บ่องตง เจ้าหมอวรงค์ เดชวิกรม ที่อ้างนโยบายพรรคไทยภักดีว่า ปกป้อง/เชิดชูสถาบันกษัตริย์ไทย แต่กลับกระทำการที่เป็นผลกระทบให้เกิดความเสื่อมเสียมากกว่า โดยเฉพาะในช่วงนี้ไล่ฟัด พวกอดีตพรรคก้าวไกลไม่ลืมหูลืมตา
ต่อการที่ไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง ให้ตรวจสอบสถานะของพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งพรรคก้าวไกลใช้เป็นสะพานทอดไปสู่พรรคประชาชนหลังถูกยุบ ทำให้ กกต.ต้องชี้แจงว่าเมื่อมีการเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชนแล้วก็ดำเนินการต่อไปได้
ระเบียบก็คือ “ผู้บริหารพรรคชุดใหม่ที่เข้ามาก็ต้องมาจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบตามเงื่อนไขภายใน ๑ ปี...ซึ่งเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาพรรคก็มีการแจ้งการจัดตั้งสาขาพรรคเพิ่มเติมมายังนายทะเบียนฯแล้ว” แสวง บุญมี เลขาฯ กกต.บอก
ในกรณีพรรคประชาชน มีบัญชีธนาคารของพรรคเดิมอยู่แล้ว และวิธีรับบริจาค กม.ไม่ได้เขียนไว้ว่าจะต้องทำอย่างไร ถ้าข้อบังคับของพรรคให้บริจาคทางออนไลน์ได้ ก็ทำได้ เพียงแต่ต้องทำให้ถูกต้องตามระเบียบ กม.ด้วย เช่นออกใบเสร็จภายใน ๗ วันสำหรับการบริจาคไม่น้อยกว่า ๕ พันบาท
เรื่องเหล่านี้ ‘ช่อ’ พรรณิการ์ วานิช ไปตอบหมอวรงค์ไว้แล้วอย่างถึงขิงในรายการ ‘Story Live’ เธอว่า คุณหมอวรงค์ “ไม่ทราบเหรอคะ...นี่ก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไป ประชาชนอาจจะไม่สนใจเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเขา แต่คนที่ทำพรรคการเมืองต้องรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
...ดิฉันถามพี่น้องประชาชนว่าการตรวจสอบยิบย่อย ประเภทสาขาพรรคครบหรือไม่ ประเภทตกลงล้ำหน้า กกต.ไปรึเปล่า ตกลงเอกสารบัญชีเรียบร้อยไหมเนี่ย เป็นการตรวจสอบที่เกิดประโยชน์กับประชาชนจริงหรือไม่...
ตกลงมันเป็นการตรวจสอบเพื่ออะไร นำไปสู่อะไร และใครที่ได้ประโยชน์ในเรื่องนี้...ดิฉันคิดว่าพรรคการเมืองด้วยกัน เราอยากเห็นการส่งเสริมพรรคการเมืองด้วยกันในฐานะสถาบันที่มีความเข้มแข็ง และต่างคนต่างทำงานแข่งขันกันในเชิงนโยบาย”
ย้อนให้เสียอีกว่า “เนี่ยกำลังจะมีการเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลกเขต ๑ เขตคุณหมอวรงค์นะ ดิฉันก็คิดว่าบทบาทสำคัญของพรรคไทยภักดีนี่ ควรจะมีการไปเฟ้นหาคนที่เป็นตัวแทนอุดมการณ์แบบไทยภักดี...มาแข่งขันกันให้ประชาชนได้มีตัวเลือก”
คุณหมอแกก็ตอบเลี่ยงบาลีอีกแระ ว่าการส่งผู้สมัครจะเลือกส่งที่ไหน ไม่ส่งที่ไหนก็ได้ หลายคนร้องอ้าว ก็นี่มันเขตของหมอเองมิใช่หรือ
(https://x.com/webdevxp/status/1823311819399971172 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_4735040)