ที่มา FB
Bow Nuttaa Mahattana
...
...
...
จบหน้าที่พลเมืองผู้แจ้งความ ตอนนี้ทุกคนแยกย้ายกลับบ้านแล้วค่ะ โบว์ค่อนข้างตกใจที่ได้รู้ว่ากล้องวงจรปิดทั้งหมด11ตัว ถูกถอดออกไปจากบริเวณลานพระรูปทรงม้าตั้งแต่ 31 มี.ค. ตอนนี้จึงกำลังเดินทางคนเดียวไปที่ลานพระรูป เพื่อสักการะขออำนาจบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อำนวยพรให้ความจริงปรากฏ ให้ผู้มีอำนาจทั้งหลายซื่อตรงต่อหน้าที่และมีความสัตย์ซื่อต่อหลักการ ให้กระบวนการยุติธรรมได้ทำหน้าที่ของมันอย่างไม่บิดพลิ้ว เพื่อให้คนในสังคมได้วางใจว่าเราจะอยู่ร่วมกันภายใต้กติกาที่เป็นธรรมอันเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความปรองดอง
...
...
อย่าเสียใจไปที่กล้องวงจรปิดทั้ง 11 ตัวถูกถอดออกในวันที่ 31 มี.ค.ก่อนหมุดคณะราษฎร(ชื่อทางการ: หมุดก่อกำเนิดรัฐธรรมนูญ)หายไปไม่กี่วัน เมื่อดูจากตำแหน่งหมุดฯ งานนี้ถึงไม่มีพยานวัตถุก็มีพยานบุคคลแน่นอนค่ะ เพราะหมุดติดตั้งอยู่หน้าสำนักพระราชวังพอดี (จุดที่ช่างภาพยืนถ่ายรูปนี้คือประตูทางเข้าสำนักพระราชวัง) ซึ่งมีทหารเฝ้าเวรยามแน่นหนาตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่ทหารทุกนายที่เข้าเวรในตำแหน่งนี้ระหว่างวันที่ 2-8 เมษายนทั้งกลางวันและกลางคืน เราก็จะได้ทราบว่าใครคือผู้ทำลายโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ ซึ่งเป็นสมบัติของชาติ
ส่วนถ้าเจ้าหน้าที่ทหารที่เฝ้าเวรยามทุกคนยืนยันว่าไม่รู้ไม่เห็นอีก ก็สุดแต่จินตนาการของทุกคนแล้วค่ะ ผ้าคลุมล่องหนแบบในนิทานอาจมีจริง
#ทวงคืนหมุดคณะราษฎร
ภาพ: โบว์ยืนสักการะพระรูปฯ ขณะแชมป์ก้มดูหมุดปลอม โดย Autchara Thongsawat
ooo
กลุ่มประชาธิปไตยใหม่แจ้งจับ หัวขโมยหมุดคณะราษฎร
ที่มา เดลินิวส์
19 เมษายน 2560
"แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่" โร่เข้าแจ้งความตำรวจ สน.ดุสิต เอาผิดคนขโมย "หมุดคณะราษฎร" ฐานเบียดบังเอาโบราณวัตถุเป็นของตนเอง และลักทรัพย์ ภายหลังตำรวจพาไปตรวจกล้องวงจรปิด
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. น.ส.ณัฎฐา มหัทธนา และ นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ 2 แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชวะฤทธิ์ จันทร์เกิ้น รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ดุสิต เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ กรณีหมุดคณะราษฎรสูญหายไปจากตำแหน่งติดตั้งเดิม โดยมี พล.ต.ต.วัชรพงศ์ ดำรงศรี ผบก.น.1 พล.ต.ต.อิทธิพล อัฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมาผกก.4 บก.สส.บช.น. ร่วมสังเกตุการณ์ ทั้งนี้เพื่อนๆ ร่วมแกนนำโดย นายธัชพงษ์ แกดำ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว และ นายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ มาร่วมเป็นกำลังใจ โดย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตามข่าวที่ปรากฏว่า มีผู้ไม่หวังดีนำหมุดคณะราษฏรที่ฝั่งอยู่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าออกไป และมีการนำหมุดใหม่ที่ทำเลียนแบบด้วยถ้อยคำใหม่มาติดตั้งแทนนั้น ตนขอเข้าแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ด้วยข้อหากล่าวโทษ คือ การกระทำความผิดฐานเบียดบังเอาโบราณวัตถุเป็นของตน ด้วยหมุดของคณะราษฎร์ถือเป็น"โบราณวัตถุ"ตามมาตรา 4 ใน พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ หมายความว่าสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของโบราณไม่ว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์หรือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือที่เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของโบราณสถาน ซากมนุษย์หรือซากสัตว์ ซึ่งโดยอายุหรือโดยลักษณะแห่งการประดิษฐ์หรือโดยหลักฐานเกี่ยวกับประวัติของสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นประโยชน์ในทางศิลป ประวัติศาสตร์หรือโบราณคดี ผู้ที่ลักไปจึงมีความผิดตามมาตรา 31 ที่ระบุว่า"ผู้ใดเก็บได้ซึ่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ซ่อนหรือฝังหรือทอดทิ้งโดยพฤติการณ์ซึ่งไม่มีผู้ใดสามารถอ้างว่าเป็นเจ้าของได้และเบียดบังเอาโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุนั้นเป็นของตนหรือของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินเจ็ดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังได้แจ้งให้ทางตำรวจดำเนินคดีในข้อหา การกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ที่ใช้ หรือมีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ด้วยหมุดของคณะราษฎรอันเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของการอภิวัฒน์สยาม เมื่อ 24 มิถุนายน 2475 ถือเป็นทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 335 (10) ประมวลกฎหมายอาญา ความผิดทั้งสองเป็นอาญาแผ่นดิน อีกทั้งเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจและได้รับความสนใจจากประชาชนในวงกว้าง จึงขอแจ้งความกล่าวโทษ ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยด่วน และให้นำหมุดของปลอมมารักษาไว้ เพื่อเป็นของกลางประกอบการดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจาก 2 แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่แถลงต่อสื่อเสร็จแล้ว ทาง พ.ต.อ.อรรถวิทย์ ได้พาทั้งสองเดินทางขึ้นรถยนต์ตู้ของ สน.ดุสิต ไปยังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อเขียนคำร้องขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดต่อไป
6 องค์กรสิทธิฯ ร่อน จม.เปิดผนึก จี้นายกฯ ดำเนินคดีและนำ 'หมุดคณะราษฎร' กลับมา https://t.co/KjgSQjOYAt— prachatai (@prachatai) April 19, 2017