.webp)
ณ จุดนี้ ในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยและประชาชน เพื่อไทย/ทักษิณ หมดภาระไปแล้ว นับจากนี้ต่อไป เพื่อไทยขาดกับประชาธิปไตยและประชาชน
— Yukti Muk (@cngtrai) August 11, 2023
สัญลักษณ์เสื้อแดง ของใช้ เสื้อผ้า หมวก แก้ว ต่างๆ
— JNISS🏗 (@Jniisss_zJo) August 11, 2023
ถูกเผาทิ้งกองไว้หน้าพรรค
เพื่อสื่อว่าเราทิ้งพวกคุณแล้ว เราไม่ใช่คนเสื้อแดงแล้ว
#ประชาช็อค #ก้าวไกลNOโหวตเพื่อไทย #เพื่อไทยทรยศประชาชน #เพื่อไทยการละคร #กรรมกรข่าวคุยนอกจอ #ประชุมสภา #พิธา pic.twitter.com/dnlekcX3Bs
Somchai Makmee
20h
·
ปวศ การเมืองผ่านยุคสมัย ประชาชนพัฒนาขึ้นหรืออ่อนแอลง ?
จำความได้ สมัยเด็ก 20 เลือกตั้งครั้งแรก รุ่นไถง สุวรรณทัต เป็นผู้สมัคร ปชป.นี่แหละ พี่ดำก็เลือกแม่งอยู่สองพรรค ไม่หมักแมวหมู่ (ประชากรไทย) กับชวน หลีกไป พรรคประชาธิปัตย์ สองพรรคนี้ ผลัดกันแพ้ชนะ ในเขต 10 บางกอกน้อย แต่เขาไม่มีใครมาชี้หน้าด่าประชาชนนะ คือมีเหน็บนิดนึง คือตาชวน เวลาชนะ บอกเสียงนี้คือเสียงสวรรค์ เวลาแพ้ บอกแพ้เพราะพลังสกปรก (ซื้อเสียง) ทั้ง ๆที่ สววรค์กับสกปรก แม่งก็ประชากรกลุ่มเดียวกันนี่แหละ
วันเวลาหมุนผ่าน สมัยก่อนเราไม่มีเสื้อสีกันหรอก
สื่อจะเรียกว่าฐานเสียง ทำดีกูเลือก ทำเหี้ยกูเลือกอีกฝั่ง นักการเมืองจึงกลัวมาก เวลาจะทำห่าเหวอะไรไม่เป็นไปตามที่พูดไว้
พอวันนึง สีเหลืองเกิด ไม่ได้เกิดจากการเมือง แต่เกิดจากงานพิธี สมัยมักษิณ
1 เสื้อแดงเกิดตาม จากนักกิจกรรมนามว่า บก.ลายจุดผู้จุดระเบิด แดงแรกบนเวทีนี้ ผ่านการเสนอ แกนนำ นปช. ตอนนั้น ก็ไม่ได้มีนัยอะไรสำคัญนัก เพียงแต่อยากเอาจำนวนนับมาแข่งกันแค่นั้นว่าเสียงส่วนมากเห็นด้วยกับอะไร เพราะตอนนั้นต่างคนต่างเหลือง งง ไม่รู้ใครมากกว่าใคร
2. ฝ่ายเหลืองตอนนั้น พอรู้ว่า สู้ไม่ได้ คนไม่เอาระบอบเผด็จการ พอเถียงกันสู้บนโซเชียลไม่ได้ "ไอ้พวกควายแดง" จึงเป็นคำตอบโต้ที่ดีที่สุด คือเถียงสู้ไม่ได้ เลยด่ามึงเฉย ๆ แทนนี่แหละ ควายแดงเอย ขี้ข้าทักษิณเอย หนักหน่อยก็ไอ้พวก 200 เหล้าขาวขวด ก็มาม้อบ (อันนี้พี่เจอด่ากับตัว) ก็มี ควายแดงตอนนั้นก็เถียงแบบฮา ๆ งั้นพวกมึงก็ ควายเหลือง เลยด่ากันไป ควายแดง กับควายเหลือง แต่ก็ไม่ได้เอามาเป็นน้ำหนักอะไรนัก เพราะหาเหตุผลอะไรมาโต้แย้งไม่ได้เลย นอกจากยกเหตุผลสู้ไม่ได้เลยด่า
3 จุดกำเนิดสลิ่ม
มาจากไอ้หมอตุลย์ ม้อบหลากสี หลังจากเหลือง แพ้ยับ หมอตุลย์ แกก็รีแบรนด์ เป็นสีขาว สีชมพู สีน้ำเงิน ประมาณว่า นี่คือม๊อบหลากสี ควายแดงอันเกรียงไกรในยุคนั้นด่าไม่ทัน
ก็ไอ้หนูหริ่งที่พวกมึงด่ามันนี่แหละ เลยเอาคำนิยามว่า สลิ่ม (ซาหริ่ม) มาใช้ในประเทศไทยเป้นคนแรก ซาหริ่ม เป็นขนมหลายสี จะได้เรียกดักพวกไอ้หมอตุลย์ ตอนนั้นไม่ว่า มึงจะหลากสีอะไรมา ไอ้หนูหริ่งดักได้ด้วยคำเดียวว่า พวกสลิ่ม มาจนปัจจุบันนี้
4 หนูหริ่งแม่งคือ ปัญญาชน หัวก้าวหน้าคนแรก ๆ ก็ว่าได้ ทั้งเสือแดง ทั้งสัญลักษณ์ ตัวคุณซาบซึ้ง และวลีสลิ่ม ปัจจุบัน ก็ไอ้หริ่งทั้งนั้น
แต่น่าเศร้าที่ปัจจุบันไอ้หริ่งโดนเละ เป็นแดงแดกส้ม เอาแดง คืนมา
ตอนนี้กำลังจะกลายเป็น สลิ่มเฟส สอง ทั้ง ๆ ที่ สลิ่มคำนี้ ไอ้หริ่งมันคิดขึ้นมาเพื่อตอบโต้ ในยุทธการสำคัญทั้งหมดทั้งสิ้น
เป็นนักกิจกรรมที่คมในความคิด แล้วจุดยืนก็ไม่เคยเปลี่ยน เคยเป็นมาแบบไหน มันก็ยังเป็นแบบนั้นมาตลอด
5 การเมืองเราไม่พัฒนา เพราะแต่เดิม ประชาชนครอบพรรค แต่ปัจจุบัน พรรคเห็นประชาชนเป็นแค่ปลาในบ่ออภัยทาน ?
พอประชาชนด่า บอกพวกมึงแดงเทียม พอประชาชนไปเลือกพรรคอื่น บอกแดงแดกส้ม ตาชวนว่าเหี้ยแล้ว ยังไม่เหี้ยเท่าตรรกะแบบนี้เลยนะ เพราะตาชวน แกแค่บอกว่า เสียงสวรรค์ที่เคยเลือกพรรคแก กลายเป็นพลังสกปรก เพราะแจกเงิน แค่นั้น แกไม่ได้เหมาว่า ประชากรที่เลือกแก เป็นปลาในบ่อของพรรคแกนะเว้ย
สังคมผู้บริโภค ชวนไม่ดีก็เอาหมัก หมักกลับมาเหี้ยก็เลือกชวน จึงเป็นการคอนโทรลพรรคการเมืองที่ใช่ที่สุด ไม่ใช่ สส. พรรคของเรา เอาถุงขี้ไปปาหลังคาบ้านใคร พรรคกูก็ถูก หลังคาบ้านมึงเสือกขวางถุงขี้ ของ สส.เอง (ฮา)
การจะไปเลือกพรรคอื่น เพราะพรรคที่เราเคยดันตูดมันสู้ จะคายฟันยางทิ้งยอมแพ้ท่าเดียว ไม่ใช่ความผิดห่าเหวอะไรหรอกครับ นี่คือความคิดของผู้บริโภค ใครจะอยู่ใครจะไป เป็นความพึงพอใจส่วนตน และเขาถือว่าเขามีสิทธิ เพราะไม่ได้เซ็นสัญญาจ้างห่าเหวอะไรกัน
ส่วนใครจะอยู่ต่อก็ไม่ใช่ความผิดอีก นั่นแหละ ก็ชอบแบบนี้ ก็จะเอาแบบนี้ ก็เป้นสิทธิอันชอบธรรมทุกประการ
มายุคสมัยนี้ กู งง ไปหมดแล้ว อะไรของแม่ง ด้อมส้ม แดงแดกส้ม ส้มเน่า สลิ่มเฟส 1 เฟส 2 เฟส 3 ยันเฟส 5 คือมึงไม่เข้าใจบริบทห่าเหวอะไรเลยว่าแม่งมีคำกำเนิดมาจากอะไร นอกจากแบกไม่ลืมหูลืมตา
จริง ควายเหลืองจำนวนหนึ่ง ก็หันกลับมา เพราะผิดหวัง แต่นิวโหวตเตอร์เด็ก ๆ สมัยนั้น เมื่อ 20 ปีก่อน แม่งยังแก้ผ้า เดินดูดขวดนมกันอยู่เลยมั้ง ? แต่ที่กูมั่นใจเลย คือ 4 ล้านเสียงที่เลือกลุงนี่แหละ มันคือของจริง ที่ยังคงอยู่และมีตัวตน พร้อมที่จะขยีหัวพวกมึง นี่ต่างหากเป้าหมายที่มึงมาเล่นงาน มันเลือก รทสช สี่ล้าน
ยิ่งมอง ยิ่งเหมือน พันธมิตร ยุคนั้นเลยพวกมึง เถียงอะไรไม่ออก ก็แดงแดกส้ม เหมือน พันธมิตรยุคนั้นเถียงอะไรไม่ออก ก็บอกพวกควายแดง นี่แหละ แค่เปลี่ยนเวอร์ชั่นแค่นั้นเอง
อย่าไปใส่ใจเลยครับ มันจะเรียกพวกมึงว่างัยก็ช่าง เพราะเหตุผลมันหามาสู้ไม่ได้ สุดท้าย ก็ออกรูเดียวคือด่า แบบไม่รู้จะเถียงอะไร
เคลมเก่งจังไอ้สัสแต่ละตัว เคลมจนขำ โดยเฉพาะแดง ติ้วกี นอนห้องแอร์ทั้งหลาย รู้จัง รู้ลึก ยังกะยกพลขึ้นบกที่นอรมังค์ดี ในสงครามโลกครั้งที่สอง
ยี่สิบปีที่แล้ว การเมืองแม่งยังพัฒฯากว่านี้เลย อย่างน้อยก็ไม่กล้ามาชี้หน้าด่าคนลงคะแนนเสียง
ปัจจุบันกู งง ฉิบหาย ไม่เลือกพวกกู คือพวกมึงผิด ?
ตรรกะ หัวครวยไรวะเนี่ย
พี่ดำ
ปวศ การเมืองผ่านยุคสมัย ประชาชนพัฒนาขึ้นหรืออ่อนแอลง ?
จำความได้ สมัยเด็ก 20 เลือกตั้งครั้งแรก รุ่นไถง สุวรรณทัต เป็นผู้สมัคร ปชป.นี่แหละ พี่ดำก็เลือกแม่งอยู่สองพรรค ไม่หมักแมวหมู่ (ประชากรไทย) กับชวน หลีกไป พรรคประชาธิปัตย์ สองพรรคนี้ ผลัดกันแพ้ชนะ ในเขต 10 บางกอกน้อย แต่เขาไม่มีใครมาชี้หน้าด่าประชาชนนะ คือมีเหน็บนิดนึง คือตาชวน เวลาชนะ บอกเสียงนี้คือเสียงสวรรค์ เวลาแพ้ บอกแพ้เพราะพลังสกปรก (ซื้อเสียง) ทั้ง ๆที่ สววรค์กับสกปรก แม่งก็ประชากรกลุ่มเดียวกันนี่แหละ
วันเวลาหมุนผ่าน สมัยก่อนเราไม่มีเสื้อสีกันหรอก
สื่อจะเรียกว่าฐานเสียง ทำดีกูเลือก ทำเหี้ยกูเลือกอีกฝั่ง นักการเมืองจึงกลัวมาก เวลาจะทำห่าเหวอะไรไม่เป็นไปตามที่พูดไว้
พอวันนึง สีเหลืองเกิด ไม่ได้เกิดจากการเมือง แต่เกิดจากงานพิธี สมัยมักษิณ
1 เสื้อแดงเกิดตาม จากนักกิจกรรมนามว่า บก.ลายจุดผู้จุดระเบิด แดงแรกบนเวทีนี้ ผ่านการเสนอ แกนนำ นปช. ตอนนั้น ก็ไม่ได้มีนัยอะไรสำคัญนัก เพียงแต่อยากเอาจำนวนนับมาแข่งกันแค่นั้นว่าเสียงส่วนมากเห็นด้วยกับอะไร เพราะตอนนั้นต่างคนต่างเหลือง งง ไม่รู้ใครมากกว่าใคร
2. ฝ่ายเหลืองตอนนั้น พอรู้ว่า สู้ไม่ได้ คนไม่เอาระบอบเผด็จการ พอเถียงกันสู้บนโซเชียลไม่ได้ "ไอ้พวกควายแดง" จึงเป็นคำตอบโต้ที่ดีที่สุด คือเถียงสู้ไม่ได้ เลยด่ามึงเฉย ๆ แทนนี่แหละ ควายแดงเอย ขี้ข้าทักษิณเอย หนักหน่อยก็ไอ้พวก 200 เหล้าขาวขวด ก็มาม้อบ (อันนี้พี่เจอด่ากับตัว) ก็มี ควายแดงตอนนั้นก็เถียงแบบฮา ๆ งั้นพวกมึงก็ ควายเหลือง เลยด่ากันไป ควายแดง กับควายเหลือง แต่ก็ไม่ได้เอามาเป็นน้ำหนักอะไรนัก เพราะหาเหตุผลอะไรมาโต้แย้งไม่ได้เลย นอกจากยกเหตุผลสู้ไม่ได้เลยด่า
3 จุดกำเนิดสลิ่ม
มาจากไอ้หมอตุลย์ ม้อบหลากสี หลังจากเหลือง แพ้ยับ หมอตุลย์ แกก็รีแบรนด์ เป็นสีขาว สีชมพู สีน้ำเงิน ประมาณว่า นี่คือม๊อบหลากสี ควายแดงอันเกรียงไกรในยุคนั้นด่าไม่ทัน
ก็ไอ้หนูหริ่งที่พวกมึงด่ามันนี่แหละ เลยเอาคำนิยามว่า สลิ่ม (ซาหริ่ม) มาใช้ในประเทศไทยเป้นคนแรก ซาหริ่ม เป็นขนมหลายสี จะได้เรียกดักพวกไอ้หมอตุลย์ ตอนนั้นไม่ว่า มึงจะหลากสีอะไรมา ไอ้หนูหริ่งดักได้ด้วยคำเดียวว่า พวกสลิ่ม มาจนปัจจุบันนี้
4 หนูหริ่งแม่งคือ ปัญญาชน หัวก้าวหน้าคนแรก ๆ ก็ว่าได้ ทั้งเสือแดง ทั้งสัญลักษณ์ ตัวคุณซาบซึ้ง และวลีสลิ่ม ปัจจุบัน ก็ไอ้หริ่งทั้งนั้น
แต่น่าเศร้าที่ปัจจุบันไอ้หริ่งโดนเละ เป็นแดงแดกส้ม เอาแดง คืนมา
ตอนนี้กำลังจะกลายเป็น สลิ่มเฟส สอง ทั้ง ๆ ที่ สลิ่มคำนี้ ไอ้หริ่งมันคิดขึ้นมาเพื่อตอบโต้ ในยุทธการสำคัญทั้งหมดทั้งสิ้น
เป็นนักกิจกรรมที่คมในความคิด แล้วจุดยืนก็ไม่เคยเปลี่ยน เคยเป็นมาแบบไหน มันก็ยังเป็นแบบนั้นมาตลอด
5 การเมืองเราไม่พัฒนา เพราะแต่เดิม ประชาชนครอบพรรค แต่ปัจจุบัน พรรคเห็นประชาชนเป็นแค่ปลาในบ่ออภัยทาน ?
พอประชาชนด่า บอกพวกมึงแดงเทียม พอประชาชนไปเลือกพรรคอื่น บอกแดงแดกส้ม ตาชวนว่าเหี้ยแล้ว ยังไม่เหี้ยเท่าตรรกะแบบนี้เลยนะ เพราะตาชวน แกแค่บอกว่า เสียงสวรรค์ที่เคยเลือกพรรคแก กลายเป็นพลังสกปรก เพราะแจกเงิน แค่นั้น แกไม่ได้เหมาว่า ประชากรที่เลือกแก เป็นปลาในบ่อของพรรคแกนะเว้ย
สังคมผู้บริโภค ชวนไม่ดีก็เอาหมัก หมักกลับมาเหี้ยก็เลือกชวน จึงเป็นการคอนโทรลพรรคการเมืองที่ใช่ที่สุด ไม่ใช่ สส. พรรคของเรา เอาถุงขี้ไปปาหลังคาบ้านใคร พรรคกูก็ถูก หลังคาบ้านมึงเสือกขวางถุงขี้ ของ สส.เอง (ฮา)
การจะไปเลือกพรรคอื่น เพราะพรรคที่เราเคยดันตูดมันสู้ จะคายฟันยางทิ้งยอมแพ้ท่าเดียว ไม่ใช่ความผิดห่าเหวอะไรหรอกครับ นี่คือความคิดของผู้บริโภค ใครจะอยู่ใครจะไป เป็นความพึงพอใจส่วนตน และเขาถือว่าเขามีสิทธิ เพราะไม่ได้เซ็นสัญญาจ้างห่าเหวอะไรกัน
ส่วนใครจะอยู่ต่อก็ไม่ใช่ความผิดอีก นั่นแหละ ก็ชอบแบบนี้ ก็จะเอาแบบนี้ ก็เป้นสิทธิอันชอบธรรมทุกประการ
มายุคสมัยนี้ กู งง ไปหมดแล้ว อะไรของแม่ง ด้อมส้ม แดงแดกส้ม ส้มเน่า สลิ่มเฟส 1 เฟส 2 เฟส 3 ยันเฟส 5 คือมึงไม่เข้าใจบริบทห่าเหวอะไรเลยว่าแม่งมีคำกำเนิดมาจากอะไร นอกจากแบกไม่ลืมหูลืมตา
จริง ควายเหลืองจำนวนหนึ่ง ก็หันกลับมา เพราะผิดหวัง แต่นิวโหวตเตอร์เด็ก ๆ สมัยนั้น เมื่อ 20 ปีก่อน แม่งยังแก้ผ้า เดินดูดขวดนมกันอยู่เลยมั้ง ? แต่ที่กูมั่นใจเลย คือ 4 ล้านเสียงที่เลือกลุงนี่แหละ มันคือของจริง ที่ยังคงอยู่และมีตัวตน พร้อมที่จะขยีหัวพวกมึง นี่ต่างหากเป้าหมายที่มึงมาเล่นงาน มันเลือก รทสช สี่ล้าน
ยิ่งมอง ยิ่งเหมือน พันธมิตร ยุคนั้นเลยพวกมึง เถียงอะไรไม่ออก ก็แดงแดกส้ม เหมือน พันธมิตรยุคนั้นเถียงอะไรไม่ออก ก็บอกพวกควายแดง นี่แหละ แค่เปลี่ยนเวอร์ชั่นแค่นั้นเอง
อย่าไปใส่ใจเลยครับ มันจะเรียกพวกมึงว่างัยก็ช่าง เพราะเหตุผลมันหามาสู้ไม่ได้ สุดท้าย ก็ออกรูเดียวคือด่า แบบไม่รู้จะเถียงอะไร
เคลมเก่งจังไอ้สัสแต่ละตัว เคลมจนขำ โดยเฉพาะแดง ติ้วกี นอนห้องแอร์ทั้งหลาย รู้จัง รู้ลึก ยังกะยกพลขึ้นบกที่นอรมังค์ดี ในสงครามโลกครั้งที่สอง
ยี่สิบปีที่แล้ว การเมืองแม่งยังพัฒฯากว่านี้เลย อย่างน้อยก็ไม่กล้ามาชี้หน้าด่าคนลงคะแนนเสียง
ปัจจุบันกู งง ฉิบหาย ไม่เลือกพวกกู คือพวกมึงผิด ?
ตรรกะ หัวครวยไรวะเนี่ย
พี่ดำ
ข่าวล่าบอกว่า “เพื่อไทย” ปิดดีลที่ 11 พรรค 315 เสียงโดยมีพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติร่วม pic.twitter.com/Uxj0QxxMIa
— suthichai (@suthichai) August 11, 2023
