อ๊ะ หมู่นี้ ‘น.ส.’ รองโฆษกพรรคการเมืองชักจะ
‘ฮ้อต’ กันใหญ่ สองวันก่อนนั่นของพรรคเพื่อชาติ
วานนี้ถึงทีพรรค ’ธิปัตย์ บ้าง เมื่อนางสาวศิริภา
อินทรวิเชียร ออกมาแถลง “ว่ารัฐบาลควรเปิดให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้งของประเทศไทย”
เธอให้เหตุผลเข้าท่าเหมือนกัน “ขนาดประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา
ยังเปิดโอกาสให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์
และไม่มีประเทศไหนที่เขาเป็นประชาธิปไตยแล้วมาสกัดกั้นให้การสังเกตการณ์ขององค์กรต่างชาติ”
รองโฆษก ปชป. ฝ่ายต่างประเทศ ให้ข้อแม้ “เว้นเสียแต่ประเทศซีเรียและลิเบีย
ที่สถานการณ์เฉพาะ...เท่านั้น” ก็คงหมายถึงมิคสัญญีนั่นแหละ เพราะฉะนั้น “การที่รัฐบาลไม่ต้องการให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์”
เธอว่า
“มีอะไรซ่อนไว้ใต้พรมหรือไม่ ถึงไม่อยากให้ต่างชาติเข้ามา
ดังนั้นถ้ารัฐบาลบริสุทธิ์ใจก็ควรเปิดกว้างให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง
เพื่อจะทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรมและเป็นการยอมรับในเวทีโลก”
พูดอย่างนี้อีตาดอน ปรมัตถ์ฯ โดนเด็ก ‘ตบหน้า’ ฉาดเบ้อเริ่ม ที่แกพยายามบ่ายเบี่ยงแทนเจ้านาย
คสช. บอกว่าเสียศักดิ์ศรีอย่างโน้นอย่างนี้
ทั้งที่รู้ศักดิ์ศรีของชาติมันต่างกับศักดิ์ศรี คสช. ยังกับหน้ามือหลังทีน
วันนี้ (๑๘ ธันวา) ยังมีหน้ามาทำเป็น ‘ลุงฉุน’ ของขึ้นอีกแน่ะ บอกนี่เป็นเรื่องของ กกต.
ไม่ใช่หน้าที่กระทรวงต่างประเทศเสียหน่อย ก็แล้วถ้างั้นไหง ‘เผือก’ ไปพูดแทนเขาเป็นวักเป็นเวรล่ะทั่น อ้าง “มีประสบการณ์มาพอสมควร เชื่อว่าดูแลบ้านเมืองของเราเองได้”
เอาคำของเจ้านายมาย้ำ หลังจากที่ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เองก็ปัดสวะไปให้ กกต. เหมือนกัน “เราต้องแก้ปัญหาของเราเองให้ได้
แสดงความเชื่อมั่นให้กับเขา” อ้างอีกว่าต้องให้ประชาชนคนไทยเข้ามามีส่วนร่วม เชอะ
กะอีแค่เด็กชวนกันไปราชภักดิ์ครบรอบ ๓ ปี
กรณีทุจริตก่อสร้างเงียบจ้อย
หลังจากที่มีข้าราชบริพารตายปริศนากันหลายรายทั้งนอกคุกในคุกนั้นน่ะ
ยังโดนตำรวจ-ทหาร ดักแล้วดักอีก เรียกตรวจสามสี่ครั้งตลอดทาง
มีอย่างที่ไหนตรวจฉี่คนขับไม่พอ จะให้เอาใบอนุญาตตัวจริงไปแสดง ภาพถ่ายไม่เอา
กลับมาที่ตาดอน แกอวดรู้ “การที่ประเทศอื่นให้ต่างชาติเข้าไปสังเกตการณ์การเลือกตั้ง
เพราะประเทศนั้นมีปัญหา” เอ้า นี่ไง
เขาถึงได้เรียกร้องกันให้เอาองค์การนานาชาติมาช่วยดู อียูก็สนใจ
นิรโทษกรรมสากลก็ได้ สหประชาชาติยิ่งไม่เกี่ยง
อย่างที่ จาตุรนต์ ฉายแสง ของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า “ทำไมหลายๆ
ประเทศเขาเลือกตั้งกันไปโดยไม่มีใครเข้าไปสังเกตการณ์
ก็เพราะการเลือกตั้งของเขาโปร่งใส สุจริต ไม่มีข้อสงสัย ประเทศเหล่านั้นเขาเป็นประชาธิปไตยเต็มขั้น
แต่ของเราเป็นประเทศที่ปกครองโดยรัฐบาลทหารเพียง ๒
ประเทศในโลก การเลือกตั้งก็ส่อเค้าว่าจะไม่เสรี เป็นธรรม จึงต่างกันมาก”
ถึงอย่างนั้นก็มีแล้วละ เครือข่ายสังเกตุการณ์เลือกตั้ง #wewatch ของกลุ่มนักศึกษาและเยาวชนทั่วประเทศ
เปิดตัวกันเมื่อสามวันก่อนที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ มีอภิปรายให้รายละเอียดวิธีการ ‘โกง’ เลือกตั้ง ที่มองเห็นเค้าอึมครึมมาแล้ว
ประจักษ์ ก้องกีรติ จากคณะรัฐศาสตร์ มธ.
หนึ่งในผู้ร่วมอภิปรายชี้ว่า การจะโกงเลือกตั้งครั้งนี้จะมาแบบเนียนมากๆ อย่างเช่นการแบ่งเขตอย่าง
‘พิสดาร’ กับการที่ คสช. ยังกุมกฎหมายวิเศษ ม.๔๔ จนกว่าจะมี
ครม.ชุดใหม่ แค่นี้ก็ทำให้นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามเสียวสันหลังกันแล้ว
ผู้อภิปรายอีกราย สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์รัฐศาสตร์
จุฬาฯ บอกว่า คสช. ขุดหลุมพลางไว้เยอะแยะ เช่น ล็อคตัวนักการเมือง
ด้วยการส่งทหารไปเยี่ยมเยือน มีการแขวนนักการเมืองบางท้องที่
จนเกิดมีการย้ายไปเข้าพรรค พปชร. ของกลุ่มรัฐมนตรีในรัฐบาลบิ๊กตู่กันฝูงใหญ่
เห็นหรือยังล่ะตาดอน ว่าปัญหามันมี “รัฐบาลกลายมาเป็นผู้เล่นไม่ใช่กรรมการ”
อย่างที่ อจ.สิริพรรณว่า ไหนจะระหว่างรอผลนับคะแนนที่ “ไม่เร็วกว่า ๑ สัปดาห์ ระหว่างนั้นยังมีการสอยใบแดง
ใบเหลือง ใบส้ม และใบดำ ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์สูง”
ท้ายที่สุดปรากฏเป็นแถลงการณ์ข้อเรียกร้อง ๑๐ อย่าง รวมทั้ง
“ให้รัฐบาล และคสช. หยุดการแทรกแซงการเลือกตั้ง
เพื่อทำให้การเลือกตั้งปราศจากข้อครหา
และหลีกเลี่ยงหนทางแห่งความรุนแรงระลอกใหม่
ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาหลังการเลือกตั้ง” ด้วย