
BrandThink
12 hours ago
·
BrandThink Quote: วันที่ 6 มีนาคม 2568 ในการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ครั้งที่ 21 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ณรงเดช อุฬารกุลได้ตั้งกระทู้ถามสดต่อพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำอยู่ ณ ขณะนี้
.
ณรงเดชระบุว่าตนสงสัยมาตลอดว่ารัฐบาลมีความจริงจังและจริงใจหรือไม่ต่อการแก้ไขปัญหาให้ชาวนามากน้อยเพียงใด เพราะเดิมทีการตั้งประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) จะตั้งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่รัฐบาลนี้กลับตั้งพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ตนจึงมีความสงสัยว่านายกฯ มีความสนใจในปัญหาของชาวนาหรือไม่
.
เมื่อไร้ผู้นำ เราจึงเห็นนโยบายการบริหารจัดการข้าวแบบทำใครทำมัน เช่น การปราศจากการวางแผนติดตามสถานการณ์เมื่อราคาข้าวตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความย้อนแย้งในการแจ้งเกษตรกรในการทำนาปรังของแต่ละหน่วยงาน หรือความสับสนต่อมาตรการในการช่วยเหลือชาวนาที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนทำให้ถึงวันนี้ยังไม่มีมาตรการใดเข้าสู่ที่ประชุม ครม.
.
ตนจึงอยากถามพิชัยในฐานะรองประธาน นบข. ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการในการช่วยเหลือชาวนาที่ทำนาปรังในฤดูกาลผลิต 2567/68 อย่างไร ความช่วยเหลือจะถึงพี่น้องชาวนาเมื่อไหร่ จะใช้เงินเท่าไหร่ จะช่วยเหลือใครบ้าง มั่นใจได้อย่างไรว่าเงินช่วยเหลือจะถึงมือชาวนา ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน
.
พิชัยชี้แจงในคำถามดังกล่าวว่าตนมีความห่วงใยชาวนาไม่ต่างจากณรงเดช และมีความกังวลตลอดเวลา หากได้ตามกระทรวงพาณิชย์มาตั้งแต่ปลายปี 2567 ก็ได้กล่าวมานานแล้วว่าราคานาปรังจะไม่ดี เนื่องจากอินเดียเริ่มส่งออกข้าวเอง หลังจากไม่ได้ส่งออกมา 2-3 ปี และตนได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาโดยตลอด แม้จะอยู่คนละพรรคถึงเรื่องราคาข้าว เรื่องความเดือดร้อนของชาวนา ซึ่งตนย้ำมาตลอดว่าความทุกข์ของชาวนาคือความทุกข์ของแผ่นดิน และคิดมาตลอดถึงการจะช่วยชาวนาในระยะสั้นและระยะยาว
.
ส่วนเรื่องนาปรัง แต่เดิมก็ไม่เงินให้เงินสนับสนุน แต่เมื่อเราเห็นว่าราคาตกไปเยอะ เราก็ออกมาตรการออกมา รวมถึงพิจารณามาตรการที่ข้าราชการเสนอขึ้นมา และแนวคิดที่ทางชาวนาเป็นผู้เสนอ โดยการแก้ไขในระยะสั้น ทาง นบข. จะมีมาตรการในการช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ตามที่ชาวนากลุ่มหนึ่งเสนอ โดยจะใช้งบที่เหลือจากการช่วยเหลือข้าวนาปีมาช่วย พร้อมย้ำว่าทางกระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย
.
ส่วนในระยะกลางและระยะยาว ได้มีการประชุม นบข. ถึงวิธีการที่จะทำให้ชาวนามีรายได้ที่สูง ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น เมล็ดพันธุ์ใดที่สามารถให้ผลทอบแทนที่มากขึ้น การดูในภาพรวมว่าควรปลูกอะไรโดยเอา ‘การตลาดนำการผลิต’
.
ณรงเดชระบุต่อว่าตนเห็นด้วยกับ ‘การตลาดนำการผลิต’ แต่ปัจจุบันตลาดนั้นก็มีปัญหา เนื่องจากไม่มีผู้ซื้อ เช่นอินโดนีเซียที่เคยคิดว่าจะนำเข้าข้าวถึง 4 ล้านตันก็ประกาศว่าจะเลิกนำเข้าหรือนำเข้าเพียง 1 ล้านต้นเท่านั้น ทำให้ข้าวล้นตลาด โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรก็คาดการณ์เอาไว้แล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ว่าข้าวนาปรังมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ในขณะที่สามารถส่งออกข้าวเปลือกได้น้อยลง เท่ากับว่าปีนี้ต้องหาตลาดให้ข้าวเปลือกจำนวน 2.2 ล้านตัน หากทางกระทรวงฯ ติดตามก็น่าจะทราบ
.
ตนจึงถามว่าในเมื่อกระทรวงพาณิชย์ทราบแล้วว่าจะมีสถานการณ์ข้าวล้นตลาด กระทรวงพาณิชย์ได้มีแผนการอย่างไรในการบริหารจัดการข้าวเปลือก 2.2 ล้านตัน ที่ยังไม่มีที่ไปในปีนี้ แล้วที่มีการแถลงผลักดันการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกับจีน อยากทราบว่าจะขายข้าวชนิดไหน ราคาเท่าไหร่ ข้อตกลงนี้มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นฝีมือของท่านหรือไม่ การส่งออกข้าวไปแอฟริกาใต้มูลค่าราว 5,250 ล้านบาท มีความคืบหน้าไปถึงไหน จะสามารถดำเนินการได้เมื่อไหร่ มูลค่าต่อตันเท่าไหร่
.
พิชัยชี้แจงว่า ตนกับณรงเดชเห็นตัวเลขที่เหมือนกัน แต่ถ้าตามข่าวจะพบว่าตนได้มีการติดต่อขายข้าวล่วงหน้าไปก่อนแล้วตั้งแต่ในช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม 2567 เพราะรู้ว่าจะมีปัญหา โดยเรียกทูตจีนมาพบขอให้ซื้อ 280,000 ตัน ซึ่งทางทูตจีนก็รับปากว่าจะดำเนินการซื้อ ส่วนแอฟริกาก็ได้มีการติดต่อเช่นเดียวกัน โดยมีกำหนดการจะต้องไปแอฟริกาเซ็นสัญญาซื้อขายข้าวปลายเดือนนี้จำนวน 370,000 ตัน ยืนยันว่าขายได้แน่ โดยได้รับการยืนยันจากกรมการค้าระหว่างประเทศยืนยัน และขายได้อีกเรื่อยๆ ส่วนตลาดอื่นๆ ก็พยายามหาเพิ่มเติม โดยเรียกทูตพาณิชย์ทั้งหมดเพื่อหาช่องทางในการเร่งขายข้าว
.
พิชัยยังระบุอีกว่าตนพบว่าข้าวหอมมะลิก็ยังขายได้ดี ราคาไม่ตก สหรัฐฯ ซื้อเยอะ ส่วนราคาข้าวขาว เป็นปัญหาต้องแก้ไขเร่งแก้ไขในการระบายข้าว
.
ณรงเดชถามครั้งสุดท้ายว่า ขณะนี้มีเพียงมาตรการเดียวคือการจ่ายชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ใช่หรือไม่ ซึ่งผ่านมติ นบข. แต่ยังไม่ได้มีการเอาเข้าที่ประชุม ครม. และไม่รู้ว่าจะเอาเข้าเมื่อไหร่ใช่หรือไม่
.
ตนมองว่าปีนี้ชาวนาในฐานะผู้ผลิต ต้องชื่นชมว่าทำหน้าที่ได้ดี เพราะเนื่องจากผลผลิตมากขึ้น ผลผลิตต่อไร่ก็สูงขึ้น ก็ควรจะมีรายได้สูงขึ้น แล้วรัฐบาลได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้วหรือยัง ทำงานกับกระทรวงเกษตรฯ ได้หรือไม่ ตอนแถลงบอกว่าตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ วันนี้เกี่ยวข้าวแล้ว ตลาดอยู่ที่ไหน
.
และตนอยากทราบว่า สิ้นเดือนนี้ชาวนาต้องจ่ายหนี้ ธกส. หากขายข้าวแล้วไม่เหลือเงินชำระหนี้ ปัญหาข้าวก็จะลุกลามเป็นปัญหาหนี้สินพอกพูน แม้จะมีโครงการพักชำระหนี้ แต่ก็มีเพดานที่ต่ำ ทำให้ชาวนาจำนวนมากตกชำระหนี้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ จึงอยากถามว่าได้เตรียมมาตรการเรื่องหนี้สินเอาไว้หรือไม่ หากสถานการณ์ราคาข้าวไม่ดีขึ้น
.
พิชัยชี้แจงว่าเรื่องมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทได้สรุปเรียบร้อยแล้ว กำลังทำรายละเอียดส่งเข้าที่ประชุม ครม. น่าเข้าได้ภายในสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์โน้น เพราะจะต้องเวียนขอความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ก่อน
.
ส่วนเรื่องการหาตลาด พิชัยระบุว่าจีนเองก็มีสัญญาณที่ดี แอฟริกาก็กำลังจะมีการขยายการรับซื้อต่อ และเชื่อว่าอินโดนีเซียก็จะกลับมาซื้อ และให้ทูตพาณิชย์เร่งการขาย รวมไปถึงมีการเร่งเจรจากับอินเดียและเวียดนามไม่ให้มีการแข่งขันมากนัก เพื่อไม่ให้ราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งอยู่ระหว่างการนัดหมายอีกครั้ง
.
ให้พาณิชย์จังหวัดช่วยดูเรื่องความชื้นให้ชัดเจน พร้อมกับร่วมมือกับ modern trade ทำข้าวถุงเพื่อดึง supply ออกสู่ตลาด และเมื่อมีข้าวนาปรังผลิตออกมาเยอะก็จะมีมาตรการในการทำการตลาดให้มากขึ้นและจะชี้แจงต่อไป
.
พิชัยระบุทิ้งท้ายว่า “เกษตรกรเป็นกลุ่มประชาชนที่สำคัญที่เราต้องดูแล ขอให้มั่นใจว่าเราอยากจะทำให้เกษตรกรมีดูแลเป็นอยู่ที่ดี ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ในระยะสั้นมีเรื่องราคาที่ไม่ดีก็แก้ไข”
.
“ในระยะยาว โจทย์ทำอย่างไรให้เขามีรายได้มากขึ้น
อย่างพาณิชย์เอง เราก็พยายามจะหาพืชอื่น เพื่อที่จะให้เขาสามารถสร้างรายได้ได้ อย่างผมไปญี่ปุ่น เราก็ได้รู้ว่าญี่ปุ่นต้องการกล้วยล้านตันต่อปี เรามี 8,000 ตัน มีโควตาส่งแค่ 2,000 ตัน จะทำอย่างไรให้เรามาเร่งชาวนาหรือเกษตรกรไทยหันมาปลูกกล้วยส่งญี่ปุ่นดีไหม
เพราะผมให้กระทรวงพาณิชย์คำนวณว่าผลตอบแทนต่อไร่ของกล้วย แสนกว่าบาทต่อไร่”
.
“เราได้มีการนำทูตพาณิชย์ญี่ปุ่นและผู้นำเข้าจากญี่ปุ่นมาทดลองปลูกในแปลงที่ จ.นครราชสีมา 150,000 ต้น เพื่อจะให้ประชาชนได้เห็นว่า เขาได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจริงๆ เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนให้เขาปลูกพืชที่มีรายได้สูงขึ้น เพื่อที่เขาจะมีรายได้อย่างยั่งยืน เป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์เราทำ”
.
“และพยายามหาผลผลิตเกษตรเหล่านี้ที่จะสร้างรายได้ให้เกษตรกรและชาวนามากขึ้น จะทำอย่างไรให้เขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” พร้อมกับยกตัวอย่างการปลูกกล้วย ที่ จ.เชียงราย ที่ทำรายได้กว่าแสนบาทต่อไร่ เพื่อดึงดูดให้เกษตรกรมาปลูกเพิ่มมากขึ้น และยืนยันว่าเป็นห่วงชาวนาตลอด ปัญหาต่างๆ จะต้องเร่งแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
.
ซึ่งณรงเดชได้ขออนุญาตกล่าวขอบคุณพิชัยที่เข้ามาตอบคำถามในสภาและฝากข้อสังเกตทิ้งท้ายว่า “แต่ผมอยากฝากท่านรัฐมนตรีแคแค่นิดเดียว เวลาท่านจะเสนอมาตรการอะไร ช่วยปรึกษากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ที่มีความชำนาญให้เยอะๆ ถ้าท่านได้พูดคุย ท่านอาจจะไม่เสนอมาตรการให้พี่น้องชาวนาปลูกกล้วย
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1207471624274505&set=a.811136580574680
·
BrandThink Quote: วันที่ 6 มีนาคม 2568 ในการประชุมของสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ครั้งที่ 21 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) ณรงเดช อุฬารกุลได้ตั้งกระทู้ถามสดต่อพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำอยู่ ณ ขณะนี้
.
ณรงเดชระบุว่าตนสงสัยมาตลอดว่ารัฐบาลมีความจริงจังและจริงใจหรือไม่ต่อการแก้ไขปัญหาให้ชาวนามากน้อยเพียงใด เพราะเดิมทีการตั้งประธานคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) จะตั้งนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่รัฐบาลนี้กลับตั้งพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ตนจึงมีความสงสัยว่านายกฯ มีความสนใจในปัญหาของชาวนาหรือไม่
.
เมื่อไร้ผู้นำ เราจึงเห็นนโยบายการบริหารจัดการข้าวแบบทำใครทำมัน เช่น การปราศจากการวางแผนติดตามสถานการณ์เมื่อราคาข้าวตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความย้อนแย้งในการแจ้งเกษตรกรในการทำนาปรังของแต่ละหน่วยงาน หรือความสับสนต่อมาตรการในการช่วยเหลือชาวนาที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนทำให้ถึงวันนี้ยังไม่มีมาตรการใดเข้าสู่ที่ประชุม ครม.
.
ตนจึงอยากถามพิชัยในฐานะรองประธาน นบข. ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการในการช่วยเหลือชาวนาที่ทำนาปรังในฤดูกาลผลิต 2567/68 อย่างไร ความช่วยเหลือจะถึงพี่น้องชาวนาเมื่อไหร่ จะใช้เงินเท่าไหร่ จะช่วยเหลือใครบ้าง มั่นใจได้อย่างไรว่าเงินช่วยเหลือจะถึงมือชาวนา ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน
.
พิชัยชี้แจงในคำถามดังกล่าวว่าตนมีความห่วงใยชาวนาไม่ต่างจากณรงเดช และมีความกังวลตลอดเวลา หากได้ตามกระทรวงพาณิชย์มาตั้งแต่ปลายปี 2567 ก็ได้กล่าวมานานแล้วว่าราคานาปรังจะไม่ดี เนื่องจากอินเดียเริ่มส่งออกข้าวเอง หลังจากไม่ได้ส่งออกมา 2-3 ปี และตนได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาโดยตลอด แม้จะอยู่คนละพรรคถึงเรื่องราคาข้าว เรื่องความเดือดร้อนของชาวนา ซึ่งตนย้ำมาตลอดว่าความทุกข์ของชาวนาคือความทุกข์ของแผ่นดิน และคิดมาตลอดถึงการจะช่วยชาวนาในระยะสั้นและระยะยาว
.
ส่วนเรื่องนาปรัง แต่เดิมก็ไม่เงินให้เงินสนับสนุน แต่เมื่อเราเห็นว่าราคาตกไปเยอะ เราก็ออกมาตรการออกมา รวมถึงพิจารณามาตรการที่ข้าราชการเสนอขึ้นมา และแนวคิดที่ทางชาวนาเป็นผู้เสนอ โดยการแก้ไขในระยะสั้น ทาง นบข. จะมีมาตรการในการช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ตามที่ชาวนากลุ่มหนึ่งเสนอ โดยจะใช้งบที่เหลือจากการช่วยเหลือข้าวนาปีมาช่วย พร้อมย้ำว่าทางกระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อย
.
ส่วนในระยะกลางและระยะยาว ได้มีการประชุม นบข. ถึงวิธีการที่จะทำให้ชาวนามีรายได้ที่สูง ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น เมล็ดพันธุ์ใดที่สามารถให้ผลทอบแทนที่มากขึ้น การดูในภาพรวมว่าควรปลูกอะไรโดยเอา ‘การตลาดนำการผลิต’
.
ณรงเดชระบุต่อว่าตนเห็นด้วยกับ ‘การตลาดนำการผลิต’ แต่ปัจจุบันตลาดนั้นก็มีปัญหา เนื่องจากไม่มีผู้ซื้อ เช่นอินโดนีเซียที่เคยคิดว่าจะนำเข้าข้าวถึง 4 ล้านตันก็ประกาศว่าจะเลิกนำเข้าหรือนำเข้าเพียง 1 ล้านต้นเท่านั้น ทำให้ข้าวล้นตลาด โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรก็คาดการณ์เอาไว้แล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ว่าข้าวนาปรังมีผลผลิตเพิ่มขึ้น ในขณะที่สามารถส่งออกข้าวเปลือกได้น้อยลง เท่ากับว่าปีนี้ต้องหาตลาดให้ข้าวเปลือกจำนวน 2.2 ล้านตัน หากทางกระทรวงฯ ติดตามก็น่าจะทราบ
.
ตนจึงถามว่าในเมื่อกระทรวงพาณิชย์ทราบแล้วว่าจะมีสถานการณ์ข้าวล้นตลาด กระทรวงพาณิชย์ได้มีแผนการอย่างไรในการบริหารจัดการข้าวเปลือก 2.2 ล้านตัน ที่ยังไม่มีที่ไปในปีนี้ แล้วที่มีการแถลงผลักดันการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐกับจีน อยากทราบว่าจะขายข้าวชนิดไหน ราคาเท่าไหร่ ข้อตกลงนี้มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เป็นฝีมือของท่านหรือไม่ การส่งออกข้าวไปแอฟริกาใต้มูลค่าราว 5,250 ล้านบาท มีความคืบหน้าไปถึงไหน จะสามารถดำเนินการได้เมื่อไหร่ มูลค่าต่อตันเท่าไหร่
.
พิชัยชี้แจงว่า ตนกับณรงเดชเห็นตัวเลขที่เหมือนกัน แต่ถ้าตามข่าวจะพบว่าตนได้มีการติดต่อขายข้าวล่วงหน้าไปก่อนแล้วตั้งแต่ในช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม 2567 เพราะรู้ว่าจะมีปัญหา โดยเรียกทูตจีนมาพบขอให้ซื้อ 280,000 ตัน ซึ่งทางทูตจีนก็รับปากว่าจะดำเนินการซื้อ ส่วนแอฟริกาก็ได้มีการติดต่อเช่นเดียวกัน โดยมีกำหนดการจะต้องไปแอฟริกาเซ็นสัญญาซื้อขายข้าวปลายเดือนนี้จำนวน 370,000 ตัน ยืนยันว่าขายได้แน่ โดยได้รับการยืนยันจากกรมการค้าระหว่างประเทศยืนยัน และขายได้อีกเรื่อยๆ ส่วนตลาดอื่นๆ ก็พยายามหาเพิ่มเติม โดยเรียกทูตพาณิชย์ทั้งหมดเพื่อหาช่องทางในการเร่งขายข้าว
.
พิชัยยังระบุอีกว่าตนพบว่าข้าวหอมมะลิก็ยังขายได้ดี ราคาไม่ตก สหรัฐฯ ซื้อเยอะ ส่วนราคาข้าวขาว เป็นปัญหาต้องแก้ไขเร่งแก้ไขในการระบายข้าว
.
ณรงเดชถามครั้งสุดท้ายว่า ขณะนี้มีเพียงมาตรการเดียวคือการจ่ายชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ใช่หรือไม่ ซึ่งผ่านมติ นบข. แต่ยังไม่ได้มีการเอาเข้าที่ประชุม ครม. และไม่รู้ว่าจะเอาเข้าเมื่อไหร่ใช่หรือไม่
.
ตนมองว่าปีนี้ชาวนาในฐานะผู้ผลิต ต้องชื่นชมว่าทำหน้าที่ได้ดี เพราะเนื่องจากผลผลิตมากขึ้น ผลผลิตต่อไร่ก็สูงขึ้น ก็ควรจะมีรายได้สูงขึ้น แล้วรัฐบาลได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้วหรือยัง ทำงานกับกระทรวงเกษตรฯ ได้หรือไม่ ตอนแถลงบอกว่าตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ วันนี้เกี่ยวข้าวแล้ว ตลาดอยู่ที่ไหน
.
และตนอยากทราบว่า สิ้นเดือนนี้ชาวนาต้องจ่ายหนี้ ธกส. หากขายข้าวแล้วไม่เหลือเงินชำระหนี้ ปัญหาข้าวก็จะลุกลามเป็นปัญหาหนี้สินพอกพูน แม้จะมีโครงการพักชำระหนี้ แต่ก็มีเพดานที่ต่ำ ทำให้ชาวนาจำนวนมากตกชำระหนี้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ จึงอยากถามว่าได้เตรียมมาตรการเรื่องหนี้สินเอาไว้หรือไม่ หากสถานการณ์ราคาข้าวไม่ดีขึ้น
.
พิชัยชี้แจงว่าเรื่องมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทได้สรุปเรียบร้อยแล้ว กำลังทำรายละเอียดส่งเข้าที่ประชุม ครม. น่าเข้าได้ภายในสัปดาห์หน้าหรือสัปดาห์โน้น เพราะจะต้องเวียนขอความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ ก่อน
.
ส่วนเรื่องการหาตลาด พิชัยระบุว่าจีนเองก็มีสัญญาณที่ดี แอฟริกาก็กำลังจะมีการขยายการรับซื้อต่อ และเชื่อว่าอินโดนีเซียก็จะกลับมาซื้อ และให้ทูตพาณิชย์เร่งการขาย รวมไปถึงมีการเร่งเจรจากับอินเดียและเวียดนามไม่ให้มีการแข่งขันมากนัก เพื่อไม่ให้ราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งอยู่ระหว่างการนัดหมายอีกครั้ง
.
ให้พาณิชย์จังหวัดช่วยดูเรื่องความชื้นให้ชัดเจน พร้อมกับร่วมมือกับ modern trade ทำข้าวถุงเพื่อดึง supply ออกสู่ตลาด และเมื่อมีข้าวนาปรังผลิตออกมาเยอะก็จะมีมาตรการในการทำการตลาดให้มากขึ้นและจะชี้แจงต่อไป
.
พิชัยระบุทิ้งท้ายว่า “เกษตรกรเป็นกลุ่มประชาชนที่สำคัญที่เราต้องดูแล ขอให้มั่นใจว่าเราอยากจะทำให้เกษตรกรมีดูแลเป็นอยู่ที่ดี ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ในระยะสั้นมีเรื่องราคาที่ไม่ดีก็แก้ไข”
.
“ในระยะยาว โจทย์ทำอย่างไรให้เขามีรายได้มากขึ้น
อย่างพาณิชย์เอง เราก็พยายามจะหาพืชอื่น เพื่อที่จะให้เขาสามารถสร้างรายได้ได้ อย่างผมไปญี่ปุ่น เราก็ได้รู้ว่าญี่ปุ่นต้องการกล้วยล้านตันต่อปี เรามี 8,000 ตัน มีโควตาส่งแค่ 2,000 ตัน จะทำอย่างไรให้เรามาเร่งชาวนาหรือเกษตรกรไทยหันมาปลูกกล้วยส่งญี่ปุ่นดีไหม
เพราะผมให้กระทรวงพาณิชย์คำนวณว่าผลตอบแทนต่อไร่ของกล้วย แสนกว่าบาทต่อไร่”
.
“เราได้มีการนำทูตพาณิชย์ญี่ปุ่นและผู้นำเข้าจากญี่ปุ่นมาทดลองปลูกในแปลงที่ จ.นครราชสีมา 150,000 ต้น เพื่อจะให้ประชาชนได้เห็นว่า เขาได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจริงๆ เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนให้เขาปลูกพืชที่มีรายได้สูงขึ้น เพื่อที่เขาจะมีรายได้อย่างยั่งยืน เป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์เราทำ”
.
“และพยายามหาผลผลิตเกษตรเหล่านี้ที่จะสร้างรายได้ให้เกษตรกรและชาวนามากขึ้น จะทำอย่างไรให้เขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” พร้อมกับยกตัวอย่างการปลูกกล้วย ที่ จ.เชียงราย ที่ทำรายได้กว่าแสนบาทต่อไร่ เพื่อดึงดูดให้เกษตรกรมาปลูกเพิ่มมากขึ้น และยืนยันว่าเป็นห่วงชาวนาตลอด ปัญหาต่างๆ จะต้องเร่งแก้ไขทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
.
ซึ่งณรงเดชได้ขออนุญาตกล่าวขอบคุณพิชัยที่เข้ามาตอบคำถามในสภาและฝากข้อสังเกตทิ้งท้ายว่า “แต่ผมอยากฝากท่านรัฐมนตรีแคแค่นิดเดียว เวลาท่านจะเสนอมาตรการอะไร ช่วยปรึกษากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ที่มีความชำนาญให้เยอะๆ ถ้าท่านได้พูดคุย ท่านอาจจะไม่เสนอมาตรการให้พี่น้องชาวนาปลูกกล้วย
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1207471624274505&set=a.811136580574680