“คนเสื้อแดงไม่ใช่ควายแดง แต่เป็นคนที่ฉลาดที่สุดในบ้านเมืองนี้ ตาสว่างก่อนพวกหนู” วรรณวลี ธรรมสัตยา ขยายความ “ภาพที่คนเสื้อแดงเอายางมาวางเพื่อให้เกิดควัน ไม่ได้เพื่อเผาห้าง แต่เพื่อให้กระสุนยิงมาไม่โดน
นี่คือความจริงที่สื่อหลักไม่เคยเผยแพร่ และทุกวันนี้ ทุกคดียกฟ้อง เพราะมีพยานหลักฐานไม่เพียงพอ” ผู้ปราศรัยคนต่อไปคือ ‘ลูกนัท’ ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย พูดถึงวันที่ตนเอง ‘อัปยศ’ เพราะโพสต์เฟชบุ๊คเยอะเย้ย ‘เสื้อแดง’ ว่าพ่ายแพ้
แต่กลับได้รับคำตอบกลับว่า “ถึงวันนี้จะพ่ายแพ้ แต่เราไม่ยอมแพ้” ประชาไท รายงาน “เขาเชื่อว่าหลายคนที่เคยเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร กปปส. และเชียร์พลังประชาธิปัตย์ เลิกรักแล้ว เลิกโง่แล้ว แต่ต้องรอให้ความชิบหายเกิดขึ้นกับตัวเองถึงจะเลิกโง่ได้”
จากนั้นเมื่อเกือบจะถึงทุ่มตรง มีกิจกรรมเผาโลงศพสีแดง “ติดภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” ก่อนจะประกาศยุติการชุมนุม กิจกรรมวันนี้สะท้อนความต่อเนื่อง เชื่อมโยงการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ความเสมอภาค และประชาธิปไตย
ทั้งที่พ่อแม่เป็นเสื้อแดง ก็ไม่เคยพาเธอไปร่วมชุมนุม ครั้นเมื่อโตขึ้นเธอได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มราษฎร ๖๓ เธอระบายความรู้สึกต่อเหตุการณ์ที่แยกปทุมวัน ๑๖ ตุลา ๖๓ “วันนั้นหนูก็อยู่ในเหตุการณ์ มีปาแก๊สน้ำตา หนูก็ร้องไห้อยากกลับบ้าน เพราะว่าไม่คิดว่ามันจะแรง”
เปรียบเทียบกับการสลายชุมนุม ‘เมษา ๕๓’ แล้วเธอเห็นว่ามันเหมือนกัน “เพราะว่าไม่มีใครสมควรถูกฆ่าแบบนี้ บอกว่าเป็นเมืองพุทธแต่ฆ่าเขาแบบไม่ปราณีเลย ไม่โอเค” และ “เขาก็ควรจะต้องรับฟังด้วย ไม่ใช่ใครออกมาชุมนุมก็จะปิดปากเขา ไม่ให้เขามาชุมนุม
เพราะเราเป็นประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิพูดแต่เขาทำเหมือนคนไทยห้ามพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้”
(https://www.facebook.com/Prachatai/posts/10158967759281699, https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10166483909480551 และ https://prachatai.com/journal/2022/04/98098)
