
Nattharavut Kunishe Muangsuk
8 hours ago
·
สิ่งหนึ่งที่ต้องสื่อสารซ้ำซากกันต่อไป คือปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้เพิ่งมีสมัยตระกูลชินวัตรครองอำนาจ แต่การอ้างสิทธิ์พื้นที่ทับซ้อนมีมานานแล้ว อย่างเขาพระวิหาร ก็ตั้งแต่ 2447 มีข้อมูลที่บอกว่าเขมรใช้ภาพถ่ายกรมพระยาดำรงราชานุภาพบนเขาพระวิหารที่มีธงฝรั่งเศสปักอยู่เป็นหลักฐานขึ้นศาลโลก จนถึง MOU 43 ก็ยุคชวน หลีกภัย
พูดง่ายๆ คือสมัยไหน รัฐบาลขณะนั้นก็พยายามอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้เราตกหลุม เพราะยึดแผนที่คนละฉบับ กัมพูชาใช้กลไกศาลโลก ซึ่งเราเสียเปรียบแน่นอน เราก็พยายามดึงไหล่ให้กลับมาเจรจาทวิภาคีตลอด มันก็จะอยู่กันไปขัดแย้งกันไปแบบนี้ ไม่ว่าจะเปลี่ยนกี่รัฐบาล ยิ่งฝั่งตระกูลฮุนของกัมพูชาใช้เรื่องนี้เป็นเครื่องมือสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง เราก็จะต้องรับมือต่อไป เพราะเราไม่ยอมให้ศาลโลกเข้ามาตัดสินแน่ๆ
การวิจารณ์เรื่องท่าทีการรับมือของรัฐบาลทำได้แน่นอน แต่ต้องยอมรับความจริงว่า จะเร่งเร้าให้เราชนะในเร็ววัน แบบขับไล่กัมพูชาให้ไม่กล้าเข้ามาอ้างสิทธิ์อีกต่อไป อันนี้คือเพ้อฝัน ยกเว้นว่ายุให้รบกันจะๆ ไปเลย ซึ่งเราก็เสียเปรียบในเวทีโลกอีก
ฉะนั้นการพูดเรื่องกบฎ การก่นด่าอาฆาตรัฐบาล จึงเป็นปัญหาทางอารมณ์ของกลุ่มที่ติดตามแต่สื่อคลั่งชาติมากเกินไป พอเสพมากไป จึงกลายเป็นพวกเพ้อเจ้อ เป็นนักรบคีย์บอร์ดแบบนี้
https://www.facebook.com/photo/?fbid=10163324872118582&set=a.443550553581
Atukkit Sawangsuk
7 hours ago
·
พวกโง่กินเยี่ยวไม่ยอมเข้าใจว่า
ถ้าสู้กันด้วยกฎหมายด้วยแผนที่ ไทยเสียเปรียบ
ถ้าแข็งกร้าว ใช้การรบ จะเป็นอันธพาลและยิ่งถูกดึงเข้าสู่การตัดสินในเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ
ทางที่ดีที่สุดคือยื้อให้อยู่ในการเจรจาทวิภาคี
โดยอ้าง MOU 43 44 ที่ทำกันไว้ว่าจะเจรจาปักปันเขตแดนผ่าน JBC เท่านั้น
แต่มันก็จะเรียกร้องให้ยกเลิก MOU