


https://www.facebook.com/photo/?fbid=1323365265824943&set=a.523964969098314