อานนท์ นำภา
เสียดายเมื่อวานที่พ่อไม่ได้อุ้ม ได้กอดก่อนกลับจากศาล ศาลให้พาตัวออกจากห้องก่อนกำหนด เจ้าขาลในอ้อมอกแม่และอ้อมแขนของลุงป้าน้าอาที่มาให้กำลังใจดูร่าเริงสมวัย อาจบางทีเราเข้าใจว่ามีกำลังใจเต็มเปี่ยมแต่พอได้รับกำลังใจใหม่ๆกลับทำให้เรารู้ว่าเราต้องการกำลังใจ ทุกแววตาที่ปรารถนาดี ทุกความห่วงใยที่ได้รับหน้าห้องพิจารณาลับ คือกำลังใจ คือพลังใจ คือถ้อยคำย้ำเตือนว่าการต่อสู้ของเรายังดำเนินอยู่และจะยัง ดำรงเช่นนี้จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
.
29 พฤศจิกายน 2567 ถึงปราณและขาล ที่คิดถึง
.
ในห้วงเวลาที่ชีวิตเผชิญกับวิกฤติ มนุษย์เรามีความจำเป็นต้องกล้าหาญ เป็นความกล้าหาญที่จำเป็นอย่างยิ่งและเราย่อมตระหนักรู้ได้เมื่อบังเกิดความกล้าหาญนั้นแล้ว เราอาจพร่ำบ่นคำว่ากล้าหาญได้เป็นร้อยเป็นพันครั้ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับความมืดมนอลธการ เผชิญกับวิกฤติ เราจึงอาจรู้ว่าระหว่างเสียงที่เปล่งออกมาจากปากกับเสียงที่เปล่งออกมาจากหัวใจมันเป็ยความกล้าหาญคนละอย่างกัน
.
พ่อรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ความกล้าหาญบังเกิดขึ้นในยามจำเป็นต้องกล้าหาญเพราะหากปราศจากความกล้าหาญในยามจำเป็น หลายอย่างอาจไม่เกิดขึ้น ผลลัพท์อาจเปลี่ยนไป “จำเป็นต้องกล้าหาญ” จึงเป็นความกล้าหาญที่แท้จริง
.
ภาวนาให้ความกล้าหาญเช่นว่านี้ยังดำรงอยู่ และบังเกิดขึ้นทุกครั้งที่จำเป็นต้องใช้ ขอบคุณทุกกำลังใจ ที่ทำให้ความกล้าหาญในยามจำเป็น งดงามและเปี่ยมพลัง
.
3 ธันวาคม 2567 วันพิพากษาพ่ออีกคดีก่อนโดนย้ายไปคลองเปรม พ่อจะเดินไปเผชิญด้วยความกล้าหาญและกล้าหาญในทุกคดีจากนี้จนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง
.
รักและคิดถึงลูกทั้งสอง
อานนท์ นำภา
.....