วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 17, 2566

เป็นรัฐบาลแต่ประชาธิปไตยถดถอย คุ้มเหรอ ?!?

ณัฐชัย นาคสุข
The Modernist

สถานการณ์การเมืองขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคก้าวไกล ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จำเป็นต้องส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล แต่ด้วยกับดักของระบอบอำนาจนิยมที่ฝังตัวไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 ได้วางระบบผสมพันธุ์ทางระหว่างเผด็จการและพรรคการเมืองจากการเลือกตั้งของประชาชนไว้ ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องจำยอมยืมมือพรรคของ 2 ลุง คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พรรคพลังประชารัฐ ที่นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพื่อจะได้สามารถดึงเสียงสนับสนุนจาก สว. ให้มาโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เพื่อไทยให้ถึงฝั่งฝันสู่ประตูทำเนียบรัฐบาล

ถึงขนาดต้องเขี่ยพรรคก้าวไกลให้พ้นทาง อันเป็นเงื่อนไขจากฟาก สว. และพรรคร่วมรัฐบาลของฝ่ายอำนาจนิยมเก่า อ้างเรื่องการไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกลได้ รวมถึงติดเงื่อนไขที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายแก้ไขกฎหมายมาตรา112 ไปให้สุดด้วยการฉีก MOU ของพรรคร่วมประชาธิปไตยที่มีเสียงถึง 312 เสียงเพื่อให้พรรค พท.ได้มีโอกาสข้ามขั้วไปจับมือกับฝ่ายเผด็จการอำนาจนิยมอย่างสบายใจ นี่จึงเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองไทย ณ ขณะนี้ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่บนเกมกระดานที่พรรคเพื่อไทยกำลังเป็นตัวนำ โดยมีเป้าหมายสู่ทำเนียบรัฐบาลโดยไม่สนวิธีการหรืออุดมการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

เกมที่ชนะแต่เสียเปรียบ

เกมการเมืองที่เพื่อไทยเหมือนว่ากำลังจะได้เปรียบทางการเมือง เพราะสามารถก้าวข้ามพรรคการเมืองอันดับ 1 อย่างพรรรคก้าวไกล ที่มีคะแนนเสียง151 เสียง และเดินหน้าหาเสียงจากพรรคอื่นๆ ทั้งฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายอำนาจนิยม สู่สูตรสลายขั้วก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่สนภูมิหลังพรรคการเมือง อุดมการณ์ของพรรคการเมือง เพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลเต็มรูปแบบ

แต่อาการที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าทักษิณ ชินวัตร เลื่อนกลับบ้าน สภาเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรีแบบไม่มีกำหนด ล้วนส่อนัยถึงการดีลที่ไม่ลงตัวของพรรคเพื่อไทยยามไม่มีก้าวไกล จากที่เคยเสียงดัง ต่อรองได้ ก็เริ่มเสียงแผ่ว ถูกบีบครั้งมโหฬารเรื่องเก้าอี้คณะรัฐมนตรีที่ต้องแบ่งโควตาให้ลงตัวเสียก่อนโหวตนายกรัฐมนตรี มิฉะนั้นยากที่จะการันตีส่งเศรษฐาถึงฝั่งฝัน โดยเฉพาะเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เป็นกระทรวงที่เนื้อหอมสุดๆ ที่มีถึง 3 พรรคต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐรวมถึงเพื่อไทยเอง หรือจะเป็นเก้าอี้กระทรวงทรัพยากรธรรมมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้ากระทรวงเดิมอย่างชาติไทยพัฒนา บ้านใหญ่สุพรรณบุรี ต้องการเก็บโควตานี้ไว้ ขณะที่ พลังประชารัฐก็ต้องการเช่นกัน เรียกได้ว่าตอนนี้ยังอยู่ในสถานการณ์ไม่นิ่ง รีบโหวตไปเศรษฐาอาจจะตกม้าตายกลางสภาก็เป็นได้

ข้ามมาที่ สว.ก็ส่งสัญญาณตีปี๊บดังๆ ออกมาว่าจะไม่สนับสนุนเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี หากเพื่อไทยไม่ดึงพรรคลุง พรรคใดพรรคหนึ่งเข้าร่วมรัฐบาล เรียกได้ว่าหน้าฉากเดินหน้าอย่างสวยๆ บนพรมแดง แต่หลังฉากเรียกว่าเดินมาแบบหน้าเขียวโซเซ ถูกต่อรองแบบขูดเลือดขูดเนื้อ เผลอๆ อาจต้องเสียเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ ไป แถมหากเป็นรัฐบาลได้ต้องคอยระวังช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งจากฝ่ายค้านคุณภาพ และจากพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง การผ่านงบประมาณก็ต้องเคาะให้ลงตัว ดูเพื่อนร่วมทางว่าจะตีปี๊บดังหรือเปล่า รวมถึงการเสนอกฎหมายญัตติต่างๆ ที่ในอนาคตต้องถูกต่อรองจากพรรคร่วม หากพวกไม่เอาด้วยอาจต้องตกม้าตายเช่นกัน

นี่จึงเป็นปรากฏการณ์ที่เพื่อไทยดูเหมือนจะชนะเกมการเมืองแต่กำลังเสียเปรียบตลอดเวลา ทั้งในขณะนี้และในอนาคต

เป็นรัฐบาลแต่ประชาธิปไตยถดถอย

“กรุงโรมไม่ได้สร้างภายในวันเดียวฉันใด ประชาธิปไตยก็ไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียวฉันนั้น และเมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทย ประชาธิปไตยถูกทำให้ถดถอย แช่แข็งจนไม่พัฒนา”

ข้อความข้างต้นคือสภาวะของประชาธิปไตยไทย ที่เสมือนลูกผีลูกคน เพราะถูกบ่อนทำลายจากผู้มีอำนาจมาโดยตลอด ทั้งการรัฐประหาร การใช้องค์กรอิสระทำลายพรรคการเมือง รวมถึงการกดให้ประชาชนแสดงออกได้อย่างยากลำบาก วิธีการต่อไปที่เข้าทางพวกเขา คือการให้โอกาสพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยอ้างการเดินหน้าต่อ ประเทศรอไม่ได้เพราะเศรษฐกิจกำลังแย่ แต่วิธีการที่กำลังทำนั้น กำลังนำไปสู่ประชาธิปไตยที่ถดถอย ตั้งแต่การจับมือกับพรรคทหารจำแลงอำนาจนิยมเดิมๆ อย่างพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ที่ทำร้ายประชาชนมาเกือบ 9 ปี พยายามทำให้ประชาชนขาดความรู้ ขาดกำลังทรัพย์ ทำให้ไม่สามารถต้านทานอำนาจรัฐบาลอำนาจนิยมได้ หรือจะเรื่องการอ่อนข้อให้กับ สว. มรดกบาปของเผด็จการจนสลัดก้าวไกลออกไป โดยไม่เคารพเสียงของประชาชนหลายล้านเสียง เพียงเพื่อเอาใจกลุ่มคน 250 คนเท่านั้น

เกมนี้จึงเป็นเสมือนเกมที่เดินเข้าสู่ทางที่เผด็จการลอกคราบตีเนียนในระบอบประชาธิปไตยได้กำหนดไว้ เพราะพวกเขาจะเข้าไปในกลไกประชาธิปไตยไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา ฝ่ายบริหาร องค์กรอิสระ โดยการดึงพรรคฝ่ายประชาธิปไตยมาเป็นนั่งร้านทำให้ฝ่ายตนสามารถต่อรองและคงอำนาจไว้ตลอดกาลได้สำเร็จ

นี่คือภาพสถานการณ์อันเลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้นและเป็นไปตามที่ผู้มีอำนาจวางหมากไว้ และพร้อมจะทำทุกวิถีทาง ให้สามารถคงอำนาจควบคุมหมากบนกระดานได้ทั้งหมด พร้อมกับการบ่อนทำลายประชาธิปไตยที่อำนาจสูงสุดคือของประชาชน ให้ถดถอยลงไป การเมือง ณ ขณะนี้จึงถูกพวกเขาควบคุมไว้ทั้งหมด และกำหนดได้อย่างใจนึก เป็นภาวการณ์ที่เล่นการเมืองไป ประชาธิปไตยถดถอยไป ศีลธรรมทางการเมืองกำลังขาดสะบั้นลง เพราะนักการเมืองบางกลุ่มบางคนกำลังเอาใจเจ้านายผิดคนที่ไม่ใช่ประชาชนนั่นเอง
.....

Fah Borkan
19h
·
ภารกิจลับ “พานายกลับบ้าน”
ไม่น่าเชื่อว่า
คนที่ถูกตราหน้า”คนหนักแผ่นดิน”มาก่อน
มันจะกล่าวอ้าง ว่าใครก็ตามผ่านการเลือกตั้งมา
เขาก็ล้วนเป็นประชาธิปไตยมาทั้งสิ้น …
นับวันทองเริ่มหลุดลอก ให้เห็นจะจะว่า
มันล้วนไม่ได้มี”ประชาชน”อยู่ในหัวใจมันจริงๆดอก
มันล้วนมอง”ประชาชน”เป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น
มันไม่ได้มองเห็นเลือดเนื้อ จิตใจ ความรู้สึกอันใดเลย
จากคำสำรากที่ว่า …
“เพราะไม่เลือกมันมาให้แลนด์สไลด์
มันจึงต้องเสียสละทำชั่วลงไปคบคนชั่วไง”
“คนหนักแผ่นดิน”ในอดีตคนหนึ่ง
นาม ภูมิธรรม เวชยชัย มันเขียนกระทั่งว่า …
”ทารกที่คลอดจากครรภ์มารดา
ล้วนผ่านความเจ็บปวดฉันใด
การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งใหม่ที่ดีขึ้น
ย่อมต้องผ่านความเจ็บปวดฉันนั้น”
โอ !พระเจ้าช่วย กล้วยทอด โคตรตอแหลมาก
นึกถึง”จากครรโภทรสู่เชิงตะกอน”เลยกู อึ้งกิมกี่แระ
อ้ายไอ้อ้วน ไตเทียม กะทีมแป้งเด็กแคร์ของมัน
ที่นัยว่าจะเป็น ติ้งแท้งชวนคนรุ่นใหม่มาช่วยชาติ
สุดท้ายจริงๆ ภารกิจคือ “มันจะพานายกลับบ้าน”
นาทีนี้ ถ้าใครคิดว่าพรรคเพื่อไทย
เป็นพรรคประชาธิปไตย ที่มีหัวใจคือประชาชน
ขอบอกว่า คุณคิดผิดคิดใหม่ได้
ทักษิณ มันใช้เหยื่อล่อประชาชนมาเข้ากับดัก
ทักษิณ มองประชาชนเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น
เหมือนที่ มอง สส.เป็นเพียง หุ้นตัวหนึ่งในเกมอำนาจ
วันนี้ มันบอกการตั้งรัฐบาลคือ ตัวเลข ไง
มันไม่บอกว่า รัฐบาลคือ ธรรมาภิบาล
มันจึงมีเสียง ต้องกำหนดตำแหน่ง รมต.ก่อนโหวต
มันไม่เคยฟังเสียงก้าวไกลว่า ให้ยืนหยัดในธรรม
ไอ้อ้วน ไตเทียม มันนึกว่าคนกินหญ้า
คนดูไม่ออกว่า จาก”สู้เพื่อนาย”มา “ตายเพื่อนาย”
จนมา “มันจบแล้วนาย”แล้วก็ “ลืมเรื่องเก่านะนาย”
สุดท้าย…”พานายกลับบ้าน” ก็แค่นั้นเอง
การเมืองเรื่องส้นตีนของ แป้งเด็กแคร์
ดัดจริตใช้คำหรูสารพัด แบบเดนคนเดือนตุลาเก่า
พูดเอาดีใส่ตัว ชั่วใส่ก้าวไกล ซะงั้น
ก็ดูแค่โลโก “อุ๊งอิ๊ง” หมายังหอนทั้งซอย
คิดดู …
ฟ้า บ่กั้น
.....